เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2567 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฐ มาแจ้ง อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมทรัพยากรน้ำ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์ข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งระบุว่า น้ำท่วมปีนี้ถือว่าเป็นน้ำท่วมระดับ “รอบ 200 ปี” แม้ว่าอัตราการไหลของน้ำจะน้อยกว่าปี 2554 แต่ระดับน้ำกลับสูงกว่าอย่างมีนัยสำคัญ
จากการเปรียบเทียบข้อมูลระดับน้ำและอัตราการไหลของแม่น้ำปิง พบว่า ปี 2567 นี้ มีอัตราการไหลสูงสุดที่ 656 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งน้อยกว่าปี 2554 ที่มีอัตราการไหลสูงสุดถึง 816.8 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่ในทางกลับกัน ระดับน้ำสูงสุดในปีนี้กลับอยู่ที่ 305.8 เมตรรทก. ซึ่งสูงกว่าปี 2554 ที่ระดับ 305.44 เมตรรทก. แสดงให้เห็นว่าแม่น้ำปิงในปัจจุบันมีความสามารถในการระบายน้ำได้น้อยลงมากเมื่อเทียบกับอดีต
ผศ.ดร.ณัฐ ได้วิเคราะห์ว่า การที่แม่น้ำปิงมีความสามารถในการระบายน้ำลดลง อาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น การรุกล้ำแนวทางน้ำ การทับถมของตะกอนในลำน้ำ หรือมีสิ่งกีดขวางการไหลของน้ำ ซึ่งทำให้แม้ปริมาณน้ำไหลจะน้อยกว่า แต่ระดับน้ำกลับสูงขึ้นมาก เป็นสัญญาณว่าลำน้ำมีการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพอย่างชัดเจน
เมื่อนำข้อมูลอัตราการไหลและระดับน้ำมาคำนวณเป็นรอบปีการเกิดซ้ำ พบว่า ระดับน้ำสูงสุดในปี 2567 อยู่ในระดับที่เกิดซ้ำได้ทุก ๆ 200 ปี ขณะที่ระดับน้ำสูงสุดในปี 2554 อยู่ที่รอบการเกิดซ้ำ 46 ปี แต่อัตราการไหลกลับตรงกันข้าม โดยปี 2567 อัตราการไหลสูงสุดอยู่ในรอบการเกิดซ้ำเพียง 17 ปี ขณะที่ปี 2554 อัตราการไหลสูงสุดอยู่ในระดับ 62 ปี แสดงถึงความเปลี่ยนแปลงในระบบระบายน้ำและลักษณะทางกายภาพของแม่น้ำปิงที่มีแนวโน้มแย่ลง
ดร.ณัฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า แม่น้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่มีความสามารถในการระบายน้ำลดลงอย่างมากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แม้จะมีการเตรียมรับมือและระบบระบายน้ำที่ดี แต่หากยังมีการรุกล้ำลำน้ำหรือการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของแม่น้ำมากขึ้นเรื่อย ๆ น้ำท่วมในอนาคตอาจจะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่โดยตรง
นอกจากนี้ เขายังเน้นว่าการปรับปรุงลำน้ำ คูคลอง และเส้นทางน้ำในพื้นที่เชียงใหม่เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้ระบบระบายน้ำสามารถรองรับน้ำท่วมได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่เขตเมืองซึ่งมีสิ่งปลูกสร้างและการพัฒนาเมืองที่รุกล้ำพื้นที่ทางน้ำมากกว่าที่ควรจะเป็น หากไม่มีการแก้ไขอย่างจริงจัง สถานการณ์น้ำท่วมในเชียงใหม่อาจเกิดซ้ำบ่อยครั้ง และความรุนแรงของน้ำท่วมจะสูงขึ้นตามลำดับ
จากการเปรียบเทียบและวิเคราะห์ข้อมูลระดับน้ำและอัตราการไหลของแม่น้ำปิง ผศ.ดร.ณัฐ มาแจ้ง จึงสรุปว่า การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของลำน้ำปิงเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ระดับน้ำสูงขึ้น แม้จะมีอัตราการไหลของน้ำที่ลดลงก็ตาม สิ่งนี้ชี้ให้เห็นถึงธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงไป และการปรับตัวของมนุษย์ที่มีผลต่อระบบนิเวศน้ำในพื้นที่
เขากล่าวเพิ่มเติมว่า “เราต้องหันมาให้ความสำคัญกับการจัดการน้ำและการฟื้นฟูลำน้ำ เพื่อให้ลำน้ำสามารถรองรับปริมาณน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต” นอกจากนี้ การป้องกันและเตรียมการล่วงหน้าจำเป็นต้องวางแผนระยะยาว โดยคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงทั้งจากธรรมชาติและการกระทำของมนุษย์เป็นหลัก เพื่อป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยในอนาคต.
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : Nat MJ