Categories
ECONOMY

สมาคมนักวางแผนการเงินร่วมแบงก์ชาติแก้หนี้ครัวเรือน 91.4% GDP

สมาคมนักวางแผนการเงินไทยจับมือแบงก์ชาติ เสริมความรู้ทางการเงินแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 สมาคมนักวางแผนการเงินไทย (TFPA) ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (แบงก์ชาติ) ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญในการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนที่กำลังเป็นอุปสรรคสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย โดยมุ่งสร้างทักษะความรู้ทางการเงิน (Financial Literacy) ให้กับประชาชนทุกกลุ่ม ตั้งแต่ระดับประถมศึกษาจนถึงระดับมหาวิทยาลัย พร้อมอบรมและพัฒนาบุคลากรด้านการวางแผนการเงินที่มีความเชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาแก่ประชาชนที่มีปัญหาหนี้

ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูงแตะ 91.4% ต่อ GDP

นายวิโรจน์ ตั้งเจริญ นายกสมาคมนักวางแผนการเงินไทย กล่าวว่า หนี้ครัวเรือนไทยในปี 2567 มีแนวโน้มพุ่งสูงถึง 91.4% ต่อ GDP โดยกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือวัยเริ่มต้นทำงาน (25-29 ปี) ที่กว่า 50% มีหนี้เร็ว และ 25% ในจำนวนนี้เป็นหนี้เสีย ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการออมและวางแผนการเกษียณ ทำให้เพียง 15.7% ของคนไทยมีการเตรียมตัววางแผนเกษียณอย่างเพียงพอ

เสริมสร้างความรู้ทางการเงินผ่านการศึกษา

ความร่วมมือครั้งนี้เน้นเสริมสร้างความรู้ทางการเงินตั้งแต่ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา จนถึงมหาวิทยาลัย โดยจัดทำหลักสูตรที่ช่วยให้เยาวชนรู้เท่าทันการเงิน การลงทุนที่ถูกกฎหมาย และกลโกงต่างๆ พร้อมสร้างหมอหนี้ที่มีความเชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาและช่วยเหลือประชาชนที่มีปัญหาด้านหนี้สิน

โครงการอบรมหมอหนี้เพื่อประชาชน

ธนาคารแห่งประเทศไทยได้จัดโครงการอบรมหมอหนี้เพื่อประชาชน โดยรุ่นแรกจัดขึ้นวันที่ 16 และ 23 พฤศจิกายน 2567 มีผู้เข้าร่วมอบรมเต็มจำนวน 50 คน และยังมีผู้สนใจเพิ่มเติมอีกกว่า 300 คน เนื้อหาหลักสูตรครอบคลุมการให้ความรู้เกี่ยวกับสินเชื่อรายย่อย ข้อมูลเครดิตบูโร กฎหมายเกี่ยวกับหนี้ การปรับโครงสร้างหนี้ และมาตรการแก้หนี้ต่างๆ ผู้ผ่านการอบรมจะได้รับใบประกาศนียบัตรและสามารถให้คำปรึกษาแก่ประชาชนในโครงการแก้หนี้ของแบงก์ชาติต่อไป

สร้างหมอหนี้และเสริมความรู้เพื่ออนาคตที่มั่นคง

นายวิโรจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ความร่วมมือครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญในการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน พร้อมส่งเสริมความรู้ทางการเงินให้กับประชาชนในทุกระดับ สร้างบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและพร้อมช่วยเหลือประชาชน เมื่อหลุดพ้นจากปัญหาหนี้สินแล้ว การวางแผนการเงินเพื่ออนาคต เช่น การเกษียณ การศึกษาของบุตร หรือการสร้างความมั่งคั่งในชีวิต จะสามารถบรรลุได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โครงการนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของสมาคมนักวางแผนการเงินไทยและธนาคารแห่งประเทศไทยในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจไทยให้ยั่งยืน ด้วยการลดปัญหาหนี้และสร้างความรู้ความเข้าใจด้านการเงินให้กับประชาชนอย่างครอบคลุมและยั่งยืน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สมาคมนักวางแผนการเงินไทย (TFPA)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
FOLLOW ME
MOST POPULAR
Categories
NEWS UPDATE

เทรนด์การใช้จ่ายใหม่ คนรุ่นใหม่ไทยเน้นประสบการณ์มากกว่าสินค้าฟุ่มเฟือย

รายงานแนวโน้มการใช้จ่ายของผู้บริโภคชาวไทยในปี 2567

แนวโน้มการใช้จ่ายสิ่งของจำเป็นเพิ่มขึ้นในหมู่คนรุ่นใหม่

เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2567 ยุทธชัย เตยะราชกุล กรรมการผู้จัดการ บุคคลธนกิจ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ได้เปิดเผยรายงานผลการศึกษาความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในอาเซียน (ASEAN Consumer Sentiment Study – ACSS) ประจำปี 2024 โดยพบว่า ผู้บริโภคชาวไทยกว่า 42% ใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะในกลุ่ม Gen Z (52%) และ Gen Y (47%) ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้มีผู้หญิงเป็นกลุ่มหลักที่มีกำลังซื้อสูงขึ้น

การตอบสนองต่อความกังวลด้านอัตราเงินเฟ้อ

จากการศึกษาพบว่า อัตราเงินเฟ้อเป็นประเด็นสำคัญที่ผู้บริโภคกังวลมากที่สุด โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามถึง 64% ระบุว่านี่คือปัญหาหลัก ขณะที่อีก 60% ชี้ให้เห็นถึงค่าใช้จ่ายในครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น และ 58% แสดงความกังวลต่อการออมที่ลดลง ทำให้ผู้บริโภคเริ่มลดค่าใช้จ่ายสินค้าที่ไม่จำเป็น โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 51% ระบุว่าได้ลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้

การลงทุนเพื่อประสบการณ์ – เทรนด์ใหม่ในหมู่ผู้บริโภค

แม้จะมีภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ผู้บริโภคชาวไทยให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายเพื่อประสบการณ์มากกว่าสินค้าฟุ่มเฟือย ซึ่งการใช้จ่ายในด้านประสบการณ์มีมากกว่า 40% โดยเน้นที่การเดินทาง การรับประทานอาหารในร้านอาหารชั้นนำ การเข้าร่วมคอนเสิร์ต และอีเวนต์ต่าง ๆ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z ที่ใช้จ่ายเพื่อประสบการณ์มากถึง 56% และ Gen Y ที่ 45%

การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเพิ่มสูงขึ้นในต่างประเทศ

ตามข้อมูลจากวีซ่า ประเทศไทย พบว่า การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเพื่อประสบการณ์เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในหมวดการรับประทานอาหาร การเดินทาง และการเข้าร่วมงานบันเทิงต่าง ๆ ซึ่งมีการเติบโตสูงสุดถึง 57% การเดินทางระหว่างประเทศยังคงเป็นแนวโน้มที่สำคัญในการใช้จ่าย โดยผู้บริโภคชาวไทยกว่า 58% ระบุว่าได้เดินทางไปยังประเทศในภูมิภาคอาเซียน เช่น สิงคโปร์ เวียดนาม และมาเลเซีย ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม

คนรุ่นใหม่กับการบริหารการเงินเพื่ออนาคตที่มั่นคง

ถึงแม้จะมีแนวโน้มการใช้จ่ายเพื่อประสบการณ์เพิ่มขึ้น แต่ผู้บริโภคชาวไทยยังคงให้ความสำคัญกับการออมและการลงทุน โดยมีถึง 57% ที่ระบุว่ามีเงินสำรองฉุกเฉินเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายสามเดือน ขณะเดียวกัน บัญชีเงินฝากของกลุ่ม Gen Z เพิ่มขึ้นถึง 52% และ Gen Y เพิ่มขึ้น 27% นอกจากนี้ การลงทุนในต่างประเทศโดยคนรุ่นใหม่เติบโตขึ้น 10% โดยเฉพาะการลงทุนในกองทุนต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นถึง 14%

การวางแผนมรดกและการออมเพื่อเกษียณอายุ

ในแง่ของการวางแผนมรดกและการออมเพื่อเกษียณ พบว่าผู้บริโภคชาวไทยมีความรู้ด้านการเกษียณอายุอย่างเพียงพอ โดยกว่า 9 ใน 10 คนได้เริ่มวางแผนการเกษียณอายุแล้ว และ 41% ได้ระบุชื่อผู้รับผลประโยชน์ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ขณะที่อีก 25% ยังไม่ได้เริ่มวางแผนมรดกใด ๆ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :  ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News