เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567 วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) นำโดย นายสมจิตร เปี่ยมเปรมสุข อุปนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ได้นำทีมวิศวกรอาสาจำนวน 100 คน ลงพื้นที่ชุมชนสายลมจอย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อตรวจสอบความเสียหายของอาคารบ้านเรือนและให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม
นายสมจิตร เปี่ยมเปรมสุข เปิดเผยว่า วิกฤตการณ์อุทกภัยทางภาคเหนือตอนบน รวมถึงในจังหวัดเชียงราย ได้สร้างความเสียหายอย่างมากต่อประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอแม่สายที่ได้รับผลกระทบหนักจากน้ำท่วมครั้งนี้ ทีมวิศวกรอาสาจาก วสท. ที่มีจำนวน 100 คน ได้ลงพื้นที่สำรวจและตรวจสอบความเสียหายของบ้านเรือนในชุมชน เพื่อประเมินสภาพโครงสร้างอาคาร ระบบไฟฟ้า และความปลอดภัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการฟื้นฟูและการป้องกันภัยที่อาจเกิดขึ้นซ้ำ
“ทีมวิศวกรอาสาจากสภาวิศวกรและ วสท. ซึ่งรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ได้ตระหนักถึงความต้องการความช่วยเหลือด้านวิศวกรรมในพื้นที่นี้ จึงได้จัดตั้งทีมงานเพื่อเข้าตรวจสอบความปลอดภัยของโครงสร้างบ้านเรือนและอาคารในพื้นที่ประสบภัย” นายสมจิตร กล่าวเพิ่มเติม
นอกจากนี้ ทีมวิศวกรยังได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ในการร่วมกันฟื้นฟูบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับความเสียหาย โดยเน้นให้ความสำคัญกับการตรวจสอบความแข็งแรงของโครงสร้างอาคารต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม รวมไปถึงการประเมินสภาพของระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์อื่นๆ ที่เสี่ยงต่อความปลอดภัยของผู้พักอาศัย
นายสมจิตรกล่าวว่า วสท. และสภาวิศวกร มีพันธกิจตาม พ.ร.บ.วิศวกร พ.ศ. 2542 มาตรา 7 (5) ที่กำหนดให้มีการให้บริการวิชาการและเทคโนโลยีทางวิศวกรรมแก่ประชาชน โดยทีมวิศวกรอาสาจาก วสท. ในครั้งนี้เป็นการตอบสนองตามพันธกิจดังกล่าว โดยมุ่งเน้นการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติให้สามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้อย่างปลอดภัย
ในส่วนของการฟื้นฟูพื้นที่ นายสมจิตรยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการสำรวจครั้งนี้จะมีการประเมินทั้งสภาพโครงสร้างภายในและภายนอกอาคาร เพื่อให้แน่ใจว่าการซ่อมแซมจะทำให้บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างมีความปลอดภัยและพร้อมใช้งานอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ทาง วสท. ยังมีแผนที่จะร่วมมือกับหน่วยงานท้องถิ่นและองค์กรภาคประชาสังคมในการฝึกอบรมวิศวกรท้องถิ่น เพื่อให้สามารถช่วยเหลือชุมชนในอนาคตหากเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติขึ้นอีก
การลงพื้นที่ในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยเฉพาะการช่วยเหลือในด้านอุปกรณ์และเครื่องมือที่จำเป็นในการตรวจสอบสภาพบ้านเรือนและโครงสร้างอาคาร นายสมจิตร กล่าวว่าการฟื้นฟูพื้นที่ในครั้งนี้จะต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์หรืออาจจะนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับขอบเขตความเสียหายของแต่ละพื้นที่ แต่การทำงานของทีมวิศวกรจาก วสท. จะมุ่งเน้นไปที่การฟื้นฟูในลักษณะที่ยั่งยืนและปลอดภัยต่อประชาชน
ทางด้านผู้บริหารจากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการป้องกันภัยพิบัติในอนาคต โดยการวางแผนเชิงโครงสร้างในระยะยาว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาแบบนี้ซ้ำอีกในอนาคต นอกจากนี้ยังได้เสนอให้มีการพัฒนาระบบเตือนภัยที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้รับการเตือนภัยล่วงหน้าและมีเวลาในการเตรียมพร้อม
นายสมจิตรปิดท้ายว่า “ความเสียหายจากน้ำท่วมครั้งนี้สร้างความยากลำบากให้กับประชาชนในพื้นที่แม่สายเป็นอย่างมาก แต่การร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ เอกชน หรือภาคประชาสังคม ถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้การฟื้นฟูในครั้งนี้เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือประชาชนให้กลับมามีชีวิตที่ปลอดภัยและมั่นคงโดยเร็วที่สุด”
การลงพื้นที่สำรวจและให้ความช่วยเหลือครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ทั้งในด้านความปลอดภัยและการฟื้นฟูชีวิตความเป็นอยู่ ซึ่งทาง วสท. และสภาวิศวกรยังคงยืนยันที่จะให้ความช่วยเหลือและร่วมมือกับทุกภาคส่วนต่อไป
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย