Categories
ECONOMY

กาแฟช็อกโลก ราคาพุ่ง 70% ผู้ค้าทั่วโลกชะลอซื้อ รอราคาลง

ราคากาแฟพุ่ง 70% โรงคั่วทั่วโลกปรับกลยุทธ์ ฝ่าวิกฤตต้นทุนพุ่ง

ภาวะตลาดกาแฟโลกเผชิญแรงกดดันจากราคาที่สูงขึ้น

เมืองฮิวสตัน รัฐเท็กซัส, 10 มีนาคม 2568 – รายงานจาก Reuters และกรุงเทพธุรกิจระบุว่า อุตสาหกรรมกาแฟทั่วโลกกำลังเผชิญปัญหาราคาพุ่งสูงขึ้นถึง 70% ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2567 จนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้ผู้ค้าและโรงคั่วกาแฟต้องลดปริมาณการซื้อเมล็ดกาแฟลงเหลือระดับต่ำสุด เนื่องจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่ซัพพลายเออร์ยังไม่สามารถโน้มน้าวให้ร้านค้าปลีกยอมรับการปรับขึ้นราคาได้

ภาคอุตสาหกรรมตกตะลึงกับราคากาแฟที่พุ่งสูงขึ้น

ภายในงานประชุมประจำปีของสมาคมกาแฟแห่งชาติสหรัฐ (NCA) ที่จัดขึ้นในเมืองฮูสตัน รัฐเท็กซัส เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมต่างแสดงความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มราคากาแฟอาราบิก้าในตลาดซื้อขายล่วงหน้า ICE ซึ่งเป็นตลาดอ้างอิงสำหรับการซื้อขายกาแฟทั่วโลก

เรแนน ชูเอรี ผู้อำนวยการทั่วไปของ ELCAFE C.A. ในเอกวาดอร์ เปิดเผยว่า ปีนี้เป็นครั้งแรกที่บริษัทไม่สามารถขายสินค้าล็อตการผลิตประจำปีได้หมดภายในเดือนมีนาคม โดยปัจจุบันขายได้ไม่ถึง 30% ของกำลังการผลิตปกติ

“ปกติแล้วตอนนี้เราน่าจะขายได้หมดแล้ว แต่จนถึงตอนนี้เราขายสินค้าได้ไม่ถึง 30%” ชูเอรีกล่าว

ราคากาแฟที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ลูกค้าหลายรายประสบปัญหาสภาพคล่อง ไม่สามารถซื้อเมล็ดกาแฟในปริมาณที่ต้องการได้ ขณะที่ผู้ค้าปลีกยังคงชะลอการเจรจา ทำให้สินค้าเริ่มขาดตลาดในบางพื้นที่

ปัจจัยที่ทำให้ราคากาแฟปรับตัวสูงขึ้น

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าการปรับขึ้นของราคากาแฟในปีนี้มีสาเหตุมาจากปัจจัยสำคัญดังต่อไปนี้:

  • ผลผลิตลดลงในประเทศผู้ผลิตหลัก โดยเฉพาะบราซิล ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่ที่สุดของโลก
  • สภาพอากาศแปรปรวน ส่งผลต่อคุณภาพและปริมาณผลผลิตกาแฟ
  • ความต้องการที่สูงขึ้น โดยเฉพาะจากตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่ เช่น สหรัฐอเมริกา และยุโรป

ผู้ค้าและโรงคั่วกาแฟหลายรายจึงหันมาใช้กลยุทธ์การซื้อแบบ “hand to mouth” หรือการซื้อเฉพาะปริมาณที่จำเป็นในขณะนั้น เพื่อลดความเสี่ยงจากต้นทุนที่สูงขึ้น

ผู้ค้าปลีกและซูเปอร์มาร์เก็ตปฏิเสธการขึ้นราคา

สถานการณ์ราคากาแฟที่สูงขึ้นส่งผลกระทบต่อผู้ค้าปลีกและซูเปอร์มาร์เก็ต โดยซัพพลายเออร์ไม่สามารถปรับขึ้นราคาได้ตามต้นทุนที่แท้จริง เนื่องจากผู้ค้าปลีกยังคงกดดันไม่ให้มีการปรับขึ้นราคาสินค้า ทำให้บางร้านค้าเริ่มขาดสินค้ากาแฟบนชั้นวาง

ผู้บริหารโรงคั่วกาแฟรายหนึ่งในสหรัฐเผยว่า ลูกค้าบางรายกำลังประสบปัญหาในการดำเนินธุรกิจ เพราะไม่สามารถขายกาแฟในราคาใหม่ได้ โดยระบุว่า:

“พวกเขาไม่รู้ว่าธุรกิจจะสามารถอยู่รอดได้หรือไม่ บางคนอาจต้องปิดกิจการ”

แนวโน้มราคาและผลกระทบต่ออุตสาหกรรม

ผลสำรวจล่าสุดของ Reuters คาดการณ์ว่า ราคากาแฟอาราบิก้าอาจลดลงถึง 30% ภายในสิ้นปี 2568 เนื่องจากราคาสูงทำให้ความต้องการลดลง นอกจากนี้ยังมีสัญญาณบ่งชี้ว่าผลผลิตกาแฟในบราซิลจะเพิ่มขึ้นในปีหน้า ซึ่งอาจช่วยให้ตลาดกลับเข้าสู่ภาวะสมดุลได้

บริษัทผู้ค้าสินค้าโภคภัณฑ์ Louis Dreyfus ระบุว่า พื้นที่เพาะปลูกกาแฟทั่วโลกกำลังขยายตัว โดยเฉพาะในประเทศอินเดีย ยูกันดา เอธิโอเปีย และบราซิล ซึ่งอาจนำไปสู่การลดลงของราคากาแฟในอนาคตหากผลผลิตมีปริมาณมากพอ

“หากบราซิลสามารถผลิตกาแฟได้ในปริมาณที่มากพอ บวกกับพื้นที่เพาะปลูกใหม่ในหลายประเทศ ราคากาแฟอาจร่วงลงอย่างรวดเร็ว” Louis Dreyfus กล่าวในงานประชุม

สถิติที่เกี่ยวข้องกับตลาดกาแฟ

  • ราคากาแฟอาราบิก้าปรับตัวสูงขึ้น 70% ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2567 จนถึงมีนาคม 2568 (ที่มา: Reuters)
  • โพลล์ของ Reuters คาดการณ์ว่าราคากาแฟอาจลดลง 30% ภายในสิ้นปี 2568
  • สต็อกกาแฟในโกดังสินค้าของสหรัฐฯ ลดลงเหลือเพียง 50% ของปริมาณปกติ (ที่มา: สมาคมกาแฟแห่งชาติสหรัฐ)
  • พื้นที่เพาะปลูกกาแฟขยายตัวในประเทศอินเดีย ยูกันดา เอธิโอเปีย และบราซิล เนื่องจากราคาสูงทำให้เกษตรกรเพิ่มการผลิต (ที่มา: Louis Dreyfus)

ข้อคิดเห็นจากสองมุมมอง

ฝ่ายสนับสนุนการขึ้นราคากาแฟ

ฝ่ายที่สนับสนุนให้ปรับขึ้นราคากาแฟให้สอดคล้องกับต้นทุน มองว่าเป็นแนวทางที่ช่วยให้เกษตรกรและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมสามารถอยู่รอดได้ รวมถึงเป็นแรงจูงใจให้ผู้ผลิตกาแฟขยายพื้นที่เพาะปลูก เพื่อรองรับความต้องการในอนาคต

ฝ่ายที่กังวลต่อราคาที่สูงขึ้น

ในขณะที่ฝ่ายที่กังวลระบุว่าการขึ้นราคากาแฟอาจส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคและธุรกิจร้านกาแฟ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กที่อาจไม่สามารถรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้นได้ นอกจากนี้ ซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าปลีกยังคงกดดันไม่ให้ปรับราคาขาย ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนสินค้า

สรุปภาพรวมตลาดกาแฟ

อุตสาหกรรมกาแฟทั่วโลกกำลังเผชิญแรงกดดันจากราคาที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ผู้ค้าและโรงคั่วกาแฟต้องปรับกลยุทธ์เพื่อลดผลกระทบ ขณะที่ตลาดกำลังจับตาดูแนวโน้มผลผลิตในบราซิลและประเทศผู้ผลิตอื่น ๆ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของราคากาแฟในปีต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : reuters / กรุงเทพธุรกิจ

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
NEWS UPDATE

กรมวังผู้ใหญ่ประจำพระองค์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ติดตามการดำเนินงานตามโครงการราชทัณฑ์ปันสุขฯ ที่จังหวัดเชียงราย