Categories
NEWS UPDATE

รัฐมนตรีเกษตร’ เปิดงาน 121 ปีกรมชลประทาน ก้าวสู่อนาคตสู่ทศวรรษใหม่

 

 ดร.เฉลิมชัยศรีอ่อนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “121 ปี  กรมชลประทานสู่อนาคตสู่ทศวรรษใหม่” เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากรมชลประทานครบรอบปีที่ 121 ในวันที่ 13 มิถุนายน 2566 โดยมีนายนราพัฒน์ แก้วทองผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นายธนาชีรวินิจเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นายสมเกียรติกอไพศาลประธานคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นายสำเริงแสงภู่วงศ์คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรแบะสหกรณ์นายประยูรอินสกุลปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นายประพิศจันทร์มาอธิบดีกรมชลประทานผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมชลประทานเข้าร่วมณอาคาร 99 ปีหม่อมหลวงชูชาติกำภูกรมชลประทานถนนสามเสนกรุงเทพฯ 

          รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่ากรมชลประทานเป็นหน่วยงานสำคัญในการขับเคลื่อนภาคการเกษตรมีภารกิจด้านการจัดหาแหล่งน้ำการพัฒนาแหล่งน้ำตลอดจนการบริหารจัดการน้ำเพื่อให้มีน้ำใช้เพียงพอในทุกภาคส่วนจึงได้เน้นย้ำเรื่องการเพิ่มแหล่งน้ำต้นทุนซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องร่วมมือกันดำเนินการรวมทั้งต้องมีการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพตลอดจนใช้น้ำให้เกิดคุณค่ามากที่สุดพี่น้องเกษตรกรและประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุดและเป็นการสร้างความมั่นคงด้านน้ำให้ประเทศนอกจากนี้ยังมีโครงการที่จำเป็นต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จเพื่อเพิ่มต้นทุนน้ำในอนาคตเป็นการเตรียมความพร้อมลดปัญหาขาดแคลนน้ำในช่วงฝนทิ้งช่วงและขอให้ทุกภาคส่วนร่วมกันใช้น้ำอย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป

          “จากสถานการณ์ฝนทิ้งช่วงที่ผ่านมาซึ่งขณะนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูฝนแล้วขอยืนยันว่ากรมชลประทานได้เตรียมแผนจัดสรรน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคและการรักษาระบบนิเวศน์ไว้เพียงพอส่วนน้ำภาคการเกษตรขอฝากไปยังพี่น้องเกษตรกรให้ช่วยกันรักษาและใช้น้ำอย่างมีคุณค่ามากที่สุดทั้งนี้ขอเป็นกำลังใจให้ข้าราชการเจ้าหน้าที่กรมชลประทานทุกคนตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ในการแก้ปัญหาเพื่อประชาชนและประเทศชาติและก้าวสู่ปีที่ 122 อย่างมั่นคง” รมว.เกษตรฯกล่าว 

          โอกาสนี้รมว.เกษตรฯเป็นประธานในพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณรางวัลข้าราชการพลเรือนและลูกจ้างประจำดีเด่นประจำปีพ.. 2565 รางวัลการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษา/โครงการชลประทานและฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาประจำปีพ.. 2566 และรางวัลนวัตกรรมดีเด่นพร้อมทั้งเยี่ยมชมนิทรรศการทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์

          ด้านนายประพิศจันทร์มาอธิบดีกรมชลประทานเปิดเผยว่ากรมชลประทานก้าวสู่ทศวรรษที่ 13 ยังคงยืนหยัดและยึดมั่นในการดําเนินงานตามภารกิจสร้างความมั่นคงด้านน้ําเพื่อความมั่งคั่งของผลผลิตทางการเกษตรและเพื่อความยั่งยืนของพี่น้องเกษตรและประชาชนตามภารกิจหลักภายใต้ยุทธศาสตร์กรมชลประทาน 20 ปี (..2561-2580) โดยมีเป้าหมายเพิ่มพื้นที่ชลประทานให้ได้กว่า 49.5 ล้านไร่เพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนได้ประมาณ 93,655 ล้านลูกบาศก์เมตรเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำโดยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อป้องกันและบรรเทาภัยพิบัติจากน้ำรวมไปถึงมุ่งสร้างความมั่นคงด้านน้ำ Water Security เพิ่มคุณค่าการบริการก้าวสู่องค์กรอัจฉริยะภายในปี 2580 ตาม Road Map การดำเนินงานทั้ง 4 เฟสเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ได้แก่

          เฟส 1 (2561-2565) “เสริมพลังใหม่สู่การปรับเปลี่ยน” มีโครงการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ขนาดกลางขนาดเล็กและโครงการพระราชดำริที่ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จหลายโครงการกระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศสามารถเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักได้รวม 1,292.50 ล้านลูกบาศก์เมตรและเพิ่มพื้นที่ชลประทานได้ 1.94 ล้านไร่

          เฟส 2 (2566-2570) “สร้างภาคีเครือข่ายและความร่วมมือ” มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการควบคุมและบริหารน้ำระบบอัจฉริยะก่อสร้างระบบชลประทานด้วยนวัตกรรมชั้นสูงสร้างระบบเครือข่ายที่เข้มแข็ง

          เฟส 3 (2571-2575) “ปฏิรูปรูปแบบกระบวนงาน” Smart Water Operation Center

          และเฟส 4 (2576-2580) “มุ่งสู่องค์กรอัจฉริยะ” พัฒนาแหล่งน้ำชลประทานครอบคลุมทุกลุ่มน้ำระบบชลประทานครบสมบูรณ์        

          สำหรับในปีนี้กรมชลประทานได้จัดนิทรรศการ 2 รูปแบบได้แก่ 1. นิทรรศการออนไลน์ “สู่อนาคตสู่ทศวรรษใหม่ 121 ปีกรมชลประทาน” เป็นนิทรรศการเสมือนจริงแบบ 3 มิติแสดงประวัติความเป็นมางานด้านชลประทานผลงานตามภารกิจของกรมชลประทานตลอดจนทิศทางการขับเคลื่อนงานสู่เฟส 2 สามารถรับชมผ่านทางเว็บไซต์กรมชลประทาน www.121exhibition.rid.go.th ได้ตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไปและ 2. นิทรรศการ On ground “กรมชลประทาน 6 รัชกาลงานของแผ่นดิน” พร้อมกิจกรรมที่น่าสนใจอาทิการเสวนาพิเศษโดยดร.อั๋นภูวนาทคุนผลินกับหัวข้อ “ปลุกพลัง RID TEAM สร้างความสำเร็จสู่อนาคตใหม่” ตลอดจนกิจกรรม “มอบทุนต้นกล้าเกษตรคืนถิ่นเพื่อความยั่งยืน” ให้แก่บุตรเกษตรกรที่ผ่านการคัดเลือกให้ศึกษาต่อระดับปริญญาตรีณวิทยาลัยการชลประทานกิจกรรมร่วมบริจาคโลหิตให้สภากาชาดไทยและกิจกรรมแจกกล้าไม้อาทิสักทองพะยูงยางนาตะเคียนทองรวม 520 กล้ารวมไปถึงการจัดจำหน่ายผลผลิตทางเกษตรจากเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบภายใต้แผนพัฒนาอาชีพและแผนป้องกันแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากการก่อสร้างโครงการพัฒนาแหล่งน้ำบริเวณด้านหลังอาคาร 99 ปีหม่อมหลวงชูชาติกำภูกรมชลประทานถนนามเสนกรุงเทพฯ 

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

รมว.เฉลิมชัย’ หนุนงานวิจัยพันธุ์ข้าว ชูเทคโนโลยี นวัตกรรมพัฒนาสายพันธุ์ข้าวไทยแข่งขันตลาดโลก

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานพิธีปิดการจัดงานรณรงค์ถ่ายทอดเทคโนโลยีลดต้นทุนการผลิตด้านการเกษตรสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เนื่องในวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ ประจําปี 2566 ภายใต้แนวคิด “91 พรรษา สายธารแห่งน้ำพระทัย สร้างชาวนาวิถีใหม่ สู่ข้าวไทยยั่งยืน” ณ กรมการข้าว เกษตรกลางบางเขน เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร โดยมี นายธนา ชีรวินิจ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสมเกียรติ กอไพศาล ประธานคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว และผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมเป็นเกียรติในงาน โอกาสนี้ รมว.เกษตรฯ ได้มอบรางวัลชนะเลิศการประกวดแข่งขันแฟนพันธุ์แท้ข้าวไทย การประกวดวาดภาพสีโปสเตอร์ภายใต้หัวข้อ “ข้าวและชาวนาไทย” และการประกวดงานศิลปะ เรียงเมล็ดพันธุ์ข้าว ภายใต้หัวข้อ “กสิกรรม นําไทยยั่งยืน” ให้กับผู้ชนะการแข่งขัน


ดร.เฉลิมชัย กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีที่จะสามารถช่วยให้เกษตรกรลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต ซึ่งเกษตรกรจะได้รับประโยชน์และมีรายได้เพิ่มขึ้น และยังได้รับองค์ความรู้จากเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ ๆ ภายในงาน ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ได้ฝากให้กรมการข้าวเดินหน้าผลักดันงานวิจัยสายพันธุ์ข้าว ให้มีผลตอบแทนสูงขึ้น ซึ่งถือเป็นนโยบายหลักของกระทรวงเกษตรฯ อีกทั้งเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันกับตลาดต่างประเทศ นอกจากนี้  ยังต้องมุ่งเน้นการเผยแพร่งานวิจัยไปยังศูนย์ข้าวชุมชนทั่วประเทศ และกลุ่มวิสาหกิจแปลงใหญ่อีกด้วย


     “ขอฝากไปยังข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ให้ยึดหลักว่าพี่น้องเกษตรกรคือคนในครอบครัว เพื่อร่วมมือกันแก้ไขปัญหา และต่อยอดนโยบายที่ดีอยู่แล้วให้เกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ตลอดจนผลักดันขยายการส่งออกข้าวไทยไปยังตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดจีน ทั้งนี้ ขอความร่วมมือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ติดตามรับฟังข่าวสารอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันความเสียหายและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากสถานการณ์ภัยแล้ง” รมว.เกษตรฯ กล่าว


     นอกจากนี้ รมว.เกษตรฯ ได้แสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในการประกวดแข่งขันดังกล่าว และชื่นชมต่อความสําเร็จของการจัดงานในครั้งนี้ ซึ่งการจัดงานทําให้เกษตรกร และผู้สนใจได้รำลึกถึงความสําคัญของข้าว ในฐานะพืชที่หล่อเลี้ยงชีวิตคนไทยมาอย่างยาวนาน ตลอดจนได้รับทราบองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีลดต้นทุนการผลิตด้านการเกษตรที่ใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าว การยกระดับคุณภาพผลผลิตให้สนองความต้องการของตลาด พร้อมทั้งการผลิตข้าวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและนําไปประยุกต์ใช้ประโยชน์ต่อไป


ทั้งนี้ ตามที่กรมการข้าวได้จัดงานรณรงค์ถ่ายทอดเทคโนโลยีลดต้นทุนการผลิตด้านการเกษตรสําหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เนื่องในวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ ประจําปี 2566 ระหว่างวันที่ 5 – 7 มิถุนายน 2566 ณ กรมการข้าว ภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน เพื่อให้ประชาชนรําลึกถึงความสําคัญของข้าว ในฐานะพืชที่หล่อเลี้ยงชีวิตคนไทยมาอย่างยาวนาน และถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีลดต้นทุนการผลิตด้านการเกษตรที่ใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าว การยกระดับคุณภาพผลผลิตให้สนองความต้องการของตลาด 

 

พร้อมทั้งการผลิตข้าวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ให้เกษตรกรที่เข้าร่วมงานได้รับทราบและนําไปประยุกต์ใช้ ซึ่งการจัดงานครั้งนี้เป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรชาวนา วิสาหกิจชุมชนและผู้ประกอบการ ภายในงานประกอบไปด้วยกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ นิทรรศการ เทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ที่ทรงงานด้านข้าวและชาวนา นิทรรศการเชิดชูเกียรติชาวนา นิทรรศการและการแสดงผลงานขององค์กรชาวนาหน่วยงาน ราชการ และภาคเอกชน การจัดเวทีเสวนาข้าวและชาวนา การสาธิตและประกวดแข่งขันและการจําหน่ายสินค้าข้าวและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากข้าว โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมงานและรับชม ผ่านทางออนไลน์ จํานวน  76,055 ราย ทําให้การจัดงานในครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

 

     นอกจากนี้ ยังมีการจัดงานอีก 2 จังหวัด ได้แก่ ศูนย์วิจัยข้าวพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 – 17 มิถุนายน 2566 และ Korat Hall ชั้น 4 ห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัล นครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ 22 – 23 มิถุนายน 2566 อีกด้วย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News