Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

ธนพิริยะ – BJC ช่วยเหลือ ผู้ประสบอุทกภัยเชียงราย

บริษัท ธนพิริยะ มอบสินค้าช่วยเหลือประชาชนเชียงรายหลังอุทกภัย

บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) รับมืออุทกภัยในเชียงราย

บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือที่รู้จักกันในนาม TNP ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคในจังหวัดเชียงราย ได้แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยที่ผ่านมา

การรับมอบผลิตภัณฑ์จากบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน)

โดย ภญ.อมร พุฒิพิริยะ กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วย นายธนภูมิ พุฒิพิริยะ รองกรรมการสายงานการตลาด จากบริษัท ธนพิริยะ ได้รับผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Promise, Maxa และ belle จากบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC ผู้เป็นผู้นำด้านการผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าและบริการ

การแจกจ่ายสินค้าเพื่อช่วยเหลือประชาชน

ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับมอบมานี้จะถูกนำไปแจกจ่ายช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนและความเสียหายจากเหตุอุทกภัยในจังหวัดเชียงราย การกระทำนี้เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของ TNP ที่จะสนับสนุนและช่วยเหลือชุมชนในยามยากลำบาก

ความร่วมมือระหว่าง TNP และ BJC เพื่อสังคมที่ดีขึ้น

การร่วมมือครั้งนี้ระหว่าง TNP และ BJC แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือที่เข้มแข็งระหว่างสองบริษัทในด้านการให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชน TNP พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือและสนับสนุนทุกความต้องการ รวมถึงเป็นตัวแทนคู่ค้าและพันธมิตรในการส่งมอบสินค้าอุปโภคบริโภคให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย

การสนับสนุนอย่างเต็มที่จากทีมงาน TNP

ทีมงานของ TNP ได้ทำงานอย่างหนักเพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ การแจกจ่ายสินค้าถูกวางแผนมาอย่างดี เพื่อให้ผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือสามารถเข้าถึงได้ง่ายและรวดเร็วที่สุด

กำลังใจจาก TNP เพื่อชุมชนเชียงราย

นอกจากการมอบสินค้าแล้ว TNP ยังร่วมส่งกำลังใจให้กับประชาชนในจังหวัดเชียงราย เพื่อให้ทุกคนสามารถผ่านเหตุการณ์อุทกภัยไปได้ด้วยความปลอดภัยและความเข้มแข็ง TNP เชื่อมั่นว่าความร่วมมือและการสนับสนุนจากทุกฝ่ายจะช่วยให้ชุมชนฟื้นฟูและกลับมามีชีวิตที่ดีขึ้นได้ในเร็ววัน

ความสำคัญของการช่วยเหลือในยามวิกฤติ

การช่วยเหลือในยามวิกฤติเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการสร้างสังคมที่เข้มแข็งและมีความเป็นอยู่ที่ดี บริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมเช่น TNP เป็นตัวอย่างที่ดีในการสนับสนุนและช่วยเหลือประชาชนในยามยากลำบาก

อนาคตของการสนับสนุนจาก TNP

TNP มุ่งมั่นที่จะดำเนินการช่วยเหลือประชาชนในจังหวัดเชียงรายและพื้นที่อื่น ๆ ต่อไปในอนาคต บริษัทจะยังคงมองหาวิธีใหม่ ๆ ในการสนับสนุนและช่วยเหลือสังคม เพื่อให้ทุกคนมีชีวิตที่ดีขึ้นและสามารถเผชิญกับความท้าทายได้อย่างมั่นคง

สรุปการสนับสนุนจากบริษัท ธนพิริยะ

บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) ได้แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและการสนับสนุนชุมชนในยามวิกฤติอย่างชัดเจน การมอบสินค้าเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในจังหวัดเชียงรายเป็นตัวอย่างที่ดีของการทำธุรกิจที่มีความรับผิดชอบและมีความใส่ใจต่อสังคม

ด้วยการทำงานร่วมกันระหว่าง TNP และ BJC รวมถึงความร่วมมือจากพันธมิตรและทีมงานที่มีความมุ่งมั่น การช่วยเหลือครั้งนี้จึงประสบความสำเร็จและสามารถช่วยเหลือประชาชนได้อย่างเต็มที่ TNP ยังคงมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนและช่วยเหลือสังคมต่อไปในอนาคต

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

การฟื้นฟูชุมชนบ้านไม้ลุงขน อ.แม่สาย หลังน้ำท่วมใหญ่คืบหน้าถึง 90%

การฟื้นฟูชุมชนบ้านไม้ลุงขนหลังอุทกภัยเชียงราย: ความร่วมมือที่เป็นกำลังใจให้ชุมชน

การทำความสะอาดและฟื้นฟูพื้นที่ชุมชน

เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2567 บรรยากาศในชุมชนบ้านไม้ลุงขน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ยังคงเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นในการฟื้นฟูหลังเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้น ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ทหารรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันเดินหน้าทำความสะอาดบ้านเรือนและบริเวณถนนในชุมชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณถนนที่เริ่มมีการสัญจรของรถเล็กอีกครั้ง แม้ว่าจะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเพื่อป้องกันอุบัติเหตุและเพิ่มความปลอดภัยให้กับประชาชน

การล้างท่อระบายน้ำและการจัดการขยะตกค้าง

ในวันนี้ เจ้าหน้าที่จากสำนักการระบายน้ำกรุงเทพมหานคร ได้ดำเนินการล้างท่อระบายน้ำที่มีโคลนอุดตัน เพื่อให้การระบายน้ำทำได้อย่างสะดวกและลดความเสี่ยงของการเกิดอุทกภัยซ้ำอีก การดำเนินการนี้ครอบคลุมการเคลียร์ขยะตกค้างภายในท่อ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้น้ำไม่สามารถระบายน้ำออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่เช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ทำการล้างท่อระบายน้ำในชุมชนบ้านไม้ลุงขนแล้ว 2 จุด เพื่อให้คลองชลประทานสามารถระบายน้ำออกได้อย่างราบรื่น

การสนับสนุนจากมูลนิธิดอยเวียงแก้ว

เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและเจ้าหน้าที่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ มูลนิธิดอยเวียงแก้ว ได้ส่งทีมจิตอาสามาให้บริการข้าวกล่องและน้ำดื่มแก่เจ้าหน้าที่ที่ทำงานหนักในการทำความสะอาดและฟื้นฟูชุมชน นายจินตนา จงตรอง ประธานสภา อบต. เกาะช้าง เปิดเผยว่า มูลนิธิได้ส่งข้าวกล่องมาให้บริการเจ้าหน้าที่จำนวน 600 ชุด เพื่อเป็นการขอบคุณและให้กำลังใจแก่พวกเขาที่มาทำงานอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย

 
การฟื้นฟูบ้านเรือนและความคืบหน้าของการซ่อมแซม

นางจินตนา ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ในพื้นที่บ้านไม้ลุงขนที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยมีบ้านเรือนเสียหายกว่า 189 หลังคาเรือน และขณะนี้ได้มีการฟื้นฟูบ้านเรือนไปแล้ว 170 หลังคา ซึ่งคิดเป็น 90% ของบ้านที่ได้รับผลกระทบ การฟื้นฟูนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการฟื้นฟูที่ถูกกำหนดขึ้นโดยเจ้าหน้าที่เพื่อให้ชุมชนกลับมาเป็นปกติได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

ความร่วมมือและการประสานงานจากหน่วยงานต่างๆ

การฟื้นฟูชุมชนบ้านไม้ลุงขนไม่ได้เกิดขึ้นจากความพยายามของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้น แต่เป็นผลมาจากความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรอาสาสมัครที่มุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือชุมชนให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะที่ปรึกษา ศปช.ส่วนหน้า จังหวัดเชียงราย จะลงพื้นที่บ้านไม้ลุงขน เพื่อทำการติดตามการช่วยเหลือและฟื้นฟูบ้านเรือนประชาชนต่อไป

ศูนย์ศปช.ส่วนหน้า: การรับรู้และแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ

นางจินตนา ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการจัดตั้งศูนย์ศปช.ส่วนหน้าในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ซึ่งช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถรับทราบถึงปัญหาในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วและสามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด การมีศูนย์ศปช.ส่วนหน้าเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการประสานงานและดำเนินการช่วยเหลืออย่างมีประสิทธิภาพ

ผลกระทบที่ดีและอนาคตของชุมชนบ้านไม้ลุงขน

การฟื้นฟูชุมชนบ้านไม้ลุงขนหลังอุทกภัยไม่เพียงแต่ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนเท่านั้น แต่ยังเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนในระยะยาว ชาวบ้านได้รับการสนับสนุนทั้งด้านอาหาร น้ำสะอาด และการฟื้นฟูบ้านเรือน ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการกลับมามีชีวิตที่ปกติ การร่วมมือกันของทุกฝ่ายจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การฟื้นฟูครั้งนี้ประสบความสำเร็จ

บทสรุป: ความสำเร็จจากความร่วมมือและความพยายาม

การฟื้นฟูชุมชนบ้านไม้ลุงขนเป็นตัวอย่างที่ดีของการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรอาสาสมัคร เพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ความพยายามและการประสานงานที่ดีทำให้การฟื้นฟูเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนในการเผชิญกับวิกฤตในอนาคต

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

จุฬาราชมนตรีมอบเงินช่วยเหลือน้ำท่วมเชียงราย พร้อมเสริมสร้างความสามัคคีทางศาสนา

 

จุฬาราชมนตรีมอบเงินช่วยเหลือน้ำท่วมเชียงราย พร้อมเสริมสร้างความสามัคคีทางศาสนา

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2567 จุฬาราชมนตรี พร้อมด้วยคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ได้มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในเขตเทศบาลนครเชียงราย จำนวน 144 ราย ณ มัสยิดดารุลอามาน อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย การมอบเงินครั้งนี้ได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากชาวไทยมุสลิมและไทยพุทธในพื้นที่

การช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมจากคณะกรรมการกลางอิสลาม

อาจารย์ อรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี กล่าวว่าตั้งแต่วันแรกที่เชียงรายประสบอุทกภัย คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยได้ออกประกาศร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือพี่น้องชาวเชียงรายอย่างต่อเนื่อง โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างทางศาสนา ประเทศไทยที่มีศาสนาหลากหลายศาสนาอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ภายใต้การดูแลของพระมหากษัตริย์ที่เป็นอัครศาสนูปถัมภก

ความร่วมมือจากภาครัฐและภาคเอกชนในการฟื้นฟูเชียงราย

เหตุการณ์น้ำท่วมที่เชียงรายได้นำพาดินโคลนมากับน้ำ ทำให้ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเข้ามาช่วยเหลือพี่น้องชาวเชียงรายอย่างเต็มใจ นายธีระ ยีโกบ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ได้มอบเงินสมทบจำนวน 50,000 บาท เพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เทศบาลนครเชียงราย พร้อมฝากความห่วงใยและความเอื้ออาทรต่อผู้ประสบภัย

นโยบายสนับสนุนผู้ประสบภัยจากธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย

ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยได้ประกาศมีมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ประสบภัยน้ำท่วม รวมถึงนโยบายช่วยเหลือพักชำระเงินต้น 6 เดือน เพื่อช่วยให้ผู้ประสบภัยสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีโครงการอื่นๆ ที่พร้อมสนับสนุนการฟื้นฟูสภาพชีวิตของผู้ได้รับผลกระทบ

ความสามัคคีและการช่วยเหลือในภาวะวิกฤติ

การมอบเงินช่วยเหลือครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการช่วยเหลือทางการเงิน แต่ยังเป็นสัญญาณของความสามัคคีและการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขของคนไทยทุกศาสนา การตอบรับที่ดีจากประชาชนทั้งมุสลิมและพุทธแสดงให้เห็นถึงความสามัคคีและความเอื้ออาทรที่มีต่อกันในสังคมไทย

อนาคตที่สดใสหลังน้ำท่วม

การช่วยเหลือจากคณะกรรมการกลางอิสลามและภาคส่วนอื่นๆ ทำให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมสามารถฟื้นตัวและกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้อีกครั้ง ความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนจะเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งและความยั่งยืนให้กับชุมชนเชียงรายในอนาคต

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ตั้งโรงครัวจิตอาสา ช่วยผู้ประสบภัย น้ำท่วมที่แม่สาย จ.เชียงราย

ศอ.จอส.พระราชทาน ภาค 3 ตั้งโรงครัวช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่แม่สาย จ.เชียงราย

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2567 ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน ภาค 3 (ศอ.จอส.พระราชทาน ภาค 3) ร่วมกับกองบัญชาการควบคุมบริหารสถานการณ์ จ.เชียงราย ภายใต้การนำของ พล.ต. บุญญฤทธิ์ เกษตรเวทิน ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน มณฑลทหารบกที่ 37 (มทบ.37) และผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มทบ.37 ได้จัดตั้งโรงครัวเพื่อประกอบอาหารแจกจ่ายให้กับกำลังพลและจิตอาสาที่ปฏิบัติภารกิจฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย

โรงครัวนี้จัดตั้งขึ้นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ตามแผนการฟื้นฟูของรัฐบาล โดยในแต่ละมื้อจะประกอบอาหารแจกจ่ายมากถึง 2,800 – 3,000 กล่องต่อมื้อ และจะดำเนินการแจกจ่ายจนกว่าภารกิจการฟื้นฟูจะแล้วเสร็จ โดยกิจกรรมนี้จัดขึ้นที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์และป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย อ.แม่สาย จ.เชียงราย

ร.ท. ธวัช เขื่อนขันติ์ รักษาราชการพลาธิการ มทบ.37 เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดกำลังพลและรถครัวสนาม เพื่อทำหน้าที่ประกอบอาหารสำหรับแจกจ่าย โดยมีจิตอาสาร่วมมือกันช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ ในขณะเดียวกันทีมงานได้ปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพตามแผนงานฟื้นฟูของรัฐบาล

ความช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์

การจัดตั้งโรงครัวครั้งนี้นอกจากจะช่วยให้ผู้ประสบภัยได้รับอาหารอย่างเพียงพอแล้ว ยังเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนกำลังพลและจิตอาสาที่ปฏิบัติหน้าที่ฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยในหลายพื้นที่ของ อ.แม่สาย ซึ่งถูกน้ำท่วมและเกิดความเสียหายอย่างหนัก

แผนฟื้นฟูของรัฐบาล


การช่วยเหลือครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมอย่างเป็นระบบ โดยความร่วมมือระหว่างหน่วยงานท้องถิ่นและหน่วยงานจากส่วนกลางที่เน้นให้ความช่วยเหลือในทุกด้าน ทั้งด้านที่อยู่อาศัย อาหาร และการฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้ประสบภัย

การดำเนินงานของ ศอ.จอส.พระราชทาน ภาค 3 สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการบรรเทาทุกข์ให้แก่ผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วนและครบถ้วน โดยมีแผนที่จะดำเนินการจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และพื้นที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ

การปฏิบัติภารกิจนี้ยังคงดำเนินต่อไปจนกว่าพื้นที่ต่าง ๆ จะได้รับการฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์ พร้อมทั้งส่งมอบความช่วยเหลือที่จำเป็นให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติน้ำท่วมในครั้งนี้

สรุป

ศอ.จอส.พระราชทาน ภาค 3 ตั้งโรงครัวประกอบอาหารช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยแจกจ่ายอาหาร 2,800 – 3,000 กล่องต่อมื้อให้กับกำลังพลและจิตอาสาที่ปฏิบัติภารกิจฟื้นฟู ตามแผนของรัฐบาลในการบรรเทาทุกข์ให้แก่ผู้ประสบภัย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงรายเร่งสูบน้ำท่วมขังชุมชนทวีรัตน์ หลังท่วมยาวกว่า 1 เดือน

 

อบจ.เชียงราย เร่งสูบน้ำช่วยชุมชนทวีรัตน์ หลังน้ำท่วมขังนานกว่า 1 เดือน

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567 นายดำรงค์ศักดิ์ ยอดทองดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่ตรวจติดตามความคืบหน้าการฟื้นฟูพื้นที่สาธารณะและบ้านเรือนประชาชนในชุมชนทวีรัตน์ อำเภอเมืองเชียงราย หลังเกิดเหตุน้ำท่วมขังยาวนานกว่า 1 เดือน ส่งผลกระทบกับชาวบ้านประมาณ 40 หลังคาเรือน ซึ่งมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ถึง 20 หลังคาเรือน คิดเป็นพื้นที่กว่า 3 ตารางกิโลเมตร โดยมีความลึกของน้ำท่วมขังประมาณ 1 เมตร

นายดำรงค์ศักดิ์ได้มอบหมายให้กองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.เชียงราย) ประสานงานกับศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เขต 15 จังหวัดเชียงราย เพื่อนำเครื่องสูบส่งน้ำระยะไกลจำนวน 2 เครื่องเข้าดำเนินการสูบน้ำออกจากพื้นที่อย่างเร่งด่วน คาดว่าจะสามารถสูบน้ำให้เสร็จสิ้นได้ภายใน 2 วัน เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และคืนสภาพพื้นที่ให้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ

น้ำท่วมขังในพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่างเทศบาลนครเชียงรายและเทศบาลตำบลแม่ยาว

ชุมชนทวีรัตน์ ตั้งอยู่บริเวณหลังหมู่บ้านธนารักษ์ กองทัพบก ครอบคลุมพื้นที่ระหว่างเขตเทศบาลนครเชียงรายและเทศบาลตำบลแม่ยาว โดยมีบ้านเรือนจำนวน 26 ครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังอย่างหนักกว่า 14 หลังคาเรือน ลึกตั้งแต่ 30 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร สาเหตุหลักมาจากพื้นที่ดังกล่าวเคยเป็นหนองน้ำเก่า และถูกปรับเปลี่ยนเป็นที่อยู่อาศัย จึงมีลักษณะเป็นแอ่งกระทะ ทำให้มีน้ำท่วมขังบ่อยครั้งเมื่อฝนตกหนัก

เทศบาลนครเชียงรายได้พยายามแก้ปัญหาเบื้องต้นด้วยการใช้เครื่องสูบน้ำขนาดเล็กดำเนินการมาแล้ว 2 สัปดาห์ แต่ไม่สามารถสูบน้ำได้หมดเนื่องจากปริมาณน้ำมีจำนวนมาก จึงต้องขอความช่วยเหลือจาก ปภ. เขต 15 เชียงราย ในการนำเครื่องสูบส่งน้ำระยะไกลเข้ามาเพิ่มเติม พร้อมทั้งประสานกับหน่วยงานในพื้นที่เพื่อทำทางลัดเข้าสู่พื้นที่น้ำท่วม เพื่ออำนวยความสะดวกในการนำเครื่องจักรขนาดใหญ่เข้าพื้นที่

เร่งปรับเส้นทาง และเตรียมฟื้นฟูหลังน้ำลด

ในการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง อบจ.เชียงราย เทศบาลนครเชียงราย เทศบาลตำบลแม่ยาว กำนันตำบลแม่ยาว ผู้นำชุมชน และฝ่ายปกครองจังหวัด ได้มีการหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาและการเตรียมฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำลด โดยเบื้องต้นได้มอบหมายให้จัดเตรียมหินคลุกและทำการปรับเส้นทางลัดเข้าสู่พื้นที่น้ำท่วม เพื่อให้เครื่องสูบสามารถเข้าทำงานได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

ในบ่ายวันเดียวกัน กองป้องกันฯ อบจ.เชียงราย และ ปภ. เขต 15 เชียงราย ได้ดำเนินการวางหินคลุกและปรับเส้นทางเสร็จสิ้น พร้อมทั้งเตรียมเริ่มปฏิบัติการสูบน้ำในวันพรุ่งนี้ (11 ต.ค. 2567) คาดว่าจะสามารถสูบน้ำให้แห้งได้ภายใน 2 วัน

ฟื้นฟูพื้นที่และทำความสะอาดหลังน้ำลด

หลังจากดำเนินการสูบน้ำให้แห้งแล้ว หน่วยงานต่าง ๆ เช่น อบจ.เชียงราย เทศบาลนครเชียงราย เทศบาลตำบลแม่ยาว จะนำเครื่องจักรเข้ามากำจัดโคลนและทำความสะอาดพื้นที่ พร้อมทั้งทางสำนักงานปกครองจังหวัดและมณฑลทหารบกที่ 37 จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ อส. และทหาร เข้าช่วยเหลือชาวบ้านในการล้างทำความสะอาดบ้านเรือน เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับเข้าพื้นที่พักอาศัยได้โดยเร็ว

เร่งประสานแก้ไขข้อพิพาทและอาณาเขตการปกครอง

นายดำรงค์ศักดิ์ ยอดทองดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ยังมีปัญหาในด้านการจัดการอาณาเขตปกครองระหว่างเทศบาลนครเชียงรายและเทศบาลตำบลแม่ยาว เนื่องจากพื้นที่ทวีรัตน์บางส่วนอยู่ในเขตของทั้งสองเทศบาล ซึ่งอาจส่งผลต่อการประสานงานในการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยจะมีการประสานงานเพื่อจัดทำแผนงานแก้ไขปัญหาระยะยาว เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในอนาคต

ทั้งนี้ จังหวัดเชียงรายจะเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในชุมชนทวีรัตน์ พร้อมฟื้นฟูพื้นที่โดยเร็วที่สุด เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติและมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

น้ำท่วมเชียงราย 9 ก.ย. – 9 ต.ค. 67 ยอดเงินกองทุน 9,670,321.42 บาท

 

ข้อมูลสะสมระหว่างวันที่ 9 ก.ย. – 9 ต.ค. 2567 รวมทั้งสิ้น 13 อำเภอ 64 ตำบล 581 หมู่บ้าน 1 เทศบาลนคร (52 ชุมชน) โดยราษฎรได้รับผลกระทบเบื้องต้น 56,587 ครัวเรือน เสียชีวิต 14 ราย บาดเจ็บ 3 ราย บ้านเรือนราษฎรได้รับผลกระทบ(เสียหายทั้งหลัง) 112 หลัง ตลาดชุมชนเศรษฐกิจ ได้รับผลกระทบ 2 แห่ง ร้านค้า/สถานประกอบการ 92 แห่ง โรงงานอุตสาหกรรม 19 แห่ง พื้นที่เกษตรได้รับผลกระทบ 18,587 ไร่ ปศุสัตว์ได้รับผลกระทบ 49,054 ตัว (ได้แก่ โค 1,110 ตัว กระบือ 176 ตัว สุกร 66 ตัว แพะ/แกะ 25 ตัว สัตว์ปีก 47,677 ตัว) สัตว์เลี้ยง 322 ตัว (ได้แก่ สุนัข 145 ตัว แมว 154 ตัว และอื่นๆ 23 ตัว) บ่อปลา 1,074.53 ไร่ ด้านสิ่งสาธารณประโยชน์ได้รับผลกระทบ ได้แก่ โรงเรียน 42 แห่ง ถนน 42 จุด คอสะพาน 5 จุด และ รพ.สต. 1 แห่ง

 

รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ผู้อำนวยการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งได้เตรียมการมาเป็นอย่างดีทั้งเครื่องมือ อุปกรณ์เครื่องจักรกล ยุทโธปกรณ์ พร้อมกำลังพลในการเข้าไปช่วยเหลือ อย่างเร่งด่วน แต่เนื่องจากเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง หลายวัน ทำให้วันนี้ (9 ตุลาคม 2567) ได้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่

 

โดยเฉพาะที่ ได้แก่ อ.เมืองเชียงราย อ.เชียงแสน อ.เชียงของ อ.แม่จัน อ.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่สาย อ.ดอยหลวง อ.เทิง อ.เวียงแก่น อ.เวียงป่าเป้า อ.แม่สรวย อ.เวียงชัย และอ.แม่ลาว เกิดน้ำท่วมหนักในรอบหลายปี อย่างไรก็ตาม นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจ และเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน หากประชาชนต้องการขอความช่วยเหลือ หรือแจ้งเหตุ แจ้งได้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่สายด่วน 1784

 

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย รายงานสถานที่เกิดเหตุ/ความเสียหาย/การให้ความช่วยเหลือ (เหตุต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย. 67 และสถานการณ์ในวันนี้ (9 ต.ค. 67) ดังนี้

 

การให้ความช่วยเหลือ จังหวัดเชียงราย ได้จัดตั้งกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ปี พ.ศ. 2567 เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ในการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย และจัดหาปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นในการดำรงชีพ ผ่านทางธนาคาร กรุงไทย สาขาเชียงราย เลขที่บัญชี 504-3-23-732-5 ชื่อบัญชี กองทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ปี พ.ศ. 2567 โดยสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ 1 เท่า ยอดเงินบริจาค ณ วันที่ 9 ต.ค. 67 เวลา 16.30 น. จำนวน 9,670,321.42 บาท

 

การดำเนินการให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย การดำเนินการให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย อ.แม่สาย แบ่งพื้นที่ดำเนินการเป็น 2 โซนหลัก 6 โซนย่อย โซนหัวฝาย-สายลมจอย/เกาะทราย/ไม้ลุงขน : กระทรวงกลาโหม โซนเหมืองแดง/เหมืองแดงใต้/ ปิยะพร : กระทรวงมหาดไทย

 

ศูนย์พังพิงที่ยังคงให้บริการที่พักพิงชั่วคราวอยู่ จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ ศูนย์พักพิงเทศบาลตำบลแม่สาย จำนวน 87 ราย ศูนย์พักพิงวัดถ้ำผาจม 50 ราย ศูนย์พักพิงวัดเหมืองแดง 52 ราย รวมทั้งสิ้น 189 ราย

 

การดำเนินการปิดจุดรอยรั่ว ป้องกันการอุบัติซ้ำกรมการทหารช่าง เสริมความแข็งแรงของแนว Big Bag จำนวน 7 จุด ดำเนินการวางแนวชั้นที่ 1 จุดท่าเจ้ดาว จำนวน  40 เมตร (ผลการดำเนินการ 100%) ในวันพรุ่งนี้ (วันที่ 10 ต.ค. 67) จะดำเนินการวางแนวชั้นที่ 2/ บ้านเหมืองแดงใต้ ซึ่งไม่มีแนว Big Bag แต่ใช้การบดอัดคันดินป้องกันน้ำท่วมทดแทน แผนดำเนินการระยะทาง 200 เมตร ดำเนินการได้ 150 เมตร (75%)

 

สำนักงานทหารพัฒนา หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา วางชีทไพล์ 120 ต้น การฟื้นฟูระบบจ่ายน้ำประปาแผนการซ่อมแซมระบบประปา 472 จุด ดำเนินการแล้วเสร็จ 409 จุด(87%)  จุดซ่อมคงค้าง 63 จุด (14%) (จุดสำรวจแล้วรอเข้าซ่อม 61 จุด, จุดซ่อมคงค้าง 2 จุด)

 

การจ่ายน้ำเข้าพื้นที่ กปภ. สาขาแม่สาย จ่ายน้ำเข้าพื้นที่บริเวณศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ห้าแยกตลาดพลอย อาคารอเนกประสงค์บ้านเกาะทราย (เฟส 1 ตามแผนการจ่ายน้ำทั้งหมด 3 เฟส) โดยได้ระดมเจ้าหน้าที่จาก กปก.ข.9 และ กปก.สาขาในสังกัดใกล้เคียง เข้าสำรวจ/ซ่อมแซมระบบประปาที่ชำรุด/เสียหาย ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถจ่ายน้ำได้อย่างต่อเนื่อง ภายในวันที่ 8 ต.ค. 67 ในส่วนของพื้นที่ในเฟส 2 (ถนนไม้ลุงขน ตลาดพลอย ตลาดไม้ลุงขน เหมืองแดง) และเฟส 3 (เกาะทราย ไม้ลุงขน ผามควาย) กปก. ได้ประสานหน่วยงานฟื้นฟูพื้นที่ เพื่อร่วมกันวางแผนเคลียร์พื้นที่ตามลำดับ และคาดว่าจะสามารถจ่ายน้ำได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ภายในวันที่ 14 ต.ค. 67

การจ่ายน้ำโดยรถบรรทุกน้ำ กปภ. จำนวน 6 คัน เติมถังน้ำวัดถ้ำผาจม/ถังบ้านอาข่า แจกจ่ายน้ำพื้นที่หยุดจ่ายน้ำชุมชนเกาะทราย ชุมชนไม้ลุงขน  ผามควาย ชุมชนภูผาคำ และห้าแยกตลาดพลอย เติมรถสุขาสาธารณะ ศูนย์พักพิงวัดพรหมวิหาร

 

กปภ. สาขาแม่สาย สนับสนุนน้ำให้แก่หน่วยงานต่าง ๆ ดังนี้ รถน้ำของ ป4.พัน.104 และพัน สห.31 รถน้ำของ ส.พัน4. เพื่อสนับสนุนให้แก่ชุมชนบริเวณศาลเจ้าพ่อคำแดง รถน้ำของ มทบ.33 เพื่อสนับสนุนให้แก่โรงเรียนไม้ลุงขนฯ รถน้ำของ ร.17 และ ร.17พัน.2 เพื่อสนับสนุนให้แก่ชุมชนไม้ลุงขน โซน 3D รถน้ำของ ป.4 พัน.7 กองพันพัฒนาที่ 3  พัน สร.4 พลร.4 เพื่อสนับสนุนให้แก่ชุมชนหัวฝาย-สายลมจอย

 

การฟื้นฟูระบบจ่ายไฟฟ้า

ค้างจ่ายไฟฟ้าจำนวน 258 หลังคาเรือน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาแม่สาย ประกาศแผนกำหนดการเข้าตรวจสอบความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าภายในบ้าน เพื่อต่อกลับการใช้ไฟ ในพื้นที่บ้านเกาะทราย ม.7, บ้านไม้ลุงขน ม.10 และบ้านเหมืองแดง ม.2 ทั้งนี้ ได้มีประกาศขอความร่วมผู้ใช้ไฟที่ประสงค์ต่อกลับการใช้ไฟในพื้นที่ดังกล่าว รอรับการตรวจสอบฯ ตามกำหนดการดังนี้  วันที่ 7 ตุลาคม 2567 ถนนไม้ลุงขน ตลาดพลอยวันที่ 8 ตุลาคม 2567 เกาะทราย เกาะสวรรค์ ผามควาย วันที่ 9 ตุลาคม 2567 เหมืองแดง ซ.6 เหมืองแดง ซ.8 หน้าโรงเรียนไม้ลุงขนฯ

การดำเนินการให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย อ.เมืองเชียงราย

 

หมู่บ้านธนารักษ์ กองทัพบก ต.ริมกก อ.เมืองชร. : หน่วยรับผิดชอบ ได้แก่ มทบ.37 และกอ.รมน.จว.เชียงราย ภารกิจดูดโคลนถนนสายหลักภายในหมู่บ้าน 2 สาย นำขยะไปยังที่พักขยะ และฉีดน้ำรีดโคลนออกจากบ้าน รายละเอียดดังนี้ อาคารบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบ 273 หลัง แสดงเจตนาให้เจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการ 63 หลัง ดำเนินการฟื้นฟูเรียบร้อยแล้ว 61 หลัง (97%) รอดำเนินดำเนินการ 2 หลัง (3%)

 

พื้นที่นอกเขตเทศบาลนครเชียงราย : หน่วยรับผิดชอบ ได้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย

ตำบลแม่ยาวบ้านป่าอ้อใหม่ หมู่ที่ 5 ซอยทวีรัตน์ (พื้นที่คาบเกี่ยวกับชุมชนทวีรัตน์ เขตเทศบาลนครเชียงราย) ผลการดำเนินการความก้าวหน้า มีน้ำท่วมขังจำนวน 10 ครัวเรือน ระดับน้ำประมาณ 30 – 50 ซม.  ยังไม่สามารถเข้าดำเนินการได้ ตำบลดอยฮาง บ้านผาเสริฐพัฒนา หมู่ที่ 6 บริเวณบ่อน้ำพุร้อนผาเสริฐ ดำเนินการล้างอาคาร สระน้ำพุ กำจัดดินโคลนและปรับพื้นที่ ตำบลริมกก บ้านเมืองงิม หมู่ที่ 4 ภาพรวมผลการดำเนินการฉีดล้างทำความสะอาดบ้านเรือน 95% (ที่เหลือหมู่บ้านดำเนินการเอง) อยู่ระหว่างซ่อมพนังกันน้ำ วางบิ๊กแบ็ค ทำทางชั่วคราว ต.รอบเวียง บ้านป่างิ้ว หมู่ที่ 4 (หาดเชียงราย) ภาพรวมผลการดำเนินการ 65% ขนย้ายดินดินโคลน เก็บขยะ ทำความสะอาดร้านค้า 32 หลัง บ้านที่อยู่อาศัย อบต.รอบเวียงได้เข้าดำเนินการฟื้นฟูเรียบร้อยแล้วคงค้างขยะบ้านเรือน ต.นางแล บ้านเด่น หมู่ที่ 5 ทำพนังกั้นน้ำ(พนังดิน) 1 จุด ผลดำเนินการ 100% ต.ห้วยชมภู ถ.บ้านจะคือ หมู่ที่10 เส้นทางไปบ้านแม่สลัก หมู่ที่ 9 อยู่ระหว่างปรับเกลี่ยดิน เปิดใช้เส้นทาง

 

การก่อสร้างบ้านน็อคดาวน์ให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วม กรณีบ้านถูกน้ำพักเสียหายทั้งหลัง ตามโครงการ “โครงการบ้านร่วมใจ” ในพื้นที่ตำบลแม่ยาว ตำบลริมกก และตำบลดอยฮาง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เป้าหมายรวม 31 หลัง ดำเนินการโดยเรือนจำกลางจังหวัดเชียงราย คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 17 ต.ค. 67

 

การกำจัดเศษวัสดุ ขยะ และดินโคลนตามเส้นทาง จุดพักขยะจำนวน 7 จุด ปริมาณขยะ 45,783 ตัน

เทศบาลนครเชียงราย ดำเนินการให้ความช่วยเหลือประชาชน ดังนี้ ให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมเบื้องต้น ครอบครัวละ 2,500 บาท  มอบไปแล้ว 7,590 ครัวเรือน เป็นเงินทั้งสิ้น 18,975,000 บาท คงเหลืออีก 838 ครัวเรือน เยียวยาตาม มติ ครม. เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 2567 มอบไปแล้ว 3,690 ครัวเรือน เป็นเงินทั้งสิ้น 18,450,000 บาท คงเหลืออีก 4,738 ครัวเรือน

 

การดำเนินการให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย อ.เวียงป่าเป้า

เทศบาลตำบลป่างิ้ว พร้อมด้วยฝ่ายปกครองร่วมกันฟื้นฟูทำความสะอาดบ้านเรือนราษฎรและซ่อมแซมสิ่งสาธารณประโยชน์ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุอุทกภัย เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2567 ดำเนินการแล้วเสร็จ 100%

องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านโป่ง พร้อมด้วยฝ่ายปกครองร.17พัน.3 ภาคเอกชน และราษฎรในพื้นที่ ร่วมกันฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบบ้านห้วยหินลาด(หย่อมบ้านห้วยทรายขาว) หมู่ที่ 7 ต.บ้านโป่ง

 

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาเวียงป่าเป้า ซ่อมแซมระบบจ่ายไฟให้กับครัวเรือนในพื้นที่

หย่อมบ้านห้วยไม้เดื่อ บ้านดงหล่ายหน้า หมู่ที่ 7 ต.เวียง และหย่อมบ้านห้วยทรายขาว บ้านห้วยหินลาด หมู่ที่ 7 ต.บ้านโป่ง ผลดำเนินการกู้ระบบไฟฟ้าประมาณ 95% คาดว่าจะแล้วเสร็จในวันพรุ่งนี้ (วันที่ 10 ต.ค.67)

 

มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย

รถประกอบอาหารเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) จัดตั้งโรงครัวพระราชทาน ณ ที่ว่าการอำเภอแม่สาย ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย. 67 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน (วันที่ 8 ต.ค. 67) ประกอบอาหาร จำนวน 2 มื้อ รวมทั้งหมด 3,630 กล่อง ประกอบด้วยเมนู หมูผัดพริกไทยดำ ลาบหมู ผัดคะน้าหมูชิ้น  ผัดกระเพราหมูชิ้น ผัดพริกแกงหมูชิ้น ไก่กรอบผัดกระเทียม เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ประสบอุทกภัยอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

 

ชมรมแม่บ้านมหาดไทย

“แม่บ้านมหาดไทยร่วมใจฟื้นฟูเชียงราย” จัดตั้งโรงครัว (ครัวแม่บ้านมหาดไทย) เพื่อผลิตอาหาร เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและดินถล่ม ตลอดจนเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ณ หอประชุมชั้นล่างอาคาร 7 วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงราย อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค. 67 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน (วันที่ 7 ต.ค. 67)

 

กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน ได้ส่งกำลังพล สมาชิก อส. จากส่วนกลาง และร้อย อส.จ. จาก 36 จังหวัด กองบังคับการจังหวัด จำนวนไม่น้อยกว่า 1,462 นาย ปฏิบัติภารกิจฟื้นฟูบูรณะพื้นที่ประสบอุทกภัยและช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2567 เป็นต้นไป จนกว่าจะสิ้นสุดภารกิจ รายละเอียดดังนี้

อ.แม่สาย จ่ายกำลังพล 850 นาย ดำเนินการในพื้นที่บ้านเหมืองแดงใต้ บ้านเหมืองแดง และหมู่บ้านปิยะพร เป้าหมาย 314 หลัง

อ.เมืองเชียงราย จ่ายกำลังพล 612 นาย ดำเนินการในพื้นที่ในเขตเทศบาลนครเชียงราย

นอกเขตเทศบาลนครเชียงราย (พื้นที่ตำบลแม่ยาว ดอยฮาง ริมกก รอบเวียง ห้วยชมภู และนางแล) และพื้นที่สาธารณะ

 

การสนับสนุนเครื่องจักรกลสาธารณภัยด้านปฏิบัติการ (อุทกภัย) และกำลังพล ของศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ประจำวันที่ 9 ต.ค. 67 ดังนี้

ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ เขต 8 กำแพงเพชร เขต 9 พิษณุโลก เขต 10 ลำปาง  เขต 11 สุราษฎร์ธานี และเขต 15 เชียงราย นำหัวลากพร้อมหางลากจูงเครื่องจักรกล รถขุดตักไฮดรอลิคยกสูง รถตักล้อยางเอนกประสงค์ รถขุดล้อยางกู้ภัยปรับฐานล้อ รถตีนตะขาบ รถบรรทุเทท้าย 6 ล้อ 6 ตัน รถบรรทุกขนาดใหญ่ 6 ล้อ รถขุดตักไฮดรอลิค ทั้งชนิดแขนสั้น และแขนยาว ทำการขุดตักขนย้ายดินโคลน เศษวัสดุ สิ่งปรักหักพัง ออกจากบ้านเรือนราษฎรในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลแม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย และนำหินคลุกเททำทางเข้า-ออกพื้นที่ทิ้งเศษวัสดุ หมู่ที่ 10 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย

 

ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 8 กำแพงเพชร นำรถบรรทุกน้ำอเนกประสงค์ขนาด 12,000 ลิตร และรถบรรทุกน้ำช่วยดับเพลิง 10,000 ลิตร ร่วมกับ อส. ฉีดล้างทำความสะอาดบริเวณสวนสาธารณะเกาะลอย ตำบลเวียง และศูนย์ประชุมสินค้านานาชาติ GMS ตำบลริมกก อำเภอเมืองชร. จังหวัดเชียงราย

 

ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 9 พิษณุโลก นำรถบรรทุกน้ำดับเพลิงขนาด 10,000 ลิตร จำนวน 2 คัน และรถบรรทุกน้ำอเนกประสงค์ ขนาด 12,000 ลิตร จำนวน 1 คัน แจกจ่ายน้ำให้กับประชาชนหมู่บ้านกิจโพธิ์ทอง/บ้านเมืองงิม ม.4 ต.ริมกก ,บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงราย ต.สันทราย อ.เมืองชร. จ.เชียงราย

 

ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 15 เชียงราย สนับสนุนยานพาหนะและเจ้าหน้าที่ ปฏิบัติภารกิจ ดังนี้

นำรถขุดตักไฮดรอลิค ปรับเส้นทางสัญจร ถนนในพื้นที่บ้านรวมมิตร หมู่ที่ 2 ต.แม่ยาว อ.เมืองชร. จ.เชียงราย

นำรถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย บรรทุกผ้าห่ม จำนวน 20 กระสอบ 12 กล่อง จากศูนย์รับบริจาค ศปภ. เขต 15 เชียงราย นำส่งให้กาชาดจังหวัดเชียงราย เพื่อมอบให้ผู้ประสบภัยต่อไป

 

นำรถบรรทุกน้ำช่วยดับเพลิงขนาด 10,000 ลิตร ไปฉีดล้างทำความสะอาดในบริเวณอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

นำรถบรรทุกน้ำอเนกประสงค์ขนาด 12,000 ลิตรไปฉีดล้างทำความสะอาดบริเวณหน้าด่านพรมแดนแม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย

 

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดเชียงราย บรรเทาความเดือดร้อนผู้ใช้ไฟฟ้าที่ประสบภัยน้ำท่วม ตามมาตรการ “PEA บรรเทาความเดือดร้อนผู้ใช้ไฟฟ้าที่ประสบภัยน้ำท่วม ในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคะวันออกเฉียงเหนือ” ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 24 กันยายน 2567 เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยและกิจการขนาดเล็ก (ไม่รวมส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ) ที่อยู่ในพื้นที่ที่หน่วยงานราชการประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติจากอุทกภัย สำหรับค่าไฟฟ้าประจำเดือนกันยายนและเดือนตุลาคม 2567 เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและลดภาระค่าไฟฟ้าให้กับผู้ประสบภัย โดยมีรายละเอียด ดังนี้ไม่เรียกเก็บค่าไฟฟ้า เดือนกันยายน 2567 กรณีชำระแล้ว PEA จะดำเนินการคืนเงินโดยนำไปหักลดจากค่าไฟฟ้าเดือนถัด ๆ ไป ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าร้อยละ 30 ก่อนคํานวณภาษีมูลค่าเพิ่ม ในเดือนตุลาคม 2567

 

ศูนย์พักพิง ที่ยังเปิดศูนย์ฯ ให้บริการที่พักพิงชั่วคราวอยู่ ณ วันที่ 8 ต.ค. 67 รวมทั้งสิ้น 5 แห่ง

แบ่งตามขอบเขตการปกครอง ได้แก่ อ.แม่สาย 3 แห่ง/ อ.เวียงป่าเป้า 1 แห่ง/ วันที่ 2 ต.ค. 67 อ.เมืองเชียงราย 1 แห่ง

ศูนย์พักพิงฯ ที่มีทีมแพทย์และสาธารณสุขให้บริการด้านการแพทย์ เยียวยาจิตใจ แจกจ่ายยาและเวชภัณฑ์ ทั้งหมด 4 แห่งรายละเอียดดังนี้

 

อำเภอแม่สาย ที่ยังเปิดศูนย์ฯ ให้บริการที่พักพิงชั่วคราวอยู่ ณ ปัจจุบัน 3 แห่ง รวมทั้งสิ้น 173 คน (โดยเป็นศูนย์พักพิงฯ ที่มีทีมแพทย์และสาธารณสุขให้บริการ ทั้ง 3 แห่ง) ดังนี้ ศูนย์พักพิงเทศบาลตำบลแม่สาย* คงค้างจำนวน 87 ราย  ศูนย์พักพิงวัดเหมืองแดง* คงค้างจำนวน 50 ราย ศูนย์พักพิงวัดถ้ำผาจม* คงค้างจำนวน 36 ราย

อำเภอเวียงป่าเป้า ศูนย์พักพิง อบต.บ้านโป่ง จำนวน 1  แห่ง  คงค้างจำนวน 26 คน

อำเภอเมืองเชียงราย วันที่ 2 ต.ค. 67 องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เปิดศูนย์อพยพ/พักพิง (ชั่วคราว) ณ อาคารเรียน 10 โรงเรียน อบจ. เชียงราย (ด้านหลังรูปปั้นบัวบาน ผามั่ง)

 

มูลนิธิสมาคมกู้ชีพกู้ภัย อาสาสมัคร จิตอาสาภาคประชาชน ร้านค้า/ผู้ประกอบการ สนับสนุนปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย ให้ที่พักพิงชั่วคราว มอบอาหารปรุงสำเร็จ และถุงยังชีพ

 

วิทยาลัยอาชีวศึกษาและโรงเรียนในเครือ ดำเนินโครงการศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน Fix It Center

ตั้งจุดบริการและจัดชุดเคลื่อนที่ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยจะช่วยซ่อมแซมอุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ รวมถึงยานพาหนะที่เสียหาย เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย. เป็นต้นมา

 

ศูนย์ซ่อมสร้าง Fix it Center ถาวร ซ่อมฟรี เครื่องใช้ไฟฟ้า และรถจักรยานยนต์ ที่เสียหายจากเหตุอุทกภัย จำนวน 3 แห่ง ดังนี้ ภายในวิทยาลัยเทคนิคเชียงราย อ.เมืองชร. วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงราย อ.เมืองชร. จุดบริการบ้านเวียงกือนา หมู่ที่ 2 ต.ริมกก อ.เมืองชร.

 

ช่างซ่อมจิตอาสา ช่างซ่อมจิตอาสาจังหวัดสมุทรปราการ นำโดยช่างเต้ วัดด่าน ตั้งศูนย์ช่วยซ่อมจักรยานยนต์ที่โดนน้ำท่วม ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ระหว่างวันที่ 3 – 15 ต.ค. 2567 ณ ศูนย์การเรียนรู้ อบจ.เชียงราย สี่แยกศูนย์ราชการ

 

นายอภิวัฒน์ เรืองโรจ และนายสุวิทย์ ขวัญแก้ว สองพี่น้องใจบุญ ที่ขับรถจักรยานยนต์มาจากกรุงเทพมหานครเพื่อช่วยซ่อมรถให้ชาวเชียงรายฟรี โดยได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เกิดเหตุอุทกภัย และตั้งใจอยู่ช่วยต่อจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ณ จุดรับซ่อมบริเวณหน้าศูนย์ยามาฮ่าสามแยกทางเข้าวัดฝั่งหมิ่น พิกัด : https://maps.app.goo.gl/fR3Y8Jt11D9BtMGVA

 

วันที่ 17 ก.ย. 67 ทภ.3 จัดตั้ง ศบภ.ทภ.3 ส่วนหน้า ณ ที่ว่าการอำเภอแม่สาย เพื่ออำนวยการประสานงานการให้ความช่วยเหลือประชาชนของหน่วยทหารทุกหน่วย ในพื้นที่ อ.แม่สาย จนถึงปัจจุบัน

 

กองบัญชาการกองทัพไทย จัดตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองบัญชาการกองทัพไทย ณ โรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย

 

อบจ.เชียงราย ให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วม  ด้านดำรงชีพ ดังนี้ ค่าใช้จ่ายด้านดำรงชีพ ได้แก่ค่าเครื่องนุ่งห่ม รายละไม่เกิน 1,100 บาท ค่าเครื่องมือประกอบอาชีพ เท่าที่จ่ายจริง ครอบครัวละไม่เกิน 11,400 บาท ค่าเครื่องครัวและอุปกรณ์ในการประกอบอาหาร เท่าที่จ่ายจริง ครอบครัวละไม่เกิน 3,500 บาทค่าเครื่องนอน รายละไม่เกิน 1,000 บาท หลักฐานที่ต้องเตรียม ได้แก่ สำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประชาชนของเจ้าของบ้านที่ประสบภัย รูปภาพความเสียหาย กรณีผู้เช่า แนบเอกสารสัญญาเช่า การขอรับความช่วยเหลือ ผ่าน อบต. หรือ ทต. ที่ประสบภัย ในวันและเวลาราชการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบจ.เชียงราย ฝ่ายสงเคราะห์ผู้ประสบภัย โทร. 053175329 หรือ 053175333 ต่อ 1402 ในวันและเวลาราชการ ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 17 – 30 ก.ย. 2567 ขยายเวลาถึงวันที่ 15 ต.ค.67

 

การปฏิบัติงานฟื้นฟูบูรณะ และกู้คืนพื้นที่ของจิตอาสาราชทัณฑ์ (จอส.รท.) และเจ้าหน้าที่สังกัดกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ประจำวันที่ 8 ต.ค. 67

 

เวลา 08.30 น. เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางเชียงรายและกำลังสนับสนุนจากเรือนจำ/ทัณฑสถาน เขต 5 (รจจ.ลำพูน, รจจ.พะเยา ,ทสบ.ลำปาง ,รจอ.แม่สะเรียง, รจก.ลำปางและ รจจ.ฝาง) จำนวน 16 นาย นำผู้ต้องขัง จำนวน 78 คน ร่วมกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์(ในรูปแบบ CSR) บรรเทาภัยน้ำท่วมพื้นที่จังหวัดเชียงราย ดังนี้ 

 

ภารกิจภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ปรับภูมิทัศน์ ขนย้ายสิ่งของ ล้างทำความสะอาดสิ่งของเปื้อนโคลน บ้านเรือนประชาชนหลังน้ำลด จำนวน  8 จุด ภารกิจดำเนินการก่อสร้างบ้านน็อคดาวน์ จำนวน 6 หลัง บ้านเมืองงิม หมู่ที่ 4 ต.ริมกก จำนวน 1 หลัง บ้านจะเด้อ หมู่ที่ 6 ต.ดอยฮาง จำนวน 1 หลัง บ้านรวมมิตร หมู่ที่ 2 ต.แม่ยาว  จำนวน 2 หลัง บ้านแควัวดำ หมู่ที่ 12 ต.แม่ยาว จำนวน 2 หลัง

 

ปฏิบัติการดูดโคลนเลนที่อุดตันบริเวณท่อระบายน้ำ ตามตรอก ถนน และจุดต่าง ๆ ที่กีดขวางทางระบายน้ำพื้นที่ประสบอุทกภัยในเขตพื้นที่ในเขตพื้นที่เทศบาลนครเชียงราย ประจำวันที่ 9 ต.ค. 67 อบจ.สมุทรปราการ รถดูดโคลน 2 คัน ปฏิบัติงาน ต.แม่สาย อ.แม่สาย คันที่ 1 ปฏิบัติงานบริเวณโรงเรียนไม้ลุงขนฯ ต.แม่สาย อ.แม่สาย ปริมาณดินโคลนที่ดูดได้ 72 ลูกบาศก์เมตร คันที่ 2 ปฏิบัติงานบริเวณเหมืองแดงใต้ ซอย 5  ปริมาณดินโคลนที่ดูดได้ 2 ลูกบาศก์เมตร

เทศบาลตำบลบางปู ปฏิบัติงานบริเวณหมู่บ้านธนารักษ์ กองทัพบก เส้นเมนระยะทางที่ลอก 360 เมตร ขนาดท่อ 80 ซม. และ 60 ซม. ปริมาณดินโคลนที่ดูดได้ 80 ลูกบาศก์เมตร

 

เทศบาลตำบลบางเมือง ดูดโคลนเลน ซอย 8/1 แมนชั่น และซอย ซอย 8/2  จำนวน 9 รอบ รวม 72,000 ลิตร

ทีมจังหวัดปทุมธานี ประกอบด้วย ทม.ท่าโขลง และ ทม.ลาดสวาย ดำเนินการล้างถนน 5 วอย ระยะทาง 1,200 เมตร

ชุดปฏิบัติการดูดโคลนกรุงเทพมหานคร ปฏิบัติงานบริเวณโรงเรียนเทศบาล 6 นครเชียงราย

ในวันที่ 9 ต.ค.67 เวลา 18.00 น. ดำเนินการจนกว่าจะแล้วเสร็จ

 

บริษัท วอชแอนด์โก Code Clean ให้บริการ ซัก อบ ผ้า น้ำยา ฟรี แก่ผู้ได้รับผลกระทบน้ำท่วม ตลอด 24 ชั่วโมง และเปิดให้บริการจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ จำนวน 3 จุด ได้แก่ ณ ลานธรรม ลานศิลป์ ถิ่นพญามังราย หรือลานรัชกาลที่ 5 (ศาลากลางจังหวัดหลังแรก) ตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย. 67 เป็นต้นมา ถึงปัจจุบัน ณ สถานีดับเพลิงเทศบาลนครเชียงราย หน้าวัดดงหนองเป็ด ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย. 67 เป็นต้นมา ถึงปัจจุบัน หน้ามูลนิธิสยามเชียงราย สำนักงานใหญ่ จุด 5 แยก พ่อขุนฯ ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. 67 เป็นต้นมา ถึงปัจจุบัน

 

งานบริการถ่ายบัตรประชาชน : กรมการปกครอง โดยส่วนบัตรประจำตัวประชาชน ศูนย์บริหารการทะเบียนภาค และอำเภอแม่สาย ขยายระยะเวลางานบริการถ่ายบัตรประชาชน จากเดิมตั้งแต่วันที่ 19 – 30 กันยายน 2567 ตั้งแต่เวลา 08.30 – 17.00 น. ขยายระยะเวลาออกไปตั้งแต่วันที่ 1 – 31 ตุลาคม 2567 ในวันและเวลาราชการ ณ สำนักงานเทศบาลตำบลแม่สาย ชั้น 2 งานทะเบียนราษฎร์

 

วันที่ 9 ต.ค. 67 นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และพลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พบปะให้กำลังใจมอบถุงยังชีพบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 80 ชุด และอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านเรือน แก่ เครือข่าย OTOP ที่ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมทั้งร่วมประกอบอาหารเพื่อแจกจ่ายให้ผู้ประสบภัย ทหาร และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนที่มาช่วยฟื้นฟูพื้นที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย โดยมี นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายดำรงค์ศักดิ์ ยอดทองดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมมอบฯ

 

วันที่ 8 – 9 ต.ค. 67 สภากาชาดไทย โดยสำนักงานยุวกาชาด และอาสาสมัครกาชาด จัดโครงการอาสาสมัครกาชาด อาสาสาด้วยใจร่วมฟื้นฟูภัยพิบัติ จังหวัดเชียงราย โดยมีอาสาสมัครกาชาด อาสายุวกาชาด คณะผู้บริหาร ครูในจังหวัดเชียงราย สกร.ระดับอำเภอจาก 18 อำเภอ กลุ่มไฟฟ้าจิตอาสา และสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดพะเยา กว่า 300 คน เข้าร่วม ณ สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดเชียงราย อ.เมืองเชียงราย ซึ่งได้เร่งฟื้นฟูพื้นที่การเรียนรู้ของชุมชน ขนย้ายสิ่งของ ล้างทำความสะอาด รวมถึงซ่อมระบบไฟฟ้า ณ อาคารศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอเมืองเชียงราย เพื่อคืนพื้นที่การเรียนรู้ให้กับเด็กและเยาวชน ได้ทันช่วงเวลาที่จะเปิดภาคเรียน และประชาชนที่จะได้เข้ามาใช้บริการต่อไป

 

วันที่ 9 ต.ค. 67 นายธเนศ โกมลธง รองนายกเทศมนตรีนครเชียงราย คณะผู้บริหาร สท. พี่น้องชุมชนร่องเสือเต้น ชุมชนฝั่งหมิ่น ปลัดเทศบาลนครเชียงรายร่วมกับ พ.ต.ท. มณฑล พสิษฐ์มณฑล รองผกก.ฝอ.ภ.จว.เชียงราย เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจภูธรเมืองเชียงราย ตำรวจตระเวนชายแดนกองร้อย 327 กองร้อยอาสารักษาดินแดน จาก 37 จังหวัด ร่วมกันฟื้นฟูสวนสาธารณะริมกก(ชุมชนร่องเสือเต้น ชุมชนฝั่งหมิ่น ชุมชนป่าแดง) ระยะทาง 1.6 กม.

 

วันที่ 7 ต.ค. 67 นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย รับมอบน้ำมันเครื่อง Shell Advance 4T Ax5  สำหรับรถจักรยานยนต์ 4 จังหวะทุกรุ่น จำนวน 3,000 ลิตร  รวมมูลค่า 567,000 บาท จากบริษัท เติมสุขออยล์ จำกัด โดยคุณสาริกา มัลโฮตรา ตัวแทนของบริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ประสบอุทกภัยที่รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมในพื้นที่เมืองเชียงราย

วันที่ 9 ต.ค. 67 หน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เก็บขนวัสดุดินโคลน ฉีดล้างพื้นที่ ปรับปรุงภูมิทัศน์ ตัดแต่งกิ่งไม้ เก็บขนออกจากพื้นที่ และบำรุงรักษาต้นไม้ตามหลักรุกขวิทยา ณ สวนสาธารณะพรหมราช(สวนสุขภาพ) ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย พื้นที่ดำเนินการประมาณ 20 ไร่ อัตรากำลัง ทั้งสิ้น จำนวน 125 นาย ประกอบด้วย สบอ.15 ชร. จำนวน 60 นาย สจป.ที่ 2 เชียงราย จำนวน 40 นาย ทสจ.ชร. จำนวน 25 นาย ดำเนินการแล้วเสร็จทั้งหมด 20 ไร่ (100%)

 

วันที่ 9 ต.ค. 67 เวลา 12.00 น. ณ ที่ว่าการอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายวรงค์ แสงเมือง รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน คณะผู้บริหาร คณะกรรมการเครือข่าย OTOP ระดับประเทศ  ลงพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อส่งมอบกำลังใจให้กับผู้ประสบภัยและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน พร้อมพบปะพูดคุยให้กำลังใจ และเยี่ยมบ้านผู้ประสบภัย สนับสนุนเครื่องมืออุปกรณ์ในการทำความสะอาดอาคารบ้านเรือน และมอบถุงยังชีพ เพื่อช่วยเหลือ บรรเทาทุกข์ผู้ที่ได้รับความเดือนร้อนจากอุทกภัย และช่วยเหลือผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่

 

โรงครัวลุงอู๊ดอีจัน “เพจอีจัน” โรงครัวช่วยผู้ประสบภัย ทีมตอบโต้ภัยพิบัติ “มูลนิธิเพชรเกษม”

ตั้งโรงครัว ณ ที่ว่าการอำเภอแม่สาย ตั้งตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย. – 8 ต.ค. 67 เป็นระยะเวลา 29 วัน ผลิตข้าวกล่องประกอบเลี้ยงผู้ประสบภัย เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานและจิตอาสา จำนวนทั้งสิ้น  261,076 กล่อง

 

แนวโน้มสถานการณ์ คาดหมายลักษณะอากาศ (24 ชั่วโมงข้างหน้า) : บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีกำลังอ่อนลงแต่ยังคงทำให้ภาคเหนือตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า ในขณะที่มีลมฝ่ายตะวันออกพัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือและจังหวัดเชียงรายฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นบางแห่ง รายละเอียดดังนี้ พื้นที่ฝนเล็กน้อย จำนวน 6 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองเชียงราย/ แม่สรวย/ แม่ลาว/ เวียงป่าเป้า /เทิง และเวียงแก่น

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

อบจ.เชียงราย เร่งฟื้นฟูบ้านแม่ยาว สูบน้ำขังแก้ปัญหาเร่งด่วน

 

อบจ.เชียงราย เร่งฟื้นฟูหลังน้ำท่วมหมู่บ้านป่าอ้อใหม่ สูบน้ำขังแก้ปัญหาเร่งด่วน

วันที่ 10 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ได้มอบหมายให้ นายจิราวุฒิ แก้วเขื่อน ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย พันจ่าเอกทวีป เชี่ยวสุวรรณ หัวหน้าฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และบุคลากร อบจ.เชียงราย ลงพื้นที่ บ้านป่าอ้อใหม่ ตำบลแม่ยาว อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย เพื่อติดตามสถานการณ์และวางแผนแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ เนื่องจากหมู่บ้านดังกล่าวยังคงมีน้ำท่วมขังยาวนานกว่า 1 เดือน หลังจากเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ตั้งแต่วันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา แม้ว่าสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดเชียงรายหลายพื้นที่จะเริ่มคลี่คลายแล้ว แต่ในบ้านป่าอ้อใหม่ยังคงประสบปัญหาน้ำท่วมขังเนื่องจากไม่มีทางระบายน้ำออกจากพื้นที่

อบจ. เชียงราย นำเครื่องสูบน้ำใหญ่ 2 เครื่องเข้าพื้นที่

หลังจากได้รับแจ้งปัญหาจากผู้ใช้โซเชียลที่ใช้ชื่อว่า “แมรี่ จอย” ซึ่งได้โพสต์ข้อความขอความช่วยเหลือเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2567 ว่า “บ้านถูกน้ำท่วมมาตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน จนถึงตอนนี้น้ำยังไม่แห้ง อยากให้หน่วยงานมาช่วยสูบน้ำออกให้หน่อยค่ะ” อบจ.เชียงรายได้ร่วมมือกับ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 15 นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่จำนวน 2 เครื่อง เข้าไปติดตั้งในพื้นที่หมู่บ้านป่าอ้อใหม่ เพื่อเร่งทำการสูบน้ำออกจากพื้นที่โดยใช้เวลาประมาณ 2 วันในการสูบน้ำท่วมขังที่ยังไม่มีทางระบายออกให้หมดไป

จังหวัดเชียงรายเร่งเสริมกำลังเคลียร์พื้นที่โคลนหลังสูบน้ำ

ขณะเดียวกัน ผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเชียงราย (กอ.รมน.) ได้ประสานงานร่วมกับ อบจ.เชียงราย เพื่อนำรถขุดเข้ามาช่วยเคลียร์พื้นที่โคลนที่สะสมอยู่ในบริเวณบ้านเรือนและพื้นที่สาธารณะหลังการสูบน้ำเสร็จสิ้น เนื่องจากระดับน้ำที่ท่วมขังมาเป็นเวลานาน ทำให้โคลนและตะกอนดินสะสมหนาแน่นในหลายจุด ก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขอนามัยและการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน

สภาพความเสียหายหนัก ชาวบ้านต้องอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัย

จากการสำรวจพื้นที่เบื้องต้นพบว่า บ้านเรือนกว่า 10 หลัง ในหมู่บ้านป่าอ้อใหม่ ตำบลแม่ยาว อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมครั้งนี้ โดยบางหลังมีโครงสร้างที่เสียหายจากการกัดเซาะของน้ำ ต้องทำการซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน รวมถึงพื้นที่เกษตรกรรมและสวนผักของชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่ต้องประสบปัญหาขาดแคลนอาหารและทรัพยากรในการดำรงชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ ถนนภายในหมู่บ้านและเส้นทางเข้า-ออกหมู่บ้านหลายจุดถูกน้ำกัดเซาะจนเกิดเป็นหลุมลึก ส่งผลให้การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก และยังไม่สามารถนำยานพาหนะขนาดใหญ่เข้าไปได้

 
อบจ.เชียงรายเตรียมแผนฟื้นฟูหลังน้ำลดอย่างเป็นระบบ

นายจิราวุฒิ แก้วเขื่อน ที่ปรึกษานายก อบจ.เชียงราย เปิดเผยว่า หลังจากการสูบน้ำออกจากพื้นที่แล้ว อบจ.เชียงรายได้วางแผนฟื้นฟูอย่างเป็นระบบ โดยจะเริ่มจากการซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานที่เสียหาย เช่น ถนน ทางเท้า และการปรับปรุงระบบระบายน้ำในหมู่บ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำท่วมซ้ำในอนาคต รวมถึงการพิจารณาสร้างแนวกำแพงกั้นน้ำเพิ่มเติมในจุดที่เป็นพื้นที่เสี่ยง พร้อมทั้งเร่งสนับสนุนชาวบ้านในการทำความสะอาดและฟื้นฟูบ้านเรือน เพื่อให้ชาวบ้านสามารถกลับมาพักอาศัยในบ้านของตนเองได้อย่างปลอดภัยอีกครั้ง

เรียกร้องภาครัฐสนับสนุนเพิ่มเติมในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง

นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย กล่าวว่า ปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ตำบลแม่ยาวนั้นไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการสูบน้ำเพียงอย่างเดียว จำเป็นต้องมีการปรับปรุงระบบระบายน้ำและพิจารณาการก่อสร้างคันกั้นน้ำเพิ่มเติม เนื่องจากตำบลแม่ยาวเป็นพื้นที่ราบต่ำที่ไม่มีทางระบายน้ำโดยตรงลงสู่แม่น้ำกก จึงต้องการการสนับสนุนจากภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการวางแผนปรับโครงสร้างพื้นฐานและระบบการระบายน้ำใหม่อย่างเป็นระบบ เพื่อให้การแก้ปัญหาเป็นไปอย่างยั่งยืน

บทสรุป: อบจ. เชียงรายเร่งสูบน้ำบ้านป่าอ้อใหม่ พร้อมวางแผนฟื้นฟู

การฟื้นฟูหมู่บ้านป่าอ้อใหม่ในครั้งนี้ เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงราย โดย อบจ.เชียงรายมีแผนที่จะทำงานร่วมกับภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาระบบระบายน้ำและโครงสร้างพื้นฐานในระยะยาว เพื่อให้หมู่บ้านป่าอ้อใหม่และชุมชนใกล้เคียงสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยและมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากอีกต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

วิศวกรไทยร่วมฟื้นฟูเชียงรายหลังน้ำท่วม แนะปรับผังเมืองเพื่อรับมือภัยพิบัติ

 

วิศวกรไทยร่วมฟื้นฟูเชียงรายหลังน้ำท่วม แนะปรับผังเมืองเพื่อรับมือภัยพิบัติ

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากทีมวิศวกรจาก สมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย และ มูลนิธินายช่างไทยใจอาสา ภายใต้การนำของ ศ. ดร.อมร พิมานมาศ นักวิจัยจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากน้ำท่วมในอำเภอเมืองและอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย พบว่าความเสียหายในพื้นที่มีระดับสูงทั้งด้านระบบโครงสร้าง และระบบสาธารณูปโภค ซึ่งต้องมีการฟื้นฟูอย่างเร่งด่วนเพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย

น้ำท่วมเชียงรายเสียหายหนัก บ้านเรือนและระบบสาธารณูปโภคพังยับ

จากการสำรวจของทีมวิศวกรพบว่า บ้านเรือนในอำเภอแม่สายได้รับความเสียหายกว่า 150 หลังคาเรือน โดยเฉพาะบ้านเรือนที่อยู่ติดริมน้ำถูกน้ำกัดเซาะจนโครงสร้างได้รับความเสียหาย ส่วนระบบไฟฟ้าและระบบประปาในพื้นที่ได้รับความเสียหายมาก ทำให้ระบบจ่ายน้ำและไฟฟ้าในหลายพื้นที่ไม่สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ นอกจากนี้ ตลาดสายลมจอย ซึ่งเป็นแหล่งค้าขายสำคัญในพื้นที่แม่สาย ยังไม่มีบ่อบำบัดน้ำเสีย และจำเป็นต้องรื้อปรับปรุงระบบใหม่ทั้งหมด

ปัญหาใหญ่: ถนนขวางทางน้ำและพื้นที่รับน้ำเปลี่ยนแปลง

นายชูเลิศ จิตเจือจุน อุปนายกสมาคมฯ เปิดเผยว่า พื้นที่รับน้ำที่ติดกับลำน้ำกก ซึ่งเคยเป็นแก้มลิงรองรับน้ำ แต่ปัจจุบันถูกถมดินสูงเกินกว่าระดับน้ำ ทำให้ไม่สามารถกักเก็บน้ำได้ตามปกติ เมื่อเกิดฝนตกหนักทำให้น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ราบต่ำ นอกจากนี้ การตัดถนนและการพัฒนาโครงการต่าง ๆ โดยไม่คำนึงถึงการระบายน้ำ ทำให้เส้นทางน้ำถูกขวางและเกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในหลายจุด

นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.) นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ ได้ประสานงานให้วิศวกรทำการสำรวจเพิ่มเติม และวางแผนแก้ไขอย่างเป็นระบบ เช่น การปรับโครงสร้างถนนเพื่อให้สามารถระบายน้ำได้ดีขึ้น การสร้างพนังกั้นน้ำตามแนวลำน้ำกก และการพัฒนาฝายน้ำล้นในจุดที่มีความเสี่ยง เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมในระยะยาว

 
ฟื้นฟูเชียงราย: ต้องบูรณาการทุกภาคส่วน

การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่เชียงรายต้องอาศัยการบูรณาการความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน โดยทีมวิศวกรจะนำความรู้ด้านวิศวกรรมมาประยุกต์ใช้ เช่น การใช้โดรนและเรดาร์สำรวจเพื่อสร้างแผนที่จุดเสี่ยงน้ำท่วม รวมถึงการประเมินโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ เพื่อจัดทำแผนการฟื้นฟูอย่างครบวงจร

นายก อบจ. เชียงรายเสนอสร้างระบบเตือนภัยและแก้มลิง

นายก อบจ.เชียงราย เห็นด้วยกับข้อเสนอของทีมวิศวกรที่จะจัดทำ แผนที่ความเสี่ยงภัย เช่นเดียวกับจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้ทราบถึงจุดเสี่ยงและสามารถวางแผนป้องกันได้อย่างแม่นยำ โดยเสนอให้พัฒนา แก้มลิงและระบบระบายน้ำ เพื่อรองรับน้ำจากลำน้ำกก และเชื่อมต่อกับลำน้ำโขง ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากน้ำท่วมในระยะยาว นอกจากนี้ ยังได้สนับสนุนแนวคิดในการสร้าง ระบบเตือนภัย ที่ครอบคลุมเพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ถึงสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที

ฟื้นฟูเชียงรายให้กลับมาแข็งแกร่ง ต้องมีแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระยะยาว

อ.วัฒนพงศ์ หิรัญมาลย์ อาจารย์จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร และเลขาธิการสมาคมฯ กล่าวเสริมว่า จังหวัดเชียงรายมีความเสี่ยงสูงทั้งจากแผ่นดินไหว ดินถล่ม และน้ำท่วม จึงจำเป็นต้องจัดทำแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระยะยาว โดยเน้นที่การออกแบบและก่อสร้างระบบระบายน้ำที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการพัฒนาโครงข่ายถนนและสะพานให้สามารถรองรับสถานการณ์น้ำหลากได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายซ้ำในอนาคต

การฟื้นฟูเชียงรายครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะต้องทำการซ่อมแซมระบบสาธารณูปโภคที่ได้รับความเสียหาย แต่ต้องมองไปถึงการวางแผนผังเมืองใหม่ที่คำนึงถึงความยืดหยุ่นต่อการรับมือกับภัยพิบัติทุกรูปแบบ ซึ่งการวางแผนและการประสานงานระหว่างภาครัฐ เอกชน และท้องถิ่น เป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้เชียงรายกลับมาแข็งแกร่งและพร้อมรับมือกับภัยพิบัติในอนาคตได้อย่างยั่งยืน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรยานิวส์ /สมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทยมูลนิธินายช่างไทยใจอาสา

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

น้ำท่วมเชียงราย 9 ก.ย. – 8 ต.ค. 67 เสียชีวิต 14 ราย บาดเจ็บ 3 ราย

 

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2567 กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงรายรายงานข้อมูลสะสมระหว่างวันที่ 9 ก.ย. – 8 ต.ค. 2567 รวมทั้งสิ้น 13 อำเภอ 64 ตำบล 581 หมู่บ้าน 1 เทศบาลนคร (52 ชุมชน) โดยราษฎรได้รับผลกระทบเบื้องต้น 56,587 ครัวเรือน

  • เสียชีวิต 14 ราย
  • บาดเจ็บ 3 ราย
  • บ้านเรือนราษฎรได้รับผลกระทบ(เสียหายทั้งหลัง) 112 หลัง
  • ตลาดชุมชนเศรษฐกิจ ได้รับผลกระทบ 2 แห่ง
  • ร้านค้า/สถานประกอบการ 92 แห่ง
  • โรงงานอุตสาหกรรม 19 แห่ง
  • พื้นที่เกษตรได้รับผลกระทบ 18,587 ไร่
  • ปศุสัตว์ได้รับผลกระทบ 49,054 ตัว (ได้แก่ โค 1,110 ตัว กระบือ 176 ตัว สุกร 66 ตัว แพะ/แกะ 25 ตัว สัตว์ปีก 47,677 ตัว)
  • สัตว์เลี้ยง 322 ตัว (ได้แก่ สุนัข 145 ตัว แมว 154 ตัว และอื่นๆ 23 ตัว)
  • บ่อปลา 1,074.53 ไร่ ด้านสิ่ง
  • สาธารณประโยชน์ได้รับผลกระทบ ได้แก่ โรงเรียน 42 แห่ง ถนน 42 จุด คอสะพาน 5 จุด และ รพ.สต. 1 แห่ง

รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ผู้อำนวยการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งได้เตรียมการมาเป็นอย่างดีทั้งเครื่องมือ อุปกรณ์เครื่องจักรกล ยุทโธปกรณ์ พร้อมกำลังพลในการเข้าไปช่วยเหลือ อย่างเร่งด่วน แต่เนื่องจากเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง หลายวัน ทำให้วันนี้ (8 ตุลาคม 2567) ได้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่ ได้แก่ อ.เมืองเชียงราย อ.เชียงแสน อ.เชียงของ อ.แม่จัน อ.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่สาย อ.ดอยหลวง, อ.เทิง อ.เวียงแก่น อ.เวียงป่าเป้า อ.แม่สรวย อ.เวียงชัย และอ.แม่ลาว เกิดน้ำท่วมหนักในรอบหลายปี อย่างไรก็ตาม นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจ และเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน หากประชาชนต้องการขอความช่วยเหลือ หรือแจ้งเหตุ แจ้งได้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่สายด่วน 1784

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย รายงานสถานที่เกิดเหตุ/ความเสียหาย/การให้ความช่วยเหลือ (เหตุต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย. 67 และสถานการณ์ในวันนี้ (8 ต.ค. 67) ดังนี้
การให้ความช่วยเหลือ จังหวัดเชียงราย ได้จัดตั้งกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ปี พ.ศ. 2567 เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ในการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย และจัดหาปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นในการดำรงชีพ ผ่านทางธนาคาร กรุงไทย สาขาเชียงราย เลขที่บัญชี 504-3-23-732-5 ชื่อบัญชี กองทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ปี พ.ศ. 2567 โดยสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ 1 เท่า ยอดเงินบริจาค ณ วันที่ 8 ต.ค. 67 เวลา 16.30 น. จำนวน 9 9,632,815.42 บาท
 
การดำเนินการให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย การดำเนินการให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย อ.แม่สาย แบ่งพื้นที่ดำเนินการเป็น 2 โซนหลัก 6 โซนย่อย โซนหัวฝาย-สายลมจอย/เกาะทราย/ไม้ลุงขน : กระทรวงกลาโหม โซนเหมืองแดง/เหมืองแดงใต้/ ปิยะพร : กระทรวงมหาดไทย
 
ศูนย์พังพิงที่ยังคงให้บริการที่พักพิงชั่วคราวอยู่ จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ ศูนย์พักพิงเทศบาลตำบลแม่สาย จำนวน 87 ราย ศูนย์พักพิงวัดถ้ำผาจม 50 ราย ศูนย์พักพิงวัดเหมืองแดง 52 ราย รวมทั้งสิ้น 189 ราย
 
การดำเนินการปิดจุดรอยรั่ว กรมการทหารช่าง วางบิ๊กแบ็ค จำนวน 13 จุด แล้วเสร็จ 12 จุด อยู่ระหว่างดำเนินการ 1 จุด 70% (จุดท่าเจ้ดาว) สำนักงานทหารพัฒนา หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา วางชีทไพล์ 120 ต้น แล้วเสร็จ 30 ต้น รอดำเนินการ จำนวน 90 ต้น การฟื้นฟูระบบจ่ายน้ำประปา
 
แผนการซ่อมแซมระบบประปา 423 จุด ดำเนินการแล้วเสร็จ 337 จุด(79.7%) จุดซ่อมคงค้าง 86 จุด (20.3%) (จุดสำรวจแล้วรอเข้าซ่อม 76 จุด, จุดซ่อมคงค้าง 10 จุด)
 
การจ่ายน้ำเข้าพื้นที่ กปภ. สาขาแม่สาย จ่ายน้ำเข้าพื้นที่บริเวณศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ห้าแยกตลาดพลอย อาคารอเนกประสงค์บ้านเกาะทราย (เฟส 1 ตามแผนการจ่ายน้ำทั้งหมด 3 เฟส) โดยได้ระดมเจ้าหน้าที่จาก กปก.ข.9 และ กปก.สาขาในสังกัดใกล้เคียง เข้าสำรวจ/ซ่อมแซมระบบประปาที่ชำรุด/เสียหาย ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถจ่ายน้ำได้อย่างต่อเนื่อง ภายในวันที่ 8 ต.ค. 67 ในส่วนของพื้นที่ในเฟส 2 (ถนนไม้ลุงขน ตลาดพลอย ตลาดไม้ลุงขน เหมืองแดง) และเฟส 3 (เกาะทราย ไม้ลุงขน ผามควาย) กปก. ได้ประสานหน่วยงานฟื้นฟูพื้นที่ เพื่อร่วมกันวางแผนเคลียร์พื้นที่ตามลำดับ และคาดว่าจะสามารถจ่ายน้ำได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ภายในวันที่ 14 ต.ค. 67
 
การจ่ายน้ำโดยรถบรรทุกน้ำ กปภ. เติมถังน้ำวัดถ้ำผาจม/ถังบ้านอาข่า แจกจ่ายน้ำพื้นที่หยุดจ่ายน้ำชุมชนเกาะทราย ชุมชนไม้ลุงขน และชุมชนภูผาคำ จำนวน 2 รอบ (รอบเช้าเวลา 06.00-08.00 น. และรอบเย็นเวลา 18.00 – 20.00 น.) เติมรถสุขาสาธารณะ ศูนย์พักพิงวัดพรหมวิหาร
 
กปภ. สาขาแม่สาย สนับสนุนน้ำให้แก่หน่วยงานต่าง ๆ ดังนี้ รถน้ำของ ป4.พัน.104 และพัน สห.31 รถน้ำของ ส.พัน4. เพื่อสนับสนุนให้แก่ชุมชนบริเวณศาลเจ้าพ่อคำแดง รถน้ำของ มทบ.33 เพื่อสนับสนุนให้แก่โรงเรียนไม้ลุงขนฯ รถน้ำของ ร.17 และ ร.17พัน.2 เพื่อสนับสนุนให้แก่ชุมชนไม้ลุงขน โซน 3D รถน้ำของ ป.4 พัน.7 กองพันพัฒนาที่ 3 พัน สร.4 พลร.4 เพื่อสนับสนุนให้แก่ชุมชนหัวฝาย-สายลมจอย
 
– การฟื้นฟูระบบจ่ายไฟฟ้า ค้างจ่ายไฟฟ้าจำนวน 258 หลังคาเรือน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาแม่สาย ประกาศแผนกำหนดการเข้าตรวจสอบความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าภายในบ้าน เพื่อต่อกลับการใช้ไฟ ในพื้นที่บ้านเกาะทราย ม.7, บ้านไม้ลุงขน ม.10 และบ้านเหมืองแดง ม.2 ทั้งนี้ ได้มีประกาศขอความร่วมผู้ใช้ไฟที่ประสงค์ต่อกลับการใช้ไฟในพื้นที่ดังกล่าว รอรับการตรวจสอบฯ ตามกำหนดการดังนี้ วันที่ 7 ตุลาคม 2567 ถนนไม้ลุงขน ตลาดพลอย วันที่ 8 ตุลาคม 2567 เกาะทราย เกาะสวรรค์ ผามควาย วันที่ 9 ตุลาคม 2567เหมืองแดง ซ.6 เหมืองแดง ซ.6 หน้าโรงเรียนไม้ลุงขนฯ
การดำเนินการให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย อ.เมืองเชียงรายื หมู่บ้านธนารักษ์ กองทัพบก ต.ริมกก อ.เมืองชร. : หน่วยรับผิดชอบ ได้แก่ มทบ.37 และกอ.รมน.จว.เชียงราย ภารกิจดูดโคลนถนนสายหลักภายในหมู่บ้าน 2 สาย นำขยะไปยังที่พักขยะ และฉีดน้ำรีดโคลนออกจากบ้าน รายละเอียดดังนี้ อาคารบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบ 273 หลัง แสดงเจตนาให้เจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการ 63 หลัง ดำเนินการฟื้นฟูเรียบร้อยแล้ว 34 หลัง (54%) รอดำเนินดำเนินการ 29 หลัง (46%)
 
วันที่ 5 ต.ค. 67 ยอดสร้างบ้านน็อคดาวน์เพิ่มเติม ณ บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร หมู่ที่ 2 อีกจำนวน 6 หลัง
และซ่อมแซมอีก 4 หลัง รวมเป้าหมายทั้งสิ้น 4 ตำบล 5 หมู่บ้าน บ้านน็อคดาวน์ 28 หลัง ซ่อมแซม 10 หลังการกำจัดเศษวัสดุ ขยะ และดินโคลนตามเส้นทาง จุดพักขยะจำนวน 10 จุด ปริมาณขยะ 57,613 ตัน (ดำเนินการเฉพาะวันนี้ 8,280 ตัน)
 
เทศบาลนครเชียงราย ดำเนินการให้ความช่วยเหลือประชาชน ดังนี้ ให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมเบื้องต้น ครอบครัวละ 2,500 บาท มอบไปแล้ว 7,590 ครัวเรือน เป็นเงินทั้งสิ้น 18,975,000 บาท คงเหลืออีก 838 ครัวเรือน
เยียวยาตาม มติ ครม. เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 2567 มอบไปแล้ว 3,690 ครัวเรือน เป็นเงินทั้งสิ้น 18,450,000 บาท คงเหลืออีก 4,738 ครัวเรือน
 
การดำเนินการให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย อ.เวียงป่าเป้า เทศบาลตำบลป่างิ้ว พร้อมด้วยฝ่ายปกครองร่วมกันฟื้นฟูทำความสะอาดบ้านเรือนราษฎรและซ่อมแซมสิ่งสาธารณประโยชน์ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุอุทกภัย เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2567 ดำเนินการได้ 85% ของพื้นที่ได้รับผลกระทบ
 
องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านโป่ง พร้อมด้วยฝ่ายปกครองร.17พัน.3 ภาคเอกชน และราษฎรในพื้นที่ ร่วมกันฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบบ้านห้วยหินลาด(หย่อมบ้านห้วยทรายขาว) หมู่ที่ 7 ต.บ้านโป่ง
 
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาเวียงป่าเป้า ซ่อมแซมระบบจ่ายไฟให้กับครัวเรือนในพื้นที่
หย่อมบ้านห้วยไม้เดื่อ บ้านดงหล่ายหน้า หมู่ที่ 7 ต.เวียง และหย่อมบ้านห้วยทรายขาว บ้านห้วยหินลาด หมู่ที่ 7 ต.บ้านโป่ง ผลดำเนินการกู้ระบบไฟฟ้าประมาณ 40%
 
มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย รถประกอบอาหารเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) จัดตั้งโรงครัวพระราชทาน ณ ที่ว่าการอำเภอแม่สาย ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย. 67 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน (วันที่ 8 ต.ค. 67) ประกอบอาหาร จำนวน 2 มื้อ รวมทั้งหมด 3,630 กล่อง ประกอบด้วยเมนู หมูผัดพริกไทยดำ ลาบหมู ผัดคะน้าหมูชิ้น ผัดกระเพราหมูชิ้น ผัดพริกแกงหมูชิ้น ไก่กรอบผัดกระเทียม เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ประสบอุทกภัยอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
 
ชมรมแม่บ้านมหาดไทย แม่บ้านมหาดไทยร่วมใจฟื้นฟูเชียงราย” จัดตั้งโรงครัว (ครัวแม่บ้านมหาดไทย) เพื่อผลิตอาหาร เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและดินถล่ม ตลอดจนเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ณ หอประชุมชั้นล่างอาคาร 7 วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงราย อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค. 67 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน (วันที่ 7 ต.ค. 67)
 
กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน ได้ส่งกำลังพล สมาชิก อส. จากส่วนกลาง และร้อย อส.จ. จาก 36 จังหวัด กองบังคับการจังหวัด จำนวนไม่น้อยกว่า 1,462 นาย ปฏิบัติภารกิจฟื้นฟูบูรณะพื้นที่ประสบอุทกภัยและช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2567 เป็นต้นไป จนกว่าจะสิ้นสุดภารกิจ รายละเอียดดังนี้ อ.แม่สาย จ่ายกำลังพล 850 นาย ดำเนินการในพื้นที่บ้านเหมืองแดงใต้ บ้านเหมืองแดง และหมู่บ้านปิยะพร เป้าหมาย 314 หลัง อ.เมืองเชียงราย จ่ายกำลังพล 612 นาย ดำเนินการในพื้นที่ในเขตเทศบาลนครเชียงราย นอกเขตเทศบาลนครเชียงราย (พื้นที่ตำบลแม่ยาว ดอยฮาง ริมกก รอบเวียง ห้วยชมภู และนางแล) และพื้นที่สาธารณะ
 
การสนับสนุนเครื่องจักรกลสาธารณภัยด้านปฏิบัติการ (อุทกภัย) และกำลังพล ของศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ประจำวันที่ 8 ต.ค. 67 ดังนี้ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ เขต 8 กำแพงเพชร เขต 9 พิษณุโลก เขต 10 ลำปาง เขต 11 สุราษฎร์ธานี และเขต 15 เชียงราย นำหัวลากพร้อมหางลากจูงเครื่องจักรกล รถขุดตักไฮดรอลิคยกสูง รถตักล้อยางเอนกประสงค์ รถขุดล้อยางกู้ภัยปรับฐานล้อ รถตีนตะขาบ รถบรรทุเทท้าย 6 ล้อ 6 ตัน รถบรรทุกขนาดใหญ่ 6 ล้อ รถขุดตักไฮดรอลิค ทั้งชนิดแขนสั้น และแขนยาว ทำการขุดตักขนย้ายดินโคลน เศษวัสดุ สิ่งปรักหักพัง ออกจากบ้านเรือนราษฎรในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลแม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย และนำหินคลุกเททำทางเข้า-ออกพื้นที่ทิ้งเศษวัสดุ หมู่ที่ 10 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย
 
ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 8 กำแพงเพชร นำรถบรรทุกน้ำอเนกประสงค์ขนาด 12,000 ลิตร และรถบรรทุกน้ำช่วยดับเพลิง 10,000 ลิตร ร่วมกับ อส. ฉีดล้างทำความสะอาดบริเวณสวนสาธารณะเกาะลอย ต.เวียง อ.เมือง จ.เชียงราย
 
ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 9 พิษณุโลก นำรถบรรทุกน้ำดับเพลิงขนาด 10,000 ลิตร จำนวน 2 คัน และรถบรรทุกน้ำอเนกประสงค์ ขนาด 12,000 ลิตร จำนวน 1 คัน ไปส่งน้ำให้กับประชาชนบ้านกิจโพธิ์ทอง
 
ต.ริมกก ,บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงราย ต.สันทราย และบ้านเมืองงิม หมู่ที่ 4 ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย
ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 15 เชียงราย สนับสนุนยานพาหนะและเจ้าหน้าที่ ปฏิบัติภารกิจ ดังนี้นำรถขุดตักไฮดรอลิค ปรับเส้นทางสัญจร ถนนในพื้นที่บ้านแคววัวดำ ต.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย
 
นำรถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รับ – ส่ง กำลังพลกองร้อย อส. จากที่พัก (วัดห้วยปลากั้ง)
มาปฏิบัติงาน คัดแยก บรรจุ และลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัย ณ ศูนย์รับบริจาค ศูนย์ ปภ. เขต 15 เชียงราย
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดเชียงราย บรรเทาความเดือดร้อนผู้ใช้ไฟฟ้าที่ประสบภัยน้ำท่วม ตามมาตรการ “PEA บรรเทาความเดือดร้อนผู้ใช้ไฟฟ้าที่ประสบภัยน้ำท่วม ในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคะวันออกเฉียงเหนือ” ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 24 กันยายน 2567 เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยและกิจการขนาดเล็ก (ไม่รวมส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ) ที่อยู่ในพื้นที่ที่หน่วยงานราชการประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติจากอุทกภัย สำหรับค่าไฟฟ้าประจำเดือนกันยายนและเดือนตุลาคม 2567 เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและลดภาระค่าไฟฟ้าให้กับผู้ประสบภัย โดยมีรายละเอียด ดังนี้ไม่เรียกเก็บค่าไฟฟ้า เดือนกันยายน 2567 กรณีชำระแล้ว PEA จะดำเนินการคืนเงินโดยนำไปหักลดจากค่าไฟฟ้าเดือนถัด ๆ ไป ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าร้อยละ 30 ก่อนคํานวณภาษีมูลค่าเพิ่ม ในเดือนตุลาคม 2567
 
ศูนย์พักพิง ที่ยังเปิดศูนย์ฯ ให้บริการที่พักพิงชั่วคราวอยู่ ณ วันที่ 8 ต.ค. 67 รวมทั้งสิ้น 5 แห่ง แบ่งตามขอบเขตการปกครอง ได้แก่ อ.แม่สาย 3 แห่ง/ อ.เวียงป่าเป้า 1 แห่ง/ วันที่ 2 ต.ค. 67 อ.เมืองเชียงราย 1 แห่ง
 
ศูนย์พักพิงฯ ที่มีทีมแพทย์และสาธารณสุขให้บริการด้านการแพทย์ เยียวยาจิตใจ แจกจ่ายยาและเวชภัณฑ์ ทั้งหมด 4 แห่ง
 
รายละเอียดดังนี้ อำเภอแม่สาย ที่ยังเปิดศูนย์ฯ ให้บริการที่พักพิงชั่วคราวอยู่ ณ ปัจจุบัน 3 แห่ง รวมทั้งสิ้น 173 คน (โดยเป็นศูนย์พักพิงฯ ที่มีทีมแพทย์และสาธารณสุขให้บริการ ทั้ง 3 แห่ง) ดังนี้ ศูนย์พักพิงเทศบาลตำบลแม่สาย* คงค้างจำนวน 87 ราย ศูนย์พักพิงวัดเหมืองแดง* คงค้างจำนวน 50 ราย ศูนย์พักพิงวัดถ้ำผาจม* คงค้างจำนวน 36 ราย
อำเภอเวียงป่าเป้า ศูนย์พักพิง อบต.บ้านโป่ง จำนวน 1 แห่ง คงค้างจำนวน 26 คน
 
อำเภอเมืองเชียงราย วันที่ 2 ต.ค. 67 องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เปิดศูนย์อพยพ/พักพิง (ชั่วคราว) ณ อาคารเรียน 10 โรงเรียน อบจ. เชียงราย (ด้านหลังรูปปั้นบัวบาน ผามั่ง)
 
มูลนิธิสมาคมกู้ชีพกู้ภัย อาสาสมัคร จิตอาสาภาคประชาชน ร้านค้า/ผู้ประกอบการ สนับสนุนปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย ให้ที่พักพิงชั่วคราว มอบอาหารปรุงสำเร็จ และถุงยังชีพ
 
วิทยาลัยอาชีวศึกษาและโรงเรียนในเครือ ดำเนินโครงการศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน Fix It Center
ตั้งจุดบริการและจัดชุดเคลื่อนที่ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยจะช่วยซ่อมแซมอุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ รวมถึงยานพาหนะที่เสียหาย เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย. เป็นต้นมา
 
ศูนย์ซ่อมสร้าง Fix it Center ถาวร ซ่อมฟรี เครื่องใช้ไฟฟ้า และรถจักรยานยนต์ ที่เสียหายจากเหตุอุทกภัย จำนวน 3 แห่ง ดังนี้ ภายในวิทยาลัยเทคนิคเชียงราย อ.เมืองชร. วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงราย อ.เมืองชร.
จุดบริการบ้านเวียงกือนา หมู่ที่ 2 ต.ริมกก อ.เมืองชร.
 
ช่างซ่อมจิตอาสา
ช่างซ่อมจิตอาสาจังหวัดสมุทรปราการ นำโดยช่างเต้ วัดด่าน ตั้งศูนย์ช่วยซ่อมจักรยานยนต์ที่โดนน้ำท่วม ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ระหว่างวันที่ 3 – 15 ต.ค. 2567 ณ ศูนย์การเรียนรู้ อบจ.เชียงราย สี่แยกศูนย์ราชการ
 
นายอภิวัฒน์ เรืองโรจ และนายสุวิทย์ ขวัญแก้ว สองพี่น้องใจบุญ ที่ขับรถจักรยานยนต์มาจากกรุงเทพมหานครเพื่อช่วยซ่อมรถให้ชาวเชียงรายฟรี โดยได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เกิดเหตุอุทกภัย และตั้งใจอยู่ช่วยต่อจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ณ จุดรับซ่อมบริเวณหน้าศูนย์ยามาฮ่าสามแยกทางเข้าวัดฝั่งหมิ่น พิกัด : https://maps.app.goo.gl/fR3Y8Jt11D9BtMGVA
 
วันที่ 17 ก.ย. 67 ทภ.3 จัดตั้ง ศบภ.ทภ.3 ส่วนหน้า ณ ที่ว่าการอำเภอแม่สาย เพื่ออำนวยการประสานงานการให้ความช่วยเหลือประชาชนของหน่วยทหารทุกหน่วย ในพื้นที่ อ.แม่สาย จนถึงปัจจุบัน
 
กองบัญชาการกองทัพไทย จัดตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองบัญชาการกองทัพไทย ณ โรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย
 
อบจ.เชียงราย ให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วม ด้านดำรงชีพ ดังนี้ ค่าใช้จ่ายด้านดำรงชีพ ได้แก่
ค่าเครื่องนุ่งห่ม รายละไม่เกิน 1,100 บาท ค่าเครื่องมือประกอบอาชีพ เท่าที่จ่ายจริง ครอบครัวละไม่เกิน 11,400 บาท ค่าเครื่องครัวและอุปกรณ์ในการประกอบอาหาร เท่าที่จ่ายจริง ครอบครัวละไม่เกิน 3,500 บาท
 
ค่าเครื่องนอน รายละไม่เกิน 1,000 บาท หลักฐานที่ต้องเตรียม ได้แก่ สำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประชาชนของเจ้าของบ้านที่ประสบภัย รูปภาพความเสียหาย กรณีผู้เช่า แนบเอกสารสัญญาเช่า การขอรับความช่วยเหลือ ผ่าน อบต. หรือ ทต. ที่ประสบภัย ในวันและเวลาราชการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
 
 อบจ.เชียงราย ฝ่ายสงเคราะห์ผู้ประสบภัย โทร. 053175329 หรือ 053175333 ต่อ 1402 ในวันและเวลาราชการ ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 17 – 30 ก.ย. 2567 ขยายเวลาถึงวันที่ 15 ต.ค.67
 
การปฏิบัติงานฟื้นฟูบูรณะ และกู้คืนพื้นที่ของจิตอาสาราชทัณฑ์ (จอส.รท.) และเจ้าหน้าที่สังกัดกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ประจำวันที่ 8 ต.ค. 67 เวลา 08.30 น. เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางเชียงรายและกำลังสนับสนุนจากเรือนจำ/ทัณฑสถาน เขต 5 (รจจ.ลำพูน, รจจ.พะเยา ,ทสบ.ลำปาง ,รจอ.แม่สะเรียง, รจก.ลำปางและ รจจ.ฝาง) จำนวน 16 นาย นำผู้ต้องขัง จำนวน 78 ร่วมกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์(ในรูปแบบ CSR) บรรเทาภัยน้ำท่วมพื้นที่จังหวัดเชียงราย ดังนี้ ภารกิจภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ปรับภูมิทัศน์ ขนย้ายสิ่งของ ล้างทำความสะอาดสิ่งของเปื้อนโคลน บ้านเรือนประชาชนหลังน้ำลด จำนวน 8 จุด ภารกิจดำเนินการก่อสร้างบ้านน็อคดาวน์ จำนวน 6 หลัง บ้านเมืองงิม หมู่ที่ 4 ต.ริมกก จำนวน 1 หลัง บ้านจะเด้อ หมู่ที่ 6 ต.ดอยฮาง จำนวน 1 หลัง บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร หมู่ที่ 2 ต.แม่ยาว จำนวน 2 หลัง บ้านแควัวดำ หมู่ที่ 12 ต.แม่ยาว จำนวน 2 หลัง
 
ปรับภูมิทัศน์ ทำความสะอาด ขนย้ายสิ่งของ ขยะหลังน้ำลด และกำจัดดินโคลน ในชุมชนกกโท้งและชุมชนป่าแดง (เขตเทศบาลนครเชียงราย) ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย
 
ปฏิบัติการดูดโคลนเลนที่อุดตันบริเวณท่อระบายน้ำ ตามตรอก ถนน และจุดต่าง ๆ ที่กีดขวางทางระบายน้ำพื้นที่ประสบอุทกภัยในเขตพื้นที่ในเขตพื้นที่เทศบาลนครเชียงราย ประจำวันที่ 8 ต.ค. 67
 
อบจ.สมุทรปราการ รถดูดโคลน 2 คัน ปฏิบัติงานบริเวณโรงเรียนไม้ลุงขนฯ ต.แม่สาย อ.แม่สาย ปริมาณดินโคลนที่ดูดได้ 184 ลูกบาศก์เมตร
 
เทศบาลนครพิษณุโลก ทำความสะอาดท่อระบายน้ำชุมชนแควหวาย จำนวน 10 บ่อพัก
ยิงหัวลอกท่อระบายน้ำทั้งหมดระยะ 110 เมตร จำนวน 3 เที่ยว ปริมาณดินโคลนที่ดูดได้ 24 ลูกบาศก์เมตร
โดยเทศบาลนครเชียงรายสนับสนุนบุคลากรอำนวยความสะดวกเปิดฝาบ่อพัก
 
เทศบาลตำบลบางปู ปฏิบัติงานบริเวณหมู่บ้านธนารักษ์ กองทัพบก เส้นเมนระยะทางที่ลอก 315 เมตร ขนาดท่อ 80 ซม. และ 60 ซม. ปริมาณดินโคลนที่ดูดได้ 80 ลูกบาศก์เมตร
 
เทศบาลตำบลบางเมือง ดูดโคลนเลน ซอย 8/1 แมนชั่น จำนวน 5 รอบ รอบละ 8,000 ลิตร รวม 40,000 ลิตร
ชุดปฏิบัติการดูดโคลนกรุงเทพมหานคร พร้อมรถดูดโคลน จำนวน 15 คัน ปฏิบัติงานบริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงรายจนถึงแยกหลังโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เริ่ม เวลา 19:00 น. ของวันที่ 8 ต.ค. 67 จนถึงเวลา 8.00 น. วันที่ 9 ตุลาคม 2567 /อยู่ระหว่างดำเนินการโดยจะรายงานผลการปฏิบัติงานให้ทราบอีกครั้ง
บริษัท วอชแอนด์โก Code Clean ให้บริการ ซัก อบ ผ้า น้ำยา ฟรี แก่ผู้ได้รับผลกระทบน้ำท่วม
ตลอด 24 ชั่วโมง และเปิดให้บริการจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ จำนวน 3 จุด ได้แก่
ณ ลานธรรม ลานศิลป์ ถิ่นพญามังราย หรือลานรัชกาลที่ 5 (ศาลากลางจังหวัดหลังแรก) ตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย. 67 เป็นต้นมา ถึงปัจจุบัน
 
ณ สถานีดับเพลิงเทศบาลนครเชียงราย หน้าวัดดงหนองเป็ด ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย. 67 เป็นต้นมา
ถึงปัจจุบัน
 
หน้ามูลนิธิสยามเชียงราย สำนักงานใหญ่ จุด 5 แยก พ่อขุนฯ ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. 67 เป็นต้นมา
ถึงปัจจุบัน
 
งานบริการถ่ายบัตรประชาชน : กรมการปกครอง โดยส่วนบัตรประจำตัวประชาชน ศูนย์บริหารการทะเบียนภาค และอำเภอแม่สาย ขยายระยะเวลางานบริการถ่ายบัตรประชาชน จากเดิมตั้งแต่วันที่ 19 – 30 กันยายน 2567 ตั้งแต่เวลา 08.30 – 17.00 น. ขยายระยะเวลาออกไปตั้งแต่วันที่ 1 – 31 ตุลาคม 2567 ในวันและเวลาราชการ ณ สำนักงานเทศบาลตำบลแม่สาย ชั้น 2 งานทะเบียนราษฎร์
 
วันที่ 8 ต.ค. 67 พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ตรวจเยี่ยม
ให้กำลังใจกำลังพลทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย และดินถล่มในพื้นที่หย่อมบ้านห้วยทรายขาว บ้านบริวารของบ้านห้วยหินลาด ต.บ้านโป่ง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย พร้อมสั่งระดมความช่วยเหลือ ให้ทหารช่างพร้อมเครื่องมือ เข้าไปฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม และได้ประสานรถขุดเจาะขนาดเล็กจาก พล.พัฒนา 3 เข้าให้การช่วยเหลือประชาชนเพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
 
วันที่ 8 ต.ค. 67 เวลา 13.00 น. นางปวีณ์ริศา เกิดสม ภริยารองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นายณรงค์พล คิดอ่าน อดีตนายอำเภอแม่สาย นางยุพิน คิดอ่าน อดีตนายกกิ่งกาชาดอำเภอแม่สาย นางสิริพร ศรีจันทร์รักษา รักษาการนายกกิ่งกาชาดอำเภอแม่สาย คณะกรรมการ-สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย คณะกรรมการและสมาชิกกิ่งกาชาดอำเภอแม่สาย ร่วมกับ โรงพยาบาลแม่สาย สำนักงานสาธารณสุขอำเภอแม่สาย ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพ ผ้าห่ม หมอน ผ้าอ้อมสำเร็จรูป และสิ่งของจำเป็นแก่กลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
 
สภากาชาดไทย โดยสำนักงานยุวกาชาด และอาสาสมัครกาชาด จัดโครงการอาสาสมัครกาชาด อาสาสาด้วยใจร่วมฟื้นฟูภัยพิบัติ จังหวัดเชียงราย โดยมีอาสาสมัครกาชาด อาสายุวกาชาด คณะผู้บริหาร ครูในจังหวัดเชียงราย สกร.ระดับอำเภอจาก 18 อำเภอ กลุ่มไฟฟ้าจิตอาสา และสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดพะเยา กว่า 300 คน เข้าร่วม ณ สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดเชียงราย อ.เมืองเชียงราย ซึ่งได้เร่งฟื้นฟูพื้นที่การเรียนรู้ของชุมชน ขนย้ายสิ่งของ ล้างทำความสะอาด รวมถึงซ่อมระบบไฟฟ้า ณ อาคารศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอเมืองเชียงราย เพื่อคืนพื้นที่การเรียนรู้ให้กับเด็กและเยาวชน ได้ทันช่วงเวลาที่จะเปิดภาคเรียน และประชาชนที่จะได้เข้ามาใช้บริการต่อไป
สำนักงานบังคับคดีจังหวัดเชียงราย กรมบังคับคดี มีกำหนดจัดกิจกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ครัวเรือน เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมขึ้น ในศุกร์วันที่ 11 ตุลาคม 2567 เวลา 08.30 – 16.00 น. ณ สำนักงานบังคับคดีจังหวัดเชียงราย อาคารบูรณาการกระทรวงยุติธรรมจังหวัดเชียงราย ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย โดยลูกหนี้ผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมและศาลมีคำพิพากษาแล้ว สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมไกล่เกลี่ยดังกล่าวได้ในระหว่าง วันที่ 23 กันยายน 2567 – 22 ตุลาคม 2567 สอบถามเพิ่มเติม สำนักงานบังคับคดีจังหวัดเชียงราย ติดต่อฝ่ายไกล่เกลี่ย เบอร์โทร.053-716080, 053-716081, 095-2363823
 
วันที่ 8 ต.ค. 67 หน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เก็บขนวัสดุดินโคลน ฉีดล้างพื้นที่ ปรับปรุงภูมิทัศน์ ตัดแต่งกิ่งไม้ เก็บขนออกจากพื้นที่ และบำรุงรักษาต้นไม้ตามหลักรุกขวิทยา ณ สวนสาธารณะพรหมราช(สวนสุขภาพ) ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย พื้นที่ดำเนินการประมาณ 20 ไร่ ผลการดำเนินงานวันนี้ จำนวน 10 ไร่ (50%)
วันที่ 8 ต.ค. 67 จังหวัดเชียงราย ได้จัดประชุมคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัดเชียงราย ครั้งที่ 9/2567 เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2567 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมอูหลง ชั้น 3 ศาลากลางเชียงราย เพื่อให้ความเห็นชอบให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติดังนี้ การพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน 5.4 ด้านการเกษตร (ด้านพืช ด้านประมง ด้านปศุสัตว์) ห้วงภัยระหว่างวันที่ 17 – 30 สิงหาคม 2567 โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดังนี้
 
ด้านพืช ช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่อำเภอพาน จำนวน 668 ราย วงเงินช่วยเหลือ 7,243,077 บาท
ด้านประมง ช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่อำเภอพาน และอำเภอเทิง จำนวน 346 ราย วงเงินช่วยเหลือ 4,580,505.10 บาท ด้านปศุสัตว์ ช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่อำเภอเทิง และอำเภอเวียงแก่น จำนวน 74 ราย วงเงินช่วยเหลือ 506,430 บาท
การพิจารณาการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2567 ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2567 เป็นไปตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2567 รวมทั้งสิ้น 5 อำเภอ จำนวน 3,943 ครัวเรือน จำนวนเงินทั้งสิ้น 19,755,000 บาท ในพื้นที่ดังนี้ อำเภอเวียงป่าเป้าจำนวน 1,858 ครัวเรือน อำเภอเชียงของ จำนวน 28 ครัวเรือน อำเภอแม่สรวย จำนวน 136 ครัวเรือน อำเภอแม่สาย จำนวน 1,233 ครัวเรือน อำเภอเมืองเชียงราย จำนวน 688 ครัวเรือน
 
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 8 ต.ค. 67 ได้เห็นชอบการทบทวนหลักเกณฑ์ เงื่อนไขและวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝนปี 2567 ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยสาระสำคัญเป็นการเป็นปรับปรุงหลักเกณฑ์ เงื่อนไขฯ ซึ่ง ครม. มีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 67 เพื่อให้การช่วยเหลือสอดคล้องกับสถานการณ์อุทกภัยที่ได้ส่งผลรุนแรง เกิดความเสียหายกับประชาชน ให้ครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบได้รับค่าดำรงชีพเป็นกรณีพิเศษ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องเร่งให้ความช่วยเหลืออย่างโดยเร็วทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไขฯ ที่ได้รับการอนุมัติทบทวนครั้งนี้ จะเป็นการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ทั้งกรณีที่อยู่อาศัยประจำอยู่ในพื้นที่น้ำท่วม ดินถล่ม น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำลันตลิ่ง ไม่เกิน 7 วัน และทรัพย์สินได้รับความเสียหาย หรือที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขังติดต่อกัน เกินกว่า 7 วัน ให้ได้รับเงินช่วยเหลืออัตราเดียว ครัวเรือนละ 9,000 บาท ส่วนผู้ประสบภัยที่ได้รับเงินช่วยเหลือตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 67 ไปแล้ว ให้จ่ายเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมให้ครบ 9,000 บาทต่อไป
 
หมายเหตุ : อัตราการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2567 เดิม ที่ได้รับอนุมัติจาก ครม. เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 67 นั้นมี 3 อัตรา ได้แก่
 
กรณีที่อยู่อาศัยประจำอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมขัง ติดต่อต่อกันตั้งแต่ 1 วัน (24 ชั่วโมง) แต่ไม่เกิน 7 วัน และทรัพย์สินได้รับความเสียหาย หรือที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขังเกินกว่า 7วัน แต่ไม่ไม่เกิน 30 วัน ให้ความช่วยเหลือ ครัวเรือนละ 5,000 บาท
 
กรณีที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมขัง ติดต่อกันเกินกว่า 30 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน ให้ความช่วยเหลือ ครัวเรือนละ 7,000 บาท
กรณีที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมขัง ติดต่อกันกว่า 60 ขึ้นไป ให้ความช่วยเหลือ ครัวเรือนละ 9,000 บาท
แนวโน้มสถานการณ์ คาดหมายลักษณะอากาศ (24 ชั่วโมงข้างหน้า) : บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ภาคเหนือตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า ในขณะที่มีลมฝ่ายตะวันออกพัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือยังมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นบางแห่ง สำหรับจังหวัดเชียงราย คาดว่าจะมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ รายละเอียดดังนี้
พื้นที่ฝนเล็กน้อย จำนวน 6 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองเชียงราย/ แม่สรวย/ แม่ลาว/ พาน/ ป่าแดด และเวียงป่าเป้า
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

รองนายกฯ สั่งเร่งฟื้นฟูน้ำท่วมเชียงใหม่-เชียงรายด่วน

 

วันที่ 8 ตุลาคม 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) แถลงข่าวหลังประชุมคณะกรรมการประเมินสถานการณ์น้ำท่วมและดินโคลนถล่มว่า ในที่ประชุมได้มีการวิเคราะห์สถานการณ์และวางแผนการแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยการประชุมร่วมกันทั้งจากส่วนกลางและศูนย์บัญชาการส่วนหน้าในจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ ผ่านระบบออนไลน์ โดยมีการแจ้งประเด็นสำคัญ 5 ข้อเพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาและป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำในอนาคต

สาเหตุน้ำท่วมหนักเชียงใหม่และแม่สาย

นายภูมิธรรม เปิดเผยว่าสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้เกิดจากฝนตกหนักในพื้นที่อำเภอเชียงดาวและอำเภอแม่ริมในวันที่ 3 และ 4 ตุลาคม โดยปริมาณน้ำฝนที่ตกครั้งนี้สูงเป็นประวัติการณ์ และมีความรุนแรงมากกว่าหลายร้อยปีที่ผ่านมา ทั้งยังเกิดเหตุการณ์ดินโคลนถล่มในอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ทำให้สถานการณ์อุทกภัยในครั้งนี้รุนแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้ และส่งผลกระทบในวงกว้าง นอกจากนี้น้ำจากอำเภอเชียงดาวที่ไหลมาถึงตัวเมืองเชียงใหม่ใช้เวลานานถึง 30 ชั่วโมง อำเภอแม่แตง 16 ชั่วโมง และอำเภอแม่ริม 6 ชั่วโมง ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำปิงสะสมและเกิดน้ำล้นตลิ่ง

จำเป็นต้องสร้างเขื่อนป้องกันเมืองและแก้ปัญหาลำน้ำปิง

การประชุมครั้งนี้ได้ข้อสรุปว่าจำเป็นต้องสร้าง เขื่อนขนาดเล็ก เพื่อป้องกันพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ พร้อมทั้งให้กระทรวงมหาดไทยและจังหวัดเชียงใหม่ดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ นอกจากนี้ยังพบว่าแม่น้ำปิงมีความตื้นเขินและคดเคี้ยว ส่งผลต่อการระบายน้ำ ทำให้กรมโยธาธิการและผังเมือง รวมถึงกรมเจ้าท่าและกรมปกครองส่วนท้องถิ่น ต้องร่วมมือกันในการศึกษาเส้นทางน้ำและปรับปรุงพื้นที่ลุ่มน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วมในอนาคต

ฟื้นฟูป่าต้นน้ำและจัดการพื้นที่ลุ่มน้ำปิง

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่นายภูมิธรรมกล่าวถึงคือ ปริมาณฝนที่ตกติดต่อกันถึง 5 วันในพื้นที่ลุ่มน้ำปิง ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1A และ 1B ส่งผลให้ป่าต้นน้ำไม่สามารถกักเก็บน้ำได้ดีเหมือนในอดีต เนื่องจากมีการบุกรุกและใช้ประโยชน์ในพื้นที่ผิดกฎหมายมากถึง 5% ทำให้การกักเก็บน้ำลดลง จึงมีคำสั่งให้กรมอุทยานแห่งชาติและกระทรวงมหาดไทยดำเนินการฟื้นฟูป่าต้นน้ำในพื้นที่อย่างจริงจัง

สร้างแผนแก้ไขปัญหาระยะยาวและระยะสั้น

จากสถานการณ์ดังกล่าว นายภูมิธรรมได้มอบหมายให้ที่ประชุมพิจารณาจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อศึกษาแผนการแก้ไขปัญหาในระยะยาวและเฉพาะหน้า โดยมีนายปลอดประสพ สุรัสวดี เป็นที่ปรึกษา เพื่อจัดทำแผนและข้อเสนอแนะต่าง ๆ ภายใน 3 เดือน เพื่อให้สามารถรับมือกับภัยพิบัติในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายได้อย่างรวดเร็ว โดยตั้งเป้าฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยในอำเภอแม่สายที่ได้รับความเสียหายจำนวน 753 หลังคาเรือน ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ซึ่งขณะนี้สามารถฟื้นฟูได้แล้ว 418 หลัง หรือคิดเป็น 56%

ยืนยัน “น้ำไม่ท่วมกรุงเทพฯ” เหตุการณ์แบบปี 54 จะไม่เกิดขึ้น

นายภูมิธรรมยืนยันว่า สถานการณ์น้ำท่วมในปีนี้จะไม่เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเหมือนปี 2554 โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนภูมิพลยังคงสามารถรองรับได้ และมีการบริหารจัดการระบายน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากประชาชนให้ติดตามข่าวสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และไม่แชร์ข้อมูลที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดหรือสร้างความตื่นตระหนกในสังคม

เร่งฟื้นฟูอาชีพและเกษตรกรรมในพื้นที่ประสบภัย

นอกจากนี้ในที่ประชุมยังมีการเสนอแผนการฟื้นฟูอาชีพและเกษตรกรรมในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ โดยประสานงานร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อพิจารณางบประมาณในการซ่อมแซมฟื้นฟูพื้นที่การเกษตร รวมถึงการจัดการผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ได้รับความเสียหาย โดยมีการแบ่งแผนเป็นระยะยาวและเฉพาะหน้าเพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเป็นรูปธรรม

บทสรุป: วางแผนระยะยาว รับมือภัยพิบัติอย่างยั่งยืน

จากการประชุมในครั้งนี้ นายภูมิธรรมได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการวางแผนการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติอย่างมีระบบและยั่งยืน โดยต้องประสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการจัดการลำน้ำปิง การสร้างเขื่อนป้องกันเมือง และการฟื้นฟูป่าต้นน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมซ้ำซากในพื้นที่ภาคเหนือ และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่าภัยพิบัติครั้งนี้จะถูกแก้ไขและฟื้นฟูได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News