Categories
WORLD PULSE

‘เกาหลีใต้’ ดึงนักท่องเที่ยวจีน กลุ่มทัวร์เข้าได้ไม่ต้องวีซ่า ‘เว้นไทย’

รัฐบาลเกาหลีใต้เปิดมาตรการดึงนักท่องเที่ยวจีน กลุ่มทัวร์เรือสำราญเข้าประเทศโดยไม่ต้องใช้วีซ่า

เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2568 จากรายงานของ Business Korea รัฐบาลเกาหลีใต้ได้พิจารณามาตรการดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มทัวร์ โดยเสนอให้ เข้าประเทศได้โดยไม่ต้องใช้วีซ่า (Visa-free entry) เพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองและวิกฤติโควิด-19

มาตรการนี้เริ่มต้นสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาโดยเรือสำราญ และมีแผนขยายไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนในประเภทอื่นๆ ภายหลัง นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีแผนแก้ไขกฎหมายเพื่ออนุญาตให้นักท่องเที่ยวชาวเกาหลีสามารถเข้าพักในโฮมสเตย์ในเมือง (Urban Homestays) ซึ่งก่อนหน้านี้สงวนไว้เฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ

 

การประชุมยุทธศาสตร์ฟื้นฟูการท่องเที่ยว

แผนการเหล่านี้ถูกประกาศในที่ประชุมว่าด้วยยุทธศาสตร์การส่งเสริมการท่องเที่ยว จัดขึ้นที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเกาหลี ในเขตยงซาน กรุงโซล เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2567 การประชุมมีผู้แทนจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและเอกชนประมาณ 60 คนเข้าร่วม โดยเน้นถึงความสำคัญของการฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด-19

มาตรการสำคัญของรัฐบาล

  1. ขยายการยกเว้น K-ETA และค่าวีซ่า
    • รัฐบาลได้ประกาศยกเว้นค่าธรรมเนียมการออกวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มจาก 6 ประเทศ ได้แก่ จีน เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย กัมพูชา และอินเดีย จนถึงสิ้นปีหน้า
    • ขยายระยะเวลาการยกเว้นชั่วคราวสำหรับ Korea Electronic Travel Authorization (K-ETA) ถึงสิ้นปี 2568
  2. สนับสนุนการเงินแก่ภาคการท่องเที่ยว
    • เงินกู้ทั่วไป 536.5 พันล้านวอน
    • การชดเชยเงินกู้รอง 100 พันล้านวอน
    • เงินกู้ค้ำประกัน 70 พันล้านวอน
    • มีแผนใช้งบประมาณด้านการท่องเที่ยว 1.3 ล้านล้านวอน โดย 70% ของงบประมาณดังกล่าวจะถูกนำมาใช้ในช่วงครึ่งปีแรก
  3. ส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านกิจกรรมและแคมเปญ
    • จัดงาน “Korea Grand Sale” ขยายระยะเวลาในครึ่งปีแรก
    • เตรียมจัดอีเวนต์ใหญ่ “Beyond K-Festa” ในเดือนมิถุนายน

ความสำคัญของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในเกาหลีใต้

ข้อมูลจาก องค์การการท่องเที่ยวเกาหลี (KTO) ระบุว่า เกาหลีใต้ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 13.74 ล้านคนภายในเดือนตุลาคม 2567 ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดตั้งแต่ปี 2562 ที่เคยมี 17.5 ล้านคนก่อนการระบาดของโควิด-19

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวยังไม่ถึงเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ที่ 20 ล้านคนในปีนี้ สะท้อนถึงความท้าทายที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกำลังเผชิญ

รัฐบาลเน้นย้ำความสำคัญของการสื่อสารใกล้ชิดกับภาคการท่องเที่ยว

รองประธานาธิบดีฮัน ดัก-ซู กล่าวในที่ประชุมว่า “เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของตลาดการท่องเที่ยว เราจำเป็นต้องดำเนินมาตรการเชิงรุกและเร่งด่วน ผ่านการสื่อสารใกล้ชิดกับภาคการท่องเที่ยว”

ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความหวังในอนาคต

มาตรการที่เน้นการเปิดประเทศและฟื้นฟูการท่องเที่ยวนี้ คาดว่าจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจและสร้างความมั่นคงในระยะยาว โดยเฉพาะการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและการช็อปปิ้งที่เป็นเอกลักษณ์ของเกาหลีใต้

จากแผนการดำเนินงานที่ครอบคลุมทั้งด้านการเงิน การยกเว้นวีซ่า และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว เกาหลีใต้หวังจะกลับมาเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลกในปี 2568 และปีต่อๆ ไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : businesskorea

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
FOLLOW ME
MOST POPULAR
Categories
AROUND CHIANG RAI TRAVEL

เตรียม Kick Off เปิดเมืองเชียงราย 26 ต.ค. 67 กระตุ้นการท่องเที่ยว

รองผู้ว่าราชการเชียงรายวางแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวส่งเสริมเศรษฐกิจจังหวัด

การประชุมวางแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2567 ณ ห้องประชุมพวงแสด ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมเพื่อหารือแผนการฟื้นฟูการท่องเที่ยว รวมถึงการประชาสัมพันธ์และการตลาด เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงราย การประชุมมีผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

แนวทางการกระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยว

ในการประชุมครั้งนี้ ได้มีการนำเสนอแนวทางการกระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว โดยเน้นการจัดกิจกรรมต่างๆ มากมาย รวมถึงปฏิทินกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวตลอดทั้งปีที่จัดโดยหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อให้เห็นภาพรวมของการพัฒนาการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงรายอย่างชัดเจน

การฟื้นฟูการท่องเที่ยวและช่วยเหลือผู้ประกอบการ

ในช่วงแรกของแผนการฟื้นฟู จะมุ่งเน้นที่การเร่งฟื้นฟูการท่องเที่ยวในพื้นที่ และช่วยเหลือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย การดำเนินการนี้จะควบคู่กับการสร้างการรับรู้และสร้างภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยวให้กลับคืนมาอีกครั้ง เพื่อให้ผู้มาเยือนเกิดความเชื่อมั่นและกระตุ้นการเดินทางมายังจังหวัดเชียงรายในช่วงปลายปีนี้

กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวประจำปี

ตัวอย่างกิจกรรมที่วางแผนไว้ เช่น ททท.สำนักงานเชียงรายกำหนดจัดกิจกรรมเปิดการท่องเที่ยวภาคเหนือ “เหนือ..พร้อมเที่ยว” ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ณ จังหวัดเชียงราย โดยจะมีพิธีสืบชะตาหลวงล้านนาเพื่อเสริมสิริมงคลแก่เมืองเชียงราย มีผู้ประกอบการท่องเที่ยวและนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศเข้าร่วมพิธีจำนวน 300 คน นอกจากนี้ยังร่วมกับสายการบิน Thai Air Asia นำคณะสื่อมวลชน บล็อกเกอร์ และ KOL จากกรุงเทพฯ มาเดินทางจัดทำคอนเทนต์การท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย

กิจกรรม Kick Off เปิดเมืองเชียงราย

เทศบาลนครเชียงรายจัดกิจกรรม Kick Off เปิดเมืองในวันที่ 26 ตุลาคม 2567 ณ สวนตุงและโคมเมืองเชียงราย โดยมีกิจกรรมถนนคนเดินและกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวต่อเนื่องไปจนถึงงานลอยกระทงริมคลอง การจัดกิจกรรมนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มสีสันและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนเชียงรายมากยิ่งขึ้น

การประกวดติ๊กต๊อกเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว

หอการค้าจังหวัดเชียงราย (YEC) จะจัดประกวดติ๊กต๊อกเพื่อสื่อสารให้จังหวัดเชียงรายมีภาพจำที่น่าท่องเที่ยว โดยมีรางวัลเป็นตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ร้านอาหาร และร้านกาแฟในจังหวัดเชียงราย สำหรับการท่องเที่ยว 3 วัน 2 คืน ซึ่งเป็นการสร้างแรงจูงใจให้คนรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วมในการโปรโมทจังหวัด

ความร่วมมือเพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้กล่าวถึงความสำคัญของการร่วมมือกันระหว่างทุกภาคส่วนในการฟื้นฟูและส่งเสริมการท่องเที่ยว การผสมผสานระหว่างการท่องเที่ยว กีฬา ผลิตภัณฑ์ชุมชน และวิถีวัฒนธรรมท้องถิ่น จะช่วยให้จังหวัดเชียงรายสามารถเตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การเตรียมพร้อมสำหรับกิจกรรมตลอดทั้งปี

ในฤดูกาลท่องเที่ยวปีนี้ จังหวัดเชียงรายจะมีกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี โดยมีการจัดงานประชุม สัมมนา และกิจกรรมต่างๆ จากภาครัฐ ภาคเอกชน และท้องถิ่น เช่น เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล เพื่อให้การส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นไปอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับเชียงราย

การฟื้นฟูการท่องเที่ยวในเชียงรายไม่เพียงแต่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับเมืองเชียงรายในสายตานักท่องเที่ยว การมีสภาพแวดล้อมที่สะอาดและมีการจัดกิจกรรมที่น่าสนใจ จะทำให้เชียงรายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นตาตื่นใจและมีความน่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวในทุกฤดูกาล

บทสรุป

การประชุมวางแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวของรองผู้ว่าราชการเชียงราย เป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นในการฟื้นฟูและพัฒนาการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงรายอย่างยั่งยืน ด้วยการร่วมมือกันของหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน การจัดกิจกรรมที่หลากหลายและมีเป้าหมายชัดเจน จะช่วยให้เชียงรายกลับมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าดึงดูดและส่งเสริมเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงในอนาคต

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

สทท.เสนอ ‘เที่ยวคนละครึ่ง’ กระตุ้นท่องเที่ยวไทยหลังน้ำท่วม

สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฯ เสนอ “เที่ยวคนละครึ่ง” ฟื้นฟูท่องเที่ยวไทยหลังน้ำท่วม

วันที่ 9 ตุลาคม 2567 นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจท่องเที่ยวอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในจังหวัด เชียงใหม่ และ เชียงราย ที่เคยสร้างรายได้ท่องเที่ยวสูงสุดถึง เดือนละ 7,000 ล้านบาท และ 3,000 ล้านบาท ตามลำดับ ส่งผลให้รายได้จากการท่องเที่ยวในภาคเหนือหายไปมากกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นวิกฤติครั้งใหญ่สำหรับการท่องเที่ยวไทยในช่วงปลายปีนี้

เร่งกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศ เสนอ “เที่ยวคนละครึ่ง” วงเงิน 5,000 ล้านบาท

เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ นายชำนาญเผยว่า สทท. เตรียมเสนอโครงการ “เที่ยวคนละครึ่ง” ซึ่งเป็นโครงการใหม่ที่คาดว่าจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจในพื้นที่ท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม วงเงินรวม 5,000 ล้านบาท โดยจะให้สิทธิ์เงินสนับสนุนคนละ 2,000 บาท ภายใต้เงื่อนไขการเข้าพักในโรงแรมอย่างน้อย 3 วัน 4 คืน มาตรการนี้จะช่วยสร้างความตื่นตัวให้กับคนไทยหันมาเที่ยวในประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2567 หากไม่มีมาตรการนี้ อาจส่งผลให้รายได้รวมจากการท่องเที่ยวไม่ถึง 900,000 ล้านบาท ตามเป้าที่รัฐบาลตั้งไว้

ภาพลักษณ์เชียงใหม่เสียหายหนัก กระทบการท่องเที่ยวอย่างหนัก

นายพัลลภ แซ่จิว รักษาการประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมครั้งล่าสุดส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวอย่างรุนแรง โดยเฉพาะภาพลักษณ์ของจังหวัดเชียงใหม่ที่ได้รับความเสียหายหนัก ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติยกเลิกการเดินทาง แม้แต่คนไทยยังเปลี่ยนแผนไปเที่ยวที่อื่น ส่งผลให้รายได้ที่เคยเฉลี่ยอยู่ที่ 6,000 ล้านบาทต่อเดือน ลดเหลือเพียง 200 ล้านบาทต่อวัน ซึ่งหมายความว่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท ได้เกิดขึ้นภายใน 10 วัน โดยแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอย่าง อำเภอแม่แตง และ อำเภอแม่ริม เป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเต็ม ๆ และคาดว่าจะลากยาวอีกอย่างน้อย 15 วัน

ภาคการเกษตรเสียหายหนักถึง 24,553 ล้านบาท

นอกจากภาคการท่องเที่ยวแล้ว ภาคการเกษตร ยังเป็นอีกภาคส่วนที่ได้รับความเสียหายรุนแรง โดยจากการประเมินพบว่ามูลค่าความเสียหายในภาคเกษตรสูงถึง 24,553 ล้านบาท คิดเป็น 82.3% ของมูลค่าความเสียหายทั้งหมดใน 33 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ รองลงมาคือ ภาคบริการ ที่มีมูลค่าความเสียหาย 5,121 ล้านบาท และ ภาคอุตสาหกรรม คิดเป็นมูลค่า 171 ล้านบาท รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมด 30,000 ล้านบาท

สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดเชียงราย เสียหายกว่า 6,000 ล้านบาท

สำหรับจังหวัดที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือ จังหวัดเชียงราย ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายสูงถึง 6,412 ล้านบาท รองลงมาคือ จังหวัดพะเยา และ จังหวัดสุโขทัย ขณะที่จังหวัด เชียงใหม่ มีความเสียหายประมาณ 2,000 ล้านบาท แต่ตัวเลขยังไม่นิ่ง เนื่องจากยังคงมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ ซึ่งทำให้การฟื้นฟูต้องใช้เวลาและงบประมาณเพิ่มเติม

ข้อเสนอแนะเพื่อการฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวในระยะยาว

นอกจากมาตรการระยะสั้นอย่าง “เที่ยวคนละครึ่ง” นายชำนาญยังเสนอแนวทางการฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวในระยะกลางและยาว โดยเน้นการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคการท่องเที่ยวผ่านการตั้ง คณะกรรมการพัฒนาสินค้าท่องเที่ยว เพื่อพัฒนาความปลอดภัย ความยั่งยืน และการสร้างเรื่องราว (Storytelling) ให้กับแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ รวมถึงการเสริมความแข็งแกร่งให้กับสินค้าและบริการในภาคท่องเที่ยว เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่และเพิ่มความหลากหลายในการท่องเที่ยวไทย

ภาพรวมเศรษฐกิจท่องเที่ยวปี 2567 คาดว่าจะต่ำกว่าเป้า

สำหรับภาพรวมรายได้จากการท่องเที่ยวตลอดปี 2567 คาดว่าจะอยู่ที่ 2.7-2.8 ล้านล้านบาท จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 35.5-36.5 ล้านคน และในปี 2568 สทท. ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 2.9-3.1 ล้านล้านบาท ซึ่งจะเป็นระดับสูงสุดใหม่ (New High) จากการคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 38-40 ล้านคน อย่างไรก็ตาม หากไม่มีมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติมอาจทำให้เป้าหมายนี้ไม่สามารถบรรลุได้

บทสรุป: สทท. เดินหน้าผลักดัน “เที่ยวคนละครึ่ง” เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยว

การเร่งออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จำเป็นอย่างยิ่ง โดย โครงการเที่ยวคนละครึ่ง คาดว่าจะช่วยกระตุ้นการเดินทางในช่วงปลายปีนี้ หากได้รับการอนุมัติจากภาครัฐ เชื่อว่าคนไทยจะพร้อมใช้สิทธิ์และออกเดินทางไปยังจังหวัดต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไทยหลังน้ำท่วม

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์ / DoiTung Club

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI ECONOMY

‘น้ำท่วมเชียงราย’ พ่นพิษเสียหาย กระทบภาคเกษตรสูงถึง 6,412 ล้านบาท

 

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2567 นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย แสดงความกังวลต่อสถานการณ์น้ำท่วมที่กำลังขยายวงกว้างในพื้นที่ 33 จังหวัดของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากมวลน้ำจำนวนมหาศาล ทำให้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวในพื้นที่ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง รวมถึงรายได้จากการท่องเที่ยวที่ลดลงอย่างมาก ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจในพื้นที่

น้ำท่วมเชียงใหม่กระทบหนัก รายได้หายกว่า 2,000 ล้านบาท

นายพัลลภ แซ่จิว รักษาการประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ภาพลักษณ์ของเชียงใหม่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก นักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทยจำนวนมากยกเลิกการเดินทางมายังเชียงใหม่ ส่งผลให้รายได้จากการท่องเที่ยวที่เคยเฉลี่ยเดือนละ 6,000 ล้านบาท เหลือเพียง 200 ล้านบาทต่อวัน คิดเป็นความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท ในช่วง 10 วันที่ผ่านมา โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติอย่าง อำเภอแม่แตง และ อำเภอแม่ริม ที่เป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของนักท่องเที่ยวก็ได้รับผลกระทบเต็ม ๆ และคาดว่าสถานการณ์นี้จะลากยาวออกไปอีกอย่างน้อย 15 วัน หากไม่มีการฟื้นฟูและสร้างความเชื่อมั่นอย่างรวดเร็ว

น้ำท่วมกระทบภาคเกษตร เชียงรายเสียหายสูงสุด

จากการประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากอุทกภัยในครั้งนี้ มูลค่าความเสียหายทั้งหมดกว่า 30,000 ล้านบาท โดยภาคการเกษตรได้รับผลกระทบหนักที่สุด คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 24,553 ล้านบาท หรือคิดเป็น 82.3% ของความเสียหายทั้งหมด ส่วนภาคบริการเสียหายเป็นมูลค่า 5,121 ล้านบาท และภาคอุตสาหกรรม 171 ล้านบาท

สำหรับจังหวัดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย มีมูลค่าความเสียหายสูงถึง 6,412 ล้านบาท รองลงมาคือ จังหวัดพะเยา 3,292 ล้านบาท และ จังหวัดสุโขทัย 3,042 ล้านบาท ขณะที่จังหวัดเชียงใหม่มีความเสียหายรวม 2,000 ล้านบาท แต่ตัวเลขยังไม่นิ่งและอาจสูงกว่าที่ประเมินในปัจจุบัน

ภาคธุรกิจท่องเที่ยวเรียกร้องมาตรการช่วยเหลือด่วน

นายสนั่นได้เน้นย้ำว่า หอการค้าไทย ได้เร่งหารือกับภาครัฐเพื่อหามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะภาคธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เนื่องจากเป็นแหล่งรายได้สำคัญของเชียงใหม่ โดยหอการค้าไทยจะร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสนับสนุนมาตรการช่วยเหลือ ทั้งการจัดหาสินค้าในราคาประหยัด การซ่อมแซมบ้านเรือน และการเยียวยาเชิงเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ หอการค้าไทยยังมีแผนฟื้นฟูภาพลักษณ์การท่องเที่ยว โดยการจัดแคมเปญ “เชียงใหม่ปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว” เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวกลับมาเยือน หลังสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย ซึ่งหากการประชาสัมพันธ์ล่าช้า จะส่งผลกระทบต่อภาพรวมการท่องเที่ยวในช่วงฤดูท่องเที่ยวปลายปี และอาจทำให้รายได้หายไปอีกหลายพันล้านบาท

รัฐบาลเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ทางด้านรัฐบาลได้ประกาศมาตรการช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประสบภัย เช่น โครงการมอบเงินช่วยเหลือ 10,000 บาท สำหรับครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม และ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น สนับสนุนเงินเพิ่มอีก 10,000 บาท เมื่อประชาชนใช้จ่ายครบ 10,000 บาท เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยและเพิ่มเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ รวมถึงรณรงค์ให้ผู้มีรายได้สูงร่วมบริจาคเงิน โดยสามารถนำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจสามารถเดินหน้าต่อไปได้

ข้อเสนอเพื่อรับมือวิกฤตอุทกภัยในอนาคต

นายสนั่นได้เสนอแนวทางในการรับมือกับอุทกภัยในอนาคต โดยเน้นการบูรณาการความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วน ทั้งการพัฒนาระบบชลประทาน การออกแบบเมืองที่มีความยืดหยุ่นต่อภัยพิบัติ การประกันภัยเพื่อรองรับความเสี่ยง และการสร้างความตระหนักรู้ในชุมชน เพื่อให้ทุกภาคส่วนมีความพร้อมและสามารถรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บทสรุป: การฟื้นฟูและการสร้างความเชื่อมั่นสำคัญต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

การฟื้นฟูภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของจังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายหลังน้ำท่วมจะเป็นปัจจัยสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจในพื้นที่ หากสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว จะช่วยลดผลกระทบระยะยาวและกระตุ้นการท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทั้งภาครัฐและเอกชนในการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News