นโยบายข้าวไทย: เส้นทางใหม่สู่ความยั่งยืนในโลกที่เปลี่ยนแปลง
เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567 Forbes Thailand ได้รายงานข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ นโยบายข้าวไทย ซึ่งกำลังเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่ในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การเมือง เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม การปรับตัวและการวางแผนเชิงกลยุทธ์ของประเทศไทยจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ภาครัฐและทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันขับเคลื่อนเพื่อสร้างคุณค่าและความยั่งยืนให้กับข้าวไทย
ความท้าทายใหม่ของข้าวไทยในยุคโลกเปลี่ยนแปลง
รศ.ดร.ปัทมาวดี โพชนุกูล อดีตผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (สกสว.) กล่าวว่า การกำหนดทิศทางของข้าวไทยในระบบเศรษฐกิจต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน การสนับสนุนเกษตรกรให้ปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและเทคโนโลยีเป็นเรื่องสำคัญ เช่นเดียวกับการสนับสนุนงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อนำไปใช้จริง นอกจากนี้ ภาครัฐควรเปลี่ยนบทบาทจากการเน้นปริมาณการส่งออกไปสู่การสร้างคุณค่าในตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) เช่น ข้าวเพื่อสุขภาพ ข้าวในเชิงอุตสาหกรรม หรือข้าวที่เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
ข้าวไทยกับบทบาทใหม่ในเศรษฐกิจโลก
ดร.ธีรยุทธ ตู้จินดา ที่ปรึกษาและนักวิจัยอาวุโส ศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ชี้ให้เห็นว่าปัญหาสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานของข้าว โดยประเทศไทยต้องพัฒนายุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และเชื่อมโยงข้าวเข้ากับ Soft Power เช่น การสร้างเรื่องราว (Storytelling) เพื่อเพิ่มมูลค่าให้ข้าวไทยกลายเป็นสัญลักษณ์ของวิถีชีวิตคนไทย
งาน Thailand Rice Fest 2024 กับมุมมองใหม่
ในงาน Thailand Rice Fest 2024 มีการเสวนาเกี่ยวกับแนวทางพัฒนาข้าวไทย โดยผู้เชี่ยวชาญจากหลายภาคส่วน รศ.ดร.ศิวเรศ อารีกิจ ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า การพัฒนาข้าวไทยต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนและสามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้จริง เช่น การใช้โมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy) เพื่อบูรณาการห่วงโซ่คุณค่าทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม
การวางตำแหน่งและสร้างคุณค่าให้กับข้าวไทย
ผู้เชี่ยวชาญเห็นพ้องว่าประเทศไทยควรหยุดเน้นการแข่งขันด้านปริมาณการส่งออกและหันมาเน้นการเพิ่มคุณค่าของข้าว เช่น การผลิตข้าวที่ตอบโจทย์ด้านโภชนาการ การสร้างความมั่นคงทางอาหาร และการใช้ข้าวเป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่น อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง และพลังงานชีวภาพ นอกจากนี้ ข้าวยังสามารถเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เพื่อให้ผู้บริโภคได้เรียนรู้เรื่องสุขภาพและวัฒนธรรมผ่านข้าวไทย
สรุป
การเปลี่ยนแปลงนโยบายข้าวไทยต้องมุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน การสนับสนุนจากภาครัฐและความร่วมมือจากทุกภาคส่วนจะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างคุณค่าใหม่ให้ข้าวไทยก้าวข้ามความท้าทายและคว้าโอกาสในเวทีโลกอย่างแท้จริง
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (สกสว.)