Categories
AROUND CHIANG RAI ECONOMY

เชียงรายคว้าอันดับ 1 เมืองรองท่องเที่ยวไทย ครึ่งปีแรก 2568 รายได้ทะลุเป้า

เชียงรายผงาดแชมป์เมืองรองท่องเที่ยวอันดับ 1 ของประเทศ สร้างรายได้เกือบ 2.6 หมื่นล้านบาท

เชียงราย, 16 กรกฎาคม 2568 – อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยมีข่าวดีเป็นอย่างยิ่งในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 เมื่อจังหวัดเชียงรายก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งเมืองรองท่องเที่ยวอันดับ 1 ของประเทศ ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามาถึง 3.38 ล้านคน และสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวสูงถึง 25,958 ล้านบาท ตัวเลขที่สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมของนโยบายกระจายการท่องเที่ยวสู่ภูมิภาคและความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจฐานรากในท้องถิ่น

ข้อมูลสถิติเผยความสำเร็จที่น่าประทับใจ

ข้อมูลล่าสุดจากเพจ The Rankings ซึ่งอ้างอิงตัวเลขทางการจากกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายน 2568 แสดงให้เห็นภาพความสำเร็จที่ชัดเจนของเชียงราย โดยจังหวัดนี้สามารถครองตำแหน่งอันดับ 12 จาก 77 จังหวัดทั่วประเทศในด้านจำนวนผู้เยี่ยมเยือนสูงสุด และยืนหยัดในอันดับ 9 สำหรับรายได้จากการท่องเที่ยวสูงสุด

เมื่อจำกัดขอบเขตการพิจารณาเฉพาะภาคเหนือ 17 จังหวัด เชียงรายยิ่งโดดเด่นมากขึ้นเมื่อขึ้นสู่ตำแหน่งรองแชมป์ รองจากเชียงใหม่เท่านั้น ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยว 3,378,757 คน และรายได้ 25,958 ล้านบาท ความสำเร็จนี้สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของเชียงรายในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของภาคเหนือให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด

การแข่งขันในกลุ่มเมืองรองที่ทวีความเข้มข้น

ภาพรวมของการแข่งขันในกลุ่มเมืองรองแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจของแผนที่การท่องเที่ยวไทย โดยเชียงรายสามารถทิ้งห่างคู่แข่งในกลุ่มเมืองรองได้อย่างชัดเจน จากสถิติ 5 อันดับแรกเมืองรองที่มีผู้เยี่ยมเยือนสูงสุด ประกอบด้วย เชียงราย (3,378,757 คน) นำหน้าสุพรรณบุรี (3,344,043 คน) สมุทรสงคราม (3,046,131 คน) อุดรธานี (2,559,369 คน) และอุบลราชธานี (2,413,180 คน) ตามลำดับ

การที่เชียงรายสามารถเก็บเกี่ยวผลสำเร็จเช่นนี้ได้ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากการวางแผนเชิงกลยุทธ์และการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ เอกชน และชุมชนท้องถิ่น ที่ร่วมกันสร้างสรรค์และพัฒนาเชียงรายให้เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจยิ่งขึ้น

คุณนงเยาว์ เนตรประสิทธิ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและนายกสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ

กลยุทธ์การพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวที่ประสบความสำเร็จ

คุณนงเยาว์ เนตรประสิทธิ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและนายกสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ ซึ่งมีหน้าที่ดูแลการท่องเที่ยวใน 17 จังหวัดของภาคเหนือ เผยให้เห็นถึงปัจจัยเบื้องหลังความสำเร็จของเชียงรายในครั้งนี้

“สิ่งหนึ่งที่เราต้องการให้แต่ละจังหวัดขับเคลื่อนและผลักดันในการนำนักท่องเที่ยวเข้ามา คือการพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะการประสานงานกับสายการบินต่างๆ ให้เห็นถึงความสำคัญของแต่ละจังหวัด” คุณนงเยาว์กล่าว

คุณนงเยาว์ชี้ให้เห็นว่า ช่วงกรีนซีซัน (ฤดูฝน) ซึ่งเป็นช่วงที่ธรรมชาติเขียวขจีและสวยงามที่สุดของเชียงราย กำลังกลายเป็นจุดขายสำคัญที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ “ในช่วงกรีนซีซัน ภูเขาและที่พักต่างๆ จะมีความสวยงามมาก เราจึงมุ่งเน้นการอัดแคมเปญให้นักท่องเที่ยวทั่วประเทศและทั่วโลกได้มาสัมผัสวิถีชีวิต ศิลปวัฒนธรรมของชาติพันธุ์ต่างๆ ในเชียงราย รวมถึงชา-กาแฟคุณภาพสูงท่ามกลางบรรยากาศที่บริสุทธิ์”

กลยุทธ์นี้เป็นการเปลี่ยนแปลงมุมมองจากการมองว่าฤดูฝนเป็นช่วงท่องเที่ยวต่ำ (Low Season) มาเป็นจุดขายพิเศษที่มีความโดดเด่นและแตกต่างจากช่วงอื่นๆ การเน้นย้ำถึงเอกลักษณ์ด้านความหลากหลายทางชาติพันธุ์ การปลูกชา-กาแฟในพื้นที่ดอยสูง และบรรยากาศที่เงียบสงบ ล้วนเป็นปัจจัยที่ช่วยสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างและน่าจดจำให้กับนักท่องเที่ยว

ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจที่กว้างไกล

ความสำเร็จของเชียงรายในฐานะเมืองรองท่องเที่ยวอันดับ 1 มีผลกระทบทางเศรษฐกิจที่กว้างไกลกว่าตัวเลขรายได้ 25,958 ล้านบาท การหลั่งไหลของนักท่องเที่ยวกว่า 3.3 ล้านคนในครึ่งปีแรก ส่งผลให้เกิดการหมุนเวียนเงินในระบบเศรษฐกิจท้องถิ่นในหลายมิติ

เงินที่นักท่องเที่ยวใช้จ่ายไม่ได้กระจุกตัวเฉพาะในธุรกิจขนาดใหญ่ แต่ไหลลงสู่ระบบเศรษฐกิจฐานรากอย่างกว้างขวาง ตั้งแต่ค่าที่พักในรีสอร์ทและโรงแรมท้องถิ่น ค่าอาหารในร้านอาหารและแผงลอย ค่าการเดินทางและขนส่ง ค่าซื้อสินค้าหัตถกรรมและของฝากจากชุมชน ค่าบริการไกด์ท้องถิ่น และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

การเจริญเติบโตของภาคการท่องเที่ยวในเชียงรายยังกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวก และการยกระดับคุณภาพการบริการ ซึ่งจะสร้างประโยชน์ต่อเนื่องแก่ประชาชนในพื้นที่และธุรกิจที่เกี่ยวข้องในระยะยาว

การกระจายรายได้สู่ภูมิภาคที่เป็นจริง

ผลสำเร็จของเชียงรายสะท้อนให้เห็นถึงการทำงานของนโยบายกระจายการท่องเที่ยวสู่ภูมิภาคที่เริ่มเห็นผลเป็นรูปธรรม การที่จังหวัดซึ่งไม่ใช่เมืองหลักทางการท่องเที่ยวสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากกว่า 3 ล้านคน และสร้างรายได้เกือบ 2.6 หมื่นล้านบาท เป็นสัญญาณที่ดีของการลดการกระจุกตัวในกรุงเทพมหานครและเชียงใหม่

การเติบโตนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดภาระจากเมืองหลักที่อาจเกิดปัญหาการท่องเที่ยวล้นเมือง (Over-tourism) แต่ยังเป็นการสร้างโอกาสให้จังหวัดอื่นๆ ได้เรียนรู้และปรับใช้แนวทางที่ประสบความสำเร็จ เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวของตนเองให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ความท้าทายและโอกาสในอนาคต

แม้ว่าเชียงรายจะประสบความสำเร็จอย่างน่าประทับใจในปัจจุบัน แต่การรักษาและพัฒนาต่อยอดความสำเร็จนี้ให้ยั่งยืนจำเป็นต้องมีการเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น

ความท้าทายสำคัญประการแรกคือการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นจุดขายหลักของเชียงราย การเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวอย่างรวดเร็วอาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ คุณภาพอากาศ และความสงบเงียบที่เป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่ หากไม่มีการจัดการที่เหมาะสม

ความท้าทายด้านที่สองคือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้รองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ทั้งในเรื่องของเส้นทางคมนาคม ที่พัก ระบบสาธารณูปโภค และบริการต่างๆ ที่จำเป็นต้องขยายขีดความสามารถอย่างเป็นระบบ

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายเหล่านี้ก็มาพร้อมกับโอกาสมากมาย เชียงรายมีศักยภาพในการพัฒนาเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชื่อมโยงภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง การที่ตั้งอยู่ใกล้พรมแดนกับเมียนมารและลาวเป็นจุดแข็งสำคัญในการสร้างเส้นทางการท่องเที่ยวข้ามพรมแดนที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ

นอกจากนี้ การมีฐานทางการเกษตรที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะการปลูกชาและกาแฟคุณภาพสูง ยังเป็นโอกาสในการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและการท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานสากล

ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย

เพื่อให้เชียงรายสามารถรักษาความเป็นผู้นำในกลุ่มเมืองรองท่องเที่ยวและพัฒนาต่อยอดความสำเร็จอย่างยั่งยืน ผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวเสนอแนะแนวทางการดำเนินงานในหลายมิติ

ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ท่องเที่ยว ควรมุ่งเน้นการสร้างความหลากหลายของกิจกรรมท่องเที่ยวให้ครอบคลุมทุกกลุ่มนักท่องเที่ยว ทั้งการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เชิงวัฒนธรรม เชิงผจญภัย และเชิงสุขภาพ เพื่อกระจายความเสี่ยงและสร้างจุดขายที่แข็งแกร่งมากขึ้น

ด้านการตลาดและการประชาสัมพันธ์ ควรใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและสื่อสังคมออนไลน์ในการสร้างการรับรู้และประสบการณ์ที่น่าประทับใจ การเล่าเรื่องราว (Storytelling) ที่มีเอกลักษณ์และสร้างความผูกพันทางอารมณ์จะช่วยให้เชียงรายติดอยู่ในความทรงจำของนักท่องเที่ยวและกลายเป็นแรงบันดาลใจในการกลับมาเยือนอีกครั้ง

ด้านการพัฒนาทรัพยากรบุคคล จำเป็นต้องยกระดับความรู้และทักษะของผู้ประกอบการและบุคลากรในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ทั้งด้านการบริการ ภาษาต่างประเทศ และการเข้าใจวัฒนธรรมของนักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆ

ก้าวใหม่ของการท่องเที่ยวไทย

ความสำเร็จของเชียงรายในการขึ้นสู่ตำแหน่งเมืองรองท่องเที่ยวอันดับ 1 ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวกว่า 3.3 ล้านคนและรายได้เกือบ 2.6 หมื่นล้านบาทในครึ่งปีแรกของปี 2568 เป็นมากกว่าตัวเลขทางสถิติ แต่เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในแผนที่การท่องเที่ยวไทย

การเติบโตนี้สะท้อนให้เห็นถึงพลังของการท่องเที่ยวในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับภูมิภาคและการสร้างโอกาสให้ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลจากเมืองหลัก ขณะเดียวกันก็เป็นแรงบันดาลใจให้จังหวัดอื่นๆ ในการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวของตนเอง

การที่เชียงรายสามารถประสบความสำเร็จเช่นนี้ได้ เกิดจากการผสมผสานระหว่างทรัพยากรธรรมชาติที่งดงาม ความหลากหลายทางวัฒนธรรม การวางแผนเชิงกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ และการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วน ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

ในขณะที่ประเทศไทยเตรียมก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่สำคัญของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความสำเร็จของเชียงรายจึงเป็นส่วนหนึ่งของจิ๊กซอว์ใหญ่ที่จะช่วยให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • เพจ The Rankings
  • กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
  • สมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ
  • สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

เวียตเจ็ทไทยแลนด์ ผนึกกำลังดันไทยฮับเที่ยว! ปักหมุดเชียงราย ติด Top 10 ตรงเวลาอาเซียน

เวียตเจ็ทไทยแลนด์ ผนึกกำลังภาครัฐ-เอกชน ดันไทยเป็น Hub ท่องเที่ยวไร้ขีดจำกัด! ปักหมุดเชียงรายนำร่อง “Fun & Fly เที่ยวเมืองไทย สนุกได้ทั้งปี” พร้อมประกาศศักดาติด Top 10 สายการบินตรงเวลาที่สุดในอาเซียน

เชียงราย,14 กรกฎาคม 2568เวียตเจ็ทไทยแลนด์ ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นฟันเฟืองสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไทยอย่างยั่งยืน ด้วยการเปิดตัวโครงการยักษ์ใหญ่ “Fun & Fly เที่ยวเมืองไทย สนุกได้ทั้งปี” โดยเริ่มต้นจังหวัดแรกที่ เชียงราย ภายใต้แคมเปญสุดคึกคัก เจียงฮายม่วนใจ๋ แอ่วตอนไหนก็ม่วนจอย” พร้อมกันนี้ สายการบินยังสร้างความภาคภูมิใจให้กับอุตสาหกรรมการบินไทย ด้วยการประกาศผลงานสุดโดดเด่นติด 10 อันดับแรกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในฐานะสายการบินที่มีความตรงต่อเวลามากที่สุด (On-Time Performance – OTP) จากการจัดอันดับของ Cirium ผู้นำระดับโลกด้านการวิเคราะห์ข้อมูลการบิน ซึ่งสะท้อนถึงการเติบโตเชิงกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งและมาตรฐานการบริการระดับสากล

“Fun & Fly เที่ยวเมืองไทย สนุกได้ทั้งปี” ปลุกสีสันการท่องเที่ยวไทย ไม่จำกัดฤดูกาล

เวียตเจ็ทไทยแลนด์เล็งเห็นถึงศักยภาพอันหลากหลายของการท่องเที่ยวไทยที่สามารถสัมผัสได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นฤดูฝน ฤดูหนาว หรือฤดูร้อน เพื่อให้ทุกจังหวัดกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจเสมอ สายการบินจึงได้ริเริ่มโครงการ “Fun & Fly เที่ยวเมืองไทย สนุกได้ทั้งปี” ขึ้นมา โดยมีเป้าหมายในการร่วมมือกับภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการท้องถิ่น เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์การเดินทางที่น่าดึงดูดใจ และกระจายเม็ดเงินสู่เศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืน

คุณภูเบศ กิตติญาณปัญญา รองผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ สายการบินเวียตเจ็ท ไทยแลนด์ กล่าวในพิธีเปิดโครงการว่า “เรามีความเชื่อมั่นในเสน่ห์อันไม่รู้จบของประเทศไทย เวียตเจ็ทไทยแลนด์มุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำให้ทุกจังหวัดเป็นจุดหมายปลายทางที่เข้าถึงได้และน่าสนใจตลอดทั้งปี โครงการ ‘Fun & Fly เที่ยวเมืองไทย สนุกได้ทั้งปี’ นี้ จึงเป็นเสมือนสะพานเชื่อมโยงนักท่องเที่ยวกับประสบการณ์ท้องถิ่นอันล้ำค่า ที่จะนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนของอุตสาหกรรม และสร้างรอยยิ้มให้กับชุมชนทั่วไทย”

เจียงฮายม่วนใจ๋ แอ่วตอนไหนก็ม่วนจอย” ต้นแบบการกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น

สำหรับการเริ่มต้นโครงการ “Fun & Fly” เวียตเจ็ทไทยแลนด์ ได้เลือก จังหวัดเชียงราย เป็นจังหวัดแรก ภายใต้แคมเปญ เจียงฮายม่วนใจ๋ แอ่วตอนไหนม่วนก็จอย” ซึ่งเน้นการกระตุ้นการเดินทางและส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในจังหวัดอย่างรอบด้าน ทั้งในด้านทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ วัฒนธรรมอันงดงาม และอัตลักษณ์ท้องถิ่นอันเป็นเอกลักษณ์

ภายใต้แคมเปญนี้ เวียตเจ็ทไทยแลนด์ได้จับมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการท้องถิ่นในเชียงราย กว่า 100 ราย ครอบคลุมหลากหลายกลุ่มธุรกิจ ได้แก่ โรงแรม ร้านอาหาร คาเฟ แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติ สถานบริการสุขภาพ และสถานบันเทิงยามค่ำคืน เป้าหมายคือการมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบ ตอบโจทย์ความต้องการของนักเดินทางทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นนักเดินทางเดี่ยว กลุ่มเพื่อน หรือครอบครัว รวมถึงตอบสนองความชอบที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลา

ผู้โดยสารที่ถือบัตรโดยสารของเวียตเจ็ทไทยแลนด์จะได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษและส่วนลดสูงสุดถึง 50% ณ ร้านค้าที่เข้าร่วมรายการทั่วจังหวัดเชียงราย ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยให้นักท่องเที่ยวได้รับประสบการณ์ที่คุ้มค่าและน่าประทับใจ แต่ยังเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจในระดับชุมชนโดยตรง ทำให้เม็ดเงินหมุนเวียนในท้องถิ่น และสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการรายย่อยได้อย่างเป็นรูปธรรม

การเปิดตัวโครงการครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากตัวแทนจากองค์กรภาครัฐและภาคเอกชนหลายท่านร่วมงาน นำโดย คุณนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย, คุณนงเยาว์ เนตรประสิทธิ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และนายกสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ จังหวัดเชียงราย, และ คุณโชติศิริ ดารายน นายกสมาคมสื่อมวลชนและนักประชาสัมพันธ์เชียงราย รวมถึงแขกผู้มีเกียรติท่านอื่นๆ อีกคับคั่ง นอกจากนี้ เพื่อเข้าถึงนักเดินทางรุ่นใหม่ เวียตเจ็ทไทยแลนด์ยังได้เชิญอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังมาร่วมประชาสัมพันธ์แคมเปญ เพื่อสร้างกระแสและแรงบันดาลใจในการเดินทางสู่เชียงรายอีกด้วย

ความสำเร็จระดับโลก เวียตเจ็ทไทยแลนด์ติด Top 10 สายการบินตรงเวลาที่สุดในอาเซียน

นอกจากการผลักดันการท่องเที่ยวภายในประเทศแล้ว เวียตเจ็ทไทยแลนด์ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพการบริการในทุกมิติ ซึ่งรวมถึง “ความตรงต่อเวลา” ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจจากผู้โดยสารทั่วโลก ล่าสุด Cirium ผู้นำระดับโลกด้านการวิเคราะห์ข้อมูลการบิน ได้จัดอันดับให้เวียตเจ็ทไทยแลนด์เป็นหนึ่งในสายการบินที่มีผลงานความตรงต่อเวลา (On-Time Performance – OTP) โดดเด่นที่สุด โดยติด 10 อันดับแรกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในเดือนพฤษภาคม 2568

รายงาน On-Time Performance ของ Cirium เดือนพฤษภาคม 2568 เผยว่า จากจำนวนเที่ยวบินทั้งหมด 3,077 เที่ยวบินของเวียตเจ็ทไทยแลนด์ สามารถทำคะแนนในหัวข้อต่างๆ ได้สูงอย่างน่าประทับใจ:

  • อัตราการมาถึงตรงเวลา (On-Time Arrival): 74.32%
  • เที่ยวบินที่ถูกติดตามข้อมูล (Tracked Flights): 96.82%
  • อัตราความสมบูรณ์ของเที่ยวบิน (Completion Factor): 100% (คะแนนเต็ม)

ความสำเร็จนี้สะท้อนถึงกลยุทธ์การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพภายใต้มาตรฐานระดับสากล และแสดงศักยภาพที่โดดเด่นภายใต้การแข่งขันที่เข้มข้นในตลาดโลว์คอสต์ระดับภูมิภาค Cirium ซึ่งเป็นองค์กรด้านการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับการยอมรับจากอุตสาหกรรมการบินระดับโลก ด้วยฐานข้อมูลเที่ยวบินนับล้านเที่ยวบิน เทคโนโลยี Big Data และการตรวจสอบหลายชั้น ทำให้การวิเคราะห์ด้าน OTP มีความแม่นยำ โปร่งใส และน่าเชื่อถือ สายการบินที่จะได้รับการพิจารณาเข้าสู่การจัดอันดับ จะต้องมีข้อมูลเที่ยวบินที่เสร็จสิ้นการเดินทางอย่างสมบูรณ์ไม่น้อยกว่า 90%

ความสำเร็จของเวียตเจ็ทไทยแลนด์ในครั้งนี้ เป็นผลลัพธ์จากการดำเนินกลยุทธ์อย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลากว่า 8 ปีที่ให้บริการในประเทศไทย โดยเฉพาะในปี 2568 ซึ่งถือเป็นปีแห่ง การขยายตัวเชิงกลยุทธ์” ของสายการบิน ด้วยการขยายฝูงบินที่มีประสิทธิภาพ พร้อมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านปฏิบัติการ ทั้งการเสริมกำลังคนในห้องนักบินและภาคพื้น การอบรมทักษะตามมาตรฐานสากล และการนำเทคโนโลยีติดตามเที่ยวบินแบบเรียลไทม์มาใช้ในการบริหารเที่ยวบินแบบ Proactive ซึ่งสามารถคาดการณ์และป้องกันปัจจัยเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดความล่าช้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ก้าวต่อไปของเวียตเจ็ทไทยแลนด์ ต้นแบบสายการบินยุคใหม่

เวียตเจ็ทไทยแลนด์ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2557 และได้ให้บริการในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน โดยมีเส้นทางบินภายในประเทศรวม 11 เส้นทาง และเครือข่ายบินสู่ต่างประเทศที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน อินเดีย และเวียดนาม นอกจากมาตรฐานด้าน OTP แล้ว เวียตเจ็ทยังได้รับรางวัลระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่อง เช่น แบรนด์สายการบินราคาประหยัดยอดเยี่ยม ประเทศไทย จาก Global Brand Awards ปี 2567 และปี 2568 รวมถึงรางวัล สายการบินที่ลูกเรือเป็นมิตรต่อผู้โดยสารมากที่สุด จาก International Finance Magazine ต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน

หากเวียตเจ็ทไทยแลนด์สามารถรักษามาตรฐานด้านความตรงต่อเวลาและการบริการที่มีคุณภาพได้อย่างสม่ำเสมอ พร้อมกับขยายความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อขับเคลื่อนการท่องเที่ยวในประเทศอย่างต่อเนื่อง สายการบินนี้จะไม่เพียงแค่เป็นสายการบินที่ “ผู้โดยสารไว้วางใจ” แต่ยังมีศักยภาพสูงในการก้าวขึ้นเป็น ต้นแบบสายการบินยุคใหม่” ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้โดยสารยุคดิจิทัล ซึ่งให้ความสำคัญกับความรวดเร็ว ความเที่ยงตรง และความคุ้มค่าเป็นอันดับแรกในการเลือกใช้บริการ

ไทยพร้อมก้าวสู่ศูนย์กลางท่องเที่ยวเอเชียด้วยสายการบินแห่งศตวรรษใหม่

โครงการ Fun & Fly โดยเวียตเจ็ทไทยแลนด์ เป็นตัวอย่างของการบูรณาการความร่วมมือระหว่างรัฐ เอกชน และท้องถิ่น ผลักดันให้ประเทศไทยมีศักยภาพแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน เชียงรายในฐานะจังหวัดนำร่อง สะท้อนบทบาทเมืองรองที่พร้อมรับความเปลี่ยนแปลง มุ่งสู่การเป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำในภูมิภาค ไม่เพียงตอบโจทย์คนไทยแต่ยังสร้างความประทับใจแก่นักเดินทางทั่วโลก

เวียตเจ็ทไทยแลนด์ พร้อมก้าวไปข้างหน้าในฐานะสายการบินไทยที่ยืนหยัดในมาตรฐานสากล ขับเคลื่อนเศรษฐกิจท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน สร้างรอยยิ้มให้ชุมชน และเชื่อมโยงประสบการณ์ใหม่ระหว่างไทยกับประเทศในภูมิภาคและทั่วโล

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • เวียตเจ็ทไทยแลนด์
  • Cirium, รายงาน On-Time Performance พฤษภาคม 2568
  • สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News