
สพฐ. ยืนยันนักเรียนทุกคนมีที่เรียน พร้อมจัดสรรงบช่วยเหลือผู้ปกครองก่อนเปิดเทอมปี 2568
การเปิดเผยข้อมูลล่าสุดจาก สพฐ. ย้ำ “เด็กไทยไม่มีใครถูกทิ้ง”
ประเทศไทย, 23 เมษายน 2568 – ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยความคืบหน้าการรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และมัธยมศึกษาปีที่ 4 ประจำปีการศึกษา 2568 ว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ดำเนินกระบวนการสอบคัดเลือกและมอบตัวเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา โดยมีนักเรียนที่ได้ที่เรียนแล้วทั้งสิ้น 1,097,902 คน ครอบคลุมทุกระดับชั้นตั้งแต่อนุบาลจนถึงมัธยมปลาย
ตัวเลขนักเรียนที่มีที่เรียน ยืนยันคุณภาพและความครอบคลุม
ในการจัดสรรที่เรียนครั้งนี้ สพฐ. ได้จัดระบบรองรับที่เรียนตามแผนการรับนักเรียนในโรงเรียนสังกัด สพฐ. ดังนี้:
- อนุบาล: 218,426 คน ใน 23,862 ห้องเรียน
- ประถมศึกษาปีที่ 1: 266,846 คน ใน 21,699 ห้องเรียน
- มัธยมศึกษาปีที่ 1: 372,206 คน ใน 14,826 ห้องเรียน
- มัธยมศึกษาปีที่ 4: 240,324 คน ใน 8,116 ห้องเรียน
รวมทั้งสิ้นกว่า 1 ล้านคนที่ได้รับการจัดสรรที่เรียนแล้ว โดย สพฐ. ยืนยันว่า เด็กทุกคนมีที่เรียนอย่างแน่นอน
ยังมีที่นั่งว่างอีกกว่า 3 แสนที่ สพฐ. ย้ำสามารถรองรับได้ทุกคน
แม้จะมีจำนวนนักเรียนที่ได้ที่เรียนแล้วจำนวนมาก แต่ สพฐ. เปิดเผยว่า ยังมีที่นั่งว่างเหลือในระบบอีกกว่า 300,000 ที่นั่ง โดยเฉพาะในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 217,286 ที่นั่ง และมัธยมศึกษาปีที่ 4 อีก 97,511 ที่นั่ง ซึ่งนักเรียนที่ยังไม่มีที่เรียนสามารถยื่นความจำนงได้ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ
ล่าสุด ณ วันที่ 21 เมษายน 2568 มีนักเรียนยื่นความจำนงเพื่อขอที่เรียนเพิ่มเติมจำนวน 18,737 คน แบ่งเป็น:
- ม.1: 14,844 คน
- ม.4: 3,893 คน
โดยการจัดสรรจะแล้วเสร็จและประกาศผลภายในวันที่ 27 เมษายน 2568 ส่วนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จะประกาศผลระหว่างวันที่ 23-24 เมษายนนี้ และคาดว่าจะยังเหลือที่นั่งว่างในโรงเรียนอีกกว่า 6,500 ที่นั่ง
นโยบาย “เรียนดี มีความสุข” และการขับเคลื่อน OBEC Zero Dropout
ภายใต้การนำของ พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการและผู้ช่วยรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาเด็กหลุดจากระบบการศึกษาอย่างจริงจัง ผ่านนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” และ OBEC Zero Dropout หรือ “พาน้องกลับมาเรียน นำการเรียนไปให้น้อง” เพื่อให้เด็กทุกคนกลับเข้าสู่ระบบและได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ
นโยบายนี้ครอบคลุมเด็กอายุตั้งแต่ 3 – 18 ปี ที่เคยหลุดจากระบบ และยังคงเปิดโอกาสให้สมัครเรียนได้แม้โรงเรียนจะเปิดภาคเรียนไปแล้ว หากโรงเรียนมีที่นั่งว่าง
สพฐ. อนุมัติงบประมาณช่วยเหลือนักเรียนครบทุกด้านก่อนเปิดเทอม
ว่าที่ร้อยตรี ธนุ ระบุเพิ่มเติมว่า เพื่อบรรเทาภาระของผู้ปกครองในช่วงเปิดภาคเรียนที่ 1 ปี 2568 สพฐ. ได้อนุมัติจัดสรรงบประมาณสนับสนุนค่าใช้จ่ายการจัดการศึกษาใน 5 รายการหลัก ได้แก่:
- ค่าจัดการเรียนการสอน
- ค่าหนังสือเรียน
- ค่าอุปกรณ์การเรียน
- ค่าเครื่องแบบนักเรียน
- ค่ากิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน
โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จเพื่อให้นักเรียนทุกคนได้รับสิ่งจำเป็นครบถ้วนก่อนเปิดภาคเรียน และสามารถเข้าชั้นเรียนได้อย่างมีคุณภาพ
แนวทางยืดหยุ่นเรื่องการแต่งกายนักเรียน เพื่อลดภาระผู้ปกครอง
อีกหนึ่งมาตรการสำคัญที่ สพฐ. ได้กำชับไปยังเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษาทุกแห่ง คือ การยืดหยุ่นเรื่องการแต่งกายของนักเรียนในช่วงเปิดภาคเรียน โดยให้สถานศึกษาพิจารณาผ่อนผันหรือยกเว้นได้ตามความเหมาะสม โดยเฉพาะกรณีที่นักเรียนยังไม่มีเครื่องแบบใหม่ เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการเรียน และเพื่อสร้างความเท่าเทียมทางการศึกษา
บทวิเคราะห์ ระบบการศึกษาที่ขยับสู่ความเท่าเทียมอย่างจริงจัง
การจัดสรรที่เรียนอย่างครอบคลุม และการสนับสนุนงบประมาณในทุกมิติของการเรียนรู้ สะท้อนถึงความพยายามของ สพฐ. และกระทรวงศึกษาธิการในการลดช่องว่างด้านการศึกษา
มาตรการ OBEC Zero Dropout และการส่งเสริมให้นักเรียนที่หลุดจากระบบได้กลับเข้ามาเรียนในระบบการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นกลไกสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยสามารถพัฒนาคนได้อย่างมีคุณภาพและยั่งยืน
ขณะที่แนวทางการเปิดให้โรงเรียนพิจารณาผ่อนผันการแต่งกาย ก็ถือเป็นการปรับตัวเข้ากับความเป็นจริงของสังคม และช่วยลดภาระที่ไม่จำเป็นจากผู้ปกครอง ในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว
สถิติที่เกี่ยวข้อง
- นักเรียนที่ได้รับการจัดสรรที่เรียนแล้ว:
รวม 1,097,902 คน- อนุบาล: 218,426 คน
- ประถมศึกษาปีที่ 1: 266,846 คน
- มัธยมศึกษาปีที่ 1: 372,206 คน
- มัธยมศึกษาปีที่ 4: 240,324 คน
- ที่นั่งว่างในระบบยังสามารถรองรับได้:
รวม 314,797 คน- ม.1: 217,286 คน
- ม.4: 97,511 คน
- นักเรียนที่ยื่นขอที่เรียนเพิ่มเติม ณ วันที่ 21 เม.ย. 2568:
รวม 18,737 คน- ม.1: 14,844 คน
- ม.4: 3,893 คน
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
- สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
- กระทรวงศึกษาธิการ
- ศูนย์สารสนเทศการศึกษาแห่งชาติ
- ข่าวจากสื่อหลัก: ไทยรัฐ, มติชน, ฐานเศรษฐกิจ