Categories
AROUND CHIANG RAI ECONOMY SOCIETY & POLITICS

บินส่วนตัวเชียงใหม่-เชียงราย Ezy Airlines ชูความเร็ว-ยืดหยุ่น

Ezy Airlines เปิดตัว Private Charter เชียงใหม่-เชียงราย ชั่วโมงละ 1.2 แสน ตอบโจทย์กลุ่ม High-End

เชียงราย, 19 ธันวาคม 2568 – ภาพเครื่องบินลำเล็กสีขาวบนท้องฟ้าเหนือภูเขาภาคเหนือ พร้อมข้อความ “Private. Fast. Flexible. Fly your way with Ezy Airlines charter flights” ที่ปรากฏบนเพจ Ezy Airlines เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2568 อาจดูเหมือนโพสต์ประชาสัมพันธ์ทั่วไป แต่สำหรับผู้ประกอบการท่องเที่ยว นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ และประชาชนในภาคเหนือ ภาพและข้อความสั้น ๆ นั้นกำลังสะท้อน “จุดเปลี่ยน” ที่สำคัญของสมการการเดินทางระหว่างเชียงใหม่–เชียงราย–แม่ฮ่องสอน–ปาย–น่าน

สิ่งที่น่าจับตาคือ การประกาศชัดเจนถึง “ราคาและรูปแบบบริการ” เที่ยวบินเช่าเหมาลำ (Private Charter) เส้นทางเชียงใหม่–เชียงราย ที่กำหนดอัตราค่าบริการ เที่ยวบินชั่วโมงละ 120,000 บาท นั่งได้ 12 ที่นั่ง บินได้ทุกวัน และเป็น “ราคาที่รวมทุกอย่างแล้ว” หมายความว่า หากมีผู้โดยสารเต็มลำ ค่าเฉลี่ยต่อที่นั่งจะอยู่ที่ประมาณ 10,000 บาทต่อคนต่อเที่ยว ซึ่งสะท้อนการวางตำแหน่งทางการตลาดที่ชัดเจนในกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงที่ต้องการ “ซื้อเวลาและความสะดวกสบาย” มากกว่าซื้อ “ราคาตั๋วที่ถูกที่สุด”

ในขณะเดียวกัน เส้นทางบินที่เพจระบุในแผนการเดินทางจากเชียงใหม่และเชียงรายเชื่อม แม่ฮ่องสอน–ปาย–น่าน กำลังค่อย ๆ วาดภาพ “คอร์ริดอร์การบินเหนือ” รูปแบบใหม่ ที่ไม่ได้มุ่งดึงทุกคนเข้าสู่ศูนย์กลางเพียงเมืองเดียว แต่เลือกเชื่อม “เมืองรอง–เมืองรอง” ให้เดินทางถึงกันได้ภายในเวลาประมาณ 30–60 นาที แทนการนั่งรถข้ามภูเขาหลายชั่วโมงอย่างที่คุ้นเคยกันมานาน

จากบริษัทเทคโนโลยีการบินสู่สายการบินภูมิภาคเฉพาะทาง

เบื้องหลังแบรนด์ Ezy Airlines คือ บริษัท เอ็ม–แลนด์อาร์ค จำกัด (M-Landarch Co., Ltd.) บริษัทการค้าที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2548 เริ่มต้นจากการเป็นผู้จัดหาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยีการบิน และซอฟต์แวร์ให้กับภาคเอกชนและหน่วยงานรัฐ ภายใต้เครือข่ายธุรกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัทได้พัฒนาตนเองสู่การเป็นผู้แทนจำหน่ายและผู้ให้บริการด้านเครื่องบินเทอร์โบพร็อป Cessna ในประเทศไทย

ข้อได้เปรียบสำคัญของ M-Landarch คือ “การบูรณาการตามแนวดิ่ง” (Vertical Integration) ที่ไม่ได้เป็นเพียงตัวแทนจำหน่ายเครื่องบิน แต่มีความชำนาญทั้งด้านเทคนิค การซ่อมบำรุง และการบริหารจัดการโครงการด้านอากาศยาน เมื่อผู้บริหารตัดสินใจขยายสู่ธุรกิจสายการบิน จึงมีทั้งองค์ความรู้ ทรัพยากร และเครือข่ายพร้อมในระดับหนึ่ง

ภายใต้การนำของ นายธานี ธาราปักษ์ กรรมการผู้จัดการ และ พลเอกศุภกร สงวนชาติสรณ์ไกร ประธานคณะที่ปรึกษา Ezy Airlines ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจการค้าเดินอากาศ (AOL) เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2566 และใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศ (AOC) จากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ด้วยทุนจดทะเบียนประมาณ 92.7 ล้านบาท สะท้อนความตั้งใจปักธงในตลาดการบินภูมิภาคอย่างจริงจัง

พันธกิจของสายการบินที่ย้ำอยู่เสมอ คือ
“Easy every trip, punctual, convenient, fast, and safe”
หรือการทำให้ทุกการเดินทาง “ง่าย ตรงเวลา สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย” โดยกลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่ ผู้อยู่อาศัยในภูมิภาคที่มีกำลังซื้อ นักธุรกิจ นักท่องเที่ยวคุณภาพสูง และผู้ป่วยที่ต้องการการเดินทางฉุกเฉิน ซึ่งพร้อมจ่ายเพื่อ “ลดเวลาเดินทางหลายชั่วโมงบนถนน” ให้เหลือเพียงไม่กี่สิบนาทีบนอากาศ

Cessna 208B Grand Caravan EX เครื่องบินลำเล็กที่ออกแบบมาเพื่อภูเขาและสนามบินเมืองรอง

หัวใจของการดำเนินงานของ Ezy Airlines คือเครื่องบิน Cessna 208B Grand Caravan EX ซึ่งเป็นเครื่องบินเทอร์โบพร็อปแบบที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลว่าเหมาะสมกับงานบินภูมิภาคและสนามบินเมืองรอง

ด้วยเครื่องยนต์ Pratt & Whitney Canada PT6A-140 กำลัง 867 แรงม้า ทำให้รุ่น EX มีอัตราไต่ระดับดีกว่ารุ่นก่อนหน้าราว 38% สามารถรับมือกับสภาพอากาศและภูมิประเทศแบบภูเขาสูงของภาคเหนือได้ดี ความเร็วเดินทางสูงสุดประมาณ 343 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บินได้สูงสุดราว 25,000 ฟุต และมีพิสัยการบินกว่า 1,600 กิโลเมตร

ที่สำคัญคือ คุณสมบัติการขึ้น–ลงระยะสั้น (STOL) ใช้ระยะทางวิ่งขึ้นราว 658 เมตร ทำให้สามารถปฏิบัติการบนสนามบินขนาดเล็ก เช่น แม่ฮ่องสอน หรือสนามบินปาย ที่มีข้อจำกัดด้านทางวิ่งและภูเขาล้อมรอบ ได้ดีกว่าเครื่องบินลำใหญ่ประเภทเจ็ตของสายการบินต้นทุนต่ำ (LCC)

ห้องโดยสารรองรับผู้โดยสารประมาณ 10–12 คน พร้อมลูกเรือ 2 คน ตกแต่งด้วยเบาะหนังแบบเอ็กเซ็กคิวทีฟ มีระบบปรับอากาศเต็มรูปแบบ และติดตั้งระบบอิเล็กทรอนิกส์การบิน Garmin G1000 NXi ซึ่งให้ข้อมูลการบินที่ทันสมัย พร้อมระบบเสริมความปลอดภัยสำหรับการบินท่ามกลางเมฆ หมอก และสภาพทัศนวิสัยจำกัดตามฤดูกาลของภาคเหนือ

สำหรับภารกิจเฉพาะทาง เช่น การลำเลียงผู้ป่วยฉุกเฉิน (MEDEVAC) ห้องโดยสารสามารถจัดรูปแบบใหม่เพื่อรองรับเตียงผู้ป่วยและอุปกรณ์ ICU เคลื่อนที่ รวมถึงแคปซูลแรงดันลบในกรณีโรคติดเชื้อขั้นรุนแรง โดยยังคงความคล่องตัวในการขึ้น–ลงสนามบินภาคเหนือที่อยู่ห่างไกลโรงพยาบาลใหญ่

คอร์ริดอร์การบินเหนือ จากโค้ง 1,864 โค้ง สู่เที่ยวบิน 30–60 นาที

การขยายแผนบินของ Ezy Airlines ในภาคเหนือถูกวางในกรอบยุทธศาสตร์ปี 2568–2570 โดยใช้ เชียงใหม่ เป็นศูนย์กลางสำคัญ และเริ่มขยายไปยัง เชียงราย–แม่ฮ่องสอน–ปาย–น่าน ทั้งในรูปแบบเที่ยวบินตามตาราง (Scheduled) และเที่ยวบินเช่าเหมาลำส่วนตัว (Private Charter)

เส้นทางที่ถูกยกขึ้นมาพูดถึงบ่อยที่สุด คือ เชียงใหม่–แม่ฮ่องสอน ซึ่งตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาเป็นที่รู้กันว่าการเดินทางทางถนนต้องผ่านโค้งกว่า 1,864 โค้ง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5–6 ชั่วโมง ท่ามกลางความเสี่ยงอุบัติเหตุและความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ การมีเที่ยวบินระยะเวลาราว 35 นาที จึงไม่ใช่เพียง “ทางเลือก” แต่สำหรับบางกลุ่ม เช่น ผู้ป่วย ครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ หรือผู้บริหารที่มีภารกิจเร่งด่วน นับเป็น “โครงสร้างพื้นฐานด้านเวลา” ที่เปลี่ยนวิธีวางแผนชีวิตอย่างแท้จริง

ส่วนเส้นทาง เชียงใหม่–ปาย ซึ่งทางถนนใช้เวลาราว 3 ชั่วโมง บนเส้นทางเขาคดเคี้ยว ก็เป็นอีกกรณีที่เครื่องบิน Cessna ขนาด 10–12 ที่นั่งของ Ezy Airlines สามารถเติมเต็มช่องว่างได้ดี เนื่องจากสนามบินปายไม่รองรับเครื่องบินเจ็ตลำใหญ่ แต่เหมาะกับเครื่องบินใบพัดขนาดเล็กที่ต้องใช้ระยะทางวิ่งขึ้น–ลงสั้น

เส้นทาง เชียงใหม่–น่าน ซึ่งทางถนนใช้เวลาราว 6 ชั่วโมง ก็ถูกออกแบบให้ลดเหลือเที่ยวบินประมาณ 45–50 นาที โดยมุ่งจับกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพสูง ชาวต่างชาติที่พักระยะยาว และกลุ่มที่นิยมท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม แต่ไม่ต้องการเสียเวลาบนเส้นทางภูเขานานหลายชั่วโมง

ด้าน เชียงใหม่–เชียงราย ซึ่งทางถนนใช้เวลาประมาณ 3.5 ชั่วโมง การเปิดบริการเที่ยวบินเช่าเหมาลำราคาเที่ยวบินละ 120,000 บาท บินได้วันละหลายรอบตามความต้องการลูกค้า กลายเป็น “สมการใหม่” ของการเดินทางระหว่างสองหัวเมืองหลักของล้านนา โดยเฉพาะกลุ่มนักธุรกิจ นักลงทุน และกลุ่มลูกค้าระดับบนที่ต้องเดินทางไป–กลับในวันเดียวอย่างมีประสิทธิภาพ

หากคิดแบบง่าย ๆ เมื่อเครื่องบินหนึ่งลำรองรับผู้โดยสารได้ 12 ที่นั่ง ราคาขั้นต่ำ 120,000 บาทต่อชั่วโมง หมายความว่า หากมีผู้โดยสารเต็มลำ ค่าเฉลี่ยต่อที่นั่งเท่ากับ 10,000 บาทต่อเที่ยว เมื่อเปรียบเทียบกับเวลาที่ลดลงจาก 3.5 ชั่วโมงบนถนนเหลือราว 1 ชั่วโมงบนอากาศ การตัดสินใจเลือกใช้บริการจึงขึ้นอยู่กับ “มูลค่าของเวลา” ในมุมมองของผู้โดยสารแต่ละกลุ่มมากกว่ามองแค่ตัวเลขราคาเพียงอย่างเดียว

นโยบายรัฐผลักดัน “New Route – New Airline” และวิสัยทัศน์ IGNITE THAILAND

การเติบโตของสายการบินภูมิภาคอย่าง Ezy Airlines ไม่ได้เกิดในสุญญากาศ หากแต่สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐที่ต้องการกระจายรายได้จากเมืองหลักสู่เมืองรอง โดยเฉพาะภายใต้วิสัยทัศน์ “IGNITE THAILAND, Aviation Hub” ที่ต้องการยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค

ภายใต้นโยบาย “New Route – New Airline” กระทรวงคมนาคม และกรมท่าอากาศยาน ได้กำหนดมาตรการจูงใจสายการบินที่เปิดเส้นทางใหม่ในสนามบินภูมิภาค เช่น

  • ยกเว้นค่าธรรมเนียมลงจอด 100% ในปีแรก และลด 50% ในปีที่สอง
  • ยกเว้นค่าธรรมเนียมจอดเครื่องบินในช่วงเริ่มต้นปฏิบัติการ
  • ให้ส่วนลดค่าเช่าพื้นที่สำนักงานและคลังสินค้าในสนามบิน
  • ร่วมมือกับหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทำการตลาดเชิงรุก

มาตรการเหล่านี้ช่วยลดภาระต้นทุนของสายการบินในช่วงเริ่มเปิดเส้นทางใหม่ ซึ่งมักมีจำนวนผู้โดยสารยังไม่สูงมาก แต่มีบทบาทเชิงยุทธศาสตร์ในการเชื่อมโยงเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในระดับพื้นที่

Private Charter โมเดล “บินแบบคุณกำหนดเอง”

จุดเด่นที่ Ezy Airlines เน้นย้ำในโพสต์วันที่ 11 ธันวาคม 2568 คือคอนเซปต์ “Private. Fast. Flexible.” หรือ ส่วนตัว รวดเร็ว ยืดหยุ่น” ซึ่งสะท้อนแกนกลางของบริการเที่ยวบินเช่าเหมาลำ ที่ลูกค้าสามารถกำหนดเวลาเดินทาง เส้นทาง และจำนวนผู้โดยสารได้เอง

ลูกค้าสามารถติดต่อเพื่อขอใบเสนอราคา หรือวางแผนเที่ยวบินได้ผ่าน

  • โทรศัพท์: +66 2 096 2916
  • WhatsApp: 092 131 5146
  • Line Official: @EzyAirlines

โครงสร้างบริการลักษณะนี้สอดคล้องกับพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและความยืดหยุ่นสูง ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวที่ต้องการทริปส่วนตัวระหว่างเชียงใหม่–ปาย กลุ่มนักธุรกิจที่ต้องเดินทางระหว่างเชียงราย–เชียงใหม่แบบไปเช้า–เย็นกลับ หรือนักลงทุนต่างชาติที่ต้องการสำรวจพื้นที่ทำเลทองในน่านและแม่ฮ่องสอนโดยไม่เสียเวลาบนถนนหลายชั่วโมง

การจองผ่านช่องทางที่ “คุยกับคนจริง” แทนการจองตั๋วผ่านแอปพลิเคชันเหมือนสายการบินทั่วไป ยังช่วยให้สามารถออกแบบบริการเสริมได้ เช่น การจัดรถรับ–ส่งจากสนามบินไปยังโรงแรม การเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์สำหรับผู้สูงอายุ หรือการประสานงานด้านสัมภาระพิเศษ เช่น อุปกรณ์กีฬา หรือสัมภาระทางธุรกิจ

MEDEVAC และบริการเพื่อสังคม บินที่ไม่ได้มีแค่เรื่องท่องเที่ยว

นอกเหนือจากมิติด้านธุรกิจและท่องเที่ยว Ezy Airlines ยังวางฐานการดำเนินงานให้รองรับภารกิจ MEDEVAC (Medical Evacuation) หรือการลำเลียงผู้ป่วยฉุกเฉินและผู้ป่วยวิกฤติจากพื้นที่ห่างไกลเข้าสู่โรงพยาบาลใหญ่

สำหรับจังหวัดในภาคเหนืออย่างแม่ฮ่องสอน น่าน หรือพื้นที่ภูเขาชายแดนที่ใช้เวลาเดินทางด้วยรถเป็นชั่วโมง การมีเที่ยวบินลำเลียงผู้ป่วยที่สามารถย่นระยะทางหลายร้อยกิโลเมตรให้เหลือไม่ถึง 1 ชั่วโมง คือ “ปัจจัยด้านเวลา” ที่สัมพันธ์โดยตรงกับโอกาสรอดชีวิตของผู้ป่วย เครื่อง Cessna 208B ที่มีประตูบานกว้าง พื้นเรียบ และความสามารถขึ้น–ลงสนามบินทางวิ่งสั้น จึงเหมาะสมอย่างยิ่งกับภารกิจลักษณะนี้

การเตรียมความพร้อมของระบบ MEDEVAC ยังมักเชื่อมโยงกับเครือข่ายโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ และบริษัทประกันภัยนานาชาติที่ต้องจัดการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยต่างชาติหรือผู้ป่วยที่ทำงานในพื้นที่ห่างไกลกลับเข้าสู่เมืองใหญ่หรือประเทศต้นทางอย่างปลอดภัย

ผลกระทบทางเศรษฐกิจ–สังคม จากสนามบินสู่ราคาอสังหาฯ และโอกาสเมืองรอง

ประสบการณ์จากหัวเมืองท่องเที่ยวอย่างหัวหิน ภูเก็ต หรือเมืองต่างประเทศจำนวนมากสะท้อนว่า เมื่อพื้นที่ใดมีการลงทุนด้านสนามบินและโครงข่ายเส้นทางบินเพิ่มขึ้น มูลค่าทางเศรษฐกิจในพื้นที่มักขยับขึ้นตามไปด้วย

รายงานบางฉบับชี้ว่า การพัฒนาสนามบินให้กลายเป็นจุดเชื่อมโยงภูมิภาค สามารถทำให้มูลค่าที่ดินในรัศมี 5 กิโลเมตรเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 15–20% ภายในไม่กี่ปี จากการหลั่งไหลของนักลงทุน ผู้เกษียณอายุ และกลุ่มทำงานทางไกลที่มองหาคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าในเมืองรอง

สำหรับภาคเหนือ เมืองอย่าง ปาย–น่าน–แม่ฮ่องสอน กำลังปรากฏในสายตานักลงทุนและนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงในฐานะ “เมืองพักผ่อนระยะยาว” และ “เมืองวัฒนธรรมเชิงลึก” ขณะที่ เชียงราย เองก็มีศักยภาพสูงในฐานะศูนย์กลางเศรษฐกิจชายแดนที่เชื่อมโยงสปป.ลาว เมียนมา และจีนตอนใต้ การมีเที่ยวบินเชื่อมต่อแบบยืดหยุ่นจากเชียงใหม่–เชียงราย และต่อเนื่องไปยังเมืองรองอื่น ๆ ช่วยเสริมบทบาทของเชียงรายให้กลายเป็น “จุดเปลี่ยนถ่าย” สำคัญของระบบเศรษฐกิจ–การท่องเที่ยวในลุ่มน้ำโขงตอนบน

โครงข่ายเที่ยวบินเช่นนี้ ยังเอื้อต่อการออกแบบแพ็กเกจท่องเที่ยวคุณภาพสูง เช่น ทริปกอล์ฟ ทริปเวลเนส ทริปท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ที่เน้นการพักในโรงแรมบูทีคหรือรีสอร์ตระดับบน และใช้เครื่องบินเช่าเหมาลำบินข้ามเมืองได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ต้องการ “ใช้เวลาในสถานที่ท่องเที่ยวมากกว่าบนถนน”

ความท้าทายและโจทย์ใหญ่ในระยะยาว

แม้โอกาสจะเปิดกว้าง แต่การดำเนินธุรกิจสายการบินขนาดเล็กบนเส้นทางภูมิภาคยังเต็มไปด้วยโจทย์ท้าทาย

หนึ่งคือ ความผันผวนของสภาพอากาศและภูมิประเทศ ในภาคเหนือที่มีทั้งฤดูฝนที่เมฆต่ำและลมแรง ฤดูหมอกควันจากไฟป่าและการเผาในที่โล่ง รวมถึงข้อจำกัดของสนามบินบางแห่งที่ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาให้ได้มาตรฐานระหว่างประเทศ การลงทุนในเครื่องบินที่มีระบบช่วยการบินทันสมัย และการฝึกนักบินเฉพาะทางสำหรับการบินในพื้นที่ภูเขา จึงเป็นทั้งต้นทุนและข้อจำเป็นด้านความปลอดภัยที่สายการบินไม่อาจละเลย

สองคือ สมการความคุ้มทุน ของการบินด้วยเครื่องบินเล็กที่มีจำนวนที่นั่งจำกัด ต้นทุนต่อที่นั่งย่อมสูงกว่าเครื่องบินลำใหญ่ที่บรรทุกผู้โดยสารได้กว่า 180 คนต่อเที่ยวบิน โมเดลอย่าง Ezy Airlines จึงจำเป็นต้องวางตำแหน่งชัดเจนว่า “ขายคุณค่าเวลาและความสะดวก” แทนการแข่งขันด้านราคา โดยกลุ่มลูกค้าหลักจะเป็นผู้มีกำลังซื้อสูง ผู้บริหาร นักลงทุน แพทย์ ผู้ป่วย หรือกลุ่มเฉพาะทางอื่น ๆ ที่เห็นว่าต้นทุนเวลาและความเสี่ยงบนถนน “แพงกว่า” ราคาตั๋วเครื่องบินเช่าเหมาลำ

สามคือ การแข่งขันด้านบุคลากรและมาตรฐานความปลอดภัย การบริหารสายการบิน แม้จะเป็นสายการบินขนาดเล็ก ก็ต้องผ่านเกณฑ์ของ CAAT และมาตรฐานสากลด้านการบินพาณิชย์อย่างเข้มงวด ทั้งในส่วนของนักบิน ช่างอากาศยาน และระบบการจัดการความปลอดภัย (Safety Management System) การรักษาบุคลากรที่มีทักษะสูงท่ามกลางการแข่งขันระดับโลกจึงเป็นอีกสมการสำคัญที่ต้องบริหาร

 

เมื่อ “เที่ยวบิน 120,000 บาท” เป็นมากกว่าตัวเลขราคา

หากมองแบบผิวเผิน ราคาค่าเช่าเหมาลำเที่ยวบินเชียงใหม่–เชียงราย ชั่วโมงละ 120,000 บาท นั่งได้ 12 ที่นั่ง อาจทำให้หลายคนรู้สึกว่าเป็นบริการที่ “ไกลตัว” แต่หากมองจากมุมของผู้ประกอบการ นักลงทุน ผู้บริหาร หรือผู้ป่วยที่ต้องแข่งกับเวลา ตัวเลขนี้สะท้อน “มูลค่าของเวลา ความปลอดภัย และคุณภาพชีวิต” ที่เงินพร้อมจ่ายเพื่อแลกกับการเดินทางเพียง 1 ชั่วโมง แทนการนั่งรถ 3.5 ชั่วโมงบนถนน

พร้อมกันนั้น การที่เส้นทางดังกล่าวถูกขยายเชื่อมต่อไปยังแม่ฮ่องสอน ปาย และน่าน ผ่านคอร์ริดอร์การบินเหนือ ก็ทำให้ “เที่ยวบินเช่าเหมาลำ” ไม่ใช่เพียงบริการหรูหราของกลุ่มคนส่วนน้อย แต่เริ่มมีบทบาทระดับโครงสร้างในฐานะกลไกหนึ่งของการเชื่อมเมืองรอง การกระจายรายได้ และการเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ–สังคมของภาคเหนือในภาพรวม

คำถามที่ปรากฏบนโพสต์ของ Ezy Airlines ว่า
“Where do you want to go next?” – คุณอยากไปที่ไหนต่อไป?
จึงไม่ใช่เพียงคำถามถึงจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว แต่ยังเป็นคำถามถึงทิศทางการพัฒนาระบบคมนาคมทางอากาศของภาคเหนือ และบทบาทของสายการบินขนาดเล็กในสมการ “เวลา–โอกาส–คุณภาพชีวิต” ของผู้คนในภูมิภาคนี้ในระยะยาวด้วย

สำนักข่าวนครเชียงรายนิวส์

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • Ezy Airlines
  • ข้อมูลโครงสร้างองค์กรและทุนจดทะเบียนบริษัท เอ็ม–แลนด์อาร์ค จำกัด
  • ข้อมูลด้านเทคนิคเครื่องบิน Cessna 208B Grand Caravan EX
  • กระทรวงคมนาคม กรมท่าอากาศยาน และหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
AROUND CHIANG RAI TRAVEL

อนันตราเปิดเต็นท์หรู สัมผัสธรรมชาติสามเหลี่ยมทองคำ

อนันตราเปิดตัว The Mekong Explorer Tent เต็นท์แคมป์ลักชัวรี่ใจกลางธรรมชาติสามเหลี่ยมทองคำ

เชียงราย, 25 มีนาคม 2568 – อนันตรา สามเหลี่ยมทองคำ แคมป์ช้าง แอนด์ รีสอร์ท จังหวัดเชียงราย เปิดตัวเต็นท์แคมป์สุดหรูแห่งใหม่ “The Mekong Explorer Tent” อย่างเป็นทางการ ถือเป็นหนึ่งในที่พักแบบเต็นท์ที่หรูหราที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงสุดของรีสอร์ท บนพื้นที่กว่า 16 ไร่ โอบล้อมด้วยป่าไผ่อันเขียวขจี มองเห็นแม่น้ำโขงและทิวทัศน์ของสามประเทศ ได้แก่ ไทย ลาว และเมียนมาร์ ได้อย่างชัดเจนแบบพาโนรามา

เต็นท์สุดหรูสไตล์โคโลเนียลผสานล้านนา

The Mekong Explorer Tent ได้รับแรงบันดาลใจจากนักสำรวจในอดีต ผสานศิลปะตะวันตกแบบโคโลเนียลกับความงามแบบล้านนา ห้องพักออกแบบอย่างประณีตด้วยวัสดุไม้สีเข้ม หนังแท้ และผ้าไหมจิม ทอมป์สัน เพิ่มความหรูหรา กลมกลืนกับธรรมชาติอย่างลงตัว

ภายในประกอบด้วย 2 ห้องนอนขนาดใหญ่ เตียงคิงไซส์ พร้อมห้องน้ำในตัวและอ่างอาบน้ำกลางแจ้งบนระเบียงส่วนตัวขนาด 22 ตารางเมตร รวมพื้นที่ใช้สอย 75 ตารางเมตรต่อห้อง มีสระว่ายน้ำส่วนตัวขนาด 3×5 เมตร รองรับผู้ใหญ่สูงสุด 3 ท่าน และเด็ก 1 คน หรือผู้ใหญ่ 2 ท่านกับเด็ก 2 คน

เปิดประสบการณ์การพักผ่อนเหนือระดับ

แพ็คเกจการเข้าพักเริ่มต้นที่ราคา 110,000 บาทต่อคืน ซึ่งรวมบริการพิเศษมากมาย อาทิ

  • บัตเลอร์ส่วนตัว
  • อาหารเช้าสไตล์ In-Tent Dining
  • ดินเนอร์สุดพิเศษแบบ 3 คอร์ส ณ ห้องอาหารแสมสาร
  • อาหารครบ 3 มื้อ พร้อมเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ไม่จำกัด
  • Sky Bite Adventure ชมทัศนียภาพแม่น้ำโขงและฝูงช้างบนความสูง 40 เมตร
  • เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์หอฝิ่นเพื่อเรียนรู้ประวัติศาสตร์สามเหลี่ยมทองคำ
  • ล่องเรือหางยาวบนแม่น้ำโขง

ของที่ระลึกสะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่น

ในห้องพักมีของที่ระลึกที่สะท้อนวัฒนธรรมและวิถีชุมชนของภาคเหนือ อาทิ

  • ชาสวรรค์บนดิน จากกลุ่มชาวบ้าน
  • ช็อกโกแลตจาก Kad Kokoa จังหวัดเชียงใหม่
  • คุกกี้เนยรูปช้างโฮมเมด
  • ผลิตภัณฑ์เห็ดอบกรอบจากดอยตุง
  • ถุงผ้าทอมือแพรวา อัตลักษณ์ของชนเผ่าภาคเหนือ

ทั้งหมดเลือกใช้วัสดุที่ยั่งยืน สื่อถึงความเอาใจใส่ต่อสิ่งแวดล้อมของรีสอร์ท

กิจกรรมหลากหลายเติมเต็มการพักผ่อน

อนันตราสามเหลี่ยมทองคำ ยังมีกิจกรรมมากมายสำหรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม เช่น

  • Walking with Giants เดินเคียงข้างช้างพร้อมควาญ
  • คลาสเรียนทำอาหารไทย Spice Spoons
  • รับประทานอาหารบนกระเช้าลอยฟ้า Canopy
  • คลาสโยคะ พิลาทิส และแพคเกจสปาทรีตเมนต์ส่วนตัว

เชียงรายยกระดับสู่จุดหมายลักชัวรี่ระดับโลก

การเปิดตัว The Mekong Explorer Tent เป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ของจังหวัดเชียงรายในฐานะแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับบนที่มองหาประสบการณ์พิเศษ และมีศักยภาพในการใช้จ่ายสูง

สถิติที่เกี่ยวข้อง

  • ราคาเริ่มต้นการเข้าพัก: 110,000 บาท/คืน (ข้อมูลจาก Anantara Golden Triangle Elephant Camp & Resort)
  • ขนาดห้องพัก: 75 ตารางเมตร/ห้อง พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว
  • จำนวนห้องพักในโครงการ The Mekong Explorer Tent: 1 ยูนิต (เต็นท์แบบ Exclusive)
  • พื้นที่รีสอร์ทโดยรวม: กว่า 16 ไร่ (ข้อมูลจาก อนันตรา เชียงราย)
  • จำนวนกิจกรรมภายในรีสอร์ท: มากกว่า 10 รายการ (ข้อมูล ณ มีนาคม 2568)

Anantara Golden Triangle Unveils The Mekong Explorer Tent: Where Luxury Meets Adventure in the Heart of Northern Thailand

 

Bangkok, 24th February 2025 – Anantara Golden Triangle Elephant Camp & Resort unveils one of Thailand’s most unique and luxurious stays – The Mekong Explorer Tent. The exceptional hillside retreat offers unrivaled panoramic views of Northern Thailand’s breathtaking landscapes, serving as a serene haven for stargazers, nature enthusiasts, and intrepid explorers alike.

Located just 4 km from the iconic Golden Triangle, The Mekong Explorer Tent sits where the borders of Thailand, Laos, and Myanmar converge. Nestled in a 160-acre bamboo forest, the tent offers sweeping views of the verdant jungle, the mighty Mekong River, and the Golden Triangle Asian Elephant Foundation’s 20 rescued elephants roaming below.

The two-bedroom luxury retreat is thoughfully designed with explorers in mind, featuring a tasteful mix of leather, wood, and accents of Jim Thompson fabrics that exude timeless elegance. Handcrafted furniture and locally sourced amenities immerse guests in the region’s rich culture, including locally made, sustainable teas from Sawanabondin, chocolates from Kad Kakao in Northern Thailand, homemade elephant shaped butter cookies, crispy mushrooms in collaboration with DoiTung, and a Praewa cloth bag, traditionally used by hilltribes in the Lanna region. Each spacious bedroom boasts an en-suite bathroom and oversized king-size beds for unparalleled comfort. Outside, two private terraces each feature a 5m x 3m infinity pool and an outdoor bathtub, offering a serene soak amidst nature.

Guests of The Mekong Explorer Tent also enjoy tailored luxuries, including an Explorer’s Arrival via traditional longtail boat, a Sky Bike adventure, full-board gourmet dining, unlimited non-alcoholic beverages, a fully stocked minibar, and access to the Hall of Opium Museum. Additionally, each night’s stay includes a choice of unforgettable activities, such as the Walking with Giants elephant experience, a Spice Spoons cooking class with a local market visit, a 60-minute spa treatment, or a private yoga or Pilates session.

The resort will further elevate its offerings with the introduction of the Mekong Explorer Suites. These suites, inspired by intrepid explorers of the Mekong River, blend Thai Lanna elements with colonial influences. Dark wood paneling, elephant-inspired décor, and antique-style travel trunks evoke a sense of tradition and adventure. Each suite features a balcony with jungle views, a cantilevered Thai daybed, a rain shower, a terrazzo soaking tub, and locally sourced amenities.

The Mekong Explorer Tent is part of the resort’s array of unique luxury accommodations, including the Jungle Bubble and Jungle Bubble Lodge, which offer guests an unforgettable safari-style experience. Guests can dine on a private deck overlooking elephants and enjoy personalized butler service, two bedrooms, and a private plunge pool in these off-the-grid retreats.

 

Anantara Golden Triangle Elephant Camp & Resort is renowned for its commitment to sustainable tourism and wildlife conservation. The resort provides sanctuary for 20 rescued elephants through the Golden Triangle Asian Elephant Foundation, offering guests ethical and educational interactions with these gentle giants. Guests can also enjoy world-class amenities, including luxurious suites, fine dining inspired by the region’s three countries, a rejuvenating spa, and a 30-meter infinity pool overlooking the elephant plains. From birdwatching in the 160-acre bamboo forest to breakfast in the treetops with the Canopy dining experience, every moment at Anantara Golden Triangle is extraordinary. The resort also offers a truly sustainable experience. From the complete elimination of single-use plastic to a reliance on solar power, the resort is also home to its own farm, complete with herb and vegetable gardens, grey Oyster mushroom farm, bee hives, and free-range chickens.

A stay in The Mekong Explorer Tent* starts from $3,800++ per night, including an Explorer’s Arrival, a Sky Bike adventure, full-board gourmet dining, unlimited non-alcoholic beverages, a fully stocked minibar, and access to the Hall of Opium Museum. Additionally, each night’s stay includes a choice of unforgettable activities. For more information and the best available rates, visit anantara.com/en/golden-triangle-chiang-rai, email goldentriangle.ccc@contact.anantara.com, or call +66 53 784 084. For the latest news, follow the resort on Instagram @anantara_goldentriangle

*The Mekong Explorer Tent

  • 2 King Bedrooms 52 sqm with a 22 sqm private balcony, totaling 75 sqm per unit.
  • 2 x oversized king-size beds
  • 2 x bathrooms
  • Outdoor bathtub on the deck for a serene soak amidst nature
  • Private swimming pool measuring L4.8m x W3.15m.
  • Maximum 3 adults & 1 child or 2 adults & 2 children

**The Golden Triangle Luxury Explorer Package includes return luxury airport transfers, full board dining, inclusive of breakfast, lunch and dinner, as well as in-room dining, unlimited non-alcoholic beverages, in-room minibar and admission to the Hall of Opium Museum. Every guest also receives one unforgettable activity for every night stayed including an elephant experience, Spice Spoons cooking class, a 60-minute spa treatment or a 60-minute private yoga or Pilates class.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : 

  • อนันตราสามเหลี่ยมทองคำ แคมป์ช้าง แอนด์ รีสอร์ท – www.anantara.com

  • ข้อมูลรีวิวจาก TripAdvisor และ Booking.com

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ททท. เปิดตัวแคมเปญแอ่วเหนือคนละครึ่ง กระตุ้นการท่องเที่ยว

ททท. ผนึกกำลังพันธมิตรจัดงาน “เหนือพร้อม…เที่ยว” พร้อม Kick Off แคมเปญ “แอ่วเหนือ…คนละครึ่ง” กระตุ้นการท่องเที่ยวภาคเหนือ

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ได้จัดงาน “เหนือพร้อม…เที่ยว” ที่อุทยานไร่แม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย เพื่อประกาศศักยภาพความพร้อมของภาคเหนือในด้านการท่องเที่ยว พร้อมมอบความช่วยเหลือและฟื้นฟูธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย อีกทั้งเปิดตัวแคมเปญ “แอ่วเหนือ…คนละครึ่ง” ซึ่งจะเริ่มต้นให้บริการนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ เพื่อต้อนรับฤดูท่องเที่ยวปลายปี 2567 หวังเพิ่มรายได้และจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าสู่ภาคเหนือ

ฟื้นฟูการท่องเที่ยวภาคเหนือหลังน้ำท่วม เตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยว

นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. กล่าวว่า อุทกภัยที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในภาคเหนือ โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงราย ไม่ว่าจะเป็นด้านการเดินทางเข้าพื้นที่และแหล่งท่องเที่ยวที่เสียหาย แต่ปัจจุบันสถานการณ์กลับสู่ปกติแล้ว ทั้งแหล่งท่องเที่ยวและสถานประกอบการท่องเที่ยวใน 17 จังหวัดภาคเหนือ พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วง High Season นี้ ซึ่งเป็นช่วงที่ภาคเหนือมีอากาศหนาวเย็นและทัศนียภาพสวยงามดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัสความงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมล้านนา

งาน “เหนือพร้อม…เที่ยว” รวมผู้ประกอบการและสื่อมวลชนทั่วประเทศ

ในวันที่ 1-3 พฤศจิกายน 2567 ททท. ได้เชิญผู้ประกอบการและสื่อมวลชนจากทั่วประเทศมากกว่า 200 คน มาร่วมอัปเดตสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวภาคเหนือ โดยมีการจัดเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการท่องเที่ยวภาคเหนือและผู้ที่สนใจ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมทางวัฒนธรรม เช่น พิธีสืบชะตาหลวงล้านนาเพื่อความเป็นสิริมงคล และกิจกรรม CSR ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างความเชื่อมั่นในศักยภาพของภาคเหนือในการฟื้นฟูการท่องเที่ยว

แคมเปญ “แอ่วเหนือ…คนละครึ่ง” สนับสนุนการท่องเที่ยวและกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น

แคมเปญ “แอ่วเหนือ…คนละครึ่ง” จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 โดย ททท. ได้ร่วมกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวในภาคเหนือ 17 จังหวัด มอบส่วนลด 50% ของการใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการในโรงแรม ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และกิจกรรมอื่น ๆ รวมถึงร้านของที่ระลึก โดยจะจำกัดส่วนลดไม่เกิน 400 บาทต่อคนต่อสิทธิ์ และมีทั้งหมด 10,000 สิทธิ์

นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถลงทะเบียนผ่าน QR code ที่โรงแรมหรือสถานประกอบการที่เข้าร่วม โดยเมื่อสมัครรับสิทธิ์แล้ว จะได้รับ SMS ยืนยันการเข้าร่วมแคมเปญ และสามารถใช้สิทธิ์ได้ภายใน 3 วัน นักท่องเที่ยวสามารถใช้สิทธิ์โดยสแกน QR code ที่สถานประกอบการที่เข้าร่วม ซึ่งสังเกตได้จากป้ายโลโก้แคมเปญ “แอ่วเหนือ…คนละครึ่ง”

เทศกาลและกิจกรรมสุดพิเศษที่รอคอยนักท่องเที่ยวปลายปีนี้

นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวถึงความพร้อมของจังหวัดเชียงรายในการฟื้นฟูการท่องเที่ยวเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว โดยมีการเตรียมหลากหลายกิจกรรมและเทศกาลที่น่าสนใจ เช่น งานประเพณีลอยกระทงยี่เป็งนครเชียงราย กิจกรรม Mae Salong Trail งานมหกรรมดอกไม้อาเซียน งานเทศกาลเชียงรายดอกไม้งาม และงานเคาท์ดาวน์เชียงราย 2025 เพื่อสร้างสีสันให้กับฤดูท่องเที่ยวของภาคเหนือและกระตุ้นเศรษฐกิจภายในจังหวัด

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแคมเปญ “แอ่วเหนือ…คนละครึ่ง”

นักท่องเที่ยวสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ผ่าน QR code ที่โรงแรมและสถานประกอบการที่เข้าร่วมในภาคเหนือ และใช้สิทธิ์ได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 หรือเมื่อครบจำนวนสิทธิ์ ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแคมเปญและสถานประกอบการที่ร่วมโครงการได้ที่เว็บไซต์ www.แอ่วเหนือคนละครึ่ง.com หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ TAT Contact Center โทร. 1672

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : www.แอ่วเหนือคนละครึ่ง.com

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News