Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

ผู้ว่าฯ เชียงราย สั่งเปิดปฏิบัติการจับซ้ำ บุหรี่ไฟฟ้าร้านเดิม ลักลอบขายอีกครั้ง

 

เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 67 นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย สั่งเปิดปฏิบัติการ “เชียงรายฟ้าใส (ไร้ควัน)” จัดระเบียบสังคมฯ ป้องกันเด็ก เยาวชน นักเรียน และนักศึกษา ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข ในการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า ตามนโยบาย มท.1 สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้ทำการจับกุมร้านลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ชื่อร้าน P-VAPE ตั้งอยู่ที่ 197/8 หมู่ที่ 15 ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย ซึ่งขณะนั้นจำกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 4 คน แสดงตัวเป็นผู้ดูแลร้าน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ ได้ทำการสืบทราบมาว่า ร้านดังกล่าวกลับมาเปิดลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าอีกครั้ง แต่เปลี่ยนสถานที่ และรูปแบบในการจำหน่าย โดยมีการตั้งกลุ่มไลน์ในการซื้อขาย นัดรับ และส่งของ โดยในไลน์กลุ่มจะพบว่าร้านดังกล่าวมีสาขาอยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย อีกสองสาขา ได้แก่ สาขาตะวันแดง และสาขาบ้านดู่เมืองใหม่ โดยจะใช้วิธีการโอนเงินแต่เพียงอย่างเดียว โดยชื่อบัญชีผู้รับโอนจะเป็นคนเดียวกันซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดนครปฐม แล้วผู้ใช้บริการถึงเลือกว่าจะให้ทางร้านส่งของให้ผ่านทางไรเดอร์ หรือนัดรับตามจุดที่ทางร้านแจ้ง ซ้ำร้านดังกล่าวยังมีการจัดโปรโมชั่นลดราคาต้อนรับเปิดเทอม ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกันทุกสาขา อันเป็นการมุ่งเป้าหมายไปที่กลุ่มเด็ก เยาวชน นักเรียน และนักศึกษา และเป็นการมอมเมา เด็กและเยาวชนในพื้นที่จังหวัดเชียงรายเป็นอย่างมาก

 

     ภายใต้การอำนวยการของ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายบัลลังก์ ไวทย์ศิริ ปลัดจังหวัดเชียงราย นายบุญส่ง ตินารี นายอำเภอเมืองเชียงราย  พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย และ พ.ต.อ.โสภณ ม่วงเฟื่อง ผกก.สภ.เมืองเชียงราย ได้สั่งการให้ฝ่ายปกครองร่วมกับตำรวจ นำโดยนายกองรบ กระทุ่มนัด ป้องกันจังหวัดเชียงราย ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดเชียงราย สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดเชียงรายที่ 1 พร้อมเจ้าหน้าที่บูรณาการร่วมออกปราบปรามร้านลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ให้แก่เด็ก เยาวชน นักเรียน และนักศึกษา วันที่ 3 กรกฎาคม 2567 เวลา 14.20 น. เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนเข้าตรวจสอบร้านดังกล่าว โดยวิธีล่อซื้อ และปลอมตัวเป็นไรเดอร์เพื่อเข้าทำการจับกุม และอีกชุดซุ่มดูพฤติกรรมอยู่บริเวณบ้านเช่าที่คาดว่าเป็นที่เก็บบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งระหว่างที่ทำการซุ่มดูอยู่ประมาณ 15 นาที ทางร้านมีการออกไปส่งของกว่า 5 ครั้ง และมีไรเดอร์เข้ามารับของอยู่ตลอดเวลา เมื่อทำการตกลงซื้อขายและนัดรับของ โดยทางร้านแจ้งให้มารับของที่บริเวณ ข้างวิทยาลัยเทคนิค เชียงราย โดยผู้ส่งของได้ออกจากบ้านเช่าเลขที่ 194/39 ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โดยใช้มอเตอร์ไซต์ ออกมาส่งของ เมื่อมาถึงจุดรับรับเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัว พร้อมพามาตรวจค้นในบริเวณบ้านเช่า ซึ่งเป็นอาคารชั้นเดียว จากการตรวจสอบพบผู้ดูแล จำนวน 2 คน เป็นหญิงและหนึ่งในนั้น เคยถูกจับมาเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 จากการตรวจสอบพบบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์ จำนวนกว่า 300 ชิ้น มูลค่ากว่า แสนบาท ยังพบบัญชีซึ่งมีรายได้ต่อเดือนกว่า 500,000 บาท และเจ้าหน้าที่ยังพบคำสั่งปิดร้าน ร้าน P-VAPE ตั้งอยู่ที่ 197/8 หมู่ที่ 15 ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย อยู่ในบ้านเช่าหลังดังกล่าวด้วย เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ดูแลทั้ง 2 ราย โดยแจ้งข้อหา 

 

           1) ได้มีการซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา 242 ตามมาตรา 246 วรรคแรก แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ประกอบข้อ 4 แห่งประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

          2) ขายสินค้าบารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า โดยฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า ต้องระวางโทษ โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

           เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมกล่าวโทษเจ้าของบัญชี ต่อไป ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะได้ปราบปรามร้านทั้งเปิดหน้าร้านและขายออนไลน์ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

เคาะ! จัดพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ บ่อน้ำทิพย์ วัดพระธาตุดอยตุง 4 ก.ค. 67

 

เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2567 ที่ห้องประชุมจอมกิตติ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมกรมการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ นายอำเภอ ผู้บริหาร อปท. และเอกชน ครั้งที่ 6/2567 โดยมี นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ และนางอุบลรัตน์ พ่วงภิญโญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการทุกภาคส่วน ภาคเอกชน และผู้แทนหน่วยงานในจังหวัดเชียงราย ร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน

 

ที่ประชุมได้มีการแนะนำส่วนราชการที่ย้ายมาดำรงตำแหน่งใหม่ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย นายธีระพงษ์ มีศรี ในตำแหน่งผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบทเชียงราย พร้อมรับชมสรุปรายงานผลการปฏิบัติงานของผู้บริหารจังหวัด ส่วนราชการ หน่วยงาน รัฐวิสาหกิจ ในรอบเดือนมิถุนายน 2567 ของสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย ตามลำดับ

 

ต่อจากนั้นเข้าสู่วาระการประชุมเรื่องเพื่อทราบและรายงานผลการดำเนินงาน เรื่องการดำเนินงานเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ประจำปี 2567 สรุปรายงานภาวะการค้าชายแดนและการค้าข้ามแดนด้านจังหวัดเชียงราย รวมถึงเรื่องการเตรียมจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ของจังหวัดเชียงราย โดยในวันที่ 4 กรกฎาคม 2567 จัดให้มีพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ ณ บ่อน้ำทิพย์ วัดพระธาตุดอยตุง อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย พิธีเดินขบวนรถบุษบกเชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์ ขันน้ำสาคร และที่ตักน้ำ ณ บริเวณสวนตุงและโคมนครเชียงราย ไปยัง วัดพระแก้ว พระอารามหลวง ส่วนวันที่ 7 กรกฎาคม 2567 พิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ณ พระอุโบสถวัดพระแก้ว พระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ในส่วนของวันที่ 8 กรกฎาคม 2567 จัดให้มีพิธีเวียนเทียนสมโภชน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ณ พระอุโบสถวัดพระแก้ว พระอารามหลวง และในช่วงเช้าของวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 จัดพิธีทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศล พิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน และในช่วงเย็นจะเป็นพิธีถวายเครื่องราชสักการะและวางพานพุ่ม และจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ GMS จังหวัดเชียงราย รวมถึงจัดเตรียมโครงการ 72 ล้านต้น พลิกผืนป่าเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โครงการพัฒนาสัมพันธ์เครือข่ายความมั่นคงระดับผู้บริหาร และสถานการณ์ และมาตรการควบคุมโรคไข้เลือดออก และเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องตามลำดับ

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงราย จัดโครงการพัฒนาศักยภาพ ผู้นำคลื่นลูกใหม่ในจังหวัด (YPC) รุ่น 2

 
เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2567 ที่โรงแรมแม่โขงเดลต้า อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาศักยภาพผู้นำคลื่นลูกใหม่ในจังหวัด Young Public and Private Collaboration (YPC) รุ่น 2 ประจำปี 2567 โดยมีนายภาคภูมิ ผลพิสิษฐ์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย คณะกรรมการหอการค้าจังหวัด

เชียงราย คณะวิทยากรจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และผู้เข้าร่วมอบรมจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เข้าร่วม

ด้วยหอการค้าจังหวัดเชียงราย ร่วมกับจังหวัดเชียงราย มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (YEC) เชียงราย ได้จัดโครงการพัฒนาศักยภาพผู้นำคลื่นลูกใหม่ในจังหวัด (Young Public and Private Collaboration: YPC) รุ่นที่2 ประจำปี พ.ศ. 2567 ขึ้น ระหว่างวันที่ 25 – 26 มิถุนายน 2567 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความพร้อมของผู้นำรุ่นใหม่ในภาคราชการไทยและเอกชน สู่การเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในการพัฒนาระบบราชการและเศรษฐกิจตามสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

 และเพื่อพัฒนาขีดความสามารถ ความรู้ ทักษะ ทัศนคติ ในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ด้วยการพัฒนาแผนพัฒนาจังหวัดให้บรรลุเป้าหมายตามแผนพัฒนาภาค อีกทั้งเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และประสบการณ์จากการลงพื้นที่จังหวัดระหว่างผู้เข้ารับการฝึกอบรมจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาคราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน

 ซึางการดำเนินการโครงการครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมจากข้าราชการสังกัดราชการส่วนภูมิภาค หรือราชการส่วนท้องถิ่นที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงราย และภาคเอกชน ผู้ประกอบการ พนักงานเอกชนที่มีสถานประกอบการอยู่ในจังหวัดเชียงราย และข้าราชการ หรือ พนักงานมหาวิทยาลัย ของมหาวิทยาลัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ที่มีประสบการณ์การทำงานร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชนในจังหวัดเชียงราย จำนวนทั้งสิ้น 60 คน

         นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า โครงการพัฒนาศักยภาพผู้นำคลื่นลูกใหม่ในจังหวัด หรือ YPC เป็นการแสดงถึงความร่วมมือระหว่างภาครัฐ และภาคเอกชน รวมทั้ง สถาบันการศึกษาและภาคส่วนต่าง ๆ อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การพัฒนาความรู้ ความเข้าใจและทัศนคติ ที่มีต่อการพัฒนาภายใต้บริบทการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่เข้ารับการอบรมล้วนประกอบด้วย ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ที่ประสบความสำเร็จบุคลากรภาครัฐที่มีศักยภาพ รวมถึงผู้ที่มีบทบาทสำคัญ ในการขับเคลื่อน ของภาคส่วนต่างๆ ซึ่งจะเป็นบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อน และกำหนดทิศทางการพัฒนาจังหวัดในอนาคต รวมทั้งเป็นการสร้างโอกาสประสานสัมพันธ์ของคนรุ่นใหม่ ทั้งภาครัฐและเอกชน ให้มีความคุ้นเคยเข้าใจในบทบาทของแต่ละภาคส่วน เพื่อการประสานงาน อย่างเป็นเอกภาพ โดยใช้เวทีการอบรมในการเรียนรู้ ร่วมคิด ร่วมทำ และร่วมรับผิดชอบ เป็นพื้นฐานสำคัญในการผลักดันการพัฒนา ของจังหวัดเชียงราย ให้เกิดประโยซน์ ต่อประชาชนในพื้นที่ อย่างกว้างขวางต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

ผู้ว่าฯ เชียงราย ลงพื้นที่ไฟไหม้วัดแสงแก้วโพธิญาณ อ.แม่สรวย

 
เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 67 จากกรณีที่เกิดไฟไหม้วิหารหลวงลายคำ ภายในวัดแสงแก้วโพธิญาณ ม.11 ต.บ้านใหม่แสงแก้ว ต.เจดีย์หลวง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย กลางดึกคืนที่ผ่านมา โดยในวันนี้ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน พนักงานสอบสวน สภ.แม่สรวย ผู้นำชุมชน และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ได้เข้ามาตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บหลักฐานตรวจพิสูจน์สาเหตุของเพลิงไหม้ โดยในพื้นที่วิหารมีเศษกระเบื้องหลังคาร่วงมากองเต็มเกลื่อนไปหมด ไฟไหม้พระพุทธรูปสำคัญ หุ่นขี้ผึ้งภาพจิตรกรรม โดนเผาวอดทั้งหมด เซิร์ฟเวอร์ บันทึกภาพกล้องวงจรปิดภายในวิหารที่อยู่บริเวณด้านหลังพระประธาน ทำให้ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด โดยได้ลงพื้นที่ตรวจสอบหาสาเหตุและประเมินเบื้องต้นความเสียหายไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท  โดยที่วิหารหลวงลายคำ วัดแสงแก้วโพธิญาณ ได้มีการนำเอาเชือกกั้นแนวมากั้นพื้นที่ ไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในวิหาร โดยมีชาวบ้านที่ทราบข่าวมารอดูการทำงานของเจ้าหน้าที่กันอย่างไม่ขาดสาย
 

        นายยา ศรีทา อายุ 73 ปี อดีต ผญบ.บ้านใหม่แสงแก้ว เปิดเผยว่า วิหารที่ถูกไฟไหม้แห่งนี้ตนมีส่วนร่วมในการบุกเบิกตั้งแต่ต้น โดยได้เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2549 ปัจจุบันมีอายุกว่า 16 ปี มีของมีค่าอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะพระแสงแก้วโพธิญาณ ซึ่งเป็นพระประธานในวิหาร หุ่นขี้ผึ้งบูรพาจารย์ และของมีค่าอย่างอื่น รวมมูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท แต่ความรู้สึกสูญเสียของชาวบ้านประเมินค่าไม่ได้
 

       ด้านพระทศพร กิตติธโร รักษาการณ์แทนเจ้าอาวาสวัดแสงแก้วฯ เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิดจึงออกมาดู ก็พบว่ามีไฟลุกไหม้วิหาร ก็เลยโทรแจ้ง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาช่วยดับ โดยทางพระเณรมาช่วยดับไฟ ด้วยแต่ไฟได้ลุกลามไปแล้ว ทำอะไรไม่ได้ ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบ เบื้องต้นสาเหตุน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เพราะวิหารก่อสร้างมา 10 กว่าปี และตอนเกิดเหตุก็เป็นช่วงเวลากลางดึก ตอนนี้ได้แจ้งครูบาอริยชาติซึ่งติดกิจนิมนต์อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาให้รับทราบแล้ว ซึ่งท่านก็ได้รับทราบและได้กำชับใช้ลูกศิษย์ตั้งสติ ทำใจกับสิ่งที่เกิดไปแล้ว และตั้งมั่นกับสิ่งที่จะทำในอนาคต โดยเหตุการณ์เกี่ยวกับไฟไหม้ครั้งนี้ พระครูบาอริยชาติได้พูดเตือนพระลูกวัดและลูกศิษย์ตั้งแต่ช่วงวันพระใหญ่ที่ผ่านมา ท่านบอกกลัวไฟจะไหม้วิหาร แต่ตอนนั้นคนที่ได้ยินก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุดังกล่าวขึ้นจริง
 

        นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งรายงานเหตุจากนายอำเภอประมาณตีหนึ่ง โดยในเบื้องต้นทราบว่าไฟลุกไหม้ตั้งแต่ประมาณเที่ยงคืน ส่วนสาเหตุของเพลิงไหม้และมูลค่าเสียหายทั้งหมด ต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่ พฐ. ได้ทำงานเพื่อหาบทสรุปก่อน และตนก็ได้สั่งการให้โยธาธิการและผังเมือง และสำนักพุทธฯ มาตรวจสอบความเสียหายในวันจันทร์ เพื่อช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว สำหรับใครที่ต้องการจะมาเที่ยวที่วัดแสงแก้วในช่วงนี้ก็ยังมีจุดอื่นที่สวยงามน่าสนใจอีกมากมาย สามารถมาเที่ยวกันได้ตามปกติ 
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

เปิด 40 รายชื่อ สว. ผู้ได้รับเลือกระดับจังหวัดเชียงราย

 
เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 67 ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในฐานะประธานคณะกรรมการระดับจังหวัด จังหวัดเชียงราย นำคณะกรรมการฯ ร่วมสังเกตุการณ์พร้อมตรวจสอบความเรียบร้อยในการเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับจังหวัด ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และคึกคัก โดยมีคณะกรรมการประกอบด้วย ผศ.ดร. ศรชัย มุ่งไธสงค์มุ่งไธสง อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย น.ส.กาญจนา อุปะละ อัยการจังหวัดเชียงราย นายบัลลังก์ ไวทย์ศิริ ปลัดจังหวัดเชียงราย นายอาคม สุขพันธ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ นายปรพล พูตระกูล ผู้ทรงคุณวุฒิ และนายชูชาติ สุขสงวน ผอ.กกต.จังหวัดเชียงราย ทำหน้าที่ผู้อำนวยการการเลือกระดับจังหวัด และสิบตำรวจเอก ถนอม วุฒิ ทำหน้าที่ประธานกรรมการประจำสถานที่เลือก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ประจำสถานที่เลือก ดูแลบริหารจัดการการเลือกสมาชิกวุฒิสภาให้เป็นไปด้วยความรวดเร็ว และถูกต้องตามกฎหมาย บรรยากาศโดยทั่วไปเป็นไปด้วยความคึกคัก
 
           สำหรับจังหวัดเชียงราย มีผู้ได้รับเลือกในระดับอำเภอทั้งหมด 457 คน และมารายงานตัวก่อนการลงคะแนนเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับจังหวัด 454 คน ขาด 3 คน จากกลุ่มที่ 3 กลุ่มการศึกษา กลุ่มที่ 7 กลุ่มพนักงานหรือลูกจ้างของบุคคลซึ่งมิใช่ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ ผู้ใช้แรงงาน และกลุ่มที่ 19 กลุ่มผู้ประกอบการวิชาชีพ ผู้ประกอบการอาชีพอิสระ โดยมีกลุ่มที่ไม่ต้องเลือกในรอบแรกเนื่องจากมีผู้สมัครเพียง 4 คน มีจำนวน 2 กลุ่ม ได้แก่กลุ่มที่ 12 กลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรม และกลุ่มที่ 13 กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสาร การพัฒนานวัตกรรม จังหวัดเชียงราย มียอดผู้สมัครดังนี้
 
กลุ่มที่ 1 ผู้สมัคร 27 คน กลุ่ม 2 ผู้สมัคร 14 คน กลุ่ม 3 ผู้สมัคร 38 คน ไม่มารายงานตัว 1 คน กลุ่ม 4 ผู้สมัคร 11 คน กลุ่ม 5 ผู้สมัคร 39 คน กลุ่ม 6 ผู้สมัคร 33 คน กลุ่ม 7 ผู้สมัคร 26 คน ไม่มารายงานตัว 1 คนทกลุ่ม 8 ผู้สมัคร 8 คน กลุ่ม 9 ผู้สมัคร 18 คน กลุ่ม 10 ผู้สมัคร 17 คน กลุ่ม 11 ผู้สมัคร 8 คน กลุ่ม 14 ผู้สมัคร 42 คน กลุ่ม 15 ผู้สมัคร 49 คน กลุ่ม 16 ผู้สมัคร 32 คน กลุ่ม 17 มีผู้สมัคร 39 คน กลุ่ม 18 ผู้สมัคร 7 คน กลุ่ม 19 ผู้สมัคร 31 คน ไม่มารายงานตัว 1 คน และกลุ่ม 20 มีผู้สมัคร 17 คน รวมผู้สมัครทั้งหมด 457 คน มีคนที่ไม่มารายงานตัว 3 คน มารายงานตัวทั้งหมด 454 คน
 
 
1.กลุ่มการบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง อันได้แก่ผู้เคยเป็นข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรืออื่น ๆในทำนองเดียวกัน

1.นายพินิจ หาญพาณิชย์

2.นายควร คำเหล็ก

 

2.กลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมอันได้แก่ผู้เป็นหรือเคยเป็นผู้พิพากษา ตุลาการ อัยการ ตำรวจ ผู้ประกอบวิชาชีพต้านกฎหมาย หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

1.นายอาสา เม่นแย้ม

2.นายอุทิศ มณีจันสุข

 

3.กลุ่มการศึกษา อันได้แก่ผู้เป็นหรือเคยเป็นครู อาจารย์ นักวิจัย ผู้บริหารสถานศึกษา บุคลากรทางการศึกษา หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

1.นายปรีชา พัวนุกุลนนท์

2.นายศักดิ์ชัย คลี่ใบ

 

4.กลุ่มการสาธารณสุข อันได้แก่ผู้เป็นหรือเคยเป็นแพทย์ทุกประเภท เทคนิคการแพทย์ สาธารณสุข พยาบาล

เภสัชกร หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

1.น.ส.อนันทิตา บุตรตา

2.นายปลื้ม ศุภปัญญา

 

5.กลุ่มอาชีพทำนา ปลูกพืชล้มลุก หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

1.นายยงยุทธ์ อินทะรังษี

2.นายวิวัฒน์ สมวรรณ์

 

 

6.กลุ่มอาชีพทำสวน ปาไม้ ปศุสัตว์ ประมง หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

1.น.ส.กาญจนา คำพุฒ

2.นายกฤตย์ อินทรพรอุดม

 

7.กลุ่มพนักงานหรือลูกจ้างของบุคคลซึ่งมิใช่ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ ผู้ใช้แรงงาน หรืออื่น ๆ

ในทำนองเดียวกัน

1.นางภัคชัญญา มะโนวัง

2.น.ส.เพลินทิพย์ คิดดี

 

8.กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านสิ่งแวดล้อม ผังเมือง อสังหาริมทรัพย์และสาธารณูปโภค ทรัพยากรธรรมชาติพลังงาน หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

1.นายสรณัฏฐ์ สาระสมบัติ

2.น.ส.กิ่งแก้ว ผสมทรัพย์

 

9.กลุ่มผู้ประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อมตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน

1.น.ส.มณีรัฐ เขมะวงศ์

2.นายเจริญ เหล่ารุ่งโรจน์

 

10. กลุ่มผู้ประกอบกิจการอื่นนอกจากกิจการตาม ข้อ 9

1.นางวาสนา ฮิลล์

2.ด.ต. เกตุ กลิ่นจันทร์

 

 

11.กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจหรืออาชีพด้านการท่องเที่ยว อันได้แก่ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว มัคคุเทศก์ ผู้ประกอบกิจการหรือพนักงานโรงแรม หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

1.น.ส.รัตนา บุญเลิศ

2.นางสุจิตตา วงศ์ไซยา

 

12.กลุ่มผู้ประกอบอุตสาหกรรม หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

1.นายพละวัต ตันศิริ

2.นายนพกร สุวรรณเตมีย์

 

13.กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสาร การพัฒนานวัตกรรม หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

1.นายเลิศวิทย์ วรพงศธร

2.นายเมธาพัฒน์ ศรีมนัส

 

14.กลุ่มสตรี

1.นางนิราภร มิยาซากิ

2.นางแววตา แสงบุญ

 

15.กลุ่มผู้สูงอายุ คนพิการหรือทุพพลภาพ กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มอัตลักษณ์อื่น หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

1.นายสมเกียรติ ปูกา

2.น.ส.จริยา กงจักร์

 

16.กลุ่มศิลปะ วัฒนธรรม นตรี การแสดงและบันเทิง นักกีฬา หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

1.นายณพลเดช มณีลังกา

2.นายเริงพล มุกดาสนิท

 

17.กลุ่มประชาสังคม กลุ่มองค์กรสาธารณประโยชน์ หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

1.น.ส.ศิขริน สิงห์สาคร

2.นายซาตรี ภิระบรรณ์

 

18.กลุ่มสื่อสารมวลชน ผู้สร้างสรรค์วรรณกรรม หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

1.นายอภิชิต ศิริชัย

2.นายภูษิต กัลยา

 

19.กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

1.นายชีระศักดิ์ อรัญพิทักษ์

2.ร.ต.อ. สิงห์ทอง อุดม

 

 

20.กลุ่มอื่น ๆ

1.นายปรีดา จันทร์แจ่มศรี

2.น.ส.อลิสา เขื่อนขัน

 
 
         ทั้งนี้ กกต.เชียงราย ขอเชิญชวนร่วมติดตามและตรวจสอบประวัติ พฤติการณ์ ของผู้ได้รับเลือกในระดับจังหวัด หากคนใดขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม สามารถแจ้งได้ที่ ผู้อำนวยการการเลือกระดับจังหวัด ผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัด สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด หรือ application ตาสับปะรด
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

‘พิสันต์’ เคาะมติที่ประชุมเห็นชอบ ผู้ทำประโยชน์ต่อกระทรวงวัฒนธรรม

 

เมื่อวันพุธที่ 12 มิถุนายน 2567 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมพญาพิภักดิ์ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โดย สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ได้จัดการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกผู้ทำคุณประโยชน์ต่อกระทรวงวัฒนธรรม ระดับจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 เพื่อยกย่อง เชิดชูเกียรติภาคีเครือข่ายที่เข้ามามีส่วนร่วมขับเคลื่อนโครงการ/งาน/กิจกรรม และทำประโยชน์เพื่อชุมชน สังคม ร่วมกับหน่วยงานในสังกัดและหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงวัฒนธรรม  จำนวน 3 ประเภท ได้แก่ ประเภทเด็กหรือเยาวชน , ประเภทบุคคลธรรมดา และประเภทนิติบุคคลหรือคณะบุคคล โดยพิจารณาคัดเลือกประเภทละ 1 ราย/แห่ง/คณะ เพื่อเสนอชื่อเข้ารับการคัดเลือกเป็นผู้ทำคุณประโยชน์ต่อกระทรวงวัฒนธรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567

 

นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย มอบหมายให้ นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย เป็น ประธานการประชุมฯ  พร้อมด้วยคณะกรรมการที่ได้รับคำสั่งแต่งตั้งจากจังหวัดเชียงรายเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวผลการพิจารณามติที่ประชุมเห็นชอบ เสนอชื่อผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมตามเกณฑ์ เพื่อเข้ารับการคัดเลือกเป็นผู้ทำคุณประโยชน์ต่อกระทรวงวัฒนธรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 มีดังนี้

 

  • ประเภทเด็กหรือเยาวชน ได้แก่ นายวงศ์วริศ บูราณ นักเรียนโรงเรียนสามัคคีวิทยาคม อำเภอเมืองเชียงราย
  • ประเภทบุคคลธรรมดา ได้แก่ นางสาวภัททิรา วิภวภิญโญ อาจารย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง อำเภอเมืองเชียงราย
  • ประเภทนิติบุคคล หรือคณะบุคคล ได้แก่ บริษัทโตโยต้าเชียงราย จำกัด อำเภอเมืองเชียงราย

 

ทั้งนี้ จังหวัดเชียงรายจะได้ส่งผลงานพร้อมเอกสารของผู้ได้รับการคัดเลือกฯ ดังกล่าว ให้สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรมพิจารณาคัดเลือกเป็นผู้ทำคุณประโยชน์ต่อกระทรวงวัฒนธรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ต่อไป ซึ่งผู้ได้รับคัดเลือกฯ จะได้รับโล่รางวัล “วัฒนคุณาธร” จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมในวันสถาปนากระทรวงวัฒนธรรม หรือวันที่กระทรวงวัฒนธรรมกำหนด

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

เปิดรายชื่อ “เลือกสว.67” เชียงราย ผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอ เช็คทั้งหมดได้ที่นี่

 

เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 67  ข้อมูลการเลือกสมาชิกวุฒิสภา 2567 หรือ สว. 2567 ในการเลือกระดับอำเภอ ในวันที่ 9 มิ.ย. มีจำนวนผู้มารายงานตัวรอบแรก จำนวน 43,818 คน โดยเป็นชาย 25,459 คน และเป็นหญิง 18,359 คน

จำนวนผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอ รอบแรก จำนวน 32,190 คน เป็นชาย 19,754 ราย และ เป็นหญิง 12,436 คน จากนั้นการเลือกในรอบที่ 2 ระดับอำเภอ หรือการจับฉลากแบ่งสายเลือกไขว้ ได้จำนวนผู้ได้รับเลือก เข้าไปสู่การเลือกในระดับจังหวัด จำนวน 23,645 คน โดยเป็นชาย 15,077 คน และเป็นหญิง 8,568 คน

ทั้งนี้ จากจำนวนผู้สมัครรับเลือกเป็น สว.ที่มีคุณสมบัติ ตามกฎหมายและประกาศเป็นบัญชีผู้สมัคร สว. 46,206 คน เมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้มีสิทธิ์เลือกหลังการเพิ่มชื่อและถอนชื่อแล้วมีจำนวน 45,753 คน ซึ่งเป็นชาย 26,436 คน และเป็นหญิง 19,317 คน

ซึ่งหลังจากนี้สำนักงาน กกต.รันหมายเลขผู้สมัคร สว.ในรอบการเลือกระดับจังหวัดวันนี้ (10 มิ.ย.67) ส่วนในวันถัดไปจะประกาศลงในเว็บไซต์ของสำนักงาน กกต.และแอปพลิเคชัน “สมาร์ทโหวต” เพื่อให้ประชาชนได้ติดตามตรวจสอบต่อไป

สำหรับผู้ที่ได้รับเลือกระดับอำเภอไประดับจังหวัดรายกลุ่ม 20 กลุ่มสาขาอาชีพ โดยกลุ่มผู้สูงอายุมีผู้ผ่านเข้ารอบระดับจังหวัดมากที่สุด ซึ่งผู้สมัครที่เข้ารอบในแต่ละกลุ่ม ประกอบด้วย

กลุ่มที่ 1 กลุ่มบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง 1,332 คน

กลุ่ม2 กลุ่มกฏหมายและกระบวนการยุติธรรม 1,171 คน

กลุ่ม 3 กลุ่มการศึกษา 1,975 คน

กลุ่ม4 กลุ่ม สาธารณสุข 1,024 คน

กลุ่ม 5 กลุ่ม กลุ่มอาชีพทำนาปลูกพืชล้มลุก 1,460 คน

กลุ่ม 6 กลุ่มอาชีพทำสวนป่าไม้ ปศุสัตว์ ประมง 1,565 คน

กลุ่ม7 กลุ่มพนักงานหรือลูกจ้างของบุคคลซึ่งมิใช่ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ ผู้ใช้แรงงาน 1,261 คน

กลุ่ม 8 กลุ่มประกอบอาชีพด้านสิ่งแวดล้อม ผังเมือง อสังหาริมทรัพย์และสาธารณูปโภคทรัพยากรธรรมชาติพลังงานพลังงาน 756 คน

กลุ่ม 9 กลุ่ม ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมตามกฏหมายว่าด้วยการนั้น 1,057 คน

กลุ่ม 10 กลุ่ม ผู้ประกอบกิจการอื่นนอกเหนือจากกิจการตามกลุ่ม 9 จำนวน 808 คน

กลุ่ม 11 กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจหรืออาชีพด้านการท่องเที่ยว 707 คน

กลุ่ม 12 กลุ่มผู้ประกอบอุตสาหกรรม 443 คน

กลุ่ม 13 กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีการสื่อสารการพัฒนานวัตกรรม 671 คน

กลุ่ม 14 กลุ่มสตรี 1,800 คน

กลุ่ม 15 กลุ่มผู้สูงอายุคนพิการฯ 1,984 คน

กลุ่ม 16 กลุ่ม ศิลปะวัฒนธรรมดนตรีการแสดงและบันเทิง นักกีฬา 1,103 คน

กลุ่ม 17 กลุ่ม ประชาสังคมฯ 1,163 คน

กลุ่ม 18 กลุ่มสื่อสารมวลชน ผู้สร้างสรรค์วรรณกรรม 616 คน

กลุ่ม 19 กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพอาชีพอิสระ 1,465 คน

กลุ่ม 20 อื่นๆ 1,275 คน

โดยส่งให้ผู้อำนวยการการ เลือกระดับจังหวัด ปิดประกาศ ณ ที่ว่าการอำเภอ และเผยแพร่ในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (ซึ่งจะเผยแพร่ในแอปพลิเคชันสมาร์ทโหวต (Smart Vote) และทางเว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง) ก่อนวันเลือกระดับจังหวัดไม่น้อยกว่า 3 วัน ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอหรือผู้ที่ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอมอบหมาย จัดทำเอกสารหรือข้อมูลแนะนำตัวของแต่ละกลุ่มที่อยู่ภายในเขตอำเภอของตน จากระบบบริหารจัดการการเลือก พร้อมทั้งแจ้งให้ผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอมารับเอกสาร เพื่อให้ผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอนำมาในวันเลือกระดับจังหวัด

 

ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายได้มีการเตรียมความพร้อมของแต่ละอำเภอ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และนายบัลลังก์ ไวทย์ศิริปลัดจังหวัดเชียงราย ร่วมเข้าสังเกตการณ์ที่ว่าการอำเภอแม่จัน มีผู้สมัคร 20 คน ส่วนที่ว่าการอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย มีผู้สมัคร 28 คน ในโอกาสเดียวกันมีนายณรงค์พล คิดอ่าน นายอำเภอแม่สาย มาร่วมสังเกตการณ์ในครั้งนี้ด้วย และผู้สมัครส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอาชีพ เกษตรกร ค้าขาย ข้าราชการ และรับจ้าง
 
 
สำหรับผู้สังเกตการณ์ ต้องเป็นผู้ที่ได้แจ้งรายชื่อไว้กับทาง กกต. มาก่อนแล้ว จึงจะสามารถเข้ามาสังเกตการณ์ในอาคารโดมได้ ส่วนผู้สังเกตการณ์อื่น ที่ไม่ได้แจ้งชื่อมาก่อน จะให้สังเกตการณ์ นอกอาคาร ซึ่งจะมีพื้นที่และเก้าอี้ไว้สำหรับผู้มาสังเกตการณ์
 
 
โดยในเวลา 08.00 น. ผู้สมัครต้องรายงานตัวต่อกรรมการประจำสถานที่เลือกของกลุ่มที่ตนลงสมัคร ส่งมอบโทรศัพท์มือถือและเครื่องมือสื่อสาร และแสดงหลักฐานเป็น บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรประจำตัวประชาชนที่หมดอายุ หรือหลักฐานอื่นใดของทางราชการหรือหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่ายและมีเลขประจำตัวประชาชน จากนั้นเวลา 09.00 น. ผอ.การเลือกระดับอำเภอประชุมชี้แจงผู้สมัคร และเริ่มลงคะแนนรอบแรกเป็นการ “เลือกกันเอง” ในกลุ่มอาชีพ โดยผู้สมัครแต่ละคนโหวตได้ไม่เกิน 2 คะแนน จะลงคะแนนให้ตนเองก็ได้ แต่จะลงคะแนนให้บุคคลใดเกิน 1 คะแนนมิได้ ซึ่งในการลงคะแนนต้องเขียนเลขอารบิกลงไปในบัตร ถ้ากลุ่มใดมีผู้สมัครหรือผู้มารายงานตัวไม่เกิน 5 คน ให้ถือว่าทุกคนในกลุ่มนั้นเป็น ผู้ได้รับเลือกขั้นต้น ผ่านเข้าสู่รอบ “เลือกไขว้” ไปโดยปริยาย
 
 
ส่วนการนับคะแนนรอบแรก จะเกิดขึ้น ณ สถานที่เลือกภายหลังการปิดลงคะแนนแล้ว โดยผู้ได้รับคะแนนสูงสุด 5 ลำดับแรกของแต่ละกลุ่ม รวมถึงกลุ่มที่มีผู้สมัครหรือผู้มารายงานตัวไม่เกิน 5 คน ให้เป็นผู้ได้รับเลือกขั้นต้นในกลุ่มนั้น ๆ กรณีกลุ่มใดมีผู้ได้รับคะแนนเท่ากัน จนมีผู้ได้คะแนนสูงสุดเกิน 5 คน ให้ผู้ได้คะแนนเท่ากันจับสลากกันเองเพื่อหาผู้ได้รับเลือกขั้นต้นของกลุ่ม แต่ถ้ากลุ่มใดมีผู้ได้คะแนนไม่ถึง 5 คน ให้เฉพาะผู้ได้คะแนนเป็นผู้สมัครที่ได้รับเลือกขั้นต้นในกลุ่มนั้น จากนั้นผู้สมัครต้องจับสลากเพื่อแบ่งสายให้ผู้ได้รับเลือกขั้นต้นของแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนไปจับสลากแบ่งสาย จำนวนไม่เกิน 4 สาย สายละ 3-5 กลุ่ม
 
 
หลังจากนั้นจะเริ่มลงคะแนนรอบสองเป็นการ “เลือกไขว้” กลุ่มอื่นที่อยู่ในสายเดียวกัน โดยผู้สมัครแต่ละคนต้องลงคะแนนให้ผู้สมัครที่มาจากกลุ่มอื่นที่อยู่สายเดียวกันกลุ่มละ 1 คน โดยจะเลือกตนเองหรือผู้สมัครกลุ่มเดียวกับตนเองมิได้
การนับคะแนนรอบสองจะเกิดขึ้น ณ สถานที่เลือกภายหลังการปิดลงคะแนนแล้ว โดยให้ผู้ได้รับคะแนนสูงสุด 3 ลำดับแรกของแต่ละกลุ่ม เป็นผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอในกลุ่มนั้น กรณีกลุ่มใดมีผู้ได้รับคะแนนเท่ากัน จนมีผู้ได้คะแนนสูงสุดเกิน 3 คน ให้ผู้ที่ได้คะแนนเท่ากันจับสลากกันเองเพื่อให้ได้ผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอในกลุ่มนั้น ถ้ากลุ่มใดมีผู้ได้คะแนนไม่ถึง 3 คน ให้เฉพาะผู้ได้คะแนนเป็นผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอ จากนั้นจะประกาศผลนับคะแนนเบื้องต้นหลังเสร็จสิ้นกระบวนการทั้งหมด ผอ.การเลือกระดับอำเภอจะประกาศบัญชีรายชื่อผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอ พร้อมจัดส่งให้ ผอ.การเลือกระดับจังหวัดปิดประกาศ ณ ที่ว่าการอำเภอ และเผยแพร่ในระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่อไป
 
 
ทั้งนี้ ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงบัญชีรายชื่อผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอ ได้ทางเว็บไซต์สำนักงาน คณะกรรมการการเลือกตั้ง https://senator.ect.go.th/ หรือ แอปพลิเคชันสมาร์ทโหวต (Smart Vote) และ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทุกจังหวัด หรือสายด่วน 1444
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SPORT

เปิดงาน นครเชียงรายเกมส์ 2567 ระดับภาคเหนือ ครั้งที่ 38

 

เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2567 ที่สนามกีฬากลางจังหวัดเชียงราย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดงานการแข่งขันกีฬานักเรียนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นท้องถิ่นแห่งประเทศไทย รอบคัดเลือก ระดับภาคเหนือ ครั้งที่ 38 “นครเชียงรายเกมส์” 2567 โดยมีนายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ว่าที่ร้อยตรีศราวุธ จันทวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นางรัตนา จงสุทธานามณี ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี และนายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงราย นำหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เจ้าหน้าที่ ผู้ควบคุมทีม และคณะนักกีฬาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จาก 17 จังหวัดภาคเหนือ เข้าร่วมอย่างคึกคัก

 

นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย กล่าวว่าการจัดการแข่งขันกีฬานักเรียนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในครั้งนี้ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นให้เทศบาลนครเชียงรายเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน โดยใช้ชื่อว่า “นครเชียงรายเกมส์” เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้เด็ก นักเรียน ในสถานศึกษาสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้มีส่วนร่วมในการเล่นกีฬา เพื่อการออกกำลังกายเสริมสร้างความรัก ความสามัคคี มีระเบียบวินัย มีน้ำใจเป็นนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ควบคู่กับวิชาการ เพิ่มพูนทักษะกีฬาขั้นพื้นฐาน พัฒนาไปสู่ความเป็นเลิศ และมุ่งสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพในระดับสากล ภายใต้หลักการที่ว่า “กีฬาสร้างคน คนสร้างชาติ” ตลอดจนเพื่อเสริมสร้างสุขภาพพลานามัยของคนไทย ให้สมบูรณ์แข็งแรง ทั้งร่างกายและจิตใจ โดยใช้กีฬาและการออกกำลังกาย 

 

นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่าการแข่งขันกีฬาเป็นเครื่องมือที่สำคัญ ในการพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนเมื่อได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนให้ได้รับการเรียนรู้ ควบคู่กับการพัฒนาความสามารถ ใช้กีฬาฝึกฝนให้เป็นผู้มีจิตใจ อดทน เข้มแข็ง กล้าแสดงออก ซึ่งจะส่งผลให้เด็กและเยาวชน เป็นผู้ที่มีความพร้อมทั้งทางด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ จิตใจ สังคม รู้ห่างไกลยาเสพติด และกล่าวต่อไปว่า เมื่อแพ้ก็ต้องหมั่นฝึกฝน เมื่อชนะก็อย่าทะนงตน สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการรู้จักการให้อภัยซึ่งกันและกัน รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ซึ่งสามารถนำไปใช้ในชีวิตจริง และก้าวไปสู่การเป็นพลเมืองไทยที่มีสุขภาพใจที่เข้มแข็ง อีกทั้งการพัฒนาคนเป็นเป้าหมายที่สำคัญของประเทศชาติในปัจจุบัน ที่ทำให้ประเทศไทยก้าวไปสู่จุดมุ่งหมายมั่นคงยั่งยืน และก้าวไกลไปในอนาคต พร้อมกล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้ความสำคัญ ร่วมแรงร่วมใจกัน ในการจัดการแข่งขันกีฬาฯ ในครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย 

 

จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่ผู้ให้การสนับสนุน เพื่อแสดงความขอบคุณในการส่งเสริมการกีฬาให้กับนักเรียนเยาวชน นอกจากนี้ภายในงานยังมีการแสดงจากน้อง ๆ จากโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดเชียงราย รวมถึงขบวนพาเหรดจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จาก 17 จังหวัดภาคเหนือ

 

ทั้งนี้การแข่งขันกีฬา “นครเชียงรายเกมส์” จัดระหว่างวันที่ 4-13 มิถุนายน 2567  รวมทั้งสิ้น 10วัน โดยมีจังหวัดในเขตภาคเหนือเข้าร่วมการแข่งขัน จำนวน 17 จังหวัด รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นส่งนักกีฬาเข้าร่วมจำนวน 80 แห่ง มีการแข่งขันจำนวน 11 ชนิดกีฬา ได้แก่ประเภทชายและหญิง ประกอบด้วย กรีฑา ฟุตบอล ฟุตซอล วอลเลย์บอล วอลเลย์บอลชายหาด เซปักตะกร้อ เปตอง/เปตองชู้ตติ้ง แบดมินตัน เทเบิลเทนนิส หมากฮอส และ หมากรุก สามารถร่วมชมและเชียร์ให้กำลังใจแก่นักกีฬาตลอดการแข่งขัน ตลอดจนติดตามข้อมูลข่าวสารได้ทางเว็บไซต์ www.north.sport-th.com หรือ ทางเพจเฟซบุ๊ค “นครเชียงรายเกมส์ ครั้งที่ 38” 

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงราย เยียวยาและมอบรางวัล ผลการปฏิบัติการป้องกันการเผา

 

เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 67 นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานมอบเงินเยียวยาแก่ผู้บาดเจ็บจากการปฎิบัติงานด้านการจัดการไฟป่า เงินรางวัลผู้แจ้งเบาะแสการลักลอบเผา พร้อมมอบเงินรางวัลผลงานการปฎิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผาในที่โลกทุกชนิดระดับตำบล แก่ผู้แทนตำบลและอำเภอ ที่การประชุมกรมการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ประจำจังหวัดเชียงราย ห้องประชุมจอมกิตติ ศาลากลางจังหวัดเชียงราย

 

ตามที่จังหวัดเชียงรายได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการหมอกควันไฟป่าและPM 2.5 จังหวัดเชียงราย ขึ้น เพื่อเป็นศูนย์ประสานการปฎิบัติเฝ้าระวังติดตาม บริหารจัดการสถานการณ์ ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นมา จังหวัดเชียงรายได้มีประกาศห้ามการเผาในที่โล่งทุกชนิดโดยเด็ดขาด “76 วัน ปลอดการเผา” ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ถึง 30 เมษายน 2567  เพื่อควบคุมและป้องกันการเผา เป็นสาเหตุของการสะสมของฝุ่นละออง มลพิษทางอากาศ อันส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน โดยได้สรุปผลการดำเนินงานในห้วงห้ามเผา จังหวัดเชียงรายเกิดจุดความร้อน จำนวน 1,962 จุด ลดลงจากปีที่ผ่านมา 5,826 จุด คิดเป็นร้อยละ 74.81 (ปี 2566 จำนวน 7,788 จุด) ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM 2.5) เฉลี่ย 24 ชั่วโมงเกินมาตรฐานสูงสุด 209.9 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2567 ณ สถานีตรวจวัดตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย

 


ทั้งนี้จังหวัดเชียงรายได้มอบเงินเยียวยาการบาดเจ็บจากการปฎิบัติงาน จำนวน 6 ราย ประกอบด้วยอำเภอเชียงของ 2 ราย อำเภอแม่สรวย 1 ราย อำเภอเมืองเชียงราย 1 ราย และอำเภอเวียงป่าเป้า 1 ราย  เงินรางวัลนำจับให้แก่ผู้แจ้งเบาะแสจำนวน 10 คดี ประกอบด้วย อำเภอเชียงของ 3 ราย อำเภอแม่สรวย 3 ราย อำเภอเวียงชัย 1 ราย อำเภอพญาเม็งราย 1 ราย อำเภอแม่ฟ้าหลวง 1 ราย และชุดปฏิบัติการของสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้2 จำนวน 1 ราย 
สำหรับผลการประกวดผลงานการปฎิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผาในที่โล่งทุกชนิด ระดับตำบล มีตำบลที่ได้รับรางวัล จำนวน 11 รางวัล โดยแบ่งเป็นกลุ่มตำบลเสี่ยงน้อย 3 รางวัล อันดับหนึ่ง ได้แก่ ตำบลต้า อำเภอขุนตาล อันดับที่2 ตำบลดอนศิลา อำเภอเวียงชัย อันดับที่ 3 ตำบลม่วงคำ อำเภอพาน กลุ่มตำบลเสี่ยงปานกลาง จำนวน 5 รางวัล อันดับหนึ่ง ตำบลเจดีย์หลวง อำเภอแม่สรวย อันดับ 2 ตำบลแม่กรณ์ อำเภอเมืองเชียงราย และตำบลแม่พริก อำเภอแม่สรวย อันดับที่ 3 ตำบลห้วยสัก และตำบลนางแล อำเภอเมืองเชียงราย และกลุ่มตำบลเสี่ยงสูง รวม 3 รางวัล อันดับที่1 ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย อันดับที่ 2 ตำบลป่าหุ่ง อำเภอพาน และอันดับที่ 3 ตำบลท่าก๊อ อำเภอแม่สรวย

 

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ขอให้ทุกภาคส่วน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งระดับจังหวัด ระดับอำเภอ ขอให้ตั้งใจ อุทิศตน ร่วมมือร่วมใจกันเพื่อแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า ขอให้ตั้งเป้าหมายการลดจุดความร้อนของจังหวัดเชียงราย ให้ลดลงในปีต่อไป ซึ่งการมอบรางวัลในครั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานที่ได้เสียสละและอุทิศเวลาให้ทางราชการ และเพื่อเป็นการยกย่องสรรเสริญให้เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับหน่วยงานอื่นๆต่อไป

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

ม่วนจอย เดินจิม ผลไม้ถิ่น สับปะรดลิ้นจี่เจียงฮาย ปี 67

 

เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 67 ที่สวนตุงและโคมนครเมืองเชียงราย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดโครงการตลาดประชารัฐของดีนครเชียงราย 2567 “ม่วนจอย เดินจิม ผลไม้ถิ่น สับปะรดลิ้นจี่เจียงฮาย” โดยมีนายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย นำหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สื่อมวลชน ตลอดจนประชาชน เข้าร่วมงานอย่างคึกคัก

 

นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย กล่าวว่า เทศบาลนครเชียงราย ได้เห็นความสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาตลาดประชารัฐ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ส่งเสริมการตลาดให้กับผู้ประกอบการ กลุ่มอาชีพและกลุ่มเกษตรกรให้เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง จึงได้จัดทำโครงการตลาดประชารัฐของดีนครเชียงรายประจำปี 2567 กิจกรรม “ม่วนจอย เดินจิม ผลไม้ถิ่น สับปะรดลิ้นจี่เจียงฮาย” เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าเกษตรผลไม้ และสินค้าประจำจังหวัดเชียงรายให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย สามารถกระตุ้นการบริโภคและการขยาย ธุรกิจอันจะนำไปสู่การสร้างรายได้เพิ่มมูลค่าสินค้าให้กับเกษตรกร ชุมชน และผู้ประกอบการอย่างยั่งยืน รวมทั้งเป็นการกระตุ้นสภาพเศรษฐกิจของภาคการท่องเที่ยวเชิงเกษตรของจังหวัดเชียงราย ให้เติบโต เพื่อสร้างพื้นที่ให้ผู้ผลิตและผู้บริโภคมาพบกันอย่างเป็นธรรมชาติตามแนวทางตลาดประชารัฐ อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนจัดทำตลาดนัดท้องถิ่นสีเขียว โดยการจำหน่ายสินค้าและบริการที่หลากหลายและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
 
 
นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมและพัฒนา ผลิตผลทางการเกษตรโดยเฉพาะลิ้นจี่และสับปะรด ซึ่งเป็นสินค้าเกษตรที่สำคัญของจังหวัดเชียงราย โดยเป็นการบูรณาการร่วมกับจังหวัดเชียงราย สำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงราย สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงราย และหน่วยงานภาคส่วนอื่นๆ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการตลาด กระตุ้นการบริโภค และสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้เป็นอย่างดี และยังเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนเกิดการรวมกลุ่มอาชีพที่หลากหลาย มีอาชีพเสริมเพิ่มพูนรายได้ เกิดการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน นำสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนมาจำหน่ายหรือแลกเปลี่ยนหมุนเวียนในชุมชน ซึ่งเป็นกระบวนการพัฒนาท้องถิ่น เพื่อสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง พร้อมกล่าวต่อไปว่า ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันจัดงานนี้ขึ้นที่มีนโยบายและมีเจตคติที่ดี ต่อการพัฒนาความอยู่ดี กินดีของประชาชน ในการส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าเกษตรผลไม้ สินค้าประจำจังหวัดเชียงราย และสินค้าพื้นบ้าน ส่งผลให้พี่น้องประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการจำหน่ายผลผลิตต่างๆ
 
 
ทั้งนี้มีการจำหน่ายสินค้าทางด้านเกษตร ผักปลอดสารพิษ ผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัดเชียงราย สินค้า OTOP จากวิสาหกิจชุมชน สินค้าพื้นบ้าน พื้นเมือง สินค้าขึ้นชื่อประจำ จังหวัดเชียงราย รวมถึงอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ การร่วมบูรณาการกับหน่วยงานอื่นๆ ได้แก่ พาณิชย์จังหวัดเชียงราย และเกษตรจังหวัดเชียงรายในการออกร้านสินค้าธงฟ้าราคาประหยัดและสินค้าเกษตรแปรรูปมากกว่า 100 ร้าน อีกทั้งภายในงานยังมีกิจกรรมบันเทิง วงดนตรีจากศิลปินในท้องถิ่น กิจกรรมส่งเสริมการขายและลด แลก แจก แถมโปรโมชั่นต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งจัดจำหน่ายสินค้าเป็นระยะเวลา 5 วัน ระหว่างวันที่ 22-26 พฤษภาคม 2567
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News