Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

เตรียมรับเสด็จฯ สมเด็จพระเทพฯ ณ วัดหมื่นพุทธเมตตาคุณาราม

การประชุมเตรียมการรับเสด็จฯ สมเด็จพระเทพฯ ณ วัดหมื่นพุทธเมตตาคุณาราม

อำเภอแม่จัน เชียงราย, 5 กุมภาพันธ์ 2568 –  เวลา 10.30 น. ณ วัดหมื่นพุทธเมตตาคุณาราม อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ได้มีการประชุมเตรียมการรับเสด็จ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชทานดินบรรจุศพ พระมหาคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร (เย็นเต็ก) ณ วัชระเจดีย์บรรจุสรีระ วัดหมื่นพุทธเมตตาคุณาราม อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย 

การประชุมเตรียมความพร้อม

การประชุมในครั้งนี้มีพระคณาจารย์จีนธรรมชิรานุวัตร ปลัดขวาจีนนิกาย เจ้าอาวาสวัดมังกรกมลาวาส และนายรุจติศักดิ์ รังษี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานร่วมในการประชุม พร้อมด้วย พล.ท. ฉกาจ ประสงค์ ราชองครักษ์ประจำพระองค์ นายทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ตำรวจวัง เจ้าหน้าที่กองพระราชพิธี เจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการและผังเมือง หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

บทบาทของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย

นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนายพิพัฒน์ สุ่มมาตย์ นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ นายสานุพงศ์ สันทราย นักวิชาการวัฒนธรรมปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่ของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ได้เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงรายได้รับมอบหมายภารกิจในการสนับสนุนการปฏิบัติงานพิธีของกองพระราชพิธี ในระหว่างวันที่ 23 – 24 กุมภาพันธ์ 2568

วาระการประชุม

วาระสำคัญของการประชุมในวันนี้ คือการเตรียมความพร้อมในทุกด้านสำหรับการรับเสด็จฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยมีการหารือในรายละเอียดต่างๆ อาทิ การจัดเตรียมสถานที่ การอำนวยความสะดวกแก่ผู้มาร่วมงาน การรักษาความปลอดภัย การจราจร และการประชาสัมพันธ์ นอกจากนี้ ยังมีการประสานงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ

ความสำคัญของวัดหมื่นพุทธเมตตาคุณาราม

วัดหมื่นพุทธเมตตาคุณาราม เป็นวัดที่มีความสำคัญในพื้นที่อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย การเสด็จพระราชดำเนินของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของพระพุทธศาสนาและการสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของไทย

การเตรียมงานอย่างรอบคอบ

การประชุมเตรียมการรับเสด็จฯ ในวันนี้ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจและความมุ่งมั่นของทุกฝ่ายในการทำงานร่วมกัน เพื่อให้การรับเสด็จฯ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สมพระเกียรติ และเป็นที่ประทับใจของผู้มาร่วมงานทุกท่าน การเตรียมงานอย่างรอบคอบในครั้งนี้ จะส่งผลให้การจัดงานเป็นไปด้วยความราบรื่นและประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้

การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน

การประชุมในวันนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมืออันดีระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่ ที่ร่วมกันทำงานเพื่อเตรียมการรับเสด็จฯ การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนนี้ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การจัดงานเป็นไปด้วยความสมบูรณ์และบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

สรุป

การประชุมเตรียมการรับเสด็จฯ ในครั้งนี้ เป็นการเตรียมความพร้อมในทุกด้านสำหรับการเสด็จพระราชดำเนินของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี การทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วนจะทำให้การจัดงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สมพระเกียรติ และสร้างความประทับใจแก่ผู้มาร่วมงาน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
FOLLOW ME
MOST POPULAR
Categories
SOCIETY & POLITICS

การประชุมแก้ปัญหาหมอกควันและฝุ่น PM 2.5 รัฐบาลเร่งดำเนินการแก้ไข

การประชุมแก้ปัญหาหมอกควันไฟป่าและฝุ่น PM 2.5 โดยรองนายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล

เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2568 อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (รมว.มหาดไทย) เป็นประธานการประชุมกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.ช.) ซึ่งจัดขึ้นเพื่อติดตามปัญหาหมอกควันจากไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 โดยมีหน่วยงานต่างๆ และผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัด ร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เร้นซ์ เพื่อรับมอบนโยบายและแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

นายกรัฐมนตรีห่วงใยสถานการณ์หมอกควัน

รองนายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยอย่างยิ่งต่อสถานการณ์หมอกควันและฝุ่น PM 2.5 และได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดแม้ในช่วงที่เดินทางไปต่างประเทศ โดยตลอดระยะเวลาที่นายกรัฐมนตรีอยู่ต่างประเทศ ได้มีการติดต่อประสานงานและเรียกประชุมหารือกับตนเองทุกเวลา เพื่อให้ทุกฝ่ายเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหานี้

การแต่งตั้งที่ปรึกษากองบัญชาการปภ.ช.

ในที่ประชุม นายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งผู้แทนสำคัญหลายท่านเพื่อเป็นที่ปรึกษาของกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้แก่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม, นายประเสริฐ จันทรวงทอง รองนายกฯ และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, รวมทั้ง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะรับผิดชอบในการเผยแพร่ข้อมูลให้ประชาชนรับทราบและเข้าใจสถานการณ์ รวมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการลดมลพิษจากฝุ่น PM 2.5

สถานการณ์หมอกควันในภาคเหนือ

อนุทินกล่าวว่า เมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา ได้เดินทางไปที่จังหวัดเชียงใหม่เพื่อติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ โดยเฉพาะใน 17 จังหวัดภาคเหนือที่มีการเผาวัชพืชและผลผลิตทางการเกษตรอย่างมาก ซึ่งเป็นพื้นที่ Hotspot ที่มีปัญหาหมอกควันฝุ่น PM 2.5 สูงที่สุด ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ประกาศห้ามเผาและกำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อบรรเทาสถานการณ์ โดยใช้ระบบบริหารจัดการแบบ Single Command เพื่อให้การทำงานร่วมกันของทุกหน่วยงานมีความเข้มข้นและมีประสิทธิภาพ

การบูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วน

รองนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำถึงการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อให้การแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันเกิดผลอย่างแท้จริง โดยให้หน่วยงานต่างๆ ร่วมมือกันและทำงานอย่างเป็นทีม โดยไม่มุ่งหวังให้กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ดำเนินการเพียงลำพัง

มูลเหตุสำคัญจากการเผา

อนุทินยังกล่าวต่อว่า สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดหมอกควันและมลพิษ PM 2.5 คือการเผาวัชพืชและซากพืชทางการเกษตร หากไม่ให้ประชาชนเผาทำลายซากพืชเหล่านี้ จะช่วยลดมลพิษได้อย่างมาก โดยการเผานั้นไม่ได้มีแค่ผลกระทบในประเทศเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย จึงมีการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยและประเทศเพื่อนบ้านเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษข้ามพรมแดน

การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตเกษตรกร

นายอนุทินกล่าวว่า การเกษตรในพื้นที่ภาคเหนือและทั่วประเทศได้รับการเปลี่ยนแปลง โดยเกษตรกรหันมาผลิตพืชระยะสั้นแทนพืชผลทางการเกษตรระยะยาว เช่น มะม่วง ทุเรียน หรือมังคุด ที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเก็บเกี่ยว ซึ่งทำให้เกิดการเผาเศษวัชพืชมากขึ้น เนื่องจากพืชผลเหล่านี้ไม่ได้ให้ผลทันที และต้องเร่งปลูกพืชใหม่จึงต้องใช้การเผาเป็นวิธีการจัดการที่สะดวกและรวดเร็ว

แนวทางในการลดมลพิษจากการเผา

สำหรับการลดมลพิษจากการเผา การใช้วิธีการใหม่ๆ เช่น การฝังกลบ หรือการแปรสภาพเศษวัชพืชไปเป็นพลังงานชีวภาพ หรืออาหารสัตว์ รวมทั้งการทำปุ๋ยชีวภาพ เป็นทางเลือกที่รัฐบาลสนับสนุน พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือในด้านเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่จำเป็น

ความเสียหายจากหมอกควันและฝุ่น PM 2.5

รองนายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงความเสียหายจากหมอกควันที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อม ซึ่งต้องการการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนเพื่อหาทางออกที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้รัฐบาลจะต้องมีมาตรการในการให้ความช่วยเหลือชาวบ้านอย่างรวดเร็ว เมื่อสถานการณ์เริ่มเกิดผลกระทบต่อสุขภาพและชีวิตของประชาชน

มาตรการในการช่วยเหลือชาวบ้าน

การใช้เงินช่วยเหลือเป็นหนึ่งในมาตรการที่รัฐบาลจะดำเนินการเพื่อชดเชยความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากหมอกควันฝุ่น PM 2.5 โดยรัฐบาลจะจัดสรรงบประมาณเพื่อช่วยเหลือในระยะยาว รวมทั้งมาตรการในการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติในอนาคต

บทสรุป

การแก้ไขปัญหาหมอกควันและฝุ่น PM 2.5 เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องได้รับการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งรัฐบาล หน่วยงานท้องถิ่น และประชาชน เพื่อหาทางออกที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ รัฐบาลพร้อมที่จะสนับสนุนการดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อให้เกิดผลสำเร็จในการลดมลพิษและแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าในอนาคต

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงมหาดไทย 

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เวทีถกแนวทางรัฐธรรมนูญใหม่ เชียงรายเปิดรับเสียงประชาชน

ที่ประชุมวุฒิสภาจัดเวทีฟังเสียงประชาชน ทบทวนรัฐธรรมนูญใหม่

เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2568 ที่สำนักวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา นำโดย นายนิฟาริด ระเด่นอาหมัด รองประธานคณะกรรมาธิการ และ นายประภาส ปิ่นตบแต่ง เลขานุการคณะกรรมาธิการ ได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อรับฟังความคิดเห็นประชาชนและนักวิชาการในพื้นที่เกี่ยวกับการออกแบบสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) และการทบทวนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560

ประเด็นสำคัญในเวที

การประชุมเปิดพื้นที่ให้ประชาชนแต่ละกลุ่มสะท้อนปัญหาในพื้นที่ อาทิ

  1. สิทธิที่ดินทำกิน – ปัญหาการพิสูจน์สิทธิที่ล่าช้าและไม่มีส่วนร่วมจากประชาชน
  2. การศึกษา – การขาดการสนับสนุนเด็กไร้สถานะ (เด็ก G) และการศึกษาเรื่องภัยพิบัติ
  3. สิ่งแวดล้อม – ปัญหาฝุ่นควัน อุทกภัย และการประสานงานที่ล่าช้า

ข้อเสนอการออกแบบ สสร.

รศ. ดร.ชูเกียรติ น้อยฉิม กรรมการสภามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงเสนอว่า คุณสมบัติของ สสร. ควรครอบคลุมทั้งเพศ ชาติพันธุ์ และเยาวชน โดยกระบวนการคัดเลือกควรผสมผสานระหว่างการเลือกตั้งและแต่งตั้งเพื่อความหลากหลายและความเชี่ยวชาญ

การระดมความเห็น

ในช่วงบ่าย มีการแบ่งกลุ่มระดมความคิดเกี่ยวกับกระบวนการคัดเลือกและคุณสมบัติของ สสร. ผู้ร่วมประชุมเสนอให้ สสร. มาจากการเลือกตั้ง 70% และแต่งตั้ง 30% พร้อมให้มีตัวแทนจากกลุ่มเปราะบางและชาติพันธุ์ รวมถึงการกำหนดลักษณะต้องห้าม เช่น ผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีทุจริตหรือการรัฐประหาร

ข้อสรุป

การออกแบบรัฐธรรมนูญใหม่ควรมุ่งเน้นความโปร่งใส มีกรอบบทบัญญัติที่ปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ และให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง โดยเป้าหมายสำคัญคือการสร้างความยั่งยืนและตอบสนองต่อปัญหาสังคมในทุกมิติ

บทบาทของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

รศ. ดร.ชูเกียรติ ชี้ว่า มหาวิทยาลัยพร้อมสนับสนุนการให้ความรู้และถ่ายทอดบทเรียนรัฐธรรมนูญผ่านสถานศึกษา องค์กรท้องถิ่น และกลไกการเมือง เพื่อเพิ่มความตระหนักรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชนในการร่างรัฐธรรมนูญใหม่

การประชุมในครั้งนี้สะท้อนถึงความสำคัญของการฟังเสียงประชาชนในพื้นที่ และความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อออกแบบรัฐธรรมนูญที่ตอบโจทย์ประชาธิปไตยและสอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของสังคมไทย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง School of Law,MFU

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News