Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

ประชุมสถานการณ์น้ำท่วมเชียงรายถือว่าหนักที่สุดในรอบ 80 ปี

 

เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2567 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์น้ำท่วมในเขตชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สาย จ.เชียงราย หลังได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุ “ยางิ” ซึ่งทำให้เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 80 ปีในพื้นที่ชายแดน โดยน้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ชายแดนแม่สาย รวมถึงพื้นที่ตลาดสายลมจอย และบ้านเรือนประชาชนเป็นบริเวณกว้าง

นายสุทธิพงษ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ และทหาร รวมถึงเจ้าหน้าที่จากกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ได้ประสานงานช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งนำเครื่องมือและยุทโธปกรณ์ช่วยเหลือเข้าพื้นที่อย่างต่อเนื่อง แม้จะมีปัญหาเรื่องกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากส่งผลให้การเคลื่อนย้ายประชาชนที่ติดค้างตามอาคารต่างๆ เป็นไปอย่างลำบาก แต่จนถึงขณะนี้สามารถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยออกจากพื้นที่อันตรายได้แล้วประมาณ 80% โดยประชาชนบางส่วนถูกย้ายไปอยู่ในวัดพรหมวิหาร และโรงแรมต่างๆ ที่ถูกใช้เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว

นอกจากนี้ นายสุทธิพงษ์ยังกล่าวถึงการเตรียมการฟื้นฟูว่า มีการจัดเตรียมอาหารและน้ำดื่มเพียงพอเพื่อแจกจ่ายให้ผู้ประสบภัย โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งเข้าไปช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แม้บางพื้นที่จะยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่บ้าง แต่สถานการณ์โดยรวมเริ่มคลี่คลายเนื่องจากมีฝนตกลงมาน้อยลงและระดับน้ำเริ่มลดลง ทั้งนี้คาดว่าหากไม่มีพายุลูกใหม่เข้ามา ภายใน 5 วันข้างหน้าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ

ในส่วนของระบบเตือนภัยน้ำท่วม นายสุทธิพงษ์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการแจ้งเตือนล่วงหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยมีการแจ้งให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงอพยพออกจากจุดอันตราย แต่ประชาชนบางส่วนไม่สามารถคาดการณ์ความรุนแรงของน้ำท่วมได้เนื่องจากเคยเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมมาแล้วหลายครั้งในปีนี้ แต่ครั้งนี้น้ำมาแรงและพนังกั้นน้ำพังทำให้เกิดผลกระทบมากกว่าครั้งก่อน

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทหารได้ใช้เฮลิคอปเตอร์จำนวน 3 ลำเข้าบินตรวจตราและนำเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่น้ำท่วม พร้อมทั้งกำลังดำเนินการฟื้นฟูและซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ รวมถึงการประเมินความเสียหายและเตรียมมาตรการป้องกันน้ำท่วมในอนาคต

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
AROUND CHIANG RAI

เปิดป้ายสถานชีวาภิบาลวัดหัวฝาย เปิดป้ายสถานชีวาภิบาลวัดหัวฝาย

 

เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 67 เวลา 14.00 น. ที่วัดหัวฝาย ต.สันกลาง อ.พาน จ.เชียงราย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานประกอบพิธีเปิดป้ายสถานชีวาภิบาลในชุมชนวัดหัวฝาย กุฏิชีวาภิบาลวัดหัวฝาย บ้านกลาง และชมรมคนพิการทางด้านการเคลื่อนไหวอำเภอพาน โดยได้รับเมตตาจาก พระครูปิยวรรณพิพัฒน์, ดร. เจ้าคณะตำบลสันกลาง เจ้าอาวาสวัดหัวฝาย ประธานเครือข่ายโรงเรียนผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ให้การต้อนรับ โดยมี นายประสพโชค อยู่สำราญ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายบัลลังก์ ไวทย์ศิริ ปลัดจังหวัดเชียงราย หัวหน้าส่วนราชการ นายวุฒิกร คำมา นายอำเภอพาน พร้อมด้วยนายอำเภอ ทุกอำเภอในพื้นที่จังหวัดเชียงราย นายศรีวรรณ วงค์จินา กำนันตำบลสันกลาง นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดเชียงราย พร้อมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน และพี่น้องประชาชน ร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ในวันนี้ตนมีความตั้งใจที่เดินทางมาร่วมกับพี่น้องประชาชนทำพิธีเปิดป้ายสถานชีวาภิบาลในชุมชนวัดหัวฝาย กุฏิชีวาภิบาลวัดหัวฝาย บ้านกลาง และชมรมคนพิการทางด้านการเคลื่อนไหวอำเภอพาน ภายใต้ความเมตตาของ พระครูปิยวรรณพิพัฒน์, ดร. เจ้าคณะตำบลสันกลาง เจ้าอาวาสวัดหัวฝาย ผู้นำคณะสงฆ์ผู้มีเมตตาสงเคราะห์ญาติโยมทั้งในจังหวัดเชียงราย และทั่วประเทศ กระทั่งท่านได้รับอาราธนานิมนต์ให้เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพราะท่านได้แสดงเจตนารมณ์ด้วยการ “ลงมือทำ” เป็นผู้นำดูแลกลุ่มเปราะบางต่าง ๆ ทั้งผู้พิการและผู้ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เป็นพระสงฆ์สาธารณสงเคราะห์ สอดคล้องตามบันทึกข้อตกลงร่วมมือ (MOU) ระหว่างกระทรวงมหาดไทยและมหาเถรสมาคม 3 โครงการสำคัญ คือ 1) บทบาทในการเกื้อหนุนระหว่างวัดและชุมชนให้มีความสุขอย่างยั่งยืน ร่วมกับสมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ประธานคณะกรรมการฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ของมหาเถรสมาคม 2) โครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข ร่วมกับสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานคณะกรรมการฝ่ายสาธารณูปการของมหาเถรสมาคม เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีด้วยการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมของ วัดและบ้าน ตามหลัก 5 ส. และ 3) โครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5 ขยายผลสู่ หมู่บ้านศีลธรรม” ร่วมกับสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร เพื่อรณรงค์ให้คนมีศีลธรรม ไม่ได้เพียงแค่ศาสนาพุทธ แต่รวมไปถึงศาสนาคริสต์ อิสลาม และทุกศาสนา

“วันนี้เราได้รับเมตตาจากพระสงฆ์องค์เจ้า พระครูปิยวรรณพิพัฒน์, ดร. เจ้าคณะตำบลสันกลาง เจ้าอาวาสวัดหัวฝาย ได้ลุกขึ้นมาเป็นผู้นำในการสงเคราะห์ญาติโยม ซึ่งสิ่งที่ท่านทำนั้นสอดคล้องกับบทบาทหน้าที่ของพวกเราชาวมหาดไทยในการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ผู้นำของพื้นที่อำเภอ” คือ ท่านนายอำเภอทุกอำเภอ ต้องนำแนวทางนี้มาบูรณาการทำงานจับมือร่วมกับภาคีเครือข่ายทุกอำเภอ ร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดูแลให้พี่น้องประชาชนมีความสุขที่เพิ่มมากขึ้น และขจัดปัดเป่าความทุกข์หรือปัญหาของชีวิตให้เบาบางลงจนหมดไป ซึ่งคำว่า บำบัดทุกข์ บำรุงสุข เป็นปณิธานและจุดมุ่งหมายที่สำคัญที่พี่น้องทั้งผู้นำท้องที่ และผู้นำท้องถิ่น ต้องช่วยกันขับเคลื่อนให้เกิดผลอย่างยั่งยืน ดังเช่นเมื่อสักครู่ จากการตรวจเยี่ยมพบปะพูดคุยกับผู้สูงอายุที่บ้านกลาง ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุในชุมชน ทำให้ได้ทราบข้อมูลว่า ป้าผู้มาพักไม่มีบ้านอยู่เพราะบ้านที่เคยอยู่ได้รับความเสียหาย โดยเมื่อกำนันตำบลสันกลางได้รับทราบข้อมูล จึงได้รับปากว่าจะช่วยซ่อมแซมบ้านให้แล้วเสร็จภายใน 5 วัน จึงขอขอบคุณท่านกำนัน และขอให้พวกเราชาวตำบลสันกลางได้ร่วมกับท่านกำนันช่วยกันดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชน มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมช่วยเหลือ เพื่อตำบลสันกลางของพวกเราได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ด้วยความรัก ความสามัคคี ความเมตตาการุญอาทรกันและกัน ดังที่วันนี้พวกเราทุกคนต่างมากันด้วยความสำนึกในบุญคุณของพระครูปิยวรรณพิพัฒน์, ดร. รวมทั้งขอให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้าน ช่วยกันขยายผลสิ่งที่ดีนี้ไปยังทั่วทั้ง 231 หมู่บ้านของอำเภอพาน พร้อมทั้งช่วยกันชักชวนให้พื้นที่อื่น ๆ มาศึกษาดูงาน มาช่วยกันให้กำลังใจ ร่วมกันอนุโมทนา และดูแลให้สมาชิกของสถานชีวาภิบาลแห่งนี้ได้รับคำแนะนำที่ดีจากแพทย์ ให้ได้รับการดูแลจากอสม. ได้รับอาหารครบทุกหมู่ อยู่ในสถานที่ที่สะอาด สวยงาม รื่นรมย์ ด้วยความสุข” นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงต้น

นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า สิ่งสำคัญที่พวกเราในฐานะผู้นำพื้นที่ ตลอดจนถึงผู้นำท้องที่ และท้องถิ่น ต้องช่วยกันดูแลพี่น้องประชาชน นั่นคือ “สุขภาพพลานามัย” ด้วยการส่งเสริมให้มีการออกกำลังกายในทุกวัน ค้นหาผู้นำการออกกำลังกายมาทำให้ประชาชนในพื้นที่มีความเข้มแข็ง มีสุขภาพแข็งแรง ซึ่งการจะทำให้คนอำเภอพานทั้ง 100% ได้มีสุขภาพที่ดี ต้องทำอย่างน้อยที่สุด 3 เรื่อง คือ 1) เรื่องอาหาร ด้วยการน้อมนำแนวพระราชดำริ บ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง และทางนี้มีผลผู้คนรักกัน ซึ่งสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานไว้เป็นแนวทางในการ พึ่งพาตนเองด้วยการปลูกพืชผักสวนครัว พืชสมุนไพร ไว้ในบริเวณพื้นที่ว่างของบ้าน และริมถนนสาธารณะ หรือพื้นที่สาธารณะของชุมชน เพื่อที่สมาชิกในหมู่บ้าน/ชุมชน จะได้มีสุขภาพที่ดีจากการบริโภคพืชผักปลอดสารพิษเหล่านี้ และยังเป็นการส่งเสริมพลังความรักสามัคคี เพราะทุกคนจะได้ร่วมกันเอามื้อสามัคคี ได้ออกกำลังกายไปในตัว และยังจะได้มีพืชผลทางการเกษตรเหล่านี้แบ่งปันภายในหมู่บ้าน/ชุมชน 2) เรื่องการออกกำลังกาย ด้วยการต้องออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที บริเวณพื้นที่สาธารณะของหมู่บ้าน/ชุมชน หรือพื้นที่ว่างภายในบ้าน ซึ่งการออกกำลังกายมีหลายรูปแบบ โดยหากทุกคนทำอย่างต่อเนื่องก็จะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และ 3) เรื่องการเอาใจใส่ดูแลสุขภาพพลานามัย ต้องระมัดระวังอย่าให้ตนเองเป็นคนประมาทที่ไม่รู้เรื่องการประพฤติปฏิบัติตัวว่า “กินอะไรที่จะส่งผลให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ” โดยเฉพาะโรคที่สำคัญ เมื่อเป็นแล้วเป็นเวรเป็นกรรม น่าสงสารที่สุด นั่นคือ “โรค Stroke หรือเส้นเลือดในสมองชำรุด รั่ว ซึมแตก หรือชื่อเป็นทางการว่า “โรคหลอดเลือดสมอง” โดยขอให้ท่านนายอำเภอได้เชิญชวนให้คนในอำเภอพาน และทุกอำเภอ สมัครเข้าร่วมโครงการเดินวิ่งปั่นแสงนำใจไทยทั้งชาติ ครบ 100% ซึ่งในวันจัดกิจกรรมนั้นก็สามารถใช้พื้นที่ถนนในพื้นที่อำเภอ/ตำบล/หมู่บ้าน จัดกิจกรรมพร้อมกับส่วนกลางได้

“อีกเรื่องหนึ่งที่มีความสำคัญถัดมา คือการดูแลสุขภาพอนามัยของเด็ก ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา กระทั่งเป็นเด็กเล็ก เด็กโต ด้วยการส่งเสริมการดูแลสุขภาพอนามัยของแม่ เพื่อให้ทารกในครรภ์ได้รับสารอาหารที่ถูกต้องตามหลักสาธารณสุข และเมื่อคลอดออกมาแล้วต้องมีคู่มือในการดูแลให้เด็กเล็กได้รับการบริโภคสารอาหารที่ครบถ้วน ขณะเดียวกันองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องจัดสถานที่สำหรับสันทนาการควบคู่การเรียนรู้ โดยสามารถบูรณาการร่วมกับมูลนิธิสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา เพื่อให้มีพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเด็กเล็ก ได้ฝึกสมองและฝึกกล้ามเนื้อ ให้สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแรงสมบูรณ์ และเมื่อเด็กโตขึ้นก็ให้ได้รับการบริโภคอาหารครบทั้ง 5 หมู่ มีสถานที่ออกกำลังกาย พักผ่อนหย่อนใจ และพื้นที่ในการเรียนรู้ตามวัย ในท้ายที่สุดเด็กทุกคนต้องได้รับการเรียนหนังสือ หากพบเด็กที่พบปัญหาขาดแคลนทุนการศึกษา วัสดุอุปกรณ์ ทุกคนต้องช่วยกันเป็นจิตอาสา เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ โดยไม่ต้องผ่านการฝึกอบรม ไม่ต้องมีเครื่องแบบ แต่ต้องมี “ใจและความประพฤติปฏิบัติ” ที่เป็น “จิตอาสา” เฉกเช่นสิ่งที่พระครูปิยวรรณพิพัฒน์, ดร. ทำ ถือเป็นจิตอาสาชั้นอ๋อง อันหมายความว่า เป็นจิตอาสาที่มีความโดดเด่น เพราะใจท่านมีความเมตตากรุณาอยากช่วยเหลือสงเคราะห์ศรัทธาญาติโยมทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก ดังนั้น พวกเราคนหมู่บ้านเดียวกัน รู้จักมักคุ้นกันอยู่แล้ว ต้องช่วยกันสอดส่องดูแลและนำข้อมูลข่าวสารไปยังผู้นำท้องที่ คือ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำท้องถิ่น คือ นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฝ่ายราชการ คือ ปลัดอำเภอ และข้าราชการผู้รับผิดชอบประจำตำบล ถึงนายอำเภอถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ถึงผู้นำทางศาสนา คือ หลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดต่าง ๆ เพราะข้อมูลหลายส่วนไปไม่ถึงฝ่ายราชการ จึงขอให้วิถีชีวิตเราตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ช่วยกันเป็นหูเป็นตา เราจะไม่เพิกเฉยถ้าเกิดเจอปัญหาที่อยู่ในพื้นที่ ถ้าเราช่วยกันแก้ไขได้ในพื้นที่ เราก็จะช่วย ช่วยไม่ได้เพราะเกินกำลังเราก็จะบอก “ผู้นำ” ที่สามารถพึ่งพาได้ และสิ่งที่ต้องปลูกฝังตั้งแต่เยาว์วัย คือ ต้องพาลูกหลานเข้าวัดเข้าวา ถ่ายทอดองค์ความรู้ศิลปวัฒนธรรม การทำอาหาร การทำบุญใส่บาตร รู้จักไหว้พระก่อนนอน กราบพระรัตนตรัยทุกคืน ก่อนออกจากบ้านก็ต้องไหว้พ่อแม่ปู่ย่าตายาย กลับมาบ้านก็ต้องไหว้ ซึ่งจะส่งผลให้เขาเป็นเด็กที่มีความอ่อนหวาน เป็นเด็กเรียบร้อยเป็นคนดี แต่ที่สำคัญพ่อแม่ปู่ย่าตายายต้องเป็นตัวอย่างที่ดีด้วย” นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติม

นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงท้ายว่า ขอให้พวกเราทุกคนช่วยกันขยายผลทำความ ดี ด้วยหัวใจ ช่วยกันดูแลกลุ่มเปราะบาง ช่วยกันขยายผลโครงการชีวาบาล โรงเรียนผู้สูงอายุ ในการทำให้คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ผู้มีคุณูปการต่อครอบครัว ต่อสังคม ที่บั้นปลายมีความยากลำบากเพราะสุขภาพร่างกายและครอบครัวไม่เอื้ออำนวยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ช่วยกันทำให้สมกับคำว่า บ้านเมืองไทยของเราเป็นเมืองพุทธ ดังนั้น ความเมตตากรุณา การช่วยเหลือสงเคราะห์ที่ท่านพระครูปิยวรรณพิพัฒน์, ดร. ได้ดำเนินการอยู่ดีนี้ พี่น้องประชาชนทุกคนต้องช่วยกันสนับสนุน ทำให้เกิดขึ้นที่บ้าน ที่หมู่บ้าน และที่ตำบลของพวกเรา โดยมีนายอำเภอ กำนัน นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ช่วยทำให้เกิดขึ้นเต็มพื้นที่ของอำเภอพาน เพื่อที่พวกเราทุกคนจะมีความสุขด้วยกัน จากการที่พวกเราช่วยกัน ทำความ ดี ด้วยหัวใจ เป็นกำลังสำคัญของการดูแลช่วยเหลือครอบครัว ชุมชน ตำบล หมู่บ้าน อำเภอ จังหวัด และประเทศชาติมีความมั่นคง ทำให้พี่น้องประชาชนคนที่เป็นญาติมิตรและคนที่เรารู้จักและไม่รู้จักได้มีความสุขอย่างยั่งยืน เพื่อความสุขที่เรามีด้วยกันจะช่วยทำให้ประเทศชาติและสังคมของเรามีความมั่นคงอย่างแน่แท้ตลอดไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

นักท่องเที่ยวคึกคัก ‘ตักบาตรดอกไม้’ อัญเชิญพระพุทธรูป 9 องค์ หนึ่งเดียวในล้านนานักท่องเที่ยวคึกคัก ‘ตักบาตรดอกไม้’

 
เมื่อบ่ายวันศุกร์ที่  29 ธ.ค. 66 ที่ผ่านมา ที่บริเวณสวนตุงและโคมนครเชียงราย ถนนธนาลัย ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และพระพุทธิญาณมุนี เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในพิธีตักบาตรดอกไม้ หนึ่งเดียวในล้านนา
 
โดยมี นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัด ดร.วันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย นางรัตนา จงสุทธานามณี ที่ปรึกษา รองนายกรัฐมนตรี (นายภูมิธรรม เวชยชัย ) และ นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงราย นำชาวเชียงรายเเละ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศร่วมกันตักบาตรดอกไม้ หนึ่งเดียวในล้านนา ซึ่งมีขบวนฟ้อนเชียงรายจากนักเรียนโรงเรียนในสังกัดเทศบาลนครเชียงราย
 
ซึ่งเทศบาลนครเชียงรายได้จัดให้มีงานเชียงรายดอกไม้งาม ปีที่ 20 ณ บริเวณสวนตุงและโคมนครเชียงราย ในระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2566 ถึง 15 มกราคม 2567 นี้ โดยมีการอัญเชิญพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ 9 องค์จาก 9 วัดในอำเภอเมืองเชียงราย ประดิษฐานบนรถบุษบก 9 คัน เคลื่อนไปตามถนนธนาลัย เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ได้ร่วมกันนมัสการและร่วมตักบาตรดอกไม้เพื่อความเป็นสิริมงคลจากนั้น พระสงฆ์และสามเณรออกรับบิณฑบาตรดอกไม้ โดยพร้อมเพียงกัน 
 
มีประชาชนออกมาร่วมทำบุญใส่บาตรด้วยดอกไม้ ร่วมกันอย่างคับคั่ง ซึ่งสร้างความประทับใจให้นักผู้ร่วมทำบุญตักบาตรอย่างมาก เพราะราชรถแต่ละคันมีความสวยที่ไม่ซ้ำกัน และสร้างโดยศิลปินแต่ละจังหวัด ใช้ระยะเวลาสร้าง 9 ปี โดยในหนึ่งปีจะนำออกให้ประชาชนและนักนักท่องเที่ยวได้ชมในการร่วมพิธีที่สำคัญเพียง 2 ครั้งเท่านั้น คือ ตักบาตรดอกไม้และตักบาตรวันขึ้นปีใหม่เท่านั้น
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

ปลัดมหาดไทยนำคณะทำกิจกรรม World Soil Day 2022

 

เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2566 เวลา 08:00 น. นายบุญธรรม ทองพิจิตร นายอำเภอเมืองเชียงราย พร้อมด้วย ปลัดอำเภอ ข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้างในสังกัดที่ทำการปกครองอำเภอเมืองเชียงราย ร่วมมอบนโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทยในการขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs)และกิจกรรมปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติฯ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ที่วัดพุทธอุทยานดอนอินทรีย์ ในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าดอยอินทรีย์ หมู่ที่ 3 ต.ดอยฮาง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานประกอบพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่พระเศียร “พระพุทธบารมีรักษาป่า รักษาธรรม รักษาชีวิตสัตว์” ตามโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี “ป่านี้มีผลผู้คนรักกัน” เขตพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง (SEDZ) ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ แก้ปัญหาหมอกควันไฟป่าที่เหตุแห่งปัญหา ส่งเสริมให้ทุก ๆ ภาคส่วนมีส่วนร่วมด้วยช่วยกันด้วยความ “สามัคคีเป็นพลังค้ำจุนแผ่นดินไทย” ในโครงการ “บวร” จังหวัดเชียงราย
 
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองเนื่องในการจัดงานวันดินโลก ปี 2565 (World Soil Day 2022) โดยได้รับเมตตาจาก พระครูขันติพลาธร รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เจ้าอาวาสวัดฝั่งหมิ่น พระครูสิริธรรมนิวิฐ เจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงราย เจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง พระอาจารย์วิบูลย์ ธมฺมเตโช เจ้าอาวาสวัดพุทธอุทยานดอยอินทรีย์ พระวีระยุทธ์ อภิวีโร วัดพระบรมธาตุดอยผาส้ม และคณะสงฆ์ ร่วมอนุโมทนา โดยมี นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น รองศาสตราจารย์วรวรรณ โรจนไพบูลย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิเชฐ โสวิทยสกุล นายประสพโชค อยู่สำราญ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายจิรชัย มูลทองโร่ย สมาชิกวุฒิสภา นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ นายวราดิศร อ่อนนุช นางภัทราวดี สุทธิธนกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ 18 อำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคีเครือข่าย ร่วมในพิธี
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News