Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

เซ็นทรัล เชียงรายผนึกเรือนจำกลาง! เปิด “ลอกคลองเพื่อชุมชน” สร้างโอกาสใหม่ผู้ต้องขัง แก้วิกฤตน้ำท่วม

เซ็นทรัล เชียงราย ผนึกเรือนจำกลาง เปิดโครงการ “ลอกคลองเพื่อชุมชน” สร้างโอกาสใหม่ผู้ต้องขัง แก้วิกฤติน้ำท่วม

เชียงราย, 18 กรกฎาคม 2568 – ในยุคที่ปัญหาสิ่งแวดล้อมและความเหลื่อมล้ำทางสังคมกำลังเป็นประเด็นสำคัญของสังคมไทย ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย ได้ก้าวขึ้นมาเป็นต้นแบบการดำเนินธุรกิจเพื่อสังคมอย่างแท้จริง ด้วยการเปิดตัวโครงการ “ลอกคลองเพื่อชุมชน” ที่ไม่เพียงแต่มุ่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ แต่ยังเป็นการสร้างโอกาสทางอาชีพให้กับผู้ต้องขังในเรือนจำกลางเชียงราย เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2568

จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง

เรื่องราวของโครงการนี้เริ่มขึ้นจากการสังเกตปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในพื้นที่โดยรอบศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย ซึ่งประสบปัญหาน้ำท่วมขังในช่วงฤดูฝนอย่างต่อเนื่อง สาเหตุหลักมาจากระบบระบายน้ำที่ไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ทำให้ร่องระบายน้ำตื้นเขิน เต็มไปด้วยตะกอนและเศษขยะ

ผู้บริหารเซ็นทรัล เชียงราย ตระหนักดีว่าปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องที่สามารถแก้ไขได้ด้วยการดำเนินการเพียงฝ่ายเดียว จึงได้มองหาพันธมิตรที่เหมาะสมในการดำเนินงาน และเมื่อมองไปที่เรือนจำกลางเชียงราย ซึ่งมีผู้ต้องขังที่ต้องการโอกาสในการพัฒนาทักษะและสร้างรายได้ ก็เกิดเป็นแนวคิดที่จะสร้างประโยชน์ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน

วันสำคัญของการส่งมอบโอกาส

ในช่วงเช้าของวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 บรยากาศในบริเวณเรือนจำกลางจังหวัดเชียงรายมีความพิเศษแตกต่างจากทุกวัน เมื่อคุณสายัณห์ นักบุญ ผู้อำนวยการศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร เดินทางมาเพื่อเป็นสักขีพยานในพิธีเปิดโครงการที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนมากมาย

การมอบเงินสนับสนุนโครงการจำนวน 10,000 บาท แด่คุณนวรัตน์ จันทร์จิเรศรัศมี นักทัณฑวิทยาชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการเรือนจำกลางเชียงราย ไม่ใช่เพียงการส่งมอบเงินทุน แต่เป็นการส่งมอบความหวังและโอกาสใหม่ให้กับผู้ต้องขังที่จะได้มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับสังคม

ขอบเขตและเป้าหมายของโครงการ

โครงการ “ลอกคลองเพื่อชุมชน” มีเป้าหมายที่ชัดเจนและสามารถวัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม กิจกรรมหลักคือการทำความสะอาดและขุดลอกร่องระบายน้ำสาธารณะเป็นระยะทางยาวกว่า 450 เมตร ครอบคลุมพื้นที่ทำงานรวม 1,800 ตารางเมตร ซึ่งเป็นบริเวณโดยรอบศูนย์การค้าที่มีความสำคัญต่อการระบายน้ำของพื้นที่

การดำเนินงานจะแบ่งออกเป็นหลายขั้นตอน เริ่มจากการสำรวจพื้นที่ วางแผนการทำงาน การเตรียมอุปกรณ์ จนถึงการขุดลอกและทำความสะอาดอย่างเป็นระบบ ซึ่งจะใช้แรงงานจากผู้ต้องขังที่ผ่านการคัดเลือกและมีความเหมาะสมในการทำงานประเภทนี้

ผลลัพธ์ที่คาดหวังจากโครงการนี้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง แต่ยังรวมถึงการปรับปรุงทัศนียภาพของพื้นที่ให้สวยงาม การเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ และที่สำคัญคือการส่งเสริมสุขอนามัยของประชาชนในพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบโดยตรง

มิติใหม่ของการฟื้นฟูผู้กระทำผิด

หากมองในมุมของการฟื้นฟูและพัฒนาผู้ต้องขัง โครงการนี้ถือเป็นนวัตกรรมทางสังคมที่น่าสนใจ เพราะไม่ได้เน้นเพียงการให้งานทำ แต่เป็นการสร้างประสบการณ์การทำงานที่มีความหมายและส่งผลดีต่อสังคมอย่างเป็นรูปธรรม

คุณสายัณห์ นักบุญ ได้อธิบายปรัชญาเบื้องหลังโครงการว่า “เซ็นทรัล เชียงราย มีความมุ่งมั่นในการเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน โครงการนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นการตอกย้ำความร่วมมืออันดีกับเรือนจำกลางเชียงราย ในการสร้างโอกาสและมอบกำลังใจให้กับผู้ต้องขัง เราเชื่อว่าการให้โอกาสคือการสร้างอนาคตที่ดีให้กับสังคม”

ความคิดนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์จากการมองผู้ต้องขังเป็นภาระของสังคม กลายเป็นการมองเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีศักยภาพในการสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับสังคม หากได้รับโอกาสและการพัฒนาที่เหมาะสม

ความต่อเนื่องของการร่วมมือ

โครงการ “ลอกคลองเพื่อชุมชน” ไม่ใช่การเริ่มต้นความร่วมมือระหว่างเซ็นทรัล เชียงราย กับเรือนจำกลางเชียงราย แต่เป็นการต่อยอดความสัมพันธ์อันดีที่มีมาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา

การสนับสนุนที่สำคัญคือการมอบพื้นที่พิเศษ ณ ชั้น G โซน Northern Village (นอร์เทิร์น วิลเลจ) ให้เรือนจำกลางเชียงรายนำผลิตภัณฑ์จากฝีมือผู้ต้องขังมาจัดจำหน่ายโดยไม่คิดค่าเช่าพื้นที่ ซึ่งเป็นช่องทางสำคัญในการสร้างรายได้และส่งเสริมทักษะอาชีพให้กับผู้ต้องขัง

การดำเนินการนี้ไม่เพียงช่วยให้ผู้ต้องขังมีรายได้ แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นใจและศักดิ์ศรีในตนเอง เมื่อพวกเขาเห็นว่าผลงานของตนเองได้รับการยอมรับจากสังคมและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง

การสนับสนุนแบบ 360 องศา

สำหรับกิจกรรมลอกคลองในครั้งนี้ เซ็นทรัล เชียงราย ไม่ได้ให้การสนับสนุนเพียงด้านการเงินเท่านั้น แต่เป็นการสนับสนุนแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นค่าดำเนินการจ้างแรงงานผู้ต้องขัง การจัดเตรียมอาหารกลางวันและเครื่องดื่มตลอดระยะเวลาการปฏิบัติงาน รวมถึงการอำนวยความสะดวกและดูแลด้านความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด

การดูแลเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดและความเป็นมนุษย์ในการดำเนินโครงการ เพราะการให้ผู้ต้องขังออกมาทำงานนอกกำแพงเรือนจำไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องมีการประสานงานและดูแลอย่างรอบคอบในทุกด้าน

ผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม

เมื่อวิเคราะห์ผลลัพธ์ของโครงการนี้ในระยะสั้นและระยะยาว จะพบว่ามีผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมหลายมิติ

ในระยะสั้น การขุดลอกคลองจะช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ ซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตและการประกอบธุรกิจของคนในพื้นที่ การปรับปรุงระบบระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นจะช่วยลดความเสี่ยงจากโรคที่เกี่ยวข้องกับน้ำขัง และสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้นให้กับชุมชน

ในระยะยาว การสร้างโอกาสให้ผู้ต้องขังได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมจะช่วยลดอัตราการกลับมากระทำผิดซ้ำ เนื่องจากพวกเขาได้รับการพัฒนาทักษะ สร้างความมั่นใจ และรู้สึกว่าตนเองยังมีคุณค่าและสามารถทำประโยชน์ให้กับสังคมได้

นอกจากนี้ โครงการยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับองค์กรอื่นๆ ในการดำเนิน CSR ที่สร้างผลกระทบเชิงบวกอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงการทำเพื่อสร้างภาพลักษณ์ แต่เป็นการแก้ไขปัญหาสังคมอย่างเป็นระบบ

ความท้าทายและข้อจำกัด

แม้โครงการนี้จะมีเป้าหมายที่ดี แต่ก็มีความท้าทายและข้อจำกัดที่ต้องพิจารณา การทำงานกับผู้ต้องขังต้องมีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด และต้องมีการประสานงานที่ดีระหว่างหน่วยงานต่างๆ

การสร้างความเข้าใจกับชุมชนเกี่ยวกับการให้ผู้ต้องขังออกมาทำงานก็เป็นอีกหนึ่งความท้าทาย เนื่องจากอาจมีความกังวลในเรื่องความปลอดภัย แม้ว่าผู้ต้องขังที่เข้าร่วมโครงการจะผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มงวดแล้วก็ตาม

ทิศทางอนาคตของการพัฒนาอย่างยั่งยืน

เซ็นทรัล เชียงราย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการ “ลอกคลองเพื่อชุมชน” จะเป็นต้นแบบสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืนและสร้างสรรค์ในรูปแบบใหม่ ซึ่งสามารถขยายผลไปยังพื้นที่อื่นๆ และสร้างเป็นเครือข่ายการทำงานเพื่อสังคมที่แข็งแกร่ง

การมองการพัฒนาแบบองค์รวมที่คำนึงถึงทั้งปัญหาสิ่งแวดล้อม การสร้างโอกาสทางสังคม และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในทุกกลุ่ม เป็นแนวทางที่น่าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการสร้างสังคมที่เข้มแข็งและเท่าเทียมมากขึ้น

โครงการนี้แสดงให้เห็นว่า เมื่อภาคเอกชนและภาครัฐทำงานร่วมกันด้วยเป้าหมายที่ชัดเจนและวิธีการที่เหมาะสม สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกที่ยั่งยืนได้อย่างเป็นรูปธรรม และที่สำคัญคือการสร้างความหวังและโอกาสใหม่ให้กับผู้คนที่สังคมมักจะมองข้าม

สำหรับจังหวัดเชียงรายและประชาชนในพื้นที่ โครงการนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยแก้ไขปัญหาการระบายน้ำที่เป็นปัญหาเรื้อรัง แต่ยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืนต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย
  • เรือนจำกลางจังหวัดเชียงราย
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
LIFESTYLE

รู้จัก “ป้านิ” ผู้เชิดชูภูมิปัญญา ผ้าปักมือ สตรีดีเด่นปี 68

นิธี สุธรรมรักษ์: สตรีผู้รักษาภูมิปัญญาผ้าปักมือบ้านสันกอง จากสาวโรงงานสู่ผู้นำกลุ่มผ้าปัก อนุรักษ์ศิลปะพื้นถิ่นให้มีชีวิต

แรงบันดาลใจที่ผลักดันให้เกิดกลุ่มผ้าปักบ้านสันกอง

นิธี สุธรรมรักษ์ ประธานกลุ่มอาชีพผ้าปักด้วยมือบ้านสันกอง จ.เชียงราย ได้รับเลือกให้เป็น สตรีดีเด่นด้านศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม เนื่องในวันสตรีสากล ประจำปี 2568 เธอเป็นบุคคลสำคัญที่นำภูมิปัญญาท้องถิ่นกลับมาสร้างคุณค่า สร้างอาชีพ และส่งเสริมให้ชุมชนมีรายได้

“ตอนแรกเราแค่ลองเอาผ้าปักของผู้สูงอายุในชุมชนไปขายที่ตลาดไนท์บาซาร์เชียงราย ไม่คิดว่าจะมีคนสนใจมากขนาดนี้” นิธีกล่าว

ผลงานของกลุ่มได้รับความนิยมจากทั้งลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ จุดประกายให้เธอตั้งกลุ่มผ้าปักบ้านสันกองขึ้น เพื่อสร้างโอกาสให้กับผู้สูงอายุที่เคยว่างงานให้กลับมามีรายได้อีกครั้ง

การรวมกลุ่มผู้สูงวัย: งานฝีมือที่มากกว่ารายได้

นิธีรวบรวมผู้สูงอายุที่อยู่บ้านเฉย ๆ มาฝึกปักผ้า โดยใช้ระยะเวลาเรียนรู้ตั้งแต่ 10 วันถึง 3 เดือน ขึ้นอยู่กับทักษะของแต่ละคน

“คนที่ไม่เคยปักผ้ามาก่อนก็มี เราสอนทุกขั้นตอนจนเขาทำได้”

หลังจากฝึกจนสามารถปักผ้าได้แล้ว กลุ่มจะจ่ายค่าตอบแทนตามขนาดของชิ้นงาน ผู้สูงอายุสามารถสร้างรายได้เฉลี่ยเดือนละ 1,000-2,500 บาท ทำให้พวกเขามีความภูมิใจและลดภาระของลูกหลาน

“บางคนบอกว่าพอได้เงินจากงานปักผ้า เขาเอาไปซื้อของใช้ส่วนตัวเอง ไม่ต้องขอเงินลูกหลาน”

เอกลักษณ์ของผ้าปักบ้านสันกอง

จุดเด่นของผลงานคือ ความละเอียด ประณีต และลวดลายที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตของชุมชน ลวดลายที่นิยม ได้แก่

  • ลายเมล็ดข้าวสาร สื่อถึงความอุดมสมบูรณ์
  • ลายใบไม้และดอกไม้ ถ่ายทอดความงามของธรรมชาติ
  • ลายสายน้ำและก้นหอย เป็นสัญลักษณ์ของความต่อเนื่องและความสงบ

“ผลงานแต่ละชิ้นไม่มีแบบซ้ำกันเลย เพราะมันเกิดจากจินตนาการของคนปัก”

กลุ่มสามารถผลิตผลงานได้กว่า 300-400 ชิ้นต่อเดือน ชิ้นเล็กใช้เวลาปัก 2-3 วัน ส่วนชิ้นใหญ่ใช้เวลาถึง 2-3 เดือน

สตรีดีเด่นแห่งเชียงราย: นางนิธี สุธรรมรักษ์ ผู้สืบสานผ้าปักมือ สู่รางวัลระดับประเทศ

การได้รับรางวัลในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถและความทุ่มเทของนางนิธี ในการอนุรักษ์และสืบสานศิลปะการปักผ้าด้วยมือ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นบ้านสันกอง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ผลงานของนางนิธี ไม่เพียงแต่สร้างชื่อเสียงให้กับชุมชน แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับสตรีในท้องถิ่น ในการพัฒนาตนเองและสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม

การพัฒนาและการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น

นิธีวางแผนพัฒนาให้สินค้าของกลุ่มสอดคล้องกับ แนวคิด BCG (Bio-Circular-Green Economy) โดยนำเศษวัสดุกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

“เศษด้าย เศษผ้า ไม่เคยถูกทิ้ง ทุกอย่างถูกนำมาใช้ใหม่หมด”

นอกจากนี้เธอยังต้องการให้ กระทรวงพาณิชย์เข้ามาช่วยสนับสนุนด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการตลาด

การถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับผู้ต้องขัง

นิธีไม่ได้สอนแค่ในชุมชน แต่ยังนำความรู้ด้านผ้าปักเข้าไปถ่ายทอดให้กับผู้ต้องขังชายในเรือนจำกลางเชียงราย

“ช่วงแรกไม่มีใครเชื่อว่าผู้ต้องขังชายจะปักผ้าได้ แต่พอเริ่มฝึก ฝีมือก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ”

จากเดิมที่มีผู้สนใจเข้าเรียน 80 คน เพิ่มขึ้นเป็น 200 คน ตอนนี้ เรือนจำกลางเชียงรายตั้งกองงาน “ผ้าปัก” อย่างเป็นทางการ และเป็นแหล่งผลิตชิ้นงานให้กับกลุ่ม

สถิติที่เกี่ยวข้องกับงานผ้าปักบ้านสันกอง

  • กลุ่มผ้าปักบ้านสันกองมีสมาชิกกว่า 100 คน อายุตั้งแต่ 55-88 ปี
  • สามารถผลิตได้ 300-400 ชิ้นต่อเดือน
  • เป็นสินค้า OTOP ระดับ 5 ดาวของเชียงราย และได้รับมาตรฐาน มผช.249/2557
  • โครงการสอนผ้าปักในเรือนจำกลางเชียงรายมีผู้เข้าร่วมกว่า 200 คน

สรุป: นิธี สุธรรมรักษ์ ผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง

นิธี สุธรรมรักษ์ ไม่เพียงแต่เป็นผู้นำกลุ่มอาชีพที่สร้างรายได้ให้กับชุมชน แต่ยังเป็นผู้ที่ผลักดันให้ผ้าปักไทยได้รับการยอมรับในระดับสากล เธอเป็นตัวอย่างของสตรีที่ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นมาพัฒนาเป็นอาชีพที่ยั่งยืน และยังคงสานต่อภารกิจนี้ต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

คุณสมบัติสตรีดีเด่น: นางนิธี สุธรรมรักษ์

การคัดเลือกสตรีดีเด่นด้านศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม จัดโดยกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับคณะกรรมการดำเนินงานวันสตรีสากล กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยมีเกณฑ์การคัดเลือกที่เข้มงวด เพื่อให้ได้สตรีที่ทรงคุณค่าและเป็นแบบอย่างที่ดีในสังคม ซึ่งนางนิธี สุธรรมรักษ์ มีคุณสมบัติครบถ้วนตามเกณฑ์ที่กำหนด ดังนี้

  1. ความรู้ความสามารถและความเชี่ยวชาญ: นางนิธีมีความรู้ความสามารถและความเชี่ยวชาญในด้านศิลปะและวัฒนธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปักผ้าด้วยมือ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ
  2. คุณธรรมและจริยธรรม: นางนิธีเป็นสตรีที่มีคุณธรรมและจริยธรรม เป็นที่ยอมรับของบุคคลทั่วไปและสังคม
  3. การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม: นางนิธีได้รับการยอมรับและมีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมในสังคม มีการริเริ่มแผนงาน/โครงการ และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์อย่างต่อเนื่อง
  4. ความสามารถในการถ่ายทอดและผลักดัน: นางนิธีมีความสามารถในการถ่ายทอด ผลักดัน และเชื่อมโยงประสบการณ์ให้เกิดประโยชน์ในชุมชนและสังคม
  5. บทบาทในการส่งเสริมความเสมอภาค: นางนิธีมีบทบาทในการส่งเสริม เผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจ และทัศนคติในการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ การคุ้มครองสิทธิสตรี หรือการพัฒนาศักยภาพของสตรี
  6. ไม่เคยได้รับรางวัลในรอบ 5 ปี: นางนิธีไม่เคยได้รับรางวัลเนื่องในวันสตรีสากลของกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว พม. ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา

จากภูมิปัญญาท้องถิ่น สู่รางวัลระดับประเทศ

นางนิธี สุธรรมรักษ์ เป็นแบบอย่างของสตรีที่ประสบความสำเร็จในการอนุรักษ์และสืบสานศิลปะวัฒนธรรมท้องถิ่น ด้วยความมุ่งมั่นและความทุ่มเท นางนิธีได้พัฒนาฝีมือการปักผ้าด้วยมือ จนเป็นที่ยอมรับในระดับประเทศ และได้รับรางวัลสตรีดีเด่นด้านศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม ประจำปี 2568

รางวัลที่นางนิธีได้รับในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นเกียรติประวัติส่วนตัว แต่ยังเป็นเกียรติประวัติของชุมชนบ้านสันกอง และจังหวัดเชียงราย ที่มีสตรีผู้ทรงคุณค่าและเป็นแบบอย่างที่ดีในสังคม

นางนิธี สุธรรมรักษ์ เป็นแรงบันดาลใจให้กับสตรีไทย ในการพัฒนาตนเองและสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ด้วยความสามารถและความมุ่งมั่น สตรีไทยสามารถสร้างชื่อเสียงและสร้างคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์ / ผ้าปัก by นิธี

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE