Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

แบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภา อบจ.เชียงราย ก่อนหมดวาระ 19 ธันวาคม 2567 นี้

 

เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2567 นายพุฒฺพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ณ ห้องประชุมเวียงชัยนารายณ์ ชั้น 3 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงราย ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โดยมี นายชูชาติ สุขสงวน ผอ.สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดเชียงราย ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ท้องถิ่นจังหวัดเชียงราย คณะกรรมการแบ่งเขตเลือกตั้งฯ และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมตามประกาศให้มีคณะกรรมการแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย และตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงราย ในการกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาแบ่งเขตเลือกตั้ง นำความคิดเห็นและข้อเสนอแนะมาประกอบการพิจารณาการแบ่งเขตเลือกตั้ง แล้วรวบรวมสรุปความคิดเห็นและข้อเสนอแนะดังกล่าว พร้อมผลการพิจารณาอย่างน้อย 3 รูปแบบพร้อมความคิดเห็น เรียงตามความเหมาะสมเสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งโดยเร็ว

โดยที่ประชุมได้มีการพิจารณารูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เฉพาะอำเภอที่แบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ จำนวน 6 อำเภอ ได้แก่ 
  1. อำเภอแม่สาย 2 เขต 
  2. อำเภอพาน 4 เขต 
  3. อำเภอเทิง 3 เขต 
  4. อำเภอเมืองเชียงราย 7 เขต 
  5. อำเภอแม่สรวย 2 เขต 
  6. และอำเภอเวียงป่าเป้า 2 เขต 
และได้มีการพิจารณารูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เฉพาะอำเภอที่ใช้เขตเลือกตั้งเดิม ได้แก่ 
  1. อำเภอแม่จัน 3 เขต 
  2. อำเภอเชียงของ 2 เขต 
  3. อำเภอแม่ฟ้าหลวง 2 เขต 
  4. และกรณี 1 เขต 9 อำเภอ รวมอำเภอเชียงแสน เหลือ 1 เขต 
 
โดยสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ที่มาจากการเลือกตั้งทั้ง 18 อำเภอ ของจังหวัดเชียงราย รวมทั้งสิ้น 36 คน โดยแบ่งตามอำเภอ ได้แก่ 
  1. อำเภอเมืองเชียงราย จำนวน 7 คน 
  2. อำเภอพาน จำนวน 3 คน 
  3. อำเภอแม่สาย จำนวน 3 คน 
  4. อำเภอเทิง จำนวน 2 คน 
  5. อำเภอแม่จัน จำนวน 3 คน 
  6. อำเภอแม่สรวย จำนวน 2 คน 
  7. อำเภอเวียงป่าเป้า จำนวน 2 คน 
  8. อำเภอเชียงของ จำนวน 2 คน 
  9. อำเภอแม่ฟ้าหลวง จำนวน 2 คน 
  10. อำเภอเชียงแสน จำนวน 2 คน 
  11. อำเภอเวียงชัย จำนวน 1 คน 
  12. อำเภอป่าแดด จำนวน 1 คน 
  13. อำเภอพญาเม็งราย จำนวน 1 คน 
  14. อำเภอเวียงแก่น จำนวน 1 คน 
  15. อำเภอขุนตาล จำนวน 1 คน 
  16. อำเภอแม่ลาว จำนวน 1 คน 
  17. อำเภอดอยหลวง จำนวน 1 คน 
  18. และอำเภอเวียงเชียงรุ้ง จำนวน 1 คน
 
 ตามจำนวนราษฎรที่ใช้ในการแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด เป็นไปตามแนวทางคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้ใช้จำนวนราษฎร ตามหลักฐานทะเบียนราษฎร ที่ประกาศในปีสุดท้ายก่อนปีที่มีการเลือกตั้ง เฉพาะราษฎที่มีสัญชาติไทย (หนังสือสำนักงาน กกต.ที่ ลต 0012/ว 227 ลงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2563)
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

กอ.รมน.เชียงราย เสริมความสัมพันธ์ สร้างเครือข่ายระดับผู้บริหารของจังหวัด

 

เมื่อวันที่ 3 ส.ค.67 นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในฐาณะ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดการอบรมการพัฒนาความสัมพันธ์เครือข่ายความมั่นคงระดับผู้บริหาร กอ.รมน.จังหวัดเชียงราย (พคบ.จังหวัด ช.ร.) รุ่นที่ 2 ประจำปี 2567 โดยมี พ.อ.จักรวีร์ เสนีย์วรยุทธ์ รอง ผอ.รมน.จังหวัดเชียงราย(ท.) นำผู้เข้ารับการอบรม ประกอบด้วยส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และแกนนำกลุ่มมวลชนระดับจังหวัดเข้าร่วม ที่โรงแรม เอ็มบูทีค รีสอร์ท เชียงราย

นายพุฒิพงศ์ กล่าวว่า การอบรมหลักสูตรพัฒนาความสัมพันธ์เครือข่ายความมั่นคงระดับผู้บริหารของ จังหวัดเชียงราย รุ่นที่ 2 ในวันนี้ กอ.รมน.จังหวัดเชียงราย ได้รับมอบหมายจาก กอ.รมน. ให้ดำเนินการจัดอบรมตามแผนการเสริมสร้างความมั่นคง ของสถาบันหลักของชาติ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อันเป็นส่วนหนึ่งของแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นด้านความมั่นคงเพื่อให้การปฏิบัติงานตามแผนการขับเคลื่อนงานด้านมวลชน ของ กอ.รมน. โดยการเสริมสร้างมวลชน เพื่อความมั่นคง 
 
รวมทั้งเสริมสร้างความรัก ความสามัคคี ของคนในชาติ การส่งเสริมการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และการสร้างมวลชนเพื่อเป็นกลไกการมีส่วนร่วมในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาแบบบูรณาการของทุกภาคส่วน ให้ครอบคลุมในทุกพื้นที่ต่อไป
 
พ.อ.จักรวีร์ กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์อันเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบไปอย่างรวดเร็ว มีความซับซ้อนและกระทำได้หลากหลายรูปแบบ อาจเกิดขึ้นได้ทั้งภายนอก และภายในประเทศ ทั้งจากการกระทำของบุคคล หรือภัยจากธรรมชาติ อันเป็นสาธารณภัย
 
ประกอบกับยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง ที่มีเป้าหมายในการพัฒนาประเทศให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน มีความสงบเรียบร้อย ในทุกระดับตั้งแต่ระดับชาติ สังคม ชุมชน ให้มีความพร้อม สามารถรับมือกับภัยคุกคาม และภัยพิบัติที่
อาจเกิดขึ้น ได้ทุกรูปแบบ ควบคู่ไปกับการป้องกันและแก้ไขปัญหา ในทุกมิติโดยใช้กลไก แก้ไขปัญหาแบบการมีส่วนร่วม และบูรณาการของทุกภาคส่วน ดังนั้น กอ.รมน. 
 
จึงได้กำหนดให้มีการอบรมหลักสูตรดังกล่าวขึ้น เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในสถาบันหลัก และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อสร้างองค์ความรู้ ความเข้าใจให้รู้บทบาท และหน้าที่ของ กอ.รมน. และเพื่อบูรณาการ การปฏิบัติงานด้านความมั่นคงของทุกภาคส่วน ตลอดจนเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์และสร้างเครือข่าย ในระดับผู้บริหารของหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และภาคผู้นำมวลชนในระดับจังหวัด 
 
เพื่อสร้างกระบวนการที่มีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาความมั่นคงในระดับจังหวัด และเพื่อขับเคลื่อนระบบการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และมวลชนมีส่วนร่วมปฏิบัติงานและสนับสนุนการปฏิบัติงาน ของส่วนราชการอื่นที่เกี่ยวข้องหรือตามที่ได้รับมอบหมายต่อไป
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ยอดผ้าป่า 55,767,756.51 บาท มอบให้โรงพยาบาลเชียงรายฯ

 

เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 67 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ GMS เชียงราย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีถวายผ้าป่ากองทุนจัดซื้อเครื่องเอกซเรย์หลอดเลือดระบบดิจิตอล และอุปกรณ์การแพทย์ที่ขาดแคลน เพื่อมอบให้โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ซึ่งมียอดผ้าป่ารวมทั้งสิ้น 55,767,756.51 บาท โดยมี พระไพศาลประชาทร วิ. (พระอาจารย์พบโชค ติสฺสวํโส) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนชาวเชียงราย พร้อมใจใส่เสื้อเหลืองร่วมพิธีโดยพร้อมเพรียงกัน

ในพิธีถวายกองผ้าป่า ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย จุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย เปิดกรวยกระทงดอกไม้ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล ประธานสงฆ์ให้ศีล เจ้าหน้าที่ปฏิบัติพิธีสงฆ์อาราธนาพระปริตร พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ประธานในพิธีนำกล่าวคำถวายกองผ้าป่า และถวายเงินกองทุนแด่ประธานสงฆ์ โดยมี พระสิริวัฒโนดม วิ. เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย (ธรรมยุต) ประธานสงฆ์รับมอบเงินให้แก่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ จากนั้น ประธานในพิธีและผู้มีเกียรติร่วมถวายจตุปัจจัยไทยธรรม แด่พระสงฆ์ 10 รูป พระสงฆ์อนุโมทนา ประธานในพิธี กรวดน้ำ รับพร และกราบลาพระรัตนตรัย กราบลาประธานสงฆ์ เป็นอันเสร็จพิธี


ทั้งนี้ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ จะนำเงินดังกล่าวไปจัดซื้อเครื่องเอกชเรย์หลอดเลือดระบบดิจิตอล และอุปกรณ์การแพทย์ที่ขาดแคลนให้กับโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เป็นการเพิ่มโอกาสในการค้นพบโรค และทำการรักษาได้อย่างทันท่วงที ลดความพิการและอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยลงได้

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ผู้ว่าฯเชียงราย นำพุทธศาสนิกชน ถวายเทียนพรรษา เจริญพระพุทธมนต์

 

เมื่อวัน พุธที่ 17 กรกฎาคม 2567 นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีถวายเทียนพรรษา 10 วัด เจริญพระพุทธมนต์ ถวายพระพรชัยมงคล เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และเนื่องในสัปดาห์ส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา วันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา ประจำปี 2567 โดยมีพระพุทธิญาณมุนี เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ประชาชน พุทธศาสนิกชนชาวเชียงราย ร่วมพิธีโดยพร้อมเพรียงพร้อมกัน ณ พระอุโบสถ วัดเจ็ดยอด พระอารามหลวง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
.
ในพิธี ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ประธานในพิธี จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย เปิดกรวยถวายราชสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประธานสงฆ์ให้ศีล พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ จากนั้นประธานในพิธี พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมถวายเทียนพรรษา จำนวน 10 วัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 รวมทั้งเพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนให้เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนา ได้มีโอกาสศึกษาเรียนรู้หลักธรรม  สามารถนำมาใช้เป็นหลักปฏิบัติในชีวิตประจำวัน และเพื่อเป็นการส่งเสริมประชาชนได้ปฏิบัติภาวนาถวายเป็นพุทธบูชา ตลอดจนสืบทอดพระพุทธศาสนา ในสัปดาห์ส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา วันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ให้เด็ก เยาวชน ประชาชน ซึ่งเป็นพุทธศาสนิกชน ได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ ส่งเสริมและสืบสานประเพณีวันเข้าพรรษา ปลูกฝังขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น และสืบสานประเพณีวันเข้าพรรษาในจังหวัดเชียงรายให้คงอยู่ต่อไป
.
ด้วยวันที่ 21 กรกฎาคม 2567 เป็นวันเข้าพรรษา เป็นหนึ่งในวันสำคัญของพุทธศาสนา โดยเป็นวันที่พระสงฆ์เถรวาทจะอธิษฐานว่าจะพักประจำอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่งตลอดระยะเวลาฤดูฝนที่มีกำหนดระยะเวลา 3 เดือน ตามที่พระธรรมวินัยบัญญัติไว้ เพื่อให้พระสงฆ์ได้หยุดพักการจาริกเผยแผ่พระพุทธศาสนาตามสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งในช่วงฤดูฝน จะมีความยากลำบาก และเพื่อป้องกันความเสียหายจากการเดินเหยียบย่ำพืชผลของชาวบ้านที่ปลูกไว้ในช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งนี้ ในช่วงระยะเวลาจำพรรษาตลอด 3 เดือน ยังถือเป็นโอกาสสำคัญในรอบปีที่พระสงฆ์จะได้มาจำพรรษาร่วมกัน ภายในอาวาสหรือสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยจากพระสงฆ์ที่ทรงความรู้ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และสร้างความสามัคคีในหมู่คณะสงฆ์

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI ECONOMY

น่าน – เชียงราย ขอ 5 ปี มุ่งการค้าสากล เด่นวัฒนธรรมล้านนาสินค้าเกษตรปลอดภัย

 

เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2567 ที่ห้องประชุมจอมกิตติ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ให้การต้อนรับนายเทวา ปัญญาบุญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ที่ลงพื้นจังหวัดเชียงราย เพื่อศึกษาดูงาน และรับฟังความคิดเห็นทิศทางการพัฒนาในอนาคตของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ฉบับทบทวน ประจำปี 2568 – 2570 ประกอบด้วย เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน เพื่อทราบความต้องการของประชาชนในกลุ่มจังหวัดฯ รวมถึงทราบจุดแข็ง จุดอ่อน ของแต่ละจังหวัด ในการเตรียมรับมือกับปัญหาในทุกๆ มิติ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ภาคประชาคม หน่วยงานภาคเอกชน และสถาบันการศึกษาในจังหวัดเชียงราย เข้าร่วม

 

กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ได้กำหนดวิสัยทัศน์การพัฒนาในระยะเวลา 5 ปี “เป็นประตูการค้าสากล โดดเด่นวัฒนธรรมล้านนาสินค้าเกษตรปลอดภัย ประชาชนร่วมใจอนุรักษ์ทรัพยากร” โดยมียุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนใน 4 ประเด็นการพัฒนา ดังนี้ 
 
1.พัฒนาสภาพแวดล้อมในการค้า การลงทุน และโลจิสติกส์เชื่อมโยงกับต่างประเทศ เชื่อมโยงกับกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง AEC เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน เพิ่มรายได้จากการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ รวมทั้งลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้ประกอบการ 
2.สร้างความเข็มแข็งและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตภาคเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรปลอดภัยที่มีศักยภาพมุ่งสู่ตลาดโลก 
3.พัฒนาและยกระดับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ศิลปวัฒนธรรม สุขภาพ และ MICE เพื่อสร้างรายได้สู่ชุมชนและเชื่อมโยงห่วงโซ่มูลค่าเพิ่มการท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดอย่างยั่งยืน 
และ 4.ดำรงฐานทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและพลังงานโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนสู่การเป็นกลุ่มจังหวัดสีเขียว
 
 
โดยกล่าวสรุปจากการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ได้ว่า มีศักยภาพเชิงพื้นที่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจการการค้าและธุรกิจที่เชื่อมโยงกับการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ส่วนด้านภาคเกษตรยังคงต้องส่งเสริมให้ปรับเข้าสู่รูปแบบการเกษตรมูลค่าสูง สำหรับด้านสังคมการรับมือสังคมผู้สูงอายุเป็นสิ่งสำคัญ จึงจำเป็นต้องพัฒนาในทุกมิติ และด้านสิ่งแวดล้อมปัญหาหมอกควันไฟป่ายังคงเป็นปัญหาหลักที่ต้องเร่งมือแก้ไขต่อไป
ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมจะได้ร่วมระดมความคิดเห็น ช่วยกันสำรวจความต้องการของประชาชนในพื้นที่ เพื่อที่จะได้ไม่ซ้ำซ้อนความต้องการของประชาชนในแต่ละจังหวัด ทั้งด้านการท่องเที่ยว การการเกษตร ด้านการค้าการลงทุน ด้านทรัพยากรธรรมชาติ และด้านอื่นๆที่สำคัญ เพื่อที่จะได้รวบรวม และจัดส่งให้ทีมบูรณาการกลางพิจารณาต่อไป
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

ผู้ว่าฯ เชียงราย สั่งเปิดปฏิบัติการจับซ้ำ บุหรี่ไฟฟ้าร้านเดิม ลักลอบขายอีกครั้ง

 

เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 67 นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย สั่งเปิดปฏิบัติการ “เชียงรายฟ้าใส (ไร้ควัน)” จัดระเบียบสังคมฯ ป้องกันเด็ก เยาวชน นักเรียน และนักศึกษา ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข ในการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า ตามนโยบาย มท.1 สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้ทำการจับกุมร้านลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ชื่อร้าน P-VAPE ตั้งอยู่ที่ 197/8 หมู่ที่ 15 ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย ซึ่งขณะนั้นจำกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 4 คน แสดงตัวเป็นผู้ดูแลร้าน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ ได้ทำการสืบทราบมาว่า ร้านดังกล่าวกลับมาเปิดลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าอีกครั้ง แต่เปลี่ยนสถานที่ และรูปแบบในการจำหน่าย โดยมีการตั้งกลุ่มไลน์ในการซื้อขาย นัดรับ และส่งของ โดยในไลน์กลุ่มจะพบว่าร้านดังกล่าวมีสาขาอยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย อีกสองสาขา ได้แก่ สาขาตะวันแดง และสาขาบ้านดู่เมืองใหม่ โดยจะใช้วิธีการโอนเงินแต่เพียงอย่างเดียว โดยชื่อบัญชีผู้รับโอนจะเป็นคนเดียวกันซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดนครปฐม แล้วผู้ใช้บริการถึงเลือกว่าจะให้ทางร้านส่งของให้ผ่านทางไรเดอร์ หรือนัดรับตามจุดที่ทางร้านแจ้ง ซ้ำร้านดังกล่าวยังมีการจัดโปรโมชั่นลดราคาต้อนรับเปิดเทอม ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกันทุกสาขา อันเป็นการมุ่งเป้าหมายไปที่กลุ่มเด็ก เยาวชน นักเรียน และนักศึกษา และเป็นการมอมเมา เด็กและเยาวชนในพื้นที่จังหวัดเชียงรายเป็นอย่างมาก

 

     ภายใต้การอำนวยการของ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายบัลลังก์ ไวทย์ศิริ ปลัดจังหวัดเชียงราย นายบุญส่ง ตินารี นายอำเภอเมืองเชียงราย  พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย และ พ.ต.อ.โสภณ ม่วงเฟื่อง ผกก.สภ.เมืองเชียงราย ได้สั่งการให้ฝ่ายปกครองร่วมกับตำรวจ นำโดยนายกองรบ กระทุ่มนัด ป้องกันจังหวัดเชียงราย ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดเชียงราย สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดเชียงรายที่ 1 พร้อมเจ้าหน้าที่บูรณาการร่วมออกปราบปรามร้านลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ให้แก่เด็ก เยาวชน นักเรียน และนักศึกษา วันที่ 3 กรกฎาคม 2567 เวลา 14.20 น. เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนเข้าตรวจสอบร้านดังกล่าว โดยวิธีล่อซื้อ และปลอมตัวเป็นไรเดอร์เพื่อเข้าทำการจับกุม และอีกชุดซุ่มดูพฤติกรรมอยู่บริเวณบ้านเช่าที่คาดว่าเป็นที่เก็บบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งระหว่างที่ทำการซุ่มดูอยู่ประมาณ 15 นาที ทางร้านมีการออกไปส่งของกว่า 5 ครั้ง และมีไรเดอร์เข้ามารับของอยู่ตลอดเวลา เมื่อทำการตกลงซื้อขายและนัดรับของ โดยทางร้านแจ้งให้มารับของที่บริเวณ ข้างวิทยาลัยเทคนิค เชียงราย โดยผู้ส่งของได้ออกจากบ้านเช่าเลขที่ 194/39 ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โดยใช้มอเตอร์ไซต์ ออกมาส่งของ เมื่อมาถึงจุดรับรับเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัว พร้อมพามาตรวจค้นในบริเวณบ้านเช่า ซึ่งเป็นอาคารชั้นเดียว จากการตรวจสอบพบผู้ดูแล จำนวน 2 คน เป็นหญิงและหนึ่งในนั้น เคยถูกจับมาเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 จากการตรวจสอบพบบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์ จำนวนกว่า 300 ชิ้น มูลค่ากว่า แสนบาท ยังพบบัญชีซึ่งมีรายได้ต่อเดือนกว่า 500,000 บาท และเจ้าหน้าที่ยังพบคำสั่งปิดร้าน ร้าน P-VAPE ตั้งอยู่ที่ 197/8 หมู่ที่ 15 ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย อยู่ในบ้านเช่าหลังดังกล่าวด้วย เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ดูแลทั้ง 2 ราย โดยแจ้งข้อหา 

 

           1) ได้มีการซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา 242 ตามมาตรา 246 วรรคแรก แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ประกอบข้อ 4 แห่งประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

          2) ขายสินค้าบารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า โดยฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า ต้องระวางโทษ โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

           เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมกล่าวโทษเจ้าของบัญชี ต่อไป ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะได้ปราบปรามร้านทั้งเปิดหน้าร้านและขายออนไลน์ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

เคาะ! จัดพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ บ่อน้ำทิพย์ วัดพระธาตุดอยตุง 4 ก.ค. 67

 

เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2567 ที่ห้องประชุมจอมกิตติ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมกรมการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ นายอำเภอ ผู้บริหาร อปท. และเอกชน ครั้งที่ 6/2567 โดยมี นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ และนางอุบลรัตน์ พ่วงภิญโญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการทุกภาคส่วน ภาคเอกชน และผู้แทนหน่วยงานในจังหวัดเชียงราย ร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน

 

ที่ประชุมได้มีการแนะนำส่วนราชการที่ย้ายมาดำรงตำแหน่งใหม่ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย นายธีระพงษ์ มีศรี ในตำแหน่งผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบทเชียงราย พร้อมรับชมสรุปรายงานผลการปฏิบัติงานของผู้บริหารจังหวัด ส่วนราชการ หน่วยงาน รัฐวิสาหกิจ ในรอบเดือนมิถุนายน 2567 ของสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย ตามลำดับ

 

ต่อจากนั้นเข้าสู่วาระการประชุมเรื่องเพื่อทราบและรายงานผลการดำเนินงาน เรื่องการดำเนินงานเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ประจำปี 2567 สรุปรายงานภาวะการค้าชายแดนและการค้าข้ามแดนด้านจังหวัดเชียงราย รวมถึงเรื่องการเตรียมจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ของจังหวัดเชียงราย โดยในวันที่ 4 กรกฎาคม 2567 จัดให้มีพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ ณ บ่อน้ำทิพย์ วัดพระธาตุดอยตุง อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย พิธีเดินขบวนรถบุษบกเชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์ ขันน้ำสาคร และที่ตักน้ำ ณ บริเวณสวนตุงและโคมนครเชียงราย ไปยัง วัดพระแก้ว พระอารามหลวง ส่วนวันที่ 7 กรกฎาคม 2567 พิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ณ พระอุโบสถวัดพระแก้ว พระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ในส่วนของวันที่ 8 กรกฎาคม 2567 จัดให้มีพิธีเวียนเทียนสมโภชน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ณ พระอุโบสถวัดพระแก้ว พระอารามหลวง และในช่วงเช้าของวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 จัดพิธีทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศล พิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน และในช่วงเย็นจะเป็นพิธีถวายเครื่องราชสักการะและวางพานพุ่ม และจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ GMS จังหวัดเชียงราย รวมถึงจัดเตรียมโครงการ 72 ล้านต้น พลิกผืนป่าเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โครงการพัฒนาสัมพันธ์เครือข่ายความมั่นคงระดับผู้บริหาร และสถานการณ์ และมาตรการควบคุมโรคไข้เลือดออก และเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องตามลำดับ

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงราย จัดโครงการพัฒนาศักยภาพ ผู้นำคลื่นลูกใหม่ในจังหวัด (YPC) รุ่น 2

 
เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2567 ที่โรงแรมแม่โขงเดลต้า อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาศักยภาพผู้นำคลื่นลูกใหม่ในจังหวัด Young Public and Private Collaboration (YPC) รุ่น 2 ประจำปี 2567 โดยมีนายภาคภูมิ ผลพิสิษฐ์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย คณะกรรมการหอการค้าจังหวัด

เชียงราย คณะวิทยากรจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และผู้เข้าร่วมอบรมจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เข้าร่วม

ด้วยหอการค้าจังหวัดเชียงราย ร่วมกับจังหวัดเชียงราย มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (YEC) เชียงราย ได้จัดโครงการพัฒนาศักยภาพผู้นำคลื่นลูกใหม่ในจังหวัด (Young Public and Private Collaboration: YPC) รุ่นที่2 ประจำปี พ.ศ. 2567 ขึ้น ระหว่างวันที่ 25 – 26 มิถุนายน 2567 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความพร้อมของผู้นำรุ่นใหม่ในภาคราชการไทยและเอกชน สู่การเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในการพัฒนาระบบราชการและเศรษฐกิจตามสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

 และเพื่อพัฒนาขีดความสามารถ ความรู้ ทักษะ ทัศนคติ ในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ด้วยการพัฒนาแผนพัฒนาจังหวัดให้บรรลุเป้าหมายตามแผนพัฒนาภาค อีกทั้งเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และประสบการณ์จากการลงพื้นที่จังหวัดระหว่างผู้เข้ารับการฝึกอบรมจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาคราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน

 ซึางการดำเนินการโครงการครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมจากข้าราชการสังกัดราชการส่วนภูมิภาค หรือราชการส่วนท้องถิ่นที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงราย และภาคเอกชน ผู้ประกอบการ พนักงานเอกชนที่มีสถานประกอบการอยู่ในจังหวัดเชียงราย และข้าราชการ หรือ พนักงานมหาวิทยาลัย ของมหาวิทยาลัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ที่มีประสบการณ์การทำงานร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชนในจังหวัดเชียงราย จำนวนทั้งสิ้น 60 คน

         นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า โครงการพัฒนาศักยภาพผู้นำคลื่นลูกใหม่ในจังหวัด หรือ YPC เป็นการแสดงถึงความร่วมมือระหว่างภาครัฐ และภาคเอกชน รวมทั้ง สถาบันการศึกษาและภาคส่วนต่าง ๆ อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การพัฒนาความรู้ ความเข้าใจและทัศนคติ ที่มีต่อการพัฒนาภายใต้บริบทการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่เข้ารับการอบรมล้วนประกอบด้วย ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ที่ประสบความสำเร็จบุคลากรภาครัฐที่มีศักยภาพ รวมถึงผู้ที่มีบทบาทสำคัญ ในการขับเคลื่อน ของภาคส่วนต่างๆ ซึ่งจะเป็นบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อน และกำหนดทิศทางการพัฒนาจังหวัดในอนาคต รวมทั้งเป็นการสร้างโอกาสประสานสัมพันธ์ของคนรุ่นใหม่ ทั้งภาครัฐและเอกชน ให้มีความคุ้นเคยเข้าใจในบทบาทของแต่ละภาคส่วน เพื่อการประสานงาน อย่างเป็นเอกภาพ โดยใช้เวทีการอบรมในการเรียนรู้ ร่วมคิด ร่วมทำ และร่วมรับผิดชอบ เป็นพื้นฐานสำคัญในการผลักดันการพัฒนา ของจังหวัดเชียงราย ให้เกิดประโยซน์ ต่อประชาชนในพื้นที่ อย่างกว้างขวางต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

ผู้ว่าฯ เชียงราย ลงพื้นที่ไฟไหม้วัดแสงแก้วโพธิญาณ อ.แม่สรวย

 
เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 67 จากกรณีที่เกิดไฟไหม้วิหารหลวงลายคำ ภายในวัดแสงแก้วโพธิญาณ ม.11 ต.บ้านใหม่แสงแก้ว ต.เจดีย์หลวง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย กลางดึกคืนที่ผ่านมา โดยในวันนี้ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน พนักงานสอบสวน สภ.แม่สรวย ผู้นำชุมชน และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ได้เข้ามาตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บหลักฐานตรวจพิสูจน์สาเหตุของเพลิงไหม้ โดยในพื้นที่วิหารมีเศษกระเบื้องหลังคาร่วงมากองเต็มเกลื่อนไปหมด ไฟไหม้พระพุทธรูปสำคัญ หุ่นขี้ผึ้งภาพจิตรกรรม โดนเผาวอดทั้งหมด เซิร์ฟเวอร์ บันทึกภาพกล้องวงจรปิดภายในวิหารที่อยู่บริเวณด้านหลังพระประธาน ทำให้ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด โดยได้ลงพื้นที่ตรวจสอบหาสาเหตุและประเมินเบื้องต้นความเสียหายไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท  โดยที่วิหารหลวงลายคำ วัดแสงแก้วโพธิญาณ ได้มีการนำเอาเชือกกั้นแนวมากั้นพื้นที่ ไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในวิหาร โดยมีชาวบ้านที่ทราบข่าวมารอดูการทำงานของเจ้าหน้าที่กันอย่างไม่ขาดสาย
 

        นายยา ศรีทา อายุ 73 ปี อดีต ผญบ.บ้านใหม่แสงแก้ว เปิดเผยว่า วิหารที่ถูกไฟไหม้แห่งนี้ตนมีส่วนร่วมในการบุกเบิกตั้งแต่ต้น โดยได้เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2549 ปัจจุบันมีอายุกว่า 16 ปี มีของมีค่าอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะพระแสงแก้วโพธิญาณ ซึ่งเป็นพระประธานในวิหาร หุ่นขี้ผึ้งบูรพาจารย์ และของมีค่าอย่างอื่น รวมมูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท แต่ความรู้สึกสูญเสียของชาวบ้านประเมินค่าไม่ได้
 

       ด้านพระทศพร กิตติธโร รักษาการณ์แทนเจ้าอาวาสวัดแสงแก้วฯ เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิดจึงออกมาดู ก็พบว่ามีไฟลุกไหม้วิหาร ก็เลยโทรแจ้ง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาช่วยดับ โดยทางพระเณรมาช่วยดับไฟ ด้วยแต่ไฟได้ลุกลามไปแล้ว ทำอะไรไม่ได้ ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบ เบื้องต้นสาเหตุน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เพราะวิหารก่อสร้างมา 10 กว่าปี และตอนเกิดเหตุก็เป็นช่วงเวลากลางดึก ตอนนี้ได้แจ้งครูบาอริยชาติซึ่งติดกิจนิมนต์อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาให้รับทราบแล้ว ซึ่งท่านก็ได้รับทราบและได้กำชับใช้ลูกศิษย์ตั้งสติ ทำใจกับสิ่งที่เกิดไปแล้ว และตั้งมั่นกับสิ่งที่จะทำในอนาคต โดยเหตุการณ์เกี่ยวกับไฟไหม้ครั้งนี้ พระครูบาอริยชาติได้พูดเตือนพระลูกวัดและลูกศิษย์ตั้งแต่ช่วงวันพระใหญ่ที่ผ่านมา ท่านบอกกลัวไฟจะไหม้วิหาร แต่ตอนนั้นคนที่ได้ยินก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุดังกล่าวขึ้นจริง
 

        นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งรายงานเหตุจากนายอำเภอประมาณตีหนึ่ง โดยในเบื้องต้นทราบว่าไฟลุกไหม้ตั้งแต่ประมาณเที่ยงคืน ส่วนสาเหตุของเพลิงไหม้และมูลค่าเสียหายทั้งหมด ต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่ พฐ. ได้ทำงานเพื่อหาบทสรุปก่อน และตนก็ได้สั่งการให้โยธาธิการและผังเมือง และสำนักพุทธฯ มาตรวจสอบความเสียหายในวันจันทร์ เพื่อช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว สำหรับใครที่ต้องการจะมาเที่ยวที่วัดแสงแก้วในช่วงนี้ก็ยังมีจุดอื่นที่สวยงามน่าสนใจอีกมากมาย สามารถมาเที่ยวกันได้ตามปกติ 
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

‘พิสันต์’ เคาะมติที่ประชุมเห็นชอบ ผู้ทำประโยชน์ต่อกระทรวงวัฒนธรรม

 

เมื่อวันพุธที่ 12 มิถุนายน 2567 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมพญาพิภักดิ์ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โดย สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ได้จัดการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกผู้ทำคุณประโยชน์ต่อกระทรวงวัฒนธรรม ระดับจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 เพื่อยกย่อง เชิดชูเกียรติภาคีเครือข่ายที่เข้ามามีส่วนร่วมขับเคลื่อนโครงการ/งาน/กิจกรรม และทำประโยชน์เพื่อชุมชน สังคม ร่วมกับหน่วยงานในสังกัดและหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงวัฒนธรรม  จำนวน 3 ประเภท ได้แก่ ประเภทเด็กหรือเยาวชน , ประเภทบุคคลธรรมดา และประเภทนิติบุคคลหรือคณะบุคคล โดยพิจารณาคัดเลือกประเภทละ 1 ราย/แห่ง/คณะ เพื่อเสนอชื่อเข้ารับการคัดเลือกเป็นผู้ทำคุณประโยชน์ต่อกระทรวงวัฒนธรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567

 

นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย มอบหมายให้ นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย เป็น ประธานการประชุมฯ  พร้อมด้วยคณะกรรมการที่ได้รับคำสั่งแต่งตั้งจากจังหวัดเชียงรายเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวผลการพิจารณามติที่ประชุมเห็นชอบ เสนอชื่อผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมตามเกณฑ์ เพื่อเข้ารับการคัดเลือกเป็นผู้ทำคุณประโยชน์ต่อกระทรวงวัฒนธรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 มีดังนี้

 

  • ประเภทเด็กหรือเยาวชน ได้แก่ นายวงศ์วริศ บูราณ นักเรียนโรงเรียนสามัคคีวิทยาคม อำเภอเมืองเชียงราย
  • ประเภทบุคคลธรรมดา ได้แก่ นางสาวภัททิรา วิภวภิญโญ อาจารย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง อำเภอเมืองเชียงราย
  • ประเภทนิติบุคคล หรือคณะบุคคล ได้แก่ บริษัทโตโยต้าเชียงราย จำกัด อำเภอเมืองเชียงราย

 

ทั้งนี้ จังหวัดเชียงรายจะได้ส่งผลงานพร้อมเอกสารของผู้ได้รับการคัดเลือกฯ ดังกล่าว ให้สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรมพิจารณาคัดเลือกเป็นผู้ทำคุณประโยชน์ต่อกระทรวงวัฒนธรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ต่อไป ซึ่งผู้ได้รับคัดเลือกฯ จะได้รับโล่รางวัล “วัฒนคุณาธร” จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมในวันสถาปนากระทรวงวัฒนธรรม หรือวันที่กระทรวงวัฒนธรรมกำหนด

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News