Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

กองทัพไทยเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมแม่สาย หลังฝนตกหนักและน้ำป่าไหลหลาก

 

เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2567 เวลา 07.00 น. พลตรี บุญญฤทธิ์ เกษตรเวทิน ผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 37 (ศบภ.มทบ.37) ได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจากฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำป่าไหลหลากท่วมพื้นที่หลายแห่ง โดยเฉพาะถนนพหลโยธินหน้า สภ.แม่สาย และด่านแม่สายซึ่งระดับน้ำสูงขึ้นมาก ประชาชนในพื้นที่โดยเฉพาะตลาดสายลมจอยได้รับผลกระทบหนัก หลายคนให้สัมภาษณ์ว่า “ไม่เคยท่วมแบบนี้มาก่อน” และยังมีประชาชนจำนวนมากที่ติดค้างในพื้นที่น้ำท่วม

ในการช่วยเหลือครั้งนี้ พลตรี บุญญฤทธิ์ เกษตรเวทิน ได้นำกำลังพลจากมณฑลทหารบกที่ 37 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กำลังพลจากโรงพยาบาลค่ายเม็งรายมหาราช, กำลังพลจากกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 17, กำลังพลจากหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 35 (นพค.35), ตำรวจจาก สภ.แม่สาย, กำลังพลจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.เชียงราย) และมูลนิธิในพื้นที่ ร่วมดำเนินการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มกำลัง โดยใช้ยุทโธปกรณ์ของกองทัพไทย เช่น เรือท้องแบน รถบรรทุกทหาร และอุปกรณ์ช่วยเหลือต่างๆ ในการเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ติดค้างในพื้นที่น้ำท่วมสูง

สถานการณ์น้ำท่วมที่แม่สายครั้งนี้ได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายปี ระดับน้ำในหลายจุดสูงเกินกว่า 1 เมตร ส่งผลให้บ้านเรือนหลายหลัง รวมถึงร้านค้าในตลาดสายลมจอยได้รับความเสียหายอย่างหนัก น้ำป่าที่ไหลหลากลงมาจากพื้นที่ต้นน้ำยังคงพัดพาเศษไม้ ขอนไม้ และสิ่งปฏิกูลต่างๆ ลงสู่แม่น้ำสาย ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำสายเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ หน่วยบรรเทาสาธารณภัยต่างๆ ได้จัดกำลังพลเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งดำเนินการแจกจ่ายอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็นให้กับผู้ที่เดือดร้อน ขณะเดียวกันยังมีการส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบสภาพความเสียหายของเส้นทางคมนาคม และหมู่บ้านที่ถูกตัดขาดจากเหตุการณ์น้ำท่วม เพื่อดำเนินการซ่อมแซมและเปิดเส้นทางให้สามารถสัญจรได้โดยเร็ว

การช่วยเหลือจากศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 37 ยังรวมถึงการจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวสำหรับผู้ที่ต้องอพยพออกจากพื้นที่น้ำท่วม รวมถึงการดูแลด้านการแพทย์ โดยมีหน่วยเสนารักษ์จากโรงพยาบาลค่ายเม็งรายมหาราชเข้าไปให้การดูแลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และผู้ป่วยในพื้นที่

จากการประเมินสถานการณ์เบื้องต้นพบว่าน้ำป่าที่ไหลหลากลงมาจากพื้นที่ภูเขายังคงมีปริมาณมาก ซึ่งอาจส่งผลให้สถานการณ์น้ำท่วมยืดเยื้อต่อไปอีกในระยะเวลาหนึ่ง ทางศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 37 จึงได้สั่งการให้มีการเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากประชาชนให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นเพิ่มเติม

นอกจากการบรรเทาภัยในพื้นที่น้ำท่วมแล้ว ทางจังหวัดเชียงรายยังได้เตรียมแผนฟื้นฟูหลังน้ำลด โดยเน้นการซ่อมแซมบ้านเรือนและเส้นทางคมนาคมที่เสียหาย รวมถึงการฟื้นฟูด้านการเกษตรและเศรษฐกิจของชุมชนที่ได้รับผลกระทบ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 37

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
TOP STORIES

จับเลานจ์เถื่อน อ.แม่สาย พบเจ้าของร้านเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน

วันนี้ (6 ก.ค. 66) นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง เปิดเผยว่า ศูนย์ดำรงธรรม กรมการปกครอง (วังไชยา) ได้รับเรื่องร้องเรียนจากองค์กรต่อต้านการค้ามนุษย์ระหว่างประเทศ ว่ามีสถานประกอบการชื่อ “ร้านโอโซน และร้านสละโสด” ตั้งอยู่พื้นที่หมู่ที่ 9 ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ได้เปิดให้บริการในลักษณะเป็นสถานบริการ และมีการรับพนักงานหญิงซึ่งเป็นบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ทั้งสัญชาติไทยรวมถึงต่างด้าว เข้าทำงานภายในร้าน และอาจมีพฤติการณ์เข้าข่ายการแสวงประโยชน์ทางเพศจากเด็ก ทั้งมีการจำหน่ายยาเสพติดภายในร้าน และมีพนักงานเด็กสาวอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่มีพฤติกรรมเสพยาเสพติดและชักชวนลูกค้าเสพยาเสพติด

 

ตนจึงได้บูรณาการร่วมกับนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ได้สนธิกำลังร่วมกับพนักงานฝ่ายปกครองที่ทำการปกครองจังหวัดเชียงราย สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) ภาค 5 และเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงราย เข้าตรวจสอบสถานประกอบการ ชื่อร้านโอโซน และร้านสละโสด อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และวางแผนตรวจสอบจับกุม โดยพบว่า สถานประกอบการ “ร้านโอโซน” และ “ร้านสละโสด” ทั้งสองร้านลักลอบให้บริการในรูปแบบสถานบริการ โดยไม่มีใบอนุญาต เปิดให้บริการจนถึงเวลาเช้าของทุกวัน มีการจำหน่ายสุราเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด มีพฤติการณ์จ้างงานเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ทั้งสัญชาติไทยและต่างด้าว มาปรนเปรอปรนนิบัติลูกค้าในลักษณะที่อาจเป็นการแสวงหาประโยชน์ทางเพศในรูปแบบอื่นจากเด็ก และยังพบร่องรอยการเสพยาเสพติดภายในร้าน” นายแมนรัตน์ฯ กล่าาว

 

นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวต่ออีกว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจปัสสาวะของนักเที่ยวและพนักงานร้าน พบสารเสพติด ทั้งหมด 9 ราย เป็นนักเที่ยว 5 ราย เป็นพนักงานร้าน 4 ราย นอกจากนี้ ยังพบนักเที่ยวอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 2 คน คือ เด็กอายุ 17 ปี และ 18 ปี ตามลำดับ รวมทั้งได้ทำการช่วยเหลือบุคคลซึ่งอาจเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นพนักงานหญิงของทางร้าน ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 6 คน โดยพบคนที่มีอายุต่ำสุดเพียง 15 ปี จึงได้นำเข้าสู่กระบวนการตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ หรือ National Referral Mechanism (NRM) สัมภาษณ์เพื่อคัดกรอง และคัดแยก โดยสหวิชาชีพ และเตรียมนำตัวส่งเข้าบ้านพักเด็กฯ เพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ จากการตกเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ต่อไป

 

“ต่อมา นายเอกชัย ปันแปง อายุ 42 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 13 ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย ได้มาแสดงตัวเป็นเจ้าของร้านทั้งสองแห่ง และได้ขอมอบตัว ต่อเจ้าพนักงานชุดจับกุม ณ ที่ว่าการอำเภอแม่สาย โดยชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้จัดการร้านฐานความผิด 1) ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต 2) จำหน่ายสุราเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด 3) บังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร 4) บังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็ก แสดงหรือกระทำการอันมีลักษณะลามกอนาจาร 5) จ้างเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ทำงานระหว่างเวลา 22.00 น. – 06.00 น. และ 6) เป็นนายจ้างที่มีการจ้างเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เป็นลูกจ้างโดยไม่แจ้งต่อพนักงานตรวจแรงงาน นอกจากนี้ หากผลการคัดแยกของสหวิชาชีพพบว่าเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ จะได้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อให้ดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป และพนักงานฝ่ายปกครองชุดจับกุม จะได้ประสานที่ทำการปกครองอำเภอแม่สายเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย มีคำสั่งปิด ร้านโอโซน และร้านสละโสด มีกำหนด 5 ปี ตามคำสั่ง คสช. ที่ 22/2558 ต่อไป” นายแมนรัตน์ฯ กล่าว

 

นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวเพิ่มเติมว่า การปฏิบัติการในครั้งนี้นับว่าเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายอย่างยิ่ง และที่สำคัญ คือ ผู้ที่แสดงตัวเป็นผู้จัดการร้านมีตำแหน่งหน้าที่เป็นถึง “ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน” ซึ่งมีหน้าที่ในการช่วยเหลือผู้ใหญ่บ้านในการตรวจตรารักษาความสงบเรียบร้อยภายในหมู่บ้าน รวมทั้งป้องกันการกระทำความผิดหรือเหตุร้ายในพื้นที่ แต่กลับมาเป็นผู้กระทำความผิดเสียเอง ซึ่งการกระทำความผิดในครั้งนี้ นอกจากเป็นความผิดทางอาญาแล้ว กรมการปกครองจะได้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง หากพบว่าเป็นความผิดทางวินัยและเข้าข่ายการขาดคุณสมบัติการเป็นผู้ช่วยใหญ่บ้าน ก็จะสั่งการให้ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป นอกจากนี้ยังกำชับให้นายอำเภอทุกอำเภอทั่วประเทศได้เข้มงวดกวดขันและตรวจสอบพฤติกรรมของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนกลไกของกรมการปกครองทุกส่วน หากพบเข้าข่ายการกระทำความผิด ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย ไม่มีละเว้น

 

ด้าน นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า จังหวัดเชียงราย จะได้มอบหมายให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงรายร่วมกับที่ทำการปกครองจังหวัดเชียงรายและที่ทำการปกครองอำเภอทุกอำเภอ บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตรวจสอบใบอนุญาต ตลอดจนตรวจตราการเปิดให้บริการของสถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการทุกแห่ง หากพบการกระทำความผิด จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย และหากพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงรายพบเห็นการกระทำผิดลักษณะนี้ สามารถแจ้งผ่านสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อธิบดีกรมการปกครอง

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News