Categories
NEWS UPDATE

ซอฟต์พาวเวอร์ยกระดับเศรษฐกิจไทย นายกฯ ชี้คือโอกาสอนาคต

เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2567 เวลา 09.00 น. ณ ห้องแกรนด์บอลรูม 2-3 โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ถนนราชดำริ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยทีมคณะรัฐมนตรี อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้เข้าร่วมงานเสวนา “ซอฟต์พาวเวอร์ไทย ไปอย่างไรให้มีพลัง” ในงาน “Dailynews Talk 2024” ซึ่งมีหัวข้อ “Soft Power: โอกาสประเทศไทย”

ปาฐกถาของนายกรัฐมนตรี

ในระหว่างงาน นายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษถึงความท้าทายของประเทศไทยที่ติดอยู่ในกับดักรายได้ปานกลางมาเป็นเวลานาน และได้เน้นย้ำว่าการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง โดยซอฟต์พาวเวอร์จะเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์ใหม่ที่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยไปสู่อนาคต

ยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์

นายกฯ กล่าวถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย ที่มีความมั่งคั่งทางวัฒนธรรมที่สามารถขายได้และพัฒนาได้ ซึ่งจะช่วยดึงดูดชาวต่างชาติให้หลงใหลในเอกลักษณ์ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร วัฒนธรรม หรือสินค้าที่เกิดจากภูมิปัญญาพื้นบ้าน โดยเน้นถึงการพัฒนาแรงงานทักษะต่ำไปสู่แรงงานทักษะสูง เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการด้วยความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม

หนึ่งในโครงการสำคัญที่นายกฯ ได้กล่าวถึงคือโครงการ “1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์” หรือ OFOS ซึ่งเป็นการให้โอกาสคนไทยในการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์พาวเวอร์อย่างครอบคลุม ผ่านการฝึกอบรมทั้งแบบออนไซต์และออนไลน์ โดยไม่จำกัดวุฒิการศึกษาและไม่มีค่าใช้จ่าย

ยกระดับศักยภาพแรงงานและการต่อยอดนวัตกรรม

นายกฯ เน้นว่าการพัฒนาแรงงานให้มีทักษะสูงและนำความคิดสร้างสรรค์มาต่อยอดกับนวัตกรรมใหม่ๆ จะทำให้ประเทศไทยมีศักยภาพในการแข่งขันในตลาดโลก โดยยกตัวอย่างแบรนด์ “Korakot” ที่นำภูมิปัญญาไทยมาสร้างเป็นสินค้าประติมากรรมไม้ไผ่ซึ่งประสบความสำเร็จในระดับสากล

นอกจากนี้ นายกฯ ยังได้กล่าวถึงอุตสาหกรรมอัญมณีไทยที่เติบโตขึ้นมาอย่างมหาศาล แต่ยังคงขาดแคลนแรงงานทักษะสูง ซึ่งเป็นโอกาสที่ไทยควรเร่งพัฒนาแรงงานในภาคนี้เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมให้เติบโตต่อไปอีก

การสร้างเศรษฐกิจผ่าน Soft Power

นอกจากอุตสาหกรรมสินค้าและบริการ นายกฯ ยังได้เน้นถึงโอกาสในอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม (Wellness) ซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพในการพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพระดับโลก ด้วยภูมิปัญญาด้านสมุนไพร นวดไทย และการดูแลสุขภาพกายและใจ

นายกฯ ยังได้กล่าวถึงการพัฒนาเทศกาลวัฒนธรรมต่างๆ เช่น มหาสงกรานต์ ลอยกระทง ผีตาโขน และบุญบั้งไฟ เพื่อสร้างเศรษฐกิจเทศกาลในระดับสากล พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมให้ประเทศไทยเป็นพื้นที่สำหรับการจัดเทศกาลดนตรีระดับโลก ซึ่งจะเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจไทยผ่านซอฟต์พาวเวอร์

สรุปปาฐกถาของนายกฯ

นายกฯ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “พี่น้องประชาชนและรัฐบาล คือหุ้นส่วนประเทศไทย ที่ต้องร่วมกันช่วยพัฒนาประเทศไทย     ให้เจริญรุ่งเรือง ให้เป็นประเทศพัฒนาที่มีรายได้สูง และคนไทยไม่ยากจนอีกต่อไป เมื่อประชาชนพัฒนาศักยภาพทักษะ ยกระดับรายได้และฐานะให้ร่ำรวยรัฐบาลก็จะสามารถเก็บภาษีได้มากขึ้น ภาษีที่เก็บได้จะนำมาใช้เพื่อพัฒนาประเทศให้รุ่งเรือง ประโยชน์ก็จะกลับตกอยู่กับประชาชนคนไทย” 

ทั้งหมดนี้แสดงถึงวิสัยทัศน์ของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการใช้ซอฟต์พาวเวอร์เป็นหนึ่งในกลไกสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย และนำพาประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางด้านวัฒนธรรมและนวัตกรรมระดับโลก

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : งานเสวนา เดลินิวส์ ทอล์ก 2024 (Dailynews Talk 2024) “Soft Power: โอกาสประเทศไทย” ณ ห้องแกรนด์บอลรูม 2 – 3 โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ถนนราชดำริ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 21 ตุลาคม 2567

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
AROUND CHIANG RAI TRAVEL

เลื่อนจัดงาน ชา-กาแฟ เชียงราย 2024 เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้จัดงาน

ทีเส็บเร่งฟื้นฟูอุตสาหกรรมไมซ์ หลังน้ำลด พร้อมดันงานอีเวนต์ปลายปี ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567 นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ (TCEB) เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมไมซ์ (MICE) ซึ่งประกอบด้วยการจัดประชุม งานแสดงสินค้า และอีเวนต์ขนาดใหญ่ในประเทศไทย ได้ฟื้นตัวกลับมาได้อย่างแข็งแกร่ง สะท้อนผ่านการจัดงานขนาดใหญ่หลายงานทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมถึงการจัด เทศกาลประจำจังหวัด ต่าง ๆ ที่ได้รับความสนใจจากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการส่งเสริม ซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ของรัฐบาลไทย โดยการนำเสนอวัฒนธรรมไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล ผ่านการจัดงานต่าง ๆ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ไมซ์ดันรายได้ท่องเที่ยวพุ่ง 3 เท่า

นายจิรุตถ์กล่าวว่า นักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ใช้จ่ายต่อหัวสูงกว่านักท่องเที่ยวปกติถึง 3 เท่าครึ่ง ซึ่งช่วยสร้างรายได้ให้แก่เศรษฐกิจทั้งทางตรงและทางอ้อม จึงถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยที่ผ่านมา ทีเส็บ ได้ร่วมมือกับ หอการค้าไทย และ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในการส่งเสริมการจัดงานในจังหวัดต่าง ๆ เพื่อลดความหนาแน่นของการจัดงานในเมืองใหญ่ และกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น เช่น การจัดงานเทศกาลประจำจังหวัด หรือการจัดนิทรรศการเชิงวัฒนธรรมในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจของท้องถิ่นอย่างยั่งยืน

“ขอนแก่นปลาร้าเฟสติวัล” จัดปลายปี เน้นอัตลักษณ์ท้องถิ่น

ในเดือนธันวาคมนี้ ทีเส็บเตรียมสนับสนุนการจัดงาน ขอนแก่นปลาร้าเฟสติวัล ซึ่งเป็นการนำเสนออัตลักษณ์ท้องถิ่น และวัฒนธรรมการทำปลาร้าในจังหวัดขอนแก่น โดยเน้นการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนและผู้ประกอบการท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้และส่งเสริมภาพลักษณ์ของขอนแก่นในฐานะเมืองท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ทั้งนี้ การจัดงานดังกล่าวจะเป็นต้นแบบของการจัดงานในรูปแบบ “ระเบิดจากภายใน” (Inside-Out) ซึ่งเป็นการผลักดันเศรษฐกิจท้องถิ่นให้เติบโตอย่างแท้จริง และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริม Soft Power ผ่านวัฒนธรรมท้องถิ่น

 
ฟื้นฟูพื้นที่จัดงานหลังน้ำลดในเชียงใหม่-เชียงราย

นายจิรุตถ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ในขณะนี้ ทีเส็บอยู่ระหว่างการวางแผนฟื้นฟูพื้นที่จัดงานในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย โดยเฉพาะ เชียงใหม่ และ เชียงราย หลังจากระดับน้ำในหลายพื้นที่เริ่มลดลง เช่น โรงแรมและสถานที่จัดงานขนาดใหญ่ที่ต้องทำความสะอาดครั้งใหญ่ (Big Cleaning Day) เนื่องจากได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม ทั้งนี้ ทีเส็บจะเร่งฟื้นฟูพื้นที่ดังกล่าวเพื่อให้พร้อมสำหรับการจัดงานในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี เนื่องจากเป็นช่วงที่มีการจัดงานไมซ์และอีเวนต์มากที่สุด

“ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 2567 (ต.ค.-ธ.ค.) เป็นช่วงเวลาสำคัญของการจัดงานไมซ์และอีเวนต์ในประเทศไทย เราจึงต้องเร่งฟื้นฟูและเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับงานต่าง ๆ เช่น งาน ชา-กาแฟ ของจังหวัดเชียงราย ที่แม้สถานที่จัดงานจะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากน้ำท่วม แต่เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้จัดงาน เราอาจต้องมีการเลื่อนการจัดงานไปอีกเล็กน้อย” นายจิรุตถ์ กล่าว

เตรียมบิดงานอีเวนต์ระดับโลกเข้าประเทศในปี 68

สำหรับปี 2568 ทีเส็บเตรียมดำเนินการเสนอแผนการจัดงานประชุมและอีเวนต์ระดับโลกในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการดึงดูดนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการจากต่างประเทศเข้ามาจัดงานในไทยมากขึ้น ผ่านการเพิ่มสิทธิประโยชน์ และการสนับสนุนการจัดงานขนาดใหญ่ พร้อมทั้งฟื้นฟูภาพลักษณ์ของจังหวัดต่าง ๆ เช่น เชียงใหม่ และ เชียงราย ที่มีศักยภาพในการจัดงานระดับนานาชาติ และสามารถดึงดูดนักลงทุนและนักท่องเที่ยวได้อย่างต่อเนื่อง

บทสรุป: “ไมซ์” กลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยหลังน้ำลด

การฟื้นฟูและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์จะเป็นกุญแจสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในช่วงปลายปี 2567 นี้ โดยเฉพาะการจัดงานในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เช่น เชียงใหม่ และเชียงราย ที่ทีเส็บกำลังเร่งฟื้นฟูเพื่อให้กลับมาพร้อมรับการจัดงานและดึงดูดนักท่องเที่ยวอีกครั้ง ทั้งนี้ การฟื้นฟูและดึงดูดงานอีเวนต์ขนาดใหญ่จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งสนับสนุนภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการจัดงานประชุมและนิทรรศการในภูมิภาคอาเซียนได้อย่างยั่งยืน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : World Tea & Coffee Expo 2024

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News