Categories
AROUND CHIANG RAI EDITORIAL

ททท. ชี้เชียงรายโอกาสทองปลายปี ด้วย Soft Power และความปลอดภัยระดับโลก

ภาพรวมการท่องเที่ยวเชียงราย โอกาสทองปลายปี ขับเคลื่อนด้วย Soft Power และความปลอดภัยระดับโลก

เชียงราย, 6 กันยายน 2568 – เชียงรายกำลังเปลี่ยนผ่านจากกรีนซีซันสู่ไฮซีซันอย่างเต็มรูปแบบ ททท.สำนักงานเชียงรายประเมินว่าตลาดยัง “เป็นบวกและมีแรงส่ง” จากทั้งปัจจัยอากาศ ชุดกิจกรรมเชิงวัฒนธรรม และภาพลักษณ์เมืองปลอดภัยสำหรับนักเดินทาง โดยเฉพาะผู้หญิงและดิจิทัลโนแมด ขณะเดียวกัน เมืองเดินเกมเชิงรุกด้วย “สินค้าท่องเที่ยว” ที่แตกต่าง ได้แก่ ชา–กาแฟ งานศิลปะร่วมสมัย และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness) ซึ่งเปลี่ยนบทบาทเชียงรายจาก “เมืองผ่าน” เป็น “เมืองปลายทาง” สำหรับนักท่องเที่ยวคุณภาพสูง

จากกรีนซีซันสู่ไฮซีซันตัวเลขบวกและจังหวะเร่งเครื่อง

นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานเชียงราย อธิบายว่า ช่วง 2–3 เดือนที่ผ่านมา อัตราเข้าพักเฉลี่ยอยู่ราว 55% สอดคล้องฤดูกาลฝน และเมื่อมองตั้งแต่ต้นปีถึงสิงหาคม ตัวเลขการท่องเที่ยว เติบโตประมาณ 5% แม้ไม่หวือหวา แต่ “เป็นบวกและน่าพอใจ” โดยมีปัจจัยหนุนจากสภาพอากาศช่วงต้นปีที่เป็นใจ และ ไม่มีน้ำท่วมใหญ่ เช่นบางปีที่ผ่านมา

“หากช่วงสี่เดือนสุดท้ายไม่มีเหตุฉุกเฉิน โดยเฉพาะน้ำท่วม และเมื่อเข้าสู่ปลายฝนต้นหนาว เราคาดว่า ตัวเลขจะดีขึ้นต่อเนื่อง” นายวิสูตรระบุ พร้อมย้ำว่าไฮซีซันซึ่งเริ่มกลางตุลาคมเป็นหัวใจสำคัญในการเร่งจังหวะการฟื้นตัวของทั้งที่พัก ร้านอาหาร และผู้ประกอบการนำเที่ยว

Soft Power เชียงราย ชา–กาแฟ ศิลปะ และ Wellness

แม้ภาคเหนือจะมีทรัพยากรธรรมชาติใกล้เคียงกัน แต่เชียงราย “สร้างความต่าง” ผ่านสามแกนหลัก

  1. ชา–กาแฟ: เชียงรายเป็นแหล่งปลูกสำคัญและกำลังยกระดับสู่ Specialty Coffee อย่างเป็นระบบ เส้นทางเรียนรู้ตั้งแต่ไร่ถึงแก้วช่วยยืดระยะเวลาพำนักและเพิ่มการใช้จ่ายต่อทริป
  2. การท่องเที่ยวเชิงศิลปะ: เมืองศิลปะร่วมสมัยของศิลปินแถวหน้าสร้างแลนด์มาร์กและอีเวนต์ที่ “ดึงกลุ่มใหม่” โดยเฉพาะผู้แสวงหาแรงบันดาลใจและนักท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
  3. Wellness Tourism: จังหวัดเดินนโยบาย Wellness อย่างจริงจัง เชื่อมทรัพยากรธรรมชาติ เช่น น้ำพุร้อน พื้นที่สีเขียว กิจกรรมโยคะ–สมาธิ กับบริการสปามาตรฐาน เพื่อยกระดับประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบองค์รวม

แกน Soft Power ดังกล่าวถูกออกแบบให้ “ทำงานร่วมกัน” ทั้งในเชิงเส้นทาง ทริป 2–3 วัน และคอนเทนต์สื่อสารเชิงเรื่องเล่าที่ชัดเจน

ความปลอดภัยคือใบเบิกทาง เมืองที่ผู้หญิงมั่นใจ

ความมั่นใจเรื่อง ความปลอดภัย คือปัจจัยตัดสินใจสำคัญ นายวิสูตรชี้ว่าเชียงรายเพิ่งถูกจัดอันดับให้เป็น เมืองปลอดภัยอันดับ 2 ของโลกสำหรับนักท่องเที่ยวผู้หญิง รองจากไทเป สะท้อนมาตรการดูแลทั้งเชิงป้องกันและการให้ความช่วยเหลือจริงจังในพื้นที่ ทั้งการทำงานของตำรวจท่องเที่ยวและศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว

“ปีที่ผ่านมา เชียงรายมีนักท่องเที่ยวกว่า 6.1 ล้านคน แต่ แทบไม่มีเหตุรุนแรง ที่กระทบชีวิตและทรัพย์สิน แม้เรามีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติและเส้นทางภูเขาจำนวนมาก” ผู้บริหารททท.กล่าว นัยสำคัญคือ รีวิวเชิงบวกและการบอกต่อ ซึ่งสร้างผลทวีคูณต่อการกลับมาเยือนซ้ำ

นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงราย

แผนพร้อมรับไฮซีซัน ทั้งพื้นที่ เอกชน และการเดินทาง

เพื่อรองรับช่วงพีกซีซัน จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ “เข้าจังหวะ” เตรียมพร้อมในสามชั้น

  • พื้นที่แหล่งท่องเที่ยว: ทุกอำเภอและอุทยานแห่งชาติเร่งจัดการความพร้อม ทั้งความปลอดภัย เส้นทางเดิน–ชมวิว ป้ายสื่อความหมาย ห้องน้ำ และการจัดจุดถ่ายภาพที่เป็นระเบียบ
  • ภาคเอกชน: ททท.ประสานสมาคม–ชมรมท่องเที่ยว เพื่อยกระดับมาตรฐานบริการ โรงแรม–ที่พักทบทวนระบบจองหลายภาษา ร้านอาหารปรับเมนูฤดูกาล บริษัทนำเที่ยวเติมแพ็กเกจใหม่และโปรจับคู่ เช่น ที่พัก + สปา + เส้นทางชากาแฟ
  • การเดินทาง: ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงและสายการบินเตรียม เพิ่มเที่ยวบิน ช่วงปลายปี ขณะเดียวกัน Scoot เตรียมเปิด ไฟลต์ตรงสิงคโปร์–เชียงราย 1 มกราคม 2569 เปิดประตูสู่ตลาดอาเซียนโดยตรง และเพิ่มสัดส่วนนักท่องเที่ยวที่พักนาน–ใช้จ่ายสูง

สื่อสารเชิงรุก คอนเทนต์จริง พาเห็นหน้างาน

ในกรีนซีซันที่ผ่านมา ททท.สำนักงานเชียงรายพาสื่อมวลชนลงพื้นที่ “ตอนบน” และเชื่อมโยงกับ ประเพณีโล้ชิงช้า เพื่อสร้างคอนเทนต์เชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติที่ “จับต้องได้” วิธีการนี้ทำให้ผู้ชมเห็นภาพจริง รีแอคต์ต่อบรรยากาศ และเปลี่ยนใจสู่การจองทริปได้รวดเร็วกว่าแคมเปญภาพรวม

ยุทธศาสตร์คอนเทนต์ต่อไปคือ Wellness Storytelling ที่มีเส้นเรื่องชัดเจน เช่น “พักร้อน–พักใจ–พักกาย” เชื่อมคาเฟ่ไร่กาแฟกับออนเซ็นธรรมชาติ และเวิร์กช็อปชุมชน เพื่อเพิ่มเวลาพำนักเฉลี่ยและรายได้ให้คนในท้องถิ่น

เศรษฐกิจมหภาคในพื้นที่ เติบโต แต่ไม่ทั่วถึง

นอกเหนือจากตัวเลขท่องเที่ยวที่เป็นบวก รายงานเชิงวิเคราะห์ที่จัดทำจาก ข้อมูลผู้ใช้จัดเตรียม ชี้ให้เห็นภาพรวมเศรษฐกิจเชียงรายปี 2568 ว่า เติบโตเด่นในระดับมหภาค ทั้งรายได้ท่องเที่ยวและการลงทุนธุรกิจใหม่ แต่เกิดปรากฏการณ์ เศรษฐกิจสองขั้ว” รายย่อยในตลาดดั้งเดิมยอดขายลดลงจากค่าครองชีพและการแข่งขันจากทุนใหญ่ ช่องว่างรายได้จึงกว้างขึ้น

ด้านการท่องเที่ยว ครึ่งปีแรก 2568 เชียงรายขึ้นแท่น เมืองรองอันดับ 1 รายได้รวมเกือบ 26,000 ล้านบาท แนวโน้มต่อเนื่องจากปี 2566 ที่มีรายได้กว่า 46,773.91 ล้านบาท และปี 2567 ราว 38,493 ล้านบาท (ข้อมูลผู้ใช้จัดเตรียม) ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนผลของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและแผนการตลาดที่เน้นความต่างอย่างได้ผล

พลวัตการค้า ผ่านแดนพุ่ง ชายแดนชะลอ เสี่ยงพึ่งพาตลาดเดียว

ข้อมูลผู้ใช้จัดเตรียมระบุว่า กรกฎาคม 2568 มูลค่า การค้าผ่านแดน อยู่ที่ 99,805 ล้านบาท เพิ่ม 32.5% โดยจีนเป็นแรงขับหลัก สินค้าเด่นคือ ทุเรียนสด มูลค่าส่งออก 22,949 ล้านบาท โต 135.6% ขณะที่ การค้าชายแดน ชะลอลงมาที่ 66,220 ล้านบาท ติดลบ 20% และส่งออกติดลบ 29.5% สะท้อนข้อจำกัดด้านกฎระเบียบฝั่งเพื่อนบ้าน

ข้อค้นพบสำคัญคือ ความเสี่ยงเชิงโครงสร้าง จากการพึ่งพาสินค้าหรือ “ตลาดเดียว” สูงเกินไป หากอุปสงค์จีนชะลอ อาจ “ส่งแรงสั่นสะเทือน” ผ่านห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่ชาวสวนจนถึงโลจิสติกส์และค้าปลีกในเมือง

ความท้าทายคาบเกี่ยว PM2.5 ภัยธรรมชาติ และการแข่งขันภูมิภาค

รายงานผู้ใช้ยังสะท้อน “จุดเปราะบาง” หลายด้าน ได้แก่

  • ฝุ่นควัน PM2.5 ที่กระทบภาพลักษณ์และสุขภาพ แม้มีนโยบาย “งดเผา 92 วัน” ค่าฝุ่นยังเกินมาตรฐานในบางช่วง ทำให้นักท่องเที่ยวบางส่วนเลื่อนหรือยกเลิกแผน
  • เหตุภัยธรรมชาติชายแดน เช่น แผ่นดินไหวฝั่งเมียนมา กระทบการเดินทางบางเส้นทางชั่วคราว
  • การแข่งขันภูมิภาค จากประเทศปลายทางยอดนิยมกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่มีต้นทุนทริปต่ำกว่า

ทางออกเชิงระบบคือ ความร่วมมือข้ามพรมแดน ในการจัดการไฟป่า–การเผา และการสื่อสารคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ พร้อมกับการยกระดับบุคลากรบริการและภาษา เพื่อชดเชยและสร้างสมดุลต่อแรงกดดันภายนอก

งบประมาณภาครัฐ ลงทุนมาก แต่การกระจายยังท้าทาย

ข้อมูลผู้ใช้ชี้ว่า งบกระตุ้นเศรษฐกิจรอบแรกปี 2568 ที่จัดสรรให้เชียงรายรวม 1,876.1 ล้านบาท กระจุกตัวในหน่วยงานส่วนกลาง โดยเฉพาะ กรมทางหลวง (713.9 ล้านบาท หรือ 38%) ขณะที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ไม่ได้รับจัดสรรโดยตรง แม้งบซ่อมฟื้นฟูหลังน้ำท่วมปลายปี 2567 อีก 363 ล้านบาท จะช่วยโครงสร้างพื้นฐาน แต่ยังมีคำถามถึง “ประสิทธิผลเชิงกระตุ้น” ต่อเศรษฐกิจฐานราก

ข้อเสนอเชิงนโยบายจากรายงานผู้ใช้คือ เพิ่มสัดส่วนงบตรงถึง อปท. และออกแบบเครื่องมือช่วย SME–ชุมชน ให้เข้าถึงง่าย ทั้งอบรมดิจิทัล มาร์เก็ตเพลส และสินเชื่อรายย่อย เพื่อ เชื่อมเศรษฐกิจบน–ล่าง ให้ไหลเวียนจริง

ยุทธศาสตร์เชื่อมการท่องเที่ยวกับชุมชน รายได้ไหลสู่ท้องถิ่น

เพื่อให้การเติบโต “ทั่วถึง” เชียงรายควรเดินหน้า แพ็กเกจร่วม ระหว่างโรงแรม–คาเฟ่–สปา–ชุมชน สร้างเส้นทาง “เรียนรู้–ลงมือทำ” เช่น เวิร์กช็อปชา–กาแฟ หัตถกรรม และอาหารท้องถิ่น เชื่อมบริการขนส่งท้องถิ่น ลดการรั่วไหลของรายได้ พร้อมมาตรฐาน ความปลอดภัย–ความสะอาด–ความเป็นมิตร โดยเฉพาะมุมบริการสำหรับนักเดินทางหญิง อาทิ ไฟส่องสว่าง ทางหนีไฟ กล้องวงจรปิด และบุคลากรที่ผ่านการอบรมปฐมพยาบาล

มาตรการเหล่านี้ช่วยสร้าง รีวิวดี–กลับมาเยือนซ้ำ–การบอกต่อ ซึ่งเป็น “ทุนทางสังคม” สำคัญของเมือง

โอกาสปลายปีและสมการความยั่งยืน

เมื่อรวมภาพทั้งหมด เชียงรายมี แรงส่งเชิงโครงสร้าง จากสินค้าท่องเที่ยวที่ต่าง วาระความปลอดภัยที่เด่น และไฟลต์ใหม่เชื่อมอาเซียนโดยตรง แต่ความยั่งยืนยังพึ่งพา “สามสมการ” ที่ต้องเดินพร้อมกัน

  1. Diversify – กระจายพอร์ตทั้งสินค้า–ตลาด (ท่องเที่ยวและการค้า) ลดเสี่ยงพึ่งพิงแหล่งเดียว
  2. Deconcentrate – คลายความกระจุกของงบและโอกาส สู่ อปท.–ชุมชน–SME เพื่อให้รายได้ไหลทั่วพื้นที่
  3. Decarbonize – เร่งมาตรการสิ่งแวดล้อม ลดควัน–ขยะ พร้อมสื่อสารข้อมูลคุณภาพอากาศโปร่งใส สร้างความมั่นใจนักเดินทางระยะยาว

หากทำได้พร้อมกัน เมืองจะ “ล็อกอิน” สถานะ เมืองปลายทางคุณภาพสูง ที่นักท่องเที่ยวพักนาน ใช้จ่ายสูง และกลับมาเยือนซ้ำในทุกฤดูกาล

ข้อเสนอสำหรับผู้ประกอบการในฤดูกาลนี้

  • ยกระดับระบบจอง รองรับหลายภาษา–มือถือ และเชื่อมแชต–ชำระเงิน
  • ทำแพ็กเกจร่วม ที่พัก + Wellness + เส้นทางชากาแฟ + รถรับส่งสนามบิน
  • สื่อสารความปลอดภัย ชัดเจนบนหน้าร้านและแพลตฟอร์ม พร้อมจุดติดต่อฉุกเฉิน
  • เก็บรีวิวคุณภาพ เน้นรูป–วิดีโอจริง สร้าง Social Proof ก่อนพีกซีซัน
  • อบรมบุคลากร ด้านภาษาที่สอง–บริการเชิงลึก ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวคุณภาพสูง

ไฮซีซันปลายปี 2568 คือ “จังหวะเร่งเครื่อง” ของเชียงราย ตัวเลขพื้นฐานบวก ความปลอดภัยเด่น และ Soft Power ชัดเจน ทั้งชา–กาแฟ ศิลปะ และ Wellness ขณะที่ไฟลต์ใหม่จากสิงคโปร์จะเปิดประตูตลาดอาเซียนโดยตรง ภาพความท้าทายยังมี ทั้ง PM2.5 การแข่งขันภูมิภาค และเศรษฐกิจสองขั้ว แต่ด้วยแผนเตรียมพร้อมของพื้นที่ ภาคเอกชน และการสื่อสารเชิงรุก เชียงรายมีศักยภาพจะ เปลี่ยนฤดูกาล ให้เป็น โอกาส และเปลี่ยน นักเดินทางครั้งแรก เป็น ผู้มาเยือนซ้ำ ที่หลงรักเมืองเหนือปลายทางแห่งนี

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • เขียนโดย กันณพงศ์ ก.บัวเกษร ผู้ก่อตั้งนครชียงรายนิวส์
  •  เรียบเรียงโดย มนรัตน์ ก.บัวเกษร ผู้ร่วมก่อตั้งนครเชียงรายนิวส์
  • ภาพโดย กีรติ ชุติชัย ผู้สื่อข่าว
  • สัมภาษณ์ นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงราย วันที่ 6 กันยายน 2568: ภาพรวมฤดูกาลท่องเที่ยว อัตราเข้าพัก 55% การเติบโต 5% ประเด็นความปลอดภัยและนักท่องเที่ยว 6.1 ล้านคน รวมถึงแผนเพิ่มเที่ยวบินและไฟลต์ Scoot สิงคโปร์–เชียงราย 1 ม.ค. 2569
  • ข้อมูลผู้ใช้จัดเตรียม: ตัวเลขรายได้ท่องเที่ยวปี 2566–2568 สถานะ “เมืองรองอันดับ 1” ครึ่งปีแรก 2568 และกรอบการวิเคราะห์เศรษฐกิจ–การท่องเที่ยวเชียงราย
  • ข้อมูลผู้ใช้จัดเตรียม (การค้า): สถิติ การค้าผ่านแดน/ชายแดน เดือนกรกฎาคม 2568 มูลค่า 99,805 ล้านบาท (+32.5%) และ 66,220 ล้านบาท (–20%) สินค้าหลักทุเรียน 22,949 ล้านบาท (+135.6%)
  • ข้อมูลผู้ใช้จัดเตรียม (นโยบาย–งบประมาณ): รายการจัดสรรงบกระตุ้นเศรษฐกิจจังหวัดเชียงรายปี 2568 รวม 1,876.1 ล้านบาท โครงสร้างหน่วยงานผู้รับงบ และงบซ่อมฟื้นฟูหลังอุทกภัยปลายปี 2567
  • ข้อมูลผู้ใช้จัดเตรียม (สิ่งแวดล้อม–ความท้าทาย): สถานการณ์ PM2.5 มาตรการงดเผา 92 วัน เหตุภัยธรรมชาติชายแดน และการแข่งขันปลายทางในภูมิภาค
  •  
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI ECONOMY

“Fashion on the Road 2nd Chiang Rai” สืบสานวัฒนธรรมล้านนา

 

เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2567 บริษัท วัฒนกูล กรุ๊ป จำกัด ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดย ภูมิภาคภาคเหนือ และจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยหน่วยงานพันธมิตรภาครัฐและภาคเอกชนในจังหวัดเชียงราย จัดกิจกรรม “Fashion on the Road 2nd Chiang Rai Designer’s Competition” ในรูปแบบงานออกแบบผ้าพื้นเมือง ผ้าจากแต่ละภูมิภาค ผสมผสานผ้าชาติพันธุ์ของเชียงราย ภายใต้แนวคิด “แฟชั่นผ้าล้านนาสู่แฟชั่นระดับโลก” เชียงราย โลดแล่นบนเวทีแฟชั่นโชว์แคทวอล์กเหนือสุดของประเทศไทย นำเสนอ 100 ชุดผ้าไทยล้านนา จาก 168 ดีไซน์เนอร์ทั่วประเทศ ร่วมดันจุดขาย F-Fashion เพื่อพัฒนาส่งเสริมผ้าไทย แฟชั่น และสิ่งทอของประเทศ และยกระดับผ้าแฟชั่นของเชียงรายสู่ระดับสากล ตลอดจนสร้างและพัฒนานักออกแบบของจังหวัดเชียงรายและขยายไปยังจังหวัดอื่น ๆ ทั่วประเทศ 

ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าของแต่ละภูมิภาคของไทย รวมถึงเปิดช่องทางการขาย ขยายตลาดไปสู่ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ โดยมี นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเป็นประธานในพิธีเปิดฯ และนายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานเชียงราย พร้อมหน่วยงานพันธมิตรทุกภาคส่วนให้เกียรติร่วมงาน ณ หน้าด่านพรมแดนไทย – เมียนมา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

กิจกรรมไฮไลต์ในงาน ได้แก่ Fashion on the Road 2nd At Mae Sai ครั้งที่สองของงานแสดงแฟชั่นโชว์ผ้าไทยของภูมิภาคภาคเหนือกว่า 100 ชุด ในวันที่ 1 กันยายน 2567 เวลา 16.00 น. นำโดยนางสุภาเพ็ญ ศิริมาตย์ ประธานแม่บ้านมหาดไทยให้เกียรติร่วมเดินแบบ พร้อมเหล่านายแบบและนางแบบ การร่วมเฟ้นหาสุดยอดนักออกแบบแฟชั่นดีไซน์รุ่นใหม่จากสถาบันการศึกษาทั่วประเทศที่มีความสนใจแฟชั่น งานออกแบบผ้าพื้นเมือง ภายใต้แนวคิด “แฟชั่นผ้าล้านนาสู่แฟชั่นระดับโลก” ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 400,000 บาท การจัดงานกิจกรรมประกอบด้วย การแสดงแฟชั่นโชว์ชุดจากการออกแบบของผู้สมัครเข้าร่วมแข่งขันที่ผ่านการคัดเลือกจะถูกนำมาแสดงแฟชั่นโชว์กว่า 100 ชุด 

จากดีไซน์เนอร์ทั่วประเทศที่ออกแบบตัดเย็บชุดจากผ้าไทยของแต่ละภูมิภาค ผสมผสานผ้าชาติพันธุ์จังหวัดเชียงรายเป็นการต่อยอด F-Fashion โดยมีร้านค้าที่จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์งานผ้า Art & Craft อันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมยกทับร้านอาหารดังของเมืองเชียงรายรวมกว่า 100 ร้าน ให้ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัส และยังชวนร่วมสนุกกับกิจกรรม Check in @ Chiang Rai เพียงแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงราย ผ่านช่องทางออนไลน์ ด้วยการร่วมกิจกรรมสแกน QR Code พร้อม Check in at Chiang Rai บนสื่อโซเซียลเพื่อรับสิทธิพิเศษส่วนลดจากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้อีกด้วย

ทั้งนี้ บริษัท วัฒนกูล กร๊ป จำกัด จังหวัดเชียงราย และ ททท.โดยภูมิภาคภาคเหนือ รวมถึงหน่วยงานพันธมิตรทุกภาคส่วน เชื่อมั่นว่า กิจกรรม “Fashion on the Road 2nd” Chiang Rai Designer’s Competition จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านผ้า แฟชั่น และด้านการท่องเที่ยวที่ดีของภาคเหนือแก่นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ รวมทั้งสะท้อนศักยภาพของหน่วยงานภาคีเครือข่ายด้านการท่องเที่ยวทั้งภาครัฐและเอกชนในการสนับสนุนและเสนอขายสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวในพื้นที่ นำสู่การหมุนเวียนระบบเศรษฐกิจฐานรากอย่างทั่วถึง ตลอดจนผลักดันภาพรวมตลาดในประเทศ ประจำปี 2567 เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมาย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : Chiang Rai Fashion To The World

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News