Categories
AROUND CHIANG RAI EDITORIAL

คุยกับเหล่าทายาทรุ่นใหม่ ‘อทิตาธร’ 4 ป. ตัวช่วยหาเสียงสนามเลือกตั้ง อบจ.

เบื้องหลังทายาทการเมืองในการเลือกตั้งนายกอบจ.เชียงราย 2568

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (นายกอบจ.) และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ประจำปี 2568 ได้จัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยมีผู้สมัครท้าชิงตำแหน่งนายกอบจ.เชียงรายจำนวน 3 คน ได้แก่ นางอทิตาธร วันไชยธนวงค์ อดีตนายกอบจ.เชียงรายสมัยที่ผ่านมา, นางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ที่ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย และคนสุดท้าย นางสาวจิราพร หมื่นไชยวงศ์ ผู้สมัครอิสระ

ในระหว่างการหาเสียงของแต่ละผู้สมัครนั้น มีหนึ่งเรื่องที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากประชาชนในจังหวัดเชียงราย และได้รับการติดตามจากสำนักข่าวนครเชียงรายนิวส์ตลอดการเลือกตั้ง นั่นคือการมีส่วนร่วมของทายาททางการเมืองที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเป็นผู้ช่วยหาเสียง โดยเฉพาะในฝั่งของพรรคเพื่อไทยที่นางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช มีผู้ช่วยหาเสียงที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดีจากตระกูล ‘ติยะไพรัช’ ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับการเมืองและกีฬาในจังหวัดเชียงราย

การเข้ามาของทายาททางการเมือง

การเลือกตั้งครั้งนี้เห็นได้ชัดว่าได้มีการนำทายาทจากครอบครัวการเมืองเข้ามามีบทบาทในการหาเสียง โดยเฉพาะในฝ่ายของพรรคเพื่อไทยที่นางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ได้รับการช่วยเหลือจากผู้ที่มีชื่อเสียงในวงการการเมืองและกีฬา อย่าง ‘ฮั่น’ มิตติ ติยะไพรัช ผู้เป็นเจ้าของทีมฟุตบอลชื่อดังอย่างสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด , “สส.โฮม” ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช สส.เชียงราย เขต 2 และ “ฮาย” ปวิศรัฐฐ์ ติยะไพรัช

การมีส่วนร่วมของลูกๆ ของทั้งสองตระกูลการเมืองนี้ไม่ใช่เพียงแค่การช่วยหาเสียงเท่านั้น แต่ยังเป็นการเสริมสร้างกำลังใจให้กับผู้สมัคร

บทสัมภาษณ์: ป่าน ธัญชนก หนุนนำสิริสวัสดิ์

ป่าน ธัญชนก หนุนนำสิริสวัสดิ์ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของคนรุ่นใหม่ที่มีความตั้งใจในการช่วยเหลือสังคมและการเมืองท้องถิ่น โดยเฉพาะในฐานะผู้ช่วยหาเสียงให้กับแม่ในครั้งนี้ เธอได้เรียนรู้จากประสบการณ์ที่ผ่านมาและมุ่งมั่นที่จะทำให้การเมืองเป็นเรื่องของทุกคนที่สามารถมีส่วนร่วมได้ และเธอยังให้กำลังใจแม่ในการทำงานเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในประเทศที่ดีขึ้น ป่าน ธัญชนก หนุนนำสิริสวัสดิ์ พี่สาวคนโตจาก 4 ปอ ที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือแม่ในการหาเสียงในครั้งนี้ ซึ่งบทสัมภาษณ์นี้จะทำให้เราได้รู้จักเธอมากขึ้นในมุมมองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวส่วนตัว การเมือง หรือการช่วยหาเสียง

สัตว์เลี้ยง

ป่านเริ่มต้นด้วยการพูดถึงสัตว์เลี้ยงที่บ้านของเธอ โดยมีสุนัข 6 ตัวและแมว 2 ตัว ซึ่งทั้งหมดนอนอยู่ด้วยกันบนเตียงตลอดเวลา ป่านกล่าวว่า ทุกตัวเป็นเหมือนลูกๆ ของเตี่ยแม่ เตี่ยแม่รักยิ่งกว่าลูกอีกค่ะ” เธอเล่าถึงเหตุการณ์ที่สร้างรอยยิ้มให้กับทุกคนในครอบครัวเมื่อวันหนึ่งเธอกำลังจะตอบคำถามจากเตี่ยและแม่ แต่กลับพบว่าเตี่ยและแม่ไม่ได้ถามเธอ แต่กลับถามน้องหมาของเธอว่า เป็นยังไงบ้าง กินข้าวรึยังลูก” ป่านเล่าด้วยความขำว่า ตอนนั้นก็รู้เลยว่าใครลูกรักกันแน่”

การเมือง

เมื่อพูดถึงการเมือง ป่านเผยว่า จริงๆ ตอนเด็กๆ ก็ไม่ค่อยชอบเรื่องการเมืองเท่าไร เพราะเห็นมาตั้งแต่เล็กๆ แต่พอโตมาก็คิดว่าการเมืองเป็นเรื่องของทุกคน ทุกคนสามารถทำให้มันดีขึ้นได้ถึงแม้เราจะไม่ได้เป็นนักการเมืองก็ตาม” ป่านพูดถึงความสำคัญของการเมืองในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาประเทศ ป่านแค่อยากเห็นบ้านเราพัฒนามากขึ้น คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดี facilities ที่ครบครัน มีความสุขที่เป็นความสุขจริงๆ” เธอเชื่อว่าการมีการเมืองที่ดีจะส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของทุกคน

ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง

ป่านได้เล่าถึงประสบการณ์ในการช่วยแม่หาเสียงในครั้งนี้ว่าเป็นประสบการณ์ที่ท้าทายและเต็มไปด้วยความทุ่มเท รอบนี้เป็นการช่วยเหลือแม่ที่เจออะไรหลายอย่างแบบที่ไม่เคยเจอกันมาก่อนค่ะ” เธอพูดถึงความยากลำบากของแม่ที่ไม่ได้พึ่งพาคนจากพรรคการเมืองอื่น ทำให้การหาเสียงครั้งนี้หนักกว่าที่เคย แม้จะเหนื่อยแต่ก็สนุกไปอีกแบบหนึ่ง จากตอนหาเสียงรอบแรก เราก็แค่ช่วยด้านออนไลน์ แต่รอบนี้เราเห็นการทำงานของแม่จริงๆ การทุ่มเทของแม่ในช่วงน้ำท่วมที่บ้านก็ท่วมเหมือนกัน เตี่ยแม่ยังไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั้งๆ ที่ตัวเองก็เป็นผู้ประสบภัย” ป่านเล่าถึงความตั้งใจของแม่ที่ช่วยเหลือชาวบ้านแม้ในช่วงที่บ้านตนเองกำลังประสบปัญหาน้ำท่วม

ได้เจออะไรมาบ้างในการช่วยหาเสียง?

ป่านกล่าวว่า เราได้เจอทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดีมากมายเลยค่ะ ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำมากสำหรับครั้งนี้” เธอพูดถึงความแตกต่างในการหาเสียงในปัจจุบันและอดีต ซึ่งการหาเสียงในยุคนี้ต้องเผชิญกับปัจจัยต่างๆ ที่ไม่คาดคิด แต่โชคดีที่มีครอบครัวคอยให้กำลังใจและสนับสนุน เราคิดว่าเราจะต้องเริ่มทำการหาเสียงแบบยุคใหม่ที่ fair and free” ป่านกล่าวถึงความตั้งใจในการทำให้การเมืองเป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้

สุดท้าย ป่านอยากพูดให้กำลังใจแม่ว่า

วันนี้มันอาจจะไม่เป็นอย่างที่เราคิด 100% แต่สิ่งที่แม่ทำอยู่ การไม่โจมตี ไม่หาเรื่องใคร ไม่ใส่สีใคร มันก็ทำให้เด็กๆ มีความหวังว่าประเทศนี้ มันจะต้องดีขึ้นกว่าเดิมแน่นอนค่ะ”

บทสัมภาษณ์: ปองพล หนุนนำสิริสวัสดิ์

บทสัมภาษณ์ครั้งนี้ได้ให้เราเห็นอีกมุมหนึ่งของปองพล หนุนนำสิริสวัสดิ์ ที่นอกจากจะเป็นผู้ช่วยหาเสียงในครั้งนี้แล้ว เขายังเป็นผู้ที่ให้ความสำคัญกับการเมืองและการพัฒนาท้องถิ่น ด้วยความตั้งใจที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในจังหวัดเชียงราย ทั้งในฐานะผู้ช่วยหาเสียงและในฐานะคนในครอบครัวของผู้สมัคร ปองพลได้เรียนรู้และเข้าใจในกระบวนการการเมืองท้องถิ่นที่มีความซับซ้อนและต้องการความทุ่มเทอย่างแท้จริง

ประวัติส่วนตัว

วันนี้เรามีโอกาสพูดคุยกับ ปองพล หนุนนำสิริสวัสดิ์ หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ “ปริญญ์” หนุ่มที่มีความสนใจในด้านการเมืองและการช่วยเหลือสังคม เรามาเริ่มต้นกันที่เรื่องราวส่วนตัวของเขาก่อน

สิ่งที่ชอบ

เมื่อพูดถึงสิ่งที่ชอบ ปองพลเปิดเผยว่าเขามีสัตว์เลี้ยงอยู่หลายตัวในบ้าน โดยเฉพาะสุนัข 6 ตัว และแมว 2 ตัว แต่สิ่งที่เขาอยากเล่าให้เราฟังมากที่สุดคือเรื่องของแมวตัวแรกที่เขาเลี้ยง ชื่อว่า “มันเดย์” เป็นแมวที่พี่สาวของเขาเก็บมาเลี้ยงจากพุ่มไม้ข้างออฟฟิศ มันเดย์ตัวเล็กและผอมมากตอนแรก แต่หลังจากมาอยู่กับครอบครัวของเขาได้ไม่กี่ปีก็กลายเป็นแมวตัวใหญ่และอ้วนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

มันเดย์เป็นแมวขี้อ้อนสุดๆ มันชอบให้กอดมากๆ โดยเฉพาะตอนที่นอนหลับ มันจะกอดตลอดเวลา ถ้าไม่ได้กอดมันจะโวยวายไม่หยุด” ปองพลเล่าอย่างยิ้มๆ พร้อมกล่าวต่อไปว่า ถึงแม้เขาจะมีอาการแพ้ขนแมว แต่เขาก็รักมันมากและไม่สามารถปฏิเสธความขี้อ้อนของมันได้ โดยทุกครั้งหลังจากเล่นกับมันเขาจะระมัดระวังไม่ให้มือไปสัมผัสตาแล้วล้างมือทุกครั้ง

การเมือง

เมื่อมาถึงเรื่องการเมือง ปองพลพูดถึงความสำคัญของการเมืองต่อชีวิตประจำวันว่า การเมืองมีผลกระทบต่อเราทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นค่าครองชีพ ภาษี ค่าแรงขั้นต่ำ หรือแม้แต่คุณภาพของบริการสาธารณะ เช่น การศึกษาและสาธารณสุข ทุกอย่างล้วนเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจของนักการเมือง” เขายกตัวอย่างเช่น การที่รัฐบาลมีนโยบายที่ดีในการควบคุมราคาสินค้าหรือช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้น้อยจะทำให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าการบริหารจัดการไม่ดีค่าครองชีพสูงขึ้นและรายได้ไม่เพิ่มตาม ก็จะทำให้ประชาชนเดือดร้อนมากขึ้น

แม้ว่าบางคนอาจไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่การติดตามข่าวสารหรือออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งก็เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะมันมีผลต่อชีวิตของทุกคน” เขากล่าวถึงความสำคัญในการมีส่วนร่วมในการเมือง

ครั้งนี้ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงเป็นอย่างไรบ้าง?

ปองพลบอกว่าการเป็นผู้ช่วยหาเสียงในครั้งนี้เป็นประสบการณ์ที่ท้าทายและน่าประทับใจมาก นอกจากผมจะเป็นผู้ช่วยหาเสียงแล้ว ผมยังเป็นลูกชายของผู้สมัครด้วย มันทำให้ผมรู้สึกมีความรับผิดชอบมากขึ้น ไม่ใช่แค่ช่วยหาเสียงแบบทั่วไป แต่เป็นการทำงานเพื่อสนับสนุนคุณแม่ของผมด้วย” เขาบอกว่าในครั้งนี้เขาได้เรียนรู้ว่า การเมืองท้องถิ่นมีรายละเอียดเยอะมาก และการที่จะเข้าถึงประชาชนในพื้นที่จริงๆ นั้นจำเป็นต้องฟังปัญหาของพวกเขาโดยตรง

ได้เจออะไรมาบ้างในประสบการณ์การช่วยหาเสียงครั้งนี้?

ปองพลได้บอกว่าเขาได้เจอกับประชาชนหลากหลายกลุ่ม ได้ฟังเรื่องราวปัญหาของพวกเขา บางคนมีความหวังและอยากให้มีการเปลี่ยนแปลง แต่บางคนก็หมดหวังกับการเมือง เขากล่าวว่า สิ่งสำคัญคือเราต้องทำให้พวกเขาเห็นว่าการเมืองท้องถิ่นสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้จริง”

เขายังได้เห็นความเหนื่อยและความตั้งใจของคุณแม่ในฐานะนักการเมือง ผมเข้าใจมากขึ้นว่าการเป็นนักการเมืองไม่ง่ายเลย ต้องอดทน เสียสละ และทำงานหนักเพื่อคนส่วนรวม” เขากล่าว

บทสัมภาษณ์: ป้อน พัทธ์ธีรา หนุนนำสิริสวัสดิ์

ป้อน พัทธ์ธีรา หนุนนำสิริสวัสดิ์ เป็นตัวอย่างของคนที่มีความตั้งใจและทุ่มเทในการช่วยเหลือสังคมและการเมืองท้องถิ่น โดยไม่เพียงแต่เป็นผู้ช่วยหาเสียงในครั้งนี้ แต่ยังเป็นกำลังใจสำคัญในการทำงานเพื่อคนส่วนรวม ทั้งในฐานะลูกและในฐานะผู้ที่มุ่งมั่นที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในจังหวัดของเขา

ประวัติส่วนตัว

ป้อน พัทธ์ธีรา หนุนนำสิริสวัสดิ์ เป็นหนึ่งในคนที่มีความรักและความตั้งใจในการทำงานเพื่อสังคม โดยเฉพาะในเรื่องการเมืองและการพัฒนาชุมชน ที่ทำให้เขาได้รับบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือครอบครัวและการหาเสียงในฐานะผู้ช่วยหาเสียงให้กับคุณแม่ที่ลงสมัครในการเลือกตั้งครั้งนี้

สัตว์เลี้ยง

เมื่อพูดถึงสิ่งที่ชอบ ป้อนได้เล่าเรื่องเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของเขา ซึ่งในบ้านมีสุนัข 6 ตัวที่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของครอบครัว เขาบอกว่า “ที่บ้านชอบหมามาก พวกมันเป็นสิ่งฮีลใจของพวกเราเลย” นอกจากนี้ ป้อนยังได้เล่าเรื่องน่ารักของสุนัขตัวหนึ่งในบ้าน ซึ่งเคยเดินไปขอน้ำจากแม่ของเขาแทนที่เขาจะไปให้น้ำเอง ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกแย่งตำแหน่งลูกรักจากสุนัข เพราะแม่กลับไปโอ๋สุนัขแทนที่จะดุเลยทำให้ป้อนหัวเราะและยอมรับว่าบางครั้งก็ต้องยอมแพ้ให้กับความขี้อ้อนของน้องหมา

การเมือง

ป้อนมองว่าการเมืองเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมากในชีวิตประจำวัน “การเมืองอยู่ในทุกๆ อย่างในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นค่าครองชีพ ภาษี ค่าแรงขั้นต่ำ หรือคุณภาพของบริการสาธารณะ เช่น การศึกษาและสาธารณสุข ทุกอย่างล้วนเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจของนักการเมือง” เขายกตัวอย่างเช่นการบริหารของรัฐบาลที่สามารถมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัดที่มีความเหลื่อมล้ำสูง แม้จะจ่ายภาษีเท่ากัน แต่ยังมีปัญหาเชิงโครงสร้างที่ลึกซึ้ง
“ถ้าการเมืองดี ปัญหาพวกนี้ก็จะลดลงได้และคนเราจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีตามพื้นฐานที่ควรจะมีได้จริงๆ” เขากล่าวถึงความสำคัญของการเลือกผู้บริหารที่ดีที่สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้

ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง

ป้อนได้เล่าถึงการเป็นผู้ช่วยหาเสียงครั้งนี้ว่า “ครั้งนี้ก็เข้มข้นพอสมควรด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง เราเห็นแม่ตั้งใจมาก สมัยที่ผ่านมาเรานับถือใจเค้ามากที่ทุ่มเทเพื่อชาวบ้านขนาดนี้”

บทสัมภาษณ์: พิชามญชุ์ หนุนนำสิริสวัสดิ์ (ปอ)

ปอ พิชามญชุ์ หนุนนำสิริสวัสดิ์ เป็นตัวอย่างของคนรุ่นใหม่ที่มีความตั้งใจในการพัฒนาและช่วยเหลือสังคม โดยเฉพาะในเรื่องการเมืองท้องถิ่น การช่วยแม่หาเสียงในครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้เธอเข้าใจการเมืองท้องถิ่นมากขึ้น แต่ยังเป็นการเรียนรู้และเติบโตไปพร้อมกับครอบครัวของเธอด้วย ความทุ่มเทและความตั้งใจของปอทำให้เห็นว่าเธอเป็นคนที่ใส่ใจในการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีในสังคม

ประวัติส่วนตัว

วันนี้เรามีโอกาสพูดคุยกับ พิชามญชุ์ หนุนนำสิริสวัสดิ์ หรือ ปอ หนึ่งในสมาชิกครอบครัวที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยแม่ในการหาเสียง ปอเป็นพี่คนหนึ่งในสี่พี่น้องที่มีความรักสัตว์และสนใจการเมืองอย่างลึกซึ้ง

สิ่งที่ชอบ

ปอเริ่มต้นการพูดถึงสิ่งที่ชอบ โดยเฉพาะเรื่องสัตว์เลี้ยงที่เป็นส่วนสำคัญในครอบครัวของเธอ ครอบครัวของเรารักสัตว์มากๆ ยิ่งกว่าอะไร” ปอกล่าว ด้วยความที่ครอบครัวของเธอมีสัตว์เลี้ยงรวมทั้งหมด 8 ตัว ได้แก่ สุนัข 6 ตัว และแมว 2 ตัว ซึ่งลูกๆ เป็นคนซื้อมาดูแลเอง ปอได้เล่าถึงการเลี้ยงสุนัขและแมวที่บ้านว่า ที่กรุงเทพฯ ปอเลี้ยงสุนัข 3 ตัว ส่วนที่เชียงรายเลี้ยง 4 ตัวค่ะ ทุกตัวเป็นเหมือนลูกๆ ของเราเลย ทุกครั้งที่กลับบ้านเราก็จะได้เล่นกับพวกมัน และมันก็มีความสำคัญกับครอบครัวเราไม่น้อย”

การเมือง

เมื่อพูดถึงการเมือง ปอเริ่มเล่าถึงมุมมองการเมืองของตัวเองที่ได้สัมผัสจากการอยู่ในกรุงเทพฯ และการทำงานที่นั่น การเมืองไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลยค่ะ มันส่งผลต่อการใช้ชีวิตของเราในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาหรือสาธารณสุข และการตัดสินใจของนักการเมืองมีผลต่อเราทุกคน” เธอพูดถึงประสบการณ์ที่ได้เห็นจากการจัดการของพรรคการเมืองในปัจจุบัน ถ้าวันนี้การเมืองยังไม่ดีไม่พัฒนา เราก็ไม่มีวันพัฒนาไปได้มากกว่านี้” ปอเชื่อว่าการเมืองมีผลกระทบกับชีวิตทุกคน และทุกคนควรให้ความสำคัญกับมันอย่างมาก

ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง

การเป็นผู้ช่วยหาเสียงในครั้งนี้ ปอรู้สึกว่ามันท้าทายมากกว่าครั้งที่ผ่านมา รู้สึกว่าครั้งนี้ท้าทายมากกว่ารอบที่แล้ว แต่ก็รู้สึกว่าเรามือแข็งขึ้นเยอะ เพราะทีมเราใหญ่ขึ้นและมีแต่คนรุ่นใหม่ ทำให้การทำงานเข้าใจกันมากขึ้น” ปอพูดถึงความร่วมมือที่ดีในทีมและความภูมิใจในตัวคุณแม่ที่ทุ่มเทและสู้มากๆ ในการหาเสียง เราภูมิใจในตัวคุณแม่ทั้งเก่งและสู้มากค่ะ”

ได้เจออะไรมาบ้างในการช่วยหาเสียง?

เมื่อถามถึงประสบการณ์ในการช่วยหาเสียงในครั้งนี้ ปอกล่าวว่า เราได้เจอประสบการณ์หลากหลายรูปแบบค่ะ ทีมเราทำทุกอย่างกันเอง ทำให้เราได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างมากขึ้น” เธอได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเมืองท้องถิ่นและปัญหาของประชาชน สิ่งที่เราพบคือ ความเข้าใจด้านการเมืองท้องถิ่นของชาวบ้านยังไม่มากพอ ทำให้บางครั้งพวกเขายังไม่เข้าใจในเรื่องอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานท้องถิ่นหรือเรื่องภาษี งบประมาณจังหวัด” ปอได้เน้นย้ำถึงความสำคัญในการให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับประชาชน เราควรให้ข้อมูลกับประชาชนให้มากขึ้นเพื่อให้ทุกคนได้รับประโยชน์มากที่สุดค่ะ”

ความหมายของการมีทายาทการเมือง

การที่ทายาทจากครอบครัวการเมืองเข้ามามีบทบาทในการเลือกตั้งครั้งนี้ ถือเป็นสัญญาณของการสานต่อภารกิจเพื่อพัฒนาจังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นซึ่งมีผลกระทบโดยตรงกับประชาชนท้องถิ่น การที่ลูกๆ ของนักการเมืองเข้ามามีส่วนร่วมในครั้งนี้ไม่เพียงแต่สร้างความต่อเนื่องของนโยบายที่เคยดำเนินการไว้เท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นคงในการเมืองท้องถิ่นที่มีความเป็นส่วนตัวและสามารถตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนได้อย่างใกล้ชิด

บทสรุป

การเลือกตั้งนายกอบจ.เชียงรายในปี 2568 เป็นการเลือกตั้งที่สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของทายาทการเมืองในการพัฒนาจังหวัด ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงแค่การส่งเสริมชื่อเสียงของครอบครัวเท่านั้น แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสให้เยาวชนและคนรุ่นใหม่ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาและช่วยเหลือประชาชนในท้องถิ่น การที่ทายาทจากทั้งสองตระกูลมีส่วนร่วมในครั้งนี้ถือเป็นการส่งเสริมความต่อเนื่องของการพัฒนาในจังหวัดเชียงราย และเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตการเมืองท้องถิ่นที่มีความเข้มแข็งและมั่นคง

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
FOLLOW ME
MOST POPULAR
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

‘วันชัย’ ดันกลไกชุมชนแก้ปัญหา”จากล่างขึ้นบน” คือ “ชุมชนสู่ระดับประเทศ”

 

เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2567 ที่อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ ภาคีเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ จัดเวที “สานพลัง สร้างนวัตกรรม สู่สุขภาวะชุมชนที่ยั่งยืน ปี 2567” วาระ: ชุมชนท้องถิ่นร่วมแก้ปัญหาประเทศ” มุ่งเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนท้องถิ่น ร่วมแก้ไขปัญหาจากชุมชนสู่ระดับประเทศ โดยมี ดร.วันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย  ดร.นุชากร มาศฉมาดล รองนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด นายประทุม ไทรแช่มจันทร์ ประธานชุมชนหน้าสมาคมธรรมศาสตร์ กทม. นายประภัสสร ผลวงษ์ ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองสุพรรณบุรี และ นางเยาวลักษณ์ บุญตามชู นักวิชาการสาธารณสุขเทศบาลหาดใหญ่ ร่วมเสวนาในหัวข้อ “อัตลักษณ์การเสริมสร้างความเข็มแข็งของชุมชนท้องถิ่นร่วมแก้ปัญหาประเทศ”

 

ดร.วันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย  กล่าวว่า เชียงรายเป็นเมืองที่มีปัญหาน้ำเสีย ปัญหาสิ่งแวดล้อมต่างๆมากมาย การที่มาทำงานจากการสัมผัสด้วยตัวเอง มองว่าการจะแก้ปัญหาสู่การพัฒนาสิ่งสำคัญที่สุดคือเป็นการสร้างภาคีเครือข่ายสร้างมุมมองคนร่วมคิดร่วมทำ การที่เราจะสะท้อนปัญหาและแก้ไขที่ชัดเจนหรือภาคประชาชนสร้างมุมมองสู่ท้องถิ่น รวมถึงการจัดวางแผนงบประมาณ เชื่อมั่นว่ากระทรวง ทบวง กรม ต่างมีงบประมาณค่อนข้างมากและกระบวนการที่เราจะคิดและปัญหาที่เราจะแก้ไขได้ เราจะเชิญชวนดึงมาปรับแผนเข้าหากัน มองว่าอยากสร้างให้เป็นชุมชนท้องถิ่นที่ยั่งยืนชุมชนที่เป็นเมืองแห่งความสุขเป็นเมืองสุขภาพดี ดังนั้นการขับเคลื่อนรวมถึงการร่วมมือกับหน่วย อสม.จึงสำคัญ

 

นอกจากนี้ ยังมีการเสริมสร้างสุขภาพและพัฒนาในเรื่องของอาหารปลอดภัย “เชื่อมั่นว่าถ้าเราปลอดภัยแข็งแรงไม่เจ็บไข้ได้ป่วยไม่ทำให้ไม่มีค่าใช้จ่าย” ทำให้คนในครอบครัวไม่ต้องกังวลใจในภาระต่างๆ เชียงรายโชคดีเมื่อทำงานเรามีภาคีเครือข่ายที่เป็นท้องถิ่นต่างๆรวมถึงเทศบาลและโรงพยาบาลเชียงราย โรงพยาบาลภาคเอกชน รวมถึงกระทรวงสาธารณสุข การที่มีสุขภาพวะตามทิศทางของนโยบาย กลยุทธ์ของผู้ว่าราชการจังหวัดสิ่งต่างๆสะท้อนออกมาเมื่อขับเคลื่อนไปจะทำให้เกิดภาคประชาชนแข็งแรง

 

ดร.นุชากร มาศฉมาดล รองนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า การทำงานคือคิดจากข้างล่างไปข้างบน เพราะการทำงานจากข้างล่างไปข้างบนชุมชนมีส่วนร่วมความยั่งยืนเกิดขึ้นแน่นอน  ร้อยเอ็ดทำ 8 เรื่อง ทั้ง สิ่งแวดล้อม ผู้สูงอายุ เด็กและเยาวชน เศรษฐกิจ เป็นต้น อย่างเรื่องปัญหาเด็กและเยาวชนเป็นสิ่งสำคัญ เพราะปัจจุบันพบมีเด็กออกนอกระบบการศึกษาประมาณ 1,025,115 คน แต่ปี 66 ออกนอกระบบประมาณ 1,000,000 คน  โดยจังหวัดร้อยเอ็ดมีเด็กออกนอกระบบ 6,000 คน ซึ่งเรามีการพาเด็กกลุ่มนี้ไปเรียนฝึกอาชีพซึ่งผลปรากฎว่า เด็กกลุ่มนี้สามารถเปิดร้านเสริมสวยได้ เปิดร้านซ่อมรถได้ ฯลฯ ทุกวันนี้เด็กไม่อยากไปโรงเรียนเพราะไม่รู้เรียนไปแล้วจะทำอาชีพอะไร ฉะนั้นชุมชนจึงสำคัญ  และต้องมาคิดว่าจะทำอย่างไรให้เด็กกับชุมชนอยู่ด้วยกันได้ 

 

นายประทุม ไทรแช่มจันทร์ ประธานชุมชนหน้าสมาคมธรรมศาสตร์ กทม. กล่าวว่า ตอนนี้ในประเทศไทย กลุ่มผู้สูงอายุมีเยอะมาก ในพื้นที่เรามีการประชาสัมพันธ์กับผู้สูงอายุว่า “การชราภาพเป็นเรื่องปกติ แต่เราจะชราภาพให้มีคุณภาพอย่างไร” ซึ่งเรามีการทำกิจกรรมออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นการพบปะสังสรรค์ ใช้แบบสังคมบำบัด นอกจากนี้ยังมีการพูดคุยกัน 5-10 นาที และสำหรับกลุ่มเปราะบางกับผู้ป่วยติดเตียงหรือผู้พิการจะออกกำลังกายในกลุ่มของเราไม่ได้ เราก็ต้องให้ผู้สูงอายุมาเยี่ยมพบปะพูดคุย

 

อีกเรื่องคือกลุ่มเยาวชน กลุ่มเยาวชนในชุมชนปทุมธานีเป็นพื้นที่สีแดงรองจากคลองเตย เป็นชุมชนที่ยาเสพติดค่อนข้างรุนแรงจนไม่มีใครเอาอยู่คณะกรรมการไม่มีใครเอาอยู่ จึงมีการเข้าห้ามปรามได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง เยาวชนเก่าหายไปหมดติดคุกบ้างไปเล่นยาบ้าง ตอนนี้มีการสร้างเยาวชนรุ่นใหม่เป็นเยาวชนของชุมชนและมีการประชุมการบอกโทษของยาเสพติดหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ยาบ้า กัญชา กระท่อม เฮโรอีน ยาไอซ์ เรามีการประชาสัมพันธ์เรียกกลุ่มเยาวชนมาประชุมเพื่อให้ห่างไกลยาเสพติด เพราะยาเสพติดอันตรายไม่ใช่อันตรายกับชุมชนไม่ใช่อันตรายกับครอบครัวแต่อันตรายต่อประเทศชาติ เราจึงจำเป็นต้องให้เขารับรู้ว่าเป็นสิ่งไม่ดี  จึงเปิดพื้นที่เขาสร้างกิจกรรมเอง ไม่ว่าจะเป็น การทาสีกำแพงบ้าน เป็นต้น

 

นางเยาวลักษณ์ บุญตามชู นักวิชาการสาธารณสุขเทศบาลหาดใหญ่ กล่าวว่า มีชุมชนทั้งสิ้น 103 ชุมชน มีประชากร 150,000 คน รวมประชากรแฝงที่เข้ามาทำงานเข้ามาเพื่อการศึกษาการท่องเที่ยวประมาณ 150,000 คน   ในพื้นที่หาดใหญ่เป็นพื้นที่หลายวัฒนธรรม ทั้งไทย จีน เมืองหาดใหญ่จะเจอปัญหาต่างๆที่กระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่เหมือนเมืองอื่นๆ ภายใต้การดำเนินนโยบายของเทศบาลนครหาดใหญ่และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนหรือทุนทางสังคมในพื้นที่เพื่อขับเคลื่อนสู่เมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืน ซึ่งมีในพื้นที่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของหน่วยงานภาครัฐในหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่มีโรงพยาบาลเอกชน มีสถาบันการศึกษาต่างๆ

 

นางเยาวลักษณ์ กล่าวต่อว่า หาดใหญ่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ โดยมีผู้สูงอายุร้อยละ 19.19 ซึ่งถ้าไม่มองในเรื่องของดูแลผู้สูงอายุจะทำให้การพัฒนาด้านอื่นเป็นไปไม่ได้ด้วย ฉะนั้นเทศบาลหาดใหญ่มีนโยบายเรื่อง “แก่แต่เก๋า สูงวัยแต่ฉลาด” โดยมีกิจกรรมต่างๆเพื่อทำให้ผู้สูงอายุเป็นผู้สูงอายุที่ทรงพลังทางด้านสุขภาพและการมีความพร้อมช่วยเหลือตนเองได้ ไม่นั่งนึกถึงก่อนวัยอันควรหรือในเรื่องของการส่งเสริมการรวมกลุ่มของชมรมผู้สูงอายุเพื่อให้ดูแลการการสร้างการเรียนรู้ตลอดชีวิต การจัดตั้งมีผู้สูงอายุที่จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง การจัดบริการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง 

 

สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการสร้างเพิ่มขีดความสามารถอย่างน้อยใน 6 ประการ 1. การพัฒนาภาวะผู้นำของผู้นำและบุคลากรทุกฝ่ายของเทศบาลนครหาดใหญ่และหน่วยงานองค์กรทั้งภาครัฐและภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้อง  2. การเพิ่มคุณภาพการจัดระบบข้อมูล  3. การพัฒนาศักยภาพระบบและกลไก 4. การสร้างการมีส่วนร่วมของเทศบาลนครหาดใหญ่   5. การนำเทคโนโลยีดิจิตอลมาใช้ในการพัฒนาและแอพพลิเคชั่นต่างๆ  6. การสร้างนวัตกรรมโดยบริหารจัดการให้เกิดรูปธรรมการพัฒนาสร้างสรรและความเชี่ยวชาญในการจัดการความรู้

 

สสส.เข้ามาสอนเราในเรื่องของการพัฒนาศักยภาพของกลุ่มและทำให้ค้นพบผู้นำรุ่นใหม่ที่จะต่อยอดการพัฒนาชุมชนซึ่งเราเน้นชุมชนเป็นฐาน นางเยาวลักษณ์ กล่าวทิ้งท้าย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News