กสศ. จัดสัมมนาพิเศษ ชูแนวทาง “Thailand Zero Dropout” สร้างโอกาสให้เด็กนอกระบบ
เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2568 กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ได้จัดสัมมนาพิเศษในหัวข้อ “Exclusive Seminar ถอดรหัสการช่วยเหลือเด็กนอกระบบ ข้อค้นพบจากชีวิตจริงและปมปัญหาที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันแก้” ณ กรุงเทพมหานคร โดยมีสื่อมวลชนและผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษาเข้าร่วมฟังข้อค้นพบจากโครงการ “Thailand Zero Dropout” ที่ดำเนินงานในปี 2567 เพื่อกำหนดทิศทางการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนในปี 2568
ผลสำเร็จจากโครงการ Thailand Zero Dropout ปี 2567
ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการ กสศ. เปิดเผยว่า ในปี 2567 สามารถติดตามเด็กและเยาวชนที่หลุดจากระบบการศึกษากลับเข้าสู่เส้นทางการเรียนรู้ได้จำนวน 304,082 คน จากจำนวนเด็กที่ไม่มีรายชื่อในระบบทั้งหมดกว่า 1 ล้านคน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลล่าสุด ณ เดือนธันวาคม 2567 พบว่ายังมีเด็กนอกระบบการศึกษาอยู่กว่า 982,304 คน ซึ่งแบ่งเป็น 3 กลุ่มอายุ:
- เด็กก่อนวัยเรียนภาคบังคับ 279,296 คน
- เด็กในวัยเรียนภาคบังคับ 387,591 คน
- เด็กหลังวัยเรียนภาคบังคับ 315,417 คน
การแก้ปัญหาต้องเน้นสร้างโอกาสทางการศึกษาให้เด็กและเยาวชนกลับเข้าสู่ระบบการเรียนรู้ พร้อมป้องกันไม่ให้เด็กหลุดออกจากเส้นทางการศึกษากลางคัน
หัวใจของการแก้ปัญหา: ใช้ทั้งสมองและหัวใจ
ดร.ไกรยส ระบุว่า “เพราะมองหาจึงมองเห็น” เป็นแนวคิดสำคัญของโครงการ โดยการทำงานต้องใช้ทั้ง การวิเคราะห์ข้อมูล และ ความเข้าใจเชิงลึก ถึงปัญหาที่เด็กแต่ละคนเผชิญ เพื่อสร้างแนวทางที่เหมาะสมกับบริบทชีวิตของเด็ก ทั้งยังเน้นย้ำว่า การศึกษาคือกุญแจสำคัญในการแก้ปัญหาความยากจนและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
ยูเนสโก ได้ประเมินว่า หากประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมาย “Thailand Zero Dropout” ได้สำเร็จ จะช่วยเพิ่ม GDP ประเทศได้ถึงปีละ 1.7% ซึ่งถือเป็นตัวเลขสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ
มาตรการสำคัญของโครงการ
โครงการใช้กลไกการทำงานเชิงพื้นที่ (Area Based) โดยมี Case Manager หรือผู้ดูแลรายกรณีทำหน้าที่ค้นหาเด็กนอกระบบและเชื่อมโยงกับหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อพาเด็กกลับเข้าสู่การเรียนรู้ สำหรับกลุ่มที่ยังไม่พร้อมจะได้รับการดูแลฟื้นฟูจนสามารถกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาได้ นอกจากนี้ยังมีการขยายรูปแบบการศึกษาให้ยืดหยุ่นและเหมาะสมกับความหลากหลายของเด็ก เช่น
- โรงเรียนมือถือ (Mobile School)
- การเรียนรู้ผ่านศูนย์การเรียนในท้องถิ่น
- การสะสมหน่วยกิตผ่านระบบ Credit Bank
- การบูรณาการการเรียนรู้ร่วมกับสถานประกอบการ
มิติที่ซับซ้อนของปัญหาเด็กนอกระบบ
รศ.ดร.ลือชัย ศรีเงินยวง อนุกรรมการ กสศ. กล่าวว่า ปัญหาเด็กนอกระบบการศึกษามีความซับซ้อนและเกี่ยวข้องกับปัจจัยหลายด้าน เช่น วงจรครอบครัว ความเหลื่อมล้ำในสังคม หรือปัญหาบาดแผลทางจิตใจ การแก้ไขปัญหาจำเป็นต้องอาศัยการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วน และสร้างพื้นที่ที่เด็กสามารถเข้าถึงได้โดยไม่มีเงื่อนไข
คุณนเรศ สงเคราะห์สุข รองผู้จัดการโครงการฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ระบบการศึกษาต้องปรับตัวให้ยืดหยุ่นมากขึ้น พร้อมสร้าง “พื้นที่ปลอดภัย” เพื่อรองรับเด็กกลุ่มนี้ในระยะยาว
8 มาตรการสำคัญเพื่อแก้ปัญหาเด็กนอกระบบ
คุณพัฒนพงษ์ สุขมะดัน ผู้ช่วยผู้จัดการ กสศ. ได้สรุปแนวทาง 8 มาตรการที่เป็นหัวใจของโครงการ ได้แก่
- สร้างหลักประกันโอกาสทางการศึกษา เช่น ทุนเสมอภาค
- ขยายการจัดการศึกษา 1 โรงเรียน 3 รูปแบบ
- จัดตั้งศูนย์การเรียนตามมาตรา 12
- ลดอุปสรรคและปรับการเรียนรู้ให้ยืดหยุ่น
- สร้างตำบลต้นแบบ Zero Dropout
- ใช้เทคโนโลยีช่วยการเรียนรู้ เช่น โรงเรียนมือถือ
- พัฒนาระบบสะสมหน่วยกิต (Credit Bank)
- บูรณาการเรียนรู้บนเส้นทางอาชีพ
อนาคตของเด็กไทย: ความหวังที่ยั่งยืน
โครงการ “Thailand Zero Dropout” ถือเป็นแนวทางสำคัญที่ช่วยเปิดโอกาสให้เด็กทุกคนสามารถเข้าถึงการศึกษาและพัฒนาตนเองได้อย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งจะช่วยสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับทั้งเด็กและประเทศ
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.)