รัฐบาลเปิดตัว “30 บาทรักษาทุกที่” ครอบคลุมทั่วประเทศ ยกระดับสุขภาพคนไทย
วันที่ 3 มกราคม 2568 – รัฐบาลไทยได้เปิดตัวโครงการ “30 บาทรักษาทุกที่” ระยะที่ 4 ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ เป็นโครงการเรือธงที่มุ่งเน้นการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงบริการสุขภาพสำหรับคนไทยทุกคน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์หรือเอกสาร เพียงใช้ “บัตรประชาชนใบเดียว” ก็สามารถรับบริการทางการแพทย์ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และทั่วถึง
ความสำเร็จในปีที่ผ่านมา
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า โครงการนี้เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2567 และได้รับการขยายผลอย่างต่อเนื่องจนเข้าสู่ระยะที่ 3 ครอบคลุม 46 จังหวัด และล่าสุดได้ขยายเพิ่มเติมอีก 31 จังหวัดในปี 2568 ทำให้ครอบคลุมทุกจังหวัดในประเทศ นับว่าเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาสาธารณสุขไทย
ในปี 2567 เพียงปีเดียว โครงการ “30 บาทรักษาทุกที่” มีผู้ใช้บริการกว่า 6,150,579 คน โดยให้บริการจำนวน 14,079,514 ครั้ง ซึ่งรวมถึง:
- บริการเจาะเลือดใกล้บ้านผ่าน Lab Rider จำนวน 30 รายการ
- บริการ Telemedicine หรือการพบแพทย์ออนไลน์ จำนวน 1,206,031 ครั้ง
- บริการรับยาใกล้บ้านผ่านร้านยาเอกชน 93,927 ครั้ง
- การจัดส่งยาทางไปรษณีย์ 573,612 ครั้ง
- การส่งยาโดย Health Rider จำนวน 379,782 ครั้ง
โครงการนี้ช่วยลดระยะเวลาการรอคอยจากเฉลี่ย 2 ชั่วโมง 7 นาที เหลือเพียง 56 นาทีต่อครั้ง และยังช่วยลดค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อครั้งได้ถึง 160 บาท
ความสะดวกที่เพิ่มขึ้นในปี 2568
ภายใต้การบริหารของนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร โครงการนี้ได้รับการพัฒนาและขยายผลเพื่อให้คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงการรักษาได้อย่างเท่าเทียม การใช้ บัตรประชาชนใบเดียว เป็นกุญแจสำคัญในการลดความยุ่งยากด้านเอกสาร และช่วยอำนวยความสะดวกในกระบวนการรักษา โดยประชาชนสามารถเข้ารับบริการได้ทั้งใน:
- โรงพยาบาลรัฐ
- คลินิกเอกชน
- ร้านขายยาเอกชน ที่เข้าร่วมโครงการ (สามารถสังเกตสติกเกอร์ “30 บาทรักษาทุกที่” ได้)
ทั้งนี้ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้เตรียมความพร้อมในด้านการเบิกจ่าย และสนับสนุนหน่วยบริการในระบบเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น
ประโยชน์และสิทธิใหม่ของประชาชน
นอกจากบริการเดิม โครงการนี้ยังมอบสิทธิประโยชน์ใหม่ อาทิ:
- การเลือกสถานที่รักษาใกล้บ้าน ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลรัฐหรือเอกชน
- เพิ่มบริการตรวจและรักษาโรคทั่วไปในร้านขายยา
- บริการจัดส่งยาและปรึกษาแพทย์ออนไลน์ เพิ่มความสะดวกให้ผู้ป่วยในพื้นที่ห่างไกล
ผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมไทย
นโยบาย “30 บาทรักษาทุกที่” ไม่เพียงแต่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน แต่ยังมีผลกระทบเชิงบวกในด้านอื่น ๆ:
- ลดความแออัดในโรงพยาบาลใหญ่ โดยกระจายการรักษาไปยังหน่วยบริการอื่น ๆ
- เพิ่มโอกาสการเข้าถึงการรักษาในพื้นที่ห่างไกล โดยเฉพาะประชาชนในชนบท
- สนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่น ผ่านการมีส่วนร่วมของคลินิกและร้านขายยาเอกชน
- ลดความเหลื่อมล้ำในระบบสาธารณสุข ทำให้ประชาชนทุกคนได้รับโอกาสทางการรักษาที่เท่าเทียม
ก้าวต่อไปเพื่อสุขภาพที่ยั่งยืน
ในปี 2568 รัฐบาลตั้งเป้าที่จะพัฒนาโครงการให้ครอบคลุมและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ เช่น ระบบ Telemedicine และการจัดส่งยาอัจฉริยะ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกพื้นที่ของประเทศไทย
นโยบายนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการสร้างระบบสาธารณสุขที่ทันสมัย เท่าเทียม และครอบคลุมทุกกลุ่มประชากร ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยอย่างยั่งยืน
“30 บาทรักษาทุกที่” สุขภาพดีสำหรับคนไทยทุกคน เริ่มแล้วทั่วประเทศ
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย