Categories
ECONOMY

ธ.ก.ส. พร้อมเดินหน้าแก้หนี้ครัวเรือน “สินเชื่อแทนคุณ” แก้ปัญหา Aging ลูกค้า

ธ.ก.ส. ร่วมสมาคมสถาบันการเงินของรัฐและสมาคมธนาคารไทย เดินหน้าแก้หนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืนสอดคล้องกับนโยบายของ ธปท. โดยจัดกลุ่มลูกหนี้ตามศักยภาพ พร้อมวางแนวทางและเครื่องมือเข้าไปช่วยแก้ปัญหาเฉพาะกลุ่ม เสริมด้วยความรู้เทคโนโลยีในการยกระดับรายได้ จัดทำโครงการสินเชื่อแทนคุณ วงเงิน 20,000 ล้านบาท แก้ปัญหา Aging ลูกค้า วางเป้าดึงทายาท 42,000 คน ร่วมบริหารจัดการหนี้และรักษาทรัพย์สินของครอบครัว พร้อมหนุนการต่อยอด สร้างมูลค่าเพิ่มสินค้า ยกระดับสู่ตลาดที่มีกำลังซื้อสูง

นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. ได้มีการดำเนินนโยบายการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนสอดรับกับนโยบายธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยแบ่งกลุ่มลูกหนี้ตามศักยภาพเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มลูกหนี้ปกติ กลุ่มลูกหนี้ Hybrid และกลุ่มลูกหนี้ NPL และจัดทำเครื่องมือหรือวิธีการแก้ไขหนี้ให้สอดคล้องกับปัญหาที่แท้จริงของลูกหนี้เฉพาะกลุ่ม ควบคู่กับการเสริมความรู้ ทางการเงิน เทคโนโลยี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการประกอบอาชีพและยกระดับรายได้ ซึ่งการดำเนินงานมีทั้งการวางแนวทางป้องกันไม่ให้หนี้ดีกลายเป็นหนี้เสียผ่านมาตรการต่าง ๆ ได้แก่ โครงการชำระดีมีคืน โดยคืนดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 20 ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง วงเงินดอกเบี้ยที่จ่ายคืนไปแล้ว 2,840 ล้านบาท มีลูกค้าได้รับประโยชน์ 2.58 ล้านราย มาตรการทางด่วนลดหนี้ มาตรการจ่ายน้อย ผ่อนคลายได้ลดดอกเบี้ย ปี 2565 มาตรการตัดชำระหนี้ตามสัดส่วน (จ่ายดอก ตัดต้น) มาตรการปรับตารางชำระหนี้ (จ่ายต้น ปรับงวด) และแนวทางการช่วยเหลือลูกหนี้ที่มีหนี้อันเป็นภาระหนัก เพื่อลดภาระและความกังวลใจในด้านภาระหนี้สินผ่านโครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แบบยั่งยืน โดยปรับตารางการชำระหนี้ใหม่ให้สอดคล้องกับศักยภาพของลูกค้าและที่มาของรายได้ รวมถึงการฟื้นฟูอาชีพ โดยพัฒนาอาชีพและเสริมสภาพคล่องในการลงทุน เพื่อประกอบอาชีพเพิ่มรายได้ ซึ่งการดำเนินงานตามแนวทางและมาตรการต่าง ๆ ดังกล่าวช่วยแก้ปัญหาหนี้ NPL ภาคการเกษตร ลดลงจากร้อยละ 14.6ไปอยู่ที่ร้อยละ 7.68 ณ 31 มีนาคม 2566

ในส่วนของลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ผ่านมา ธ.ก.ส. ได้ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลในโครงการพักชำระหนี้ต้นเงินและดอกเบี้ยทั้งระบบ ตั้งแต่งวด เม.ย. 2563 ถึงงวด มี.ค. 2564 เป็นระยะเวลา 1 ปี มีผู้เข้าร่วมโครงการ 3 ล้านราย ต้นเงิน 938,466 ล้านบาท โครงการพักชำระหนี้โควิดภาคสมัครใจ และการจ่ายสินเชื่อสู้ภัย COVID-19 เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็น วงเงินรายละ ไม่เกิน 10,000 บาท ซึ่งมีผู้ได้รับสินเชื่อไปแล้วทั้งสิ้น 913,548 ราย วงเงิน 9,086 บาท โดยในปัจจุบันยังมีหนี้คงค้างในกลุ่มดังกล่าว จำนวน 336,486 ราย จำนวนเงินคงค้าง 2,193 ล้านบาท
ด้านปัญหา Aging ของลูกค้า ธ.ก.ส. ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนประมาณ 35% ของลูกค้าทั้งหมด ธ.ก.ส. ได้จัดทำ โครงการสินเชื่อแทนคุณ วงเงินรวม 20,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรลูกค้าที่อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ที่มีหนี้อันเป็นภาระหนักและมีความประสงค์จะโอนทรัพย์สินและหนี้สินให้กับทายาท เพื่อเปิดโอกาสให้ทายาทเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขหนี้อย่างยั่งยืนและร่วมรักษาทรัพย์สินให้คงอยู่กับครอบครัว โดย ธ.ก.ส. จะจ่ายสินเชื่อให้ทายาทที่มารับช่วงประกอบอาชีพ เพื่อปิดชำระหนี้เดิมของผู้สูงอายุ แบ่งเป็นสัญญาต้นเงิน (รวมต้นเงินเดิม) อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 – 5 เท่ากับ MRR (ปัจจุบัน MRR เท่ากับร้อยละ 6.975) ปีที่ 6 – 10 เท่ากับ MRR-1 และปีที่ 11 เป็นต้นไป เท่ากับ MRR-2 กำหนดชำระคืนภายใน 15 ปี พิเศษไม่เกิน 20 ปี และสัญญาต้นเงิน (รวมดอกเบี้ยเดิม) อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0กำหนดชำระคืนภายใน 15 ปี นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ยังพร้อมสนับสนุนทายาทในการต่อยอดการดำเนินธุรกิจของครอบครัว โดยการเติมความรู้ทางการเงิน เทคโนโลยี นวัตกรรม และเงินทุน เพื่อเพิ่ม Added Value สร้างความหลากหลายในผลิตภัณฑ์และการออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อยกระดับสินค้าไปสู่ตลาดที่มีกำลังซื้อสูง โดยตั้งเป้าทายาทเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 42,000 คน

นายฉัตรชัย กล่าวอีกว่า การแก้ไขหนี้ครัวเรือน สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ้งภากรณ์ (สศป.) ธปท. ร่วมกับ ธ.ก.ส. จัดทำโครงการแก้ไขหนี้สินเกษตรกรอย่างยั่งยืน โดยศึกษา วิเคราะห์ และจัดทำข้อเสนอแนะในการแก้ไขสถานการณ์หนี้ครัวเรือน เพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจ สร้างความเป็นธรรม และลดความเหลื่อมล้ำในระยะยาวอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มรายได้และศักยภาพครัวเรือนเกษตรกร สร้างเสริมภูมิคุ้มกัน และความรู้เท่าทันทางการเงินให้แก่เกษตรกร การปล่อยหนี้ใหม่ให้ยั่งยืน ทั่วถึงและตอบโจทย์ แก้หนี้เก่าให้ลูกหนี้ลดภาระหนี้และปลดหนี้ได้ การสร้างข้อมูลและองค์ความรู้ การศึกษาพฤติกรรม การชำระหนี้ของเกษตรกร และมีการกำหนดมาตรการจูงใจในการชำระหนี้ เพื่อเป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของลูกหนี้ให้มีวินัยในการชำระหนี้อย่างต่อเนื่อง ธ.ก.ส. ได้จัดทำโครงการชำระดีมีโชค โดยลูกค้าที่ชำระหนี้ตรงตามกำหนดเวลาและจำนวนดอกเบี้ยที่ชำระจริงทุก ๆ 1,000 บาท จะได้รับสิทธิ์ 1 สิทธิ์ ไปชิงโชครางวัลรวมมูลค่า 402 ล้านบาท ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566 – 31 มีนาคม 2567 พร้อมกับพัฒนาเครื่องมือและช่องทางต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงบริการ ธ.ก.ส. ได้ง่ายขึ้น เช่น การชำระหนี้ผ่านแอปพลิเคชัน A-Mobile Plus การชำระหนี้ผ่าน Banking Agent เป็นต้น ดังนั้น ขอให้เกษตรกรลูกค้าที่มีภาระหนี้สิน อย่ากังวลใจหรือปล่อยให้ปัญหาทับถม ขอให้เดินเข้ามาหาและปรึกษากับ ธ.ก.ส. ได้ทุกสาขาทั่วประเทศ ซึ่ง ธ.ก.ส. ได้จัดทำโครงการมีหนี้นอกบอก ธ.ก.ส. ที่จะเข้าไปช่วยตอบโจทย์การแก้ไขหนี้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศและ Call Center 02 555 0555
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
FEATURED NEWS

ธ.ก.ส. จัดประกวดออกแบบ Line Stickers Contest

 

ธ.ก.ส. เปิดพื้นที่ให้ผู้มีใจรักศิลปะและนักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ ร่วมกิจกรรมและประกวดออกแบบ Line Stickers Contest หัวข้อ ธ.ก.ส.ใกล้คุณ ส่งผลงานเข้าประกวดในรูปแบบสติกเกอร์ภาพนิ่งผ่านทางอีเมล์ baacstickercontest@gmail.com ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 25 ส.ค.2566

นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. เปิดพื้นที่ให้ผู้มีใจรักศิลปะและนักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ เข้าร่วมกิจกรรมและประกวดออกแบบ Line Stickers Contest ในหัวข้อ ธ.ก.ส. ใกล้คุณ พร้อมลุ้นรางวัลใหญ่มากมาย ได้แก่ รางวัลชนะเลิศ ตั๋วเครื่องบินไป – กลับ ประเทศญี่ปุ่น 2 ที่นั่ง พร้อมได้ออกแบบผลงาน Line Sticker ของ Line Official Account BAAC Family ร่วมกับคุณมุนิน Creator ชื่อดัง จำนวน 1 ชุด รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เงินรางวัลมูลค่า 20,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 เงินรางวัล 10,000 บาท และรางวัล Popular vote สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 1 สลึง นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ยังมีการสัญจรไปจัดกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจดังกล่าวให้กับน้อง ๆ นิสิตและนักศึกษามหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทั้ง 4 ภาค ได้แก่ มหาวิทยาลัยศิลปากร (วังท่าพระ) มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ตรัง) และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมรับฟังไอเดียดี ๆ ในการสร้างผลงานจาก Creator ชื่อดังอย่าง คิ้วต่ำ Sundae kids และมุนิน สมัครเข้าร่วมการประกวด โดยดาวน์โหลดแบบฟอร์มผ่านทาง Line Official BAAC Family : Line Sticker Contest และส่งผลงานเข้าประกวดในรูปแบบสติกเกอร์ภาพนิ่งผ่านทางอีเมล์  baacstickercontest@gmail.com ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 25 สิงหาคม 2566

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
FEATURED NEWS

ธ.ก.ส. เปิดแล้วสลากมั่งมีทวีโชค ฝาก 100 ลุ้นรางวัลใหญ่ 10 ล้านบาท

 

ธ.ก.ส. เปิดจอง “สลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดมั่งมีทวีโชค” วงเงินรวม 100,000 ล้านบาท หน่วยละ 100 บาท เมื่อฝากครบ 1 ปี ได้รับดอกเบี้ยทันที 0.25% พร้อมลุ้นรางวัลใหญ่ 10 ล้านบาท และรางวัลอื่น ๆ รวมมูลค่ากว่า 66 ล้านบาทต่อเดือน โดยเปิดรับฝากตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2566 เป็นต้นไป ผ่านแอปพลิเคชัน A-Mobile Plus และเคาน์เตอร์ ธ.ก.ส. ทุกสาขา พิเศษ ! สำหรับลูกค้าเงินฝากออมทรัพย์ทวีโชคที่ใช้บริการแอปพลิเคชัน A-Mobile Plus สามารถใช้สิทธิ์จองสลากก่อนใครในวันที่ 19 – 28 มิถุนายนนี้

นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. เปิดรับฝาก “สลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดมั่งมีทวีโชค” จำนวน 1,000 ล้านหน่วย หน่วยละ 100 บาท วงเงินรวม 100,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนทางเลือกในการออมเงินที่ไม่เสียภาษี พร้อมลุ้นเงินรางวัล โดยแบ่งการเปิดรับฝากเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงที่ 1 สำหรับลูกค้าที่มีบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ทวีโชคกับ ธ.ก.ส. เปิดรับฝากวันที่ 3 – 11 กรกฎาคม 2566 และช่วงที่ 2 สำหรับลูกค้าที่มีบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ทวีโชคและบุคคลทั่วไป ในวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 เวลา 8.30 น. เป็นต้นไป โดยสามารถฝากผ่านแอปพลิเคชัน A-Mobile plus สูงสุดไม่เกิน 20 ล้านบาทต่อครั้ง แต่ไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อวันต่อราย หรือฝากที่เคาน์เตอร์ ธ.ก.ส. ทุกสาขา สูงสุดไม่เกิน 400 ล้านบาทต่อวันต่อราย พิเศษ ! สำหรับลูกค้าเงินฝากออมทรัพย์ทวีโชคที่ใช้งานแอปพลิเคชัน A-Mobile Plus สามารถใช้สิทธิ์ผ่านระบบจองสลากบนแอปฯ ได้ก่อนใครในวันที่ 19 – 28 มิถุนายน 2566

สลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดมั่งมีทวีโชค มีอายุการรับฝาก 1 ปี เมื่อฝากครบกำหนด จะได้รับดอกเบี้ยหน่วยละ 0.25 บาท คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 ต่อปี และมีสิทธิ์ลุ้นรางวัลรวม 12 ครั้ง ในทุกวันที่ 16 ของเดือน ยกเว้นเดือนมกราคม ออกรางวัลในวันที่ 17 มกราคมของทุกปี ประกอบด้วย รางวัลที่ 1 จำนวน 1 รางวัล รางวัลละ 10,000,000 บาท รางวัลที่ 1 ต่างหมวด จำนวน 99 รางวัล รางวัลละ 10,000 บาท รางวัลที่ 2 จำนวน 300 รางวัล รางวัลละ 5,000 บาท รางวัลที่ 3 จำนวน 1,000 รางวัล รางวัลละ 2,500 บาท รางวัลที่ 4 จำนวน 2,000 รางวัล รางวัลละ 1,000 บาท รางวัลที่ 5 จำนวน 10,000 รางวัล รางวัลละ 500 บาท รางวัลเลขท้าย 4 ตัว จำนวน 100,000 รางวัล รางวัลละ 50 บาท และรางวัล เลขท้าย 3 ตัว จำนวน 2,000,000 รางวัล รางวัลละ 20 บาท รวมรางวัลต่องวดสูงสุดทั้งสิ้น 2,113,400 รางวัล รวมเงินรางวัล 66,990,000 บาทต่อเดือน ออกรางวัลครั้งแรกวันที่ 16 กรกฎาคม 2566 สำหรับผู้ฝากสลากที่ฝากผ่านแอปพลิเคชัน A-Mobile Plus และประสงค์ออกบัตรสลากออมทรัพย์ ธนาคารจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการออกบัตรสลากฉบับละ 20 บาท และในกรณีถอนสลากคืนก่อนครบกำหนดจะไม่ได้รับดอกเบี้ย หรืกรณีฝากสลากไม่ครบ 3 เดือน ธ.ก.ส. จะคิดค่าธรรมเนียมการถอนจากมูลค่าสลาก 2 บาทต่อหน่วย โดยดอกเบี้ยและเงินรางวัลในการฝากสลากออมทรัพย์ได้รับการยกเว้นภาษีสำหรับบุคคลธรรมดาและสามารถนำไปใช้เป็นหลักประกันเงินกู้ของ ธ.ก.ส. ได้อีกด้วย

ทั้งนี้ สามารถตรวจผลการออกรางวัลและรับชมการถ่ายทอดสดการออกสลากออมทรัพย์ได้ทางเว็บไซต์ www.baac.or.th Facebook Page “ธกส BAAC Thailand” Youtube Channel “BAAC Thailand” แอปพลิเคชัน A-Mobile Plus โดยท่านที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสลากออมทรัพย์ได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขา   ทั่วประเทศ หรือ Call Center 02 555 0555

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News