
เชียงรายจัดใหญ่ “สงกรานต์ ปี๋ใหม่เมือง 2568” ดึงนักท่องเที่ยวทั่วโลก หลังยูเนสโกขึ้นทะเบียนมรดกโลก
ททท. เดินหน้ายกระดับ “สงกรานต์” สู่ Soft Power สากล
เชียงราย,วันที่ 1 เมษายน 2568-การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เดินหน้าสนองนโยบายรัฐบาล ในการยกระดับประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี ภายใต้แคมเปญ “Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year 2025” โดยในช่วงเดือนเมษายน 2568 ซึ่งตรงกับเทศกาลสงกรานต์ หรือ “ปี๋ใหม่เมือง” ของภาคเหนือ ททท. ได้ผนึกกำลังกับภาครัฐและเอกชน จัดกิจกรรมเชิงวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงราย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นและเผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรมสู่สายตานานาชาติ
ยูเนสโกยกย่อง ‘สงกรานต์ไทย’ มรดกโลกวัฒนธรรม
การจัดงานในปีนี้มีความพิเศษยิ่งขึ้น หลังจากที่องค์การยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียน “สงกรานต์ในประเทศไทย” เป็น มรดกโลกทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ เมื่อเดือนธันวาคม 2566 ซึ่งนับเป็นแรงผลักดันให้รัฐบาลและ ททท. เร่งพัฒนาเทศกาลนี้สู่ระดับสากล โดยใช้ Soft Power ด้านวัฒนธรรมเป็นเครื่องมือในการดึงดูดนักท่องเที่ยว
กิจกรรมหลากหลายทั่วจังหวัด สะท้อนอัตลักษณ์ล้านนา
นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานเชียงราย เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงรายได้จัดกิจกรรมมากมายตลอดเดือนเมษายน – พฤษภาคม เพื่อเฉลิมฉลองประเพณีสงกรานต์และขยายผลสู่เทศกาลวัฒนธรรมอื่นๆ ได้แก่:
- สงกรานต์ตานตุง กลางเวียงเชียงราย (1–30 เม.ย. 2568) ณ วัดกลางเวียง อ.เมือง
- สรงน้ำพระเจ้าฝนแสนห่า
- สรงน้ำเสาสะดือเมือง
- ปักตุงทราย 12 นักษัตร
- ทำบุญไหว้พระ สักการะเสาหลักเมือง
- ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง (12–16 เม.ย.) ณ ถนนคนม่วน เทศบาลนครเชียงราย
- สงกรานต์ถนนสันโค้งคนเล่นน้ำ ณ ถนนสันโค้งน้อย
- Chiangrai Songkran Festival 2025 (13–15 และ 19 เม.ย.) ณ ลานกาสะลอง เซ็นทรัลพลาซ่า เชียงราย
- มหาสงกรานต์อำเภอเชียงของ (13 เม.ย.) ณ ลานข่วงวัฒนธรรมเมืองเชียงของ
- สงกรานต์เมืองเชียงแสน (12, 16–18 เม.ย.) ณ หน้าที่ว่าการอำเภอเชียงแสน
- ปี๋ใหม่เมืองตำบลโฮงจ้าง (19–20 เม.ย.) ณ บ้านโป่งศรีนคร อ.ป่าแดด
- PANGKHON-ROMYEN TO DOICHANG TRAIL (3–4 พ.ค.) ณ บ้านปางขอน
- เดือน 8 เช้า เดือน 9 ออก (23–29 พ.ค.) ณ วัดกลางเวียง
ความพร้อมรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
ททท. ระบุว่า การจัดกิจกรรมเช่นนี้ นอกจากจะเป็นการสืบสานประเพณีไทย ยังเป็นการแสดงศักยภาพของจังหวัดเชียงราย ในการรองรับนักท่องเที่ยวจากนานาประเทศ โดยมีการประเมินว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติหลั่งไหลเข้าร่วมกิจกรรมสงกรานต์ในเชียงรายไม่น้อยกว่า 60,000 คน ตลอดเดือนเมษายน – พฤษภาคม ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และการค้าท้องถิ่นอย่างมีนัยสำคัญ
เสียงสะท้อนจากภาคประชาชนและเอกชน
ประชาชนในพื้นที่และผู้ประกอบการส่วนใหญ่แสดงความยินดีและสนับสนุนการจัดกิจกรรมอย่างเต็มที่ เพราะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19 โดยเฉพาะในหมู่บ้านท่องเที่ยวและชุมชนเมืองเก่าที่ได้ประโยชน์จากการเดินทางของนักท่องเที่ยวโดยตรง
อย่างไรก็ตาม ยังมีเสียงจากภาคประชาสังคมที่เสนอข้อห่วงใยเกี่ยวกับปริมาณขยะและมลภาวะทางเสียงจากการจัดกิจกรรม ซึ่งอาจกระทบต่อวิถีชีวิตของคนในชุมชน โดยเรียกร้องให้มีแนวทางควบคุมและบริหารจัดการอย่างเหมาะสม
การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนคือเป้าหมายหลัก
นายวิสูตร เน้นย้ำว่า ททท. ตระหนักถึงความสำคัญของ การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism) โดยจะดำเนินกิจกรรมตามหลักความรับผิดชอบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนให้ร่วมกันอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่น และใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า
การส่งเสริม ‘ปี๋ใหม่เมือง’ เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ชาติ
การจัดงานสงกรานต์ปี 2568 เป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ที่เน้นการใช้วัฒนธรรมเป็นฐานเศรษฐกิจผ่าน “Soft Power” โดยรัฐบาลไทยมีเป้าหมายให้รายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และกระจายไปยังภูมิภาค โดยเฉพาะภาคเหนือที่มีต้นทุนทางวัฒนธรรมเข้มแข็ง
ข้อมูลสถิติการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย
จากรายงานของสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย ปี 2566 ระบุว่า:
- เชียงรายมีนักท่องเที่ยวรวม 2.9 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 28
- รายได้รวมจากการท่องเที่ยวประมาณ 13,200 ล้านบาท
- นักท่องเที่ยวต่างชาติคิดเป็นร้อยละ 17 ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด
- อัตราการเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมอยู่ที่ร้อยละ 52 ตลอดปี
- งานเทศกาลสงกรานต์มีนักท่องเที่ยวเฉพาะเดือนเมษายนกว่า 58,000 คน
สรุปมุมมองเชิงนโยบายแบบเป็นกลาง
จากมุมมองของผู้สนับสนุน กิจกรรม “ปี๋ใหม่เมืองเชียงราย” เป็นก้าวสำคัญในการยกระดับวัฒนธรรมไทยสู่ระดับนานาชาติ โดยสร้างรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งยังสร้างความภาคภูมิใจให้แก่ประชาชนในท้องถิ่น
ในขณะที่อีกมุมมองหนึ่งของนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและชุมชนเมืองเก่า เห็นว่าการจัดกิจกรรมในบางจุดอาจต้องพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตท้องถิ่นมากขึ้น เพื่อให้การส่งเสริมการท่องเที่ยวไม่กลายเป็นภาระของชุมชน
ดังนั้น ความสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจและการรักษาวัฒนธรรมท้องถิ่น จึงเป็นหัวใจของการจัดงานสงกรานต์ในยุคใหม่ ที่ต้องใส่ใจทั้งภาพลักษณ์และความยั่งยืนอย่างแท้จริง
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
- สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย, รายงานประจำปี 2566
- การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงราย
- UNESCO, Representative List of the Intangible Cultural Heritage of Humanity (2023)