โกโก้ทั่วโลกเติบโต ไทยเร่งพัฒนาส่งออกเสริมอุตสาหกรรมแปรรูป
เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 มีรายงานข้อมูลจากกรมวิชาการเกษตรและกระทรวงพาณิชย์ถึงสถานการณ์ตลาดโกโก้และช็อกโกแลตทั่วโลก พบว่าตลาดโกโก้ในปี 2566 มีมูลค่ากว่า 16,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และคาดการณ์ว่าจะเติบโตเป็น 22,000 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2571 ขณะที่ตลาดช็อกโกแลตจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 4.4% ระหว่างปี 2565-2573 ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของราคาโกโก้ในตลาดโลกในช่วงปี 2566-2567 มีปัจจัยจากภัยแล้งที่เกิดจากเอลนีโญ ทำให้ผลผลิตลดลง ส่งผลให้ราคาตลาดโลกพุ่งสูงขึ้น โดยในเดือนตุลาคม 2567 ราคาโกโก้เฉลี่ยอยู่ที่ 6.6 เหรียญสหรัฐต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้นถึง 83.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ตลาดโลกและประเทศผู้ผลิตโกโก้รายใหญ่
ตลาดโกโก้ทั่วโลกมีผู้ผลิตสำคัญในแอฟริกาที่ครองสัดส่วน 75% ของผลผลิต โดย 5 ประเทศผู้ผลิตหลัก ได้แก่
- โกตดิวัวร์ (37.9%)
- กานา (18.8%)
- อินโดนีเซีย (11.3%)
- เอกวาดอร์ (5.7%)
- แคเมอรูน (5.1%)
การส่งออกโกโก้ระดับโลก
ในปี 2566 โกตดิวัวร์เป็นประเทศส่งออกเมล็ดโกโก้รายใหญ่ที่สุด ด้วยมูลค่า 3,329 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 33.7% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด รองลงมาคือ เอกวาดอร์ กานา แคเมอรูน และเบลเยียม ส่วนผู้บริโภคหรือประเทศนำเข้าหลัก ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ มาเลเซีย เยอรมนี เบลเยียม และสหรัฐอเมริกา
สถานการณ์โกโก้ในประเทศไทย
ไทยเริ่มพัฒนาอุตสาหกรรมโกโก้อย่างจริงจังในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยในปี 2566 ไทยมีผลผลิตเมล็ดโกโก้รวม 3,360 ตัน เพิ่มขึ้น 167.6% จากปี 2565 และในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 ไทยมีมูลค่าการส่งออกโกโก้และผลิตภัณฑ์แปรรูปกว่า 74 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 16.4% จากปีก่อนหน้า ตลาดส่งออกหลักของไทย ได้แก่ ญี่ปุ่น จีน เมียนมา มาเลเซีย และอินเดีย
ความท้าทายและโอกาสในตลาดโกโก้ไทย
ถึงแม้ไทยยังอยู่ในอันดับที่ 68 ของผู้ส่งออกโกโก้โลก แต่แนวโน้มการเติบโตในตลาดนี้ยังมีโอกาสมหาศาล โดยเฉพาะการแปรรูปเพิ่มมูลค่า เช่น การผลิตช็อกโกแลต Single Origin ซึ่งเป็นตัวอย่างจากมาเลเซียที่ส่งเสริมให้ SME สร้างผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม
ข้อเสนอแนะ
เพื่อเสริมสร้างศักยภาพไทยในตลาดโกโก้ ภาครัฐควรสนับสนุนผู้ประกอบการทั้งในด้านนโยบายและการลงทุน พร้อมผลักดันให้มีการแปรรูปสินค้าโกโก้ เช่นเดียวกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเพิ่มรายได้และยกระดับอุตสาหกรรมโกโก้ไทยให้ก้าวสู่ตลาดโลกอย่างยั่งยืน
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กรมวิชาการเกษตรและกระทรวงพาณิชย์