มาม่าเผยกลยุทธ์ฝ่าตลาดบะหมี่แข่งดุ พร้อมเปิดโอกาสใหม่ให้คนรุ่นใหม่ร่วมเติบโต
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในงานสัมมนา “THAILAND 2025 โอกาส-ความหวัง-ความจริง” จัดโดยหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ นายพันธ์ พะเนียงเวทย์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป “มาม่า” ได้กล่าวในหัวข้อ “โอกาส-ธุรกิจ-คนรุ่นใหม่” ถึงการปรับตัวและกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงความท้าทายที่ธุรกิจต้องเผชิญ
ตลาดบะหมี่ยังไม่ดาวน์เทรนด์ แต่ต้องปรับตัวเพื่อเติบโต
นายพันธ์กล่าวว่า แม้ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในไทยจะมีอายุยาวนานถึง 50 ปี และยอดบริโภคต่อคนต่อปีเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ จาก 52 ซองต่อคนต่อปีเมื่อสองปีก่อน เป็น 55 ซองในปีล่าสุด แต่ธุรกิจนี้ยังไม่ถือว่าอยู่ในช่วงขาลง (ดาวน์เทรนด์) จึงต้องรักษาธุรกิจหลักให้มั่นคง พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย
หนึ่งในความท้าทายสำคัญคือ การแข่งขันจากบะหมี่นำเข้าที่มีราคาสูง เช่น บะหมี่เกาหลีที่เข้ามาเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคของผู้บริโภคไทย โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ยอมจ่ายในราคาสูงขึ้นเพื่อสินค้าที่มีคุณภาพและภาพลักษณ์ดี บริษัทจึงได้รีแบรนด์สินค้าเป็น “มาม่าโอเค” ซึ่งเป็นบะหมี่พรีเมียมในราคาที่เข้าถึงได้ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายใหม่ โดยสินค้านี้สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดกว่า 10% ได้สำเร็จ
ความท้าทายด้านต้นทุนและกำไร
ธุรกิจบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในไทยมีผู้ประกอบการน้อยราย เพราะเป็นธุรกิจที่มีกำไรต่ำและการบริหารต้นทุนเป็นเรื่องยาก มาม่าจึงต้องใช้จุดแข็งในการควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันและความมั่นคงทางการเงิน
นายพันธ์กล่าวว่า แม้เศรษฐกิจจะดีขึ้นในอนาคต ก็ไม่กังวลว่าผู้บริโภคจะลดการบริโภคมาม่า เพราะลูกค้าหลักของบริษัทคือกลุ่มที่ยังต้องรับมือกับรายจ่ายสูงและติดกับดักทางการเงิน อีกทั้งยังมองว่ารัฐบาลควรมีบทบาทในการปรับปรุงเศรษฐกิจและส่งเสริมการออมเพื่อช่วยเหลือประชาชน
ดึงคนรุ่นใหม่ร่วมสร้างอนาคต
อย่างไรก็ตาม หนึ่งในปัญหาหลักที่บริษัทต้องเผชิญคือการสร้างคนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมงาน เนื่องจากเด็กรุ่นใหม่ไม่สนใจทำงานในองค์กรแบบดั้งเดิม บริษัทจึงต้องพัฒนาบรรยากาศในการทำงานให้ดึงดูดใจมากขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่น เช่น การทำงานจากที่บ้าน
นายพันธ์กล่าวว่า มาม่าอาจไม่เคยติดอันดับบริษัทที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานมากที่สุด แต่บริษัทกำลังพยายามเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างความน่าสนใจและดึงดูดบุคลากรที่มีศักยภาพ
ทิศทางในอนาคต
บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ยังคงมุ่งมั่นที่จะรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป พร้อมเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่และกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในทุกยุคสมัย รวมถึงการสนับสนุนคนรุ่นใหม่ให้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาองค์กรและเติบโตไปพร้อมกัน
มาม่ากำลังพิสูจน์ว่า แม้ในตลาดที่มีการแข่งขันสูงและกำไรต่ำ ความมุ่งมั่นและการปรับตัวอย่างต่อเนื่องคือกุญแจสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : จัดโดยหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ