ผู้ว่าฯ เชียงรายเปิดปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า-ฝุ่นควันเชียงของ เน้นประชาสัมพันธ์ สร้างความร่วมมือ พร้อมลงนาม MOU จัดการ PM2.5 อย่างยั่งยืน
เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2568 ณ เทศบาลตำบลครึ่ง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นควันในพื้นที่อำเภอเชียงของ โดยจัดกิจกรรมปล่อยแถวรณรงค์ประชาสัมพันธ์การลาดตระเวนไฟป่า เพื่อสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ และความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ เน้นย้ำการป้องกันไฟป่า การทำแนวกันไฟ และการงดเผาเศษวัสดุทางการเกษตร เพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ให้ไม่เกินค่ามาตรฐาน
กิจกรรมดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากส่วนราชการในพื้นที่ ผู้นำชุมชน และหน่วยงานต่าง ๆ โดยมีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ตามแนวทางของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งมีข้อกำหนดสำคัญคือ ไม่ให้สิทธิ์เกษตรกรที่มีประวัติการเผาในพื้นที่การเกษตรเข้าร่วมโครงการสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพเกษตรกรทุกโครงการ
ผู้ร่วมงานระดับจังหวัดและชุมชนร่วมตระหนักถึงปัญหาไฟป่า
กิจกรรมนี้ได้รับเกียรติจากนางสินีนาฎ ทองสุข นายกเหล่ากาชาดจังหวัด และประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงราย, นายบุญเกิด ร่องแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงราย, นายครรชิต ชมภูแดง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, หน่วยงานป่าไม้และอุทยานแห่งชาติ, หน่วยงานด้านสาธารณสุข, ผู้นำท้องที่และท้องถิ่น, ชุดปฏิบัติการป้องกันไฟป่า, เครือข่ายอาสาสมัครไฟป่า และประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมกิจกรรมอย่างคับคั่ง
สถิติการเกิดไฟป่าปี 2567 และแผนปฏิบัติการปี 2568
จากสถิติในปี 2567 ในช่วงห้ามเผาเด็ดขาดระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์ – 30 เมษายน พบจุดความร้อนในพื้นที่อำเภอเชียงของถึง 300 จุด ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และวนอุทยานห้วยน้ำข้าง รวมถึงอุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า โดยอำเภอเชียงของมีพื้นที่รวมประมาณ 523,000 ไร่ เป็นเขตป่าร้อยละ 61 ของพื้นที่ทั้งหมด
สำหรับปี 2568 ได้มีการวางแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นควันแบ่งออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่:
- ระยะเร่งด่วน (มกราคม – เมษายน 2568):
- การประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ถึงผลกระทบของไฟป่าและฝุ่นควัน
- การลาดตระเวนตรวจหาไฟป่า
- การทำแนวกันไฟและการควบคุมจุดความร้อน
- การบริหารจัดการเชื้อเพลิงและการเข้าดับไฟอย่างรวดเร็ว
- ระยะยาว (พฤษภาคม – ธันวาคม 2568):
- การส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เช่น การสร้างป่าเปียกตามแนวพระราชดำริ
- การจัดตั้งป่าชุมชนในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งปัจจุบันมี 36 แปลง รวมพื้นที่ 32,218 ไร่ โดยมีป่าชุมชน 24 แปลง ที่เข้าร่วม Carbon Credits และสร้างรายได้เข้าสู่กองทุนป่าชุมชนจำนวน 8,508,737 บาท
สร้างความร่วมมือเพื่อความยั่งยืน
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเน้นย้ำว่าการแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นควันจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ที่ต้องช่วยกันเฝ้าระวังและป้องกันไม่ให้เกิดไฟป่า เพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และลดผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมในระยะยาว.
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย