
เชียงรายประชุมคณะกรรมการป้องกันภัย ยกระดับมาตรการรับมือฝุ่น PM 2.5 และภัยแล้ง เตรียมการเชิงรุกปกป้องสุขภาพประชาชน
เชียงราย, 25 มีนาคม 2568 – จังหวัดเชียงรายจัดประชุมคณะกรรมการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ครั้งที่ 1/2568 เพื่อยกระดับมาตรการรับมือสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 และภัยแล้งที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้น โดยมีนายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุม ณ ห้องประชุมธรรมลังกา ศาลากลางจังหวัดเชียงราย โดยมีหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
มาตรการป้องกันและเฝ้าระวังฝุ่น PM 2.5 แบบเข้มข้น
การประชุมได้เน้นย้ำแผนการป้องกันไฟป่าและฝุ่นละออง โดยมีมาตรการเพิ่มความถี่ในการลาดตระเวนพื้นที่เสี่ยง จัดชุดเฝ้าระวัง และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดกับผู้ฝ่าฝืนคำสั่งห้ามเผาในที่โล่ง ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ป่า พื้นที่เกษตร หรือชุมชนเมือง รวมถึงการควบคุมแหล่งกำเนิดมลพิษ เช่น โรงงาน เตาเผาถ่าน และเตาเผาขยะ พร้อมตั้งจุดตรวจวัดมลพิษจากยานพาหนะในจุดเสี่ยงสำคัญ
ดูแลสุขภาพประชาชนกลุ่มเสี่ยง – แจกหน้ากาก N95 ครอบคลุม
ในด้านสุขภาพประชาชน จังหวัดได้ดำเนินมาตรการแจกจ่ายหน้ากากอนามัย N95 และยาขยายหลอดลมให้กลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ และเด็กในสถานศึกษา พร้อมทั้งจัดบริการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) และจัดระบบส่งยาถึงบ้านเพื่อลดความเสี่ยงในการเดินทาง
หากค่าฝุ่น PM 2.5 เกินระดับ 75.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรต่อเนื่อง 2 วัน จะมีการพิจารณาปรับรูปแบบการเรียนการสอน หรือปิดสถานศึกษาชั่วคราว พร้อมสนับสนุนให้ประชาชนปฏิบัติงานที่บ้าน (Work from Home) และลดกิจกรรมกลางแจ้งในพื้นที่เสี่ยง
นอกจากนี้ ยังมีการจัดทีมแพทย์ 3 หมอ และ อสม. เคลื่อนที่เร็ว ออกตรวจเยี่ยมบ้านประชาชน พร้อมแจกหน้ากากและมุ้งสู้ฝุ่นให้ครอบคลุม โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยติดเตียง
การประชาสัมพันธ์สถานการณ์ฝุ่นและภัยแล้งอย่างต่อเนื่อง
หน่วยงานด้านประชาสัมพันธ์จังหวัด ได้รับมอบหมายให้เร่งกระจายข่าวสารผ่านทุกช่องทาง โดยเฉพาะหอกระจายข่าวในหมู่บ้าน เพื่อแจ้งเตือนประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 และแนวทางการปฏิบัติตัวให้ปลอดภัย พร้อมรณรงค์สร้างความเข้าใจเรื่องผลกระทบจากการเผาในที่โล่งที่ยังเป็นปัจจัยสำคัญของปัญหาฝุ่นในภาคเหนือ
ปิดป่า คุมเข้มบุคคลเข้าออก พร้อมวิจัยทางเลือกการเกษตร
เพื่อควบคุมการเผาในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ จังหวัดมีนโยบาย “ปิดป่า” ชั่วคราว ยกเว้นแหล่งท่องเที่ยว โดยพื้นที่ป่าสงวนจะมีการควบคุมบุคคลเข้าออกอย่างเข้มงวด ขณะเดียวกันมีการประสานมหาวิทยาลัยในพื้นที่เพื่อคิดค้นสารอินทรีย์ย่อยสลายเศษวัสดุทางการเกษตร ใช้แทนการเผาในพื้นที่สูง
ด้านการส่งเสริมอาชีพเกษตรกร มีการผลักดันให้เปลี่ยนจากพืชเชิงเดี่ยวเป็นการทำเกษตรผสมผสานหรือเกษตรมูลค่าสูง เพื่อลดการเผาเศษพืชที่ก่อฝุ่นอย่างยั่งยืน
รับมือภัยแล้ง – จัดการน้ำ บูรณาการข้อมูลภาคเกษตร
โครงการชลประทานเชียงรายและการประปาส่วนภูมิภาค ได้รับมอบหมายให้ติดตามระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำและแหล่งน้ำธรรมชาติอย่างใกล้ชิด หากพบว่าน้ำมีแนวโน้มต่ำกว่า 50% ต้องแจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้าและจัดแผนสำรองน้ำให้เพียงพอ
สำนักงานเกษตรจังหวัดร่วมสำรวจพื้นที่เพาะปลูก แยกตามการใช้น้ำฝนและน้ำชลประทาน เพื่อใช้ในการวางแผนส่งเสริมพืชใช้น้ำน้อย พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรหลีกเลี่ยงการปลูกข้าวนาปรังในฤดูแล้ง
สำหรับแหล่งน้ำที่ตื้นเขิน มีการเตรียมแผนขุดลอกเร่งด่วน ได้แก่
- หนองฮ่าง ตำบลทานตะวัน
- อ่างเก็บน้ำห้วยแก้ว อำเภอพาน
- ท้ายอ่างเก็บน้ำแม่ฉางข้าว อำเภอเวียงป่าเป้า
สร้างแรงจูงใจชุมชนต้นแบบ – ให้รางวัลหมู่บ้านไร้หมอกควัน
เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแก้ปัญหาหมอกควัน ผู้ว่าราชการจังหวัดเสนอแนวทาง “หมู่บ้านต้นแบบไร้หมอกควัน” โดยให้รางวัลกับหมู่บ้านที่สามารถจัดการปัญหาไฟป่าและฝุ่น PM 2.5 ได้สำเร็จ สร้างแรงจูงใจและต้นแบบให้กับชุมชนอื่นในพื้นที่
ความร่วมมือภาครัฐและเอกชน – เส้นทางสู่การจัดการภัยพิบัติอย่างยั่งยืน
นอกจากการประสานภายในจังหวัด เชียงรายยังดำเนินการเชื่อมโยงกับภาคเอกชนและหน่วยงานระดับประเทศ เพื่อร่วมกันสนับสนุนการเพาะปลูก การจัดหาแหล่งน้ำสำรอง และส่งเสริมเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ถือเป็นการเตรียมความพร้อมระยะยาวในการบรรเทาผลกระทบจากภัยพิบัติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ความคิดเห็นจากสองฝ่าย
ฝ่ายสนับสนุนมาตรการ
มองว่าการยกระดับมาตรการของจังหวัดเชียงรายในครั้งนี้ถือเป็นความก้าวหน้าอย่างแท้จริง โดยเฉพาะการบูรณาการข้อมูลจากทุกภาคส่วน ตั้งแต่สาธารณสุข เกษตร ไปจนถึงงานชลประทาน ซึ่งเป็นพื้นฐานของการจัดการวิกฤติอย่างรอบด้าน การแจกจ่ายหน้ากากและบริการแพทย์ทางไกลยังแสดงให้เห็นถึงการคำนึงถึงคุณภาพชีวิตประชาชนเป็นหลัก
ฝ่ายที่ตั้งข้อสังเกต
ชี้ว่ามาตรการเหล่านี้ แม้จะมีความรัดกุม แต่หากขาดการบังคับใช้อย่างจริงจังโดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลหรือเขตภูเขา จะไม่สามารถลดปัญหาไฟป่าและฝุ่น PM 2.5 ได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังมีข้อกังวลเรื่องงบประมาณสนับสนุนที่อาจไม่เพียงพอต่อการดำเนินการอย่างครอบคลุมทุกกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้ป่วยติดเตียงในชนบท
สถิติที่เกี่ยวข้อง (อัปเดต 25 มีนาคม 2568)
- ค่าฝุ่น PM 2.5 เฉลี่ยรายวัน (พื้นที่เมืองเชียงราย): 78–92 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
- องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำค่ามาตรฐาน PM 2.5: ไม่เกิน 15 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
- พื้นที่ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูงไฟป่าและฝุ่นละออง: อำเภอแม่สรวย, เวียงป่าเป้า, แม่ฟ้าหลวง
- จำนวนอ่างเก็บน้ำที่อยู่ในระดับน้ำต่ำกว่า 50%: 3 แห่ง (ข้อมูลจากโครงการชลประทานเชียงราย)
- จำนวนหมู่บ้านเป้าหมายในการแจกมุ้งสู้ฝุ่นและหน้ากาก N95: 67 หมู่บ้าน
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
- ศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า จังหวัดเชียงราย
- สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
- สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย
- สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศกรมควบคุมมลพิษ
- รายงานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย ครั้งที่ 1/2568