“กรมป่าไม้ส่งชุดพยัคฆ์ไพรลงพื้นที่ขยายผลตรวจสอบกรณีได้รับแจ้งเบาะแสว่ามีไม้ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเข้ามาซุกซ่อนและทำการแปรรูปภายในบริเวณสถานประกอบกิจการอุตสาหกรรมไม้แห่งหนึ่งในอำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร เบื้องต้นตรวจพบไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขที่ระบุไว้ท้ายในอนุญาต จึงได้แจ้งความกล่าวโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484”
นายทรงศักดิ์ กิตติธากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สั่งการให้นายชาญชัย กิจศักดาภาพ ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการพิเศษ หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพร ร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ สจป.4 สาขานครสวรรค์ เข้าตรวจสอบสถานประกอบกิจการอุตสาหกรรมไม้แห่งหนึ่งในอำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร ตามที่ได้รับแจ้งเบาะแสว่ามีไม้ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเข้ามาซุกซ่อนและทำการแปรรูปภายในบริเวณสถานประกอบการแห่งนี้
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบปรากฏว่า สถานประกอบกิจการอุตสาหกรรมไม้แห่งนี้ ได้รับใบอนุญาตตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยใช้เครื่องจักรเพื่อการค้า โดยมีผู้แทนบริษัทได้นำเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ และมอบสำเนาเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบไม่พบว่ามีการจัดทำบัญชีไม้ ให้ถูกต้องตรงกับความเป็นจริงในแต่ละวัน และไม่เก็บรักษาบัญชีไม้และหลักฐานกำกับไม้ที่นำเข้าและจำหน่ายออกไว้ ณ สถานที่รับใบอนุญาต
ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด ฉบับที่ 18 (พ.ศ.2532) ออกตามพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 ว่าด้วยการควบคุมการแปรรูปไม้ ข้อ 8 และ ข้อ10 มีความผิด ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 ฐานฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในใบอนุญาตหรือข้อกำหนดที่รัฐมนตรีกำหนดให้ปฏิบัติเพิ่มเติม ตามมาตรา 58 ประกอบตามมาตรา 73 ทวิ และจากการตรวจสอบพบคนงาน 11 คน ไม่มีใบคู่มือคนงานหรือผู้รับจ้าง แสดงต่อเจ้าหน้าที่ มีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 มาตรา 57 ประกอบมาตรา 71
นอกจากนี้ตรวจพบไม้สักท่อน 1 ท่อน ปริมาตร 1.43 ลูกบาศก์เมตร ไม้สักแปรรูป 21 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 2 ลูกบาศก์เมตร และไม้พฤกษ์แปรรูป 27 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 3.62 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งยังไม่สามารถแสดงเอกสารการได้มาของไม้ได้อย่างครบถ้วน ซึ่งผู้แทนบริษัทแจ้งว่าเป็นไม้ที่รับจ้างแปรรูป จึงขอโอกาสนำเอกสารการได้มาของไม้แสดงต่อเจ้าหน้าที่ภายใน 7 วัน เพื่อตรวจสอบความถูกต้องต่อไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่บันทึกเรื่องราว นำไปแจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรโพทะเล ให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมจะได้แจ้งประสานไปยังศูนย์ป่าไม้พิจิตร เพื่อประสานไปยังสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจิตร ให้พิจารณาดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายด้านการอนุญาต และประสานสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขานครสวรรค์ เพื่อพิจารณามอบหมายเจ้าหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องการได้มาของไม้ตามระเบียบและกฎหมายต่อไป
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้