Categories
ECONOMY

แนวโน้มธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มปี 2568 เติบโต 4.6% พร้อมความท้าทาย

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567 spacebar รายงานว่าแนวโน้มธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มในประเทศไทยในปี 2568 คาดว่าจะมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 657,000 ล้านบาท เติบโต 4.6% แต่เป็นการเติบโตที่ชะลอตัวลงจากปี 2567 สาเหตุหลักมาจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ อย่างไรก็ตาม ธุรกิจนี้ยังคงได้รับการสนับสนุนจากการท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะ การท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) ที่กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น

แนวโน้มการเติบโตของตลาด

ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพบว่า การใช้จ่ายด้านอาหารและเครื่องดื่ม ของนักท่องเที่ยวถือเป็นอันดับ 2 ของการใช้จ่ายทั้งหมดในการเดินทาง โดยร้านอาหารไทยกว่า 482 แห่งที่ได้รับการจัดอันดับในมิชลินไกด์ ก็ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเชิงอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การเติบโตของมูลค่าตลาดส่วนหนึ่งยังเกิดจากการ ปรับขึ้นราคาตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น รวมถึงกลยุทธ์การตลาดที่ช่วยเพิ่มรายได้ต่อครั้งต่อคำสั่งซื้อ นอกจากนี้ การขยายสาขาใหม่ในพื้นที่ศักยภาพ เช่น กรุงเทพฯ ชลบุรี เชียงใหม่ และสุราษฎร์ธานี รวมถึงการพัฒนาเชิงพาณิชย์ในห้างสรรพสินค้าและอาคารสำนักงานที่เพิ่มขึ้น ก็มีส่วนกระตุ้นให้จำนวนร้านอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มมากขึ้น

การแข่งขันที่รุนแรง

ธุรกิจร้านอาหารในปี 2568 มีการแข่งขันรุนแรงในทุกระดับราคา ประเทศไทยมีร้านอาหารกว่า 6.9 แสนแห่ง หรืออัตราส่วน 9.6 ร้านต่อประชากร 1,000 คน ผู้ประกอบการรายใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศยังคงเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มทุนจากจีนที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแสดงให้เห็นว่า การหมุนเวียนเปิด-ปิดกิจการ มีจำนวนร้านอาหารที่ปิดตัวเพิ่มขึ้นถึง 89% (YoY) ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2567 สะท้อนถึงการแข่งขันที่เข้มข้น

แนวโน้มธุรกิจร้านอาหารในปี 2568

  1. ร้านอาหารบริการเต็มรูปแบบ (Full Service Restaurants)
    คาดว่าจะเติบโต 2.9% หรือมีมูลค่ารวมประมาณ 213,000 ล้านบาท ร้านบุฟเฟต์ยังได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริโภคที่มองหาความคุ้มค่า

  2. ร้านอาหารบริการจำกัด (Limited Service Restaurants)
    คาดว่าจะเติบโต 3.8% หรือมีมูลค่ารวม 93,000 ล้านบาท การขยายตัวของกลุ่มร้านพิซซ่า ไก่ทอด และร้าน Quick Service เพิ่มมากขึ้น

  3. ร้านอาหารข้างทาง (Street Food)
    คาดว่าจะเติบโต 6.8% หรือมีมูลค่ารวม 266,000 ล้านบาท ได้รับความนิยมจากทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยว

แนวโน้มธุรกิจร้านเครื่องดื่ม

ในปี 2568 คาดว่ามูลค่าตลาดร้านเครื่องดื่มจะอยู่ที่ 85,320 ล้านบาท เติบโต 3.2% การขยายแฟรนไชส์และการเปิดตัวเมนูใหม่ช่วยกระตุ้นการบริโภค

ความเสี่ยงและความท้าทาย

  • ต้นทุนสูงขึ้น
    ทั้งค่าแรง วัตถุดิบ เช่น นมผง เนย ชีส และค่าสาธารณูปโภค ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ประกอบการ
  • พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง
    มาตรฐานใหม่ของผู้บริโภคเน้น ความแปลกใหม่+ประสบการณ์+สุขภาพ+ราคาสมเหตุสมผล

ข้อสรุป

ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มยังคงมีศักยภาพเติบโต แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายหลากหลายมิติ ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับตัวทั้งในด้านกลยุทธ์และนวัตกรรม เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

เครดิตภาพ : พันดาว 1000 Stars

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
ECONOMY

เหนือ-อีสานหนัก ร้านอาหาร ยอดขายหาย 50% เร่งรัฐบาลแก้

 

เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2567 นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย ได้ออกมาเปิดเผยถึงความกังวลเกี่ยวกับนโยบายเร่งด่วน 10 ข้อของรัฐบาล โดยเรียกร้องให้มีการลงรายละเอียดให้ชัดเจนมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันมีเพียงนโยบายที่กล่าวถึงในเชิงทั่วไป และยังขาดรายละเอียดเชิงลึกที่จะช่วยให้ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจเอสเอ็มอีสามารถเข้าใจและปรับตัวได้

นางฐนิวรรณแสดงความเห็นว่า ภาคธุรกิจเอสเอ็มอียังคงเผชิญกับปัญหาสินค้าราคาถูกที่เข้ามาทุ่มตลาดอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีธุรกิจจากต่างชาติเข้ามาแข่งกับคนไทย เช่น ธุรกิจร้านอาหาร ส่งผลให้ภาคธุรกิจภายในประเทศได้รับผลกระทบอย่างมาก เธอเรียกร้องให้รัฐบาลควรมีการรับฟังเสียงของผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ และควรบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดและจริงจังเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของคนไทย

3 ประเด็นเร่งด่วนที่ภาคธุรกิจร้านอาหารต้องการให้รัฐบาลดำเนินการ

  1. ทบทวนการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศ:
    นางฐนิวรรณระบุว่า การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นเรื่องที่ควรพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน โดยต้องดำเนินการตามกลไกของคณะกรรมการไตรภาคี เนื่องจากการขึ้นค่าแรงทั่วประเทศในวันที่ 1 ตุลาคมนี้อาจส่งผลให้ธุรกิจโดยเฉพาะร้านอาหารซึ่งเป็นธุรกิจขนาดเล็กต้องรับภาระหนักขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเศรษฐกิจที่ยังคงซบเซา การขึ้นค่าแรงจึงควรพิจารณาตามบริบทเศรษฐกิจและสังคมในแต่ละพื้นที่
  2. ลดหรือตรึงค่าพลังงาน:
    ธุรกิจร้านอาหารต้องเผชิญกับต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้นจากราคาพลังงาน เช่น ค่าไฟฟ้า นางฐนิวรรณเสนอว่ารัฐบาลควรพิจารณามาตรการในการลดหรืออย่างน้อยควรตรึงราคาพลังงาน เพื่อช่วยบรรเทาภาระให้กับผู้ประกอบการในช่วงเวลานี้
  3. เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2567-2568:
    นางฐนิวรรณชี้ว่า การเบิกจ่ายงบประมาณที่รวดเร็วจะช่วยให้เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจและกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น โดยเฉพาะในภาคธุรกิจร้านอาหาร การที่รัฐบาลเร่งรัดการเบิกจ่ายจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการและส่งเสริมการฟื้นฟูเศรษฐกิจในท้องถิ่น

สถานการณ์ธุรกิจร้านอาหารยังซบเซา

นางฐนิวรรณเปิดเผยว่า ขณะนี้ธุรกิจร้านอาหารยังคงประสบปัญหาด้านกำลังซื้อที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยรวมยอดขายของร้านอาหารไม่ถึง 50% ในบางจังหวัด เช่น ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สถานการณ์แย่ลงมากยิ่งขึ้น สาเหตุหลักมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ต่ำลง ผู้ประกอบการหวังว่ารัฐบาลจะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท ที่คาดว่าจะเริ่มในเดือนกันยายนนี้

นางฐนิวรรณยังได้เสนอให้รัฐบาลกำหนดให้ผู้ได้รับเงินดิจิทัลสามารถใช้จ่ายเงินนี้ในร้านอาหารได้ เพื่อช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในธุรกิจร้านอาหารมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมและเป็นการฟื้นฟูกำลังซื้อในภาคธุรกิจร้านอาหาร

ความคาดหวังต่อมาตรการรัฐบาล

นางฐนิวรรณกล่าวปิดท้ายว่า ภาคธุรกิจร้านอาหารหวังว่ารัฐบาลจะดำเนินนโยบายที่เอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจขนาดเล็กมากขึ้น โดยเฉพาะการออกมาตรการที่สามารถบรรเทาผลกระทบในด้านค่าแรงและต้นทุนการดำเนินงาน นอกจากนี้ การสนับสนุนธุรกิจเอสเอ็มอีที่เป็นกลุ่มใหญ่ในภาคเศรษฐกิจจะเป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ

สรุปสถานการณ์:
นโยบายการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศในเดือนตุลาคมนี้อาจจะซ้ำเติมธุรกิจที่กำลังเผชิญกับความท้าทายจากเศรษฐกิจซบเซา รัฐบาลจำเป็นต้องมีมาตรการที่ละเอียดและชัดเจนในการช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหาร รวมถึงธุรกิจเอสเอ็มอีเพื่อให้สามารถฟื้นฟูและดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืนในอนาคต

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News