
อบจ.เชียงรายลุยงานด่วน! “นายกนก” ลงพื้นที่แม่สรวย ตรวจสะพานชำรุด 2 แห่ง–เร่งซ่อมเชิงรุก พร้อมติดตั้งปั๊มน้ำใหม่ คืนน้ำสะอาดให้ 200 ครัวเรือนภายใน 24 ชั่วโมง
เชียงราย, 17 กันยายน 2568 — เช้าวันอังคารที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา ในยามที่ชุมชนกำลังเผชิญ “วิกฤตคู่” ทั้งคอสะพานชำรุดและน้ำอุปโภคบริโภคขาดแคลน นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย หรือ “นายกนก” นำคณะผู้บริหารลงพื้นที่อำเภอแม่สรวยแบบเร่งด่วน สำรวจสะพานที่เสียหาย 2 แห่ง พร้อมสั่งการหน่วยงานวิศวกรรมเข้าประเมินโครงสร้างและจัดแผนซ่อมทันที ขณะเดียวกันได้ติดตามการแก้ไขปัญหาปั๊มน้ำบาดาลชำรุดที่ บ้านสันกลาง หมู่ 13 ตำบลป่าแดด จนสามารถ คืนน้ำสะอาดให้ชาวบ้านกว่า 200 ครัวเรือนได้ภายใน 24 ชั่วโมง สะท้อนท่าทีบริหารแบบ “ลงมือ–เห็นผล” และการบูรณาการเครื่องจักร–บุคลากรของ อบจ. สู่พื้นที่จริง
ภาพรวมสถานการณ์ โครงสร้างพื้นฐานเสียหาย–น้ำขาดแคลน กระทบวิถีชีวิตประจำวัน
อำเภอแม่สรวยเป็นพื้นที่เชื่อมต่อหมู่บ้าน–ตำบลหลายแห่ง สะพานท้องถิ่นทำหน้าที่เป็นเส้นเลือดฝอยของเศรษฐกิจฐานราก ทั้งการเดินทางของประชาชน การขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค และบริการภาครัฐ เมื่อ คอสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 แห่งเกิดความเสียหายจน ต้องงดสัญจรชั่วคราว ผลกระทบเกิดขึ้นทันที ทั้งเส้นทางอ้อมที่ยาวขึ้น ต้นทุนขนส่งเพิ่ม และความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของผู้ใช้ทาง หากไม่มีมาตรการป้องกันที่เหมาะสม
ในเวลาไล่เลี่ยกัน ชุมชน บ้านสันกลาง หมู่ 13 ตำบลป่าแดด เผชิญปัญหาปั๊มน้ำบาดาล (ชนิดซับเมอร์ส) ชำรุด ทำให้ ขาดน้ำอุปโภคบริโภคนานกว่า 5 วัน ส่งผลต่อสุขอนามัย การทำอาหาร และการใช้ชีวิตพื้นฐานของประชาชนกว่า 200 ครัวเรือน สถานการณ์ดังกล่าวจึงต้องอาศัยมาตรการฉุกเฉินที่ เร็ว–ตรงจุด–ตรวจสอบได้ เพื่อคุ้มครองคุณภาพชีวิตอย่างทันท่วงที
“สำรวจ–สั่งการ–ลงมือ” แผนปฏิบัติการเฉพาะหน้าเพื่อความปลอดภัยของประชาชน
จุดเสี่ยงที่หนึ่ง คอสะพานเชื่อม หมู่ 6 เทศบาลตำบลเจดีย์หลวง–เขต อบต.เจดีย์หลวง
- สะพานเป็นเส้นทางหลักสัญจรระหว่างชุมชน–หน่วยบริการภาครัฐ
- คอสะพานเกิดความเสียหายจนเสี่ยงต่อการทรุดตัว จึง ประกาศงดการสัญจรชั่วคราว และติดตั้งสัญลักษณ์เตือนภัย
- สำนักช่าง อบจ.เชียงราย ได้รับมอบหมายให้ประเมินโครงสร้างอย่างละเอียด (ตรวจรอยร้าว ระดับตอม่อ สภาพคานคอดิน) และจัดทำ แบบ–แผนซ่อมเร่งด่วน ตามมาตรฐานงานทาง
จุดเสี่ยงที่สอง คอสะพาน หมู่ 7 บ้านดอนสลี เชื่อม ตำบลป่าแดด–ตำบลศรีถ้อย
- เส้นทางเชื่อมตำบล 2 ฝั่ง ใช้รับ–ส่งนักเรียนและขนส่งผลผลิตชุมชน
- ความเสียหายระดับคอสะพานและไหล่ทางจำเป็นต้อง ปิดการจราจรชั่วคราว ลดความเสี่ยงอุบัติเหตุ
- สำนักช่าง อบจ. เดินหน้าสำรวจธรณี–ฐานราก คำนวณแรงน้ำและกัดเซาะเพื่อกำหนด วิธีซ่อมให้ทนฝน–ทนน้ำ ในฤดูกาลต่อไป
มาตรการเฉพาะหน้าในทั้งสองจุดประกอบด้วย
- การทำทางเบี่ยงชั่วคราว–ติดตั้งป้ายเตือนและไฟกระพริบ,
- ประสานตำรวจทางหลวง/เทศบาล/อบต.ดูแลจุดปิดกั้น,
- แจ้งเส้นทางสัญจรทางเลือกแก่ประชาชนผ่านเสียงตามสาย–สื่อท้องถิ่น–เพจจังหวัด,
- เร่งรัด กรอบงบซ่อมฉุกเฉิน ภายใต้ระเบียบว่าด้วยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและงานทางท้องถิ่น เพื่อ ลดเวลาจัดซื้อจัดจ้าง โดยยังคงยึดความโปร่งใส
น้ำสะอาด “กลับมาคืนบ้าน” ติดตั้งปั๊มใหม่–คืนแรงดันน้ำใน 24 ชั่วโมง
หลังรับแจ้งเหตุปั๊มน้ำบาดาลชำรุดที่ บ้านสันกลาง หมู่ 13 “นายกนก” มอบหมาย กองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบจ.เชียงราย บูรณาการกับผู้นำชุมชนและช่างท้องถิ่น ทำงานต่อเนื่องตั้งแต่ตรวจอาการเครื่องจนถึง ติดตั้งปั๊มซับเมอร์สตัวใหม่ พร้อมเดินระบบไฟ–ทดสอบแรงดัน–ล้างตะกอนในท่อจ่าย
ผลลัพธ์คือ คืนน้ำประปาชุมชนได้ภายในคืนนี้ (นับจากวันลงพื้นที่) ช่วยยุติภาวะขาดน้ำที่ยืดเยื้อนานกว่า 5 วัน ลดความเสี่ยงโรคระบบทางเดินอาหารและปัญหาสุขอนามัย โดยทีมงานยังวางแผน บำรุงรักษาเชิงป้องกัน (PM) รายเดือน เช่น ตรวจกรองทราย–เช็กกระแสไฟ–บันทึกชั่วโมงการทำงาน เพื่อยืดอายุปั๊มและป้องกันเหตุซ้ำ
เมื่อสะพานและน้ำคือ “ต้นทุนชีวิต” ของชุมชน
สะพาน ไม่ใช่แค่โครงเหล็ก–คอนกรีต แต่เป็น “ต้นทุนโลจิสติกส์” ของครัวเรือนชนบท การปิดสะพานแม้ไม่กี่วัน ทำให้
- ระยะทางอ้อมเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ ค่าขนส่งและค่าเดินทาง ของผู้ประกอบการรายย่อย–พ่อค้าแม่ค้าเพิ่มสูง
- เวลาเข้าถึงบริการของรัฐ (โรงพยาบาล–โรงเรียน–ที่ว่าการ) ยืดเยื้อ กระทบผลผลิตและรายได้ประจำวัน
- ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย หากประชาชนฝืนใช้ทางชำรุด
น้ำสะอาด คือโครงสร้างพื้นฐานที่มองไม่เห็น แต่เมื่อตัดขาด ค่าใช้จ่ายครัวเรือน กลับพุ่ง (ต้องซื้อน้ำแพ็ก–เดินทางไปตักน้ำไกล), สุขภาพ เสี่ยงโรคระบบทางเดินอาหาร–ผิวหนัง, และ กิจกรรมเศรษฐกิจครัวเรือน ต้องหยุดชะงัก การแก้ปัญหาได้ภายใน 24 ชั่วโมง จึงเทียบเท่ากับการ ลดค่าใช้จ่าย–คืนเวลาทำกิน ให้ประชาชนอย่างมีนัยสำคัญ
ในมุมการเงินสาธารณะ การเลือกใช้ งบฉุกเฉิน–เครื่องจักรของ อบจ. และเครือข่ายท้องถิ่น เข้าซ่อมแซม/ติดตั้งรวดเร็ว ช่วยหลีกเลี่ยงต้นทุนแฝงจากความล่าช้า (ค่าเช่ารถบรรทุกน้ำ, ค่าเสียโอกาสของผู้ประกอบการ, ค่าเดินทางอ้อมของนักเรียนและผู้ป่วย) ซึ่งหากประเมินแบบอนุรักษ์นิยม การฟื้นบริการภายใน 1 วัน คุ้มค่า กว่าปล่อยให้ยืดเยื้อหลายวันอย่างแน่นอน
จาก “เหตุฉุกเฉิน” สู่ “มาตรฐานป้องกันซ้ำ”
เหตุการณ์ครั้งนี้ชี้ให้เห็นความสำคัญของ 3 ประเด็นเชิงระบบที่ อบจ.เชียงรายเริ่มขับเคลื่อนและควรยกระดับให้เป็น มาตรฐานถาวร
- ข้อมูลสินทรัพย์โครงสร้างพื้นฐานแบบดิจิทัล (Asset Registry)
- จัดทำทะเบียนสะพาน–ถนน–ท่อส่งน้ำ พร้อมคะแนนสภาพ (Condition Index) และแผน PM รายปี
- เมื่อเกิดเหตุ สามารถ เรียกดูประวัติการซ่อม–แบบโครงสร้าง–สเปกวัสดุ ได้ทันที ลดเวลาประเมินและจัดซื้อ
- งบสำรองฉุกเฉินที่คล่องตัว–โปร่งใส
- ใช้กรอบระเบียบพ.ร.บ./กฎกระทรวงที่เปิดทางให้ซ่อมด่วนในภาวะสาธารณภัย แต่ต้อง เปิดเผยข้อมูลสาธารณะ เช่น วงเงิน–ผู้รับจ้าง–ระยะเวลาซ่อม–ผลการตรวจรับ เพื่อคงความเชื่อมั่น
- การมีส่วนร่วมของชุมชน–ท้องถิ่น
- แต่งตั้ง “อาสาสะพาน–อาสาน้ำ” ระดับหมู่บ้าน แจ้งเตือนสภาพผิดปกติผ่านไลน์/ศูนย์ดำรงธรรม
- จัดเวิร์กชอปการดูแลระบบสูบน้ำชุมชนขั้นพื้นฐาน เพื่อลดการชำรุดจากการใช้งานผิดวิธี
เสียงจากพื้นที่ การบริหารแบบ “อยู่หน้างาน”
แม้การลงพื้นที่ของ “นายกนก” จะเป็นภารกิจปกติของผู้บริหารท้องถิ่น แต่ จังหวะเวลา และ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง ทำให้เห็น 3 ความชัดเจน
- เข้าถึงปัญหาได้เร็ว เมื่อลงพื้นที่เอง การตัดสินใจเรื่องปิด–เปิดเส้นทาง การตั้งทางเบี่ยง และการเร่งรัดสำรวจโครงสร้าง เกิดขึ้นทันที
- ใช้ทรัพยากรในสังกัดเต็มประสิทธิภาพ สำนักช่าง–กองป้องกันฯ–ยานพาหนะหนักของ อบจ. ถูก “ลาก” ออกจากลานจอดไปอยู่หน้างาน โดยไม่ต้องรอคำสั่งซับซ้อน
- วัดผลจากชีวิตคนจริง นิยาม “สำเร็จ” ไม่ใช่จำนวนหนังสือราชการ แต่คือ น้ำประปาไหล–สะพานกลับมาใช้งานได้อย่างปลอดภัย และชาวบ้านเดินทาง–ทำกินได้ตามปกติ
ไทม์ไลน์ซ่อมสะพาน–แผนดูแลระบบน้ำชุมชน
สะพานทั้งสองแห่ง
- สัปดาห์ที่ 1–2 แล้วเสร็จการสำรวจโครงสร้างและคำนวณแบบซ่อม (คอสะพาน–คันทาง–ระบบระบายน้ำ)
- สัปดาห์ที่ 3 เปิดเผยแบบ–กรอบวงเงิน–แผนงานให้ชุมชนรับรู้ พร้อมตั้งจุดร้องเรียน/เสนอแนะ
- เดือนที่ 1–2 ดำเนินการซ่อมภายใต้กรอบมาตรฐานทางท้องถิ่น เน้นความปลอดภัย–รองรับน้ำหลาก
- ระยะยาว บรรจุในแผน PM หลังซ่อม พร้อมติดตั้งป้ายจำกัดน้ำหนัก/ความเร็ว ลดความเสี่ยงการชำรุดซ้ำ
ระบบน้ำชุมชนบ้านสันกลาง
- บันทึกข้อมูล ปั๊มใหม่–แรงดัน–ชั่วโมงการทำงาน ลงทะเบียนสินทรัพย์ของ อบจ./เทศบาล
- จัดทำ คู่มือดูแลประจำเดือน และมอบหมาย “เวรอาสาน้ำ” หมุนเวียน
- ประเมินความต้องการ สำรองปั๊ม/อะไหล่เร่งด่วน และงบฝึกอบรมช่างชุมชน เพื่อซ่อมเบื้องต้นได้เอง
เชื่อมโยงภาพใหญ่ของจังหวัด “เครื่องจักร–คน–ข้อมูล” ต้องเดินไปด้วยกัน
ภารกิจที่แม่สรวยครั้งนี้สอดคล้องกับแนวทางใหญ่ที่จังหวัดเชียงรายขับเคลื่อนตลอดปี 2568—2569 คือการ ยกระดับการรับมือสาธารณภัยและซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐาน ให้เร็วขึ้น–ดีขึ้น–ถูกลง โดยใช้ 3 คานงัด
- เครื่องจักรพร้อมรบ รถขุด–รถเครน–รถบรรทุกน้ำของ อบจ./ท้องถิ่น ต้องพร้อมใช้งานและเคลื่อนย้ายข้ามอำเภอได้
- คนพร้อมงาน วิศวกรชำนาญงานและทีมช่างประจำ พร้อมกำลังเสริมจากเครือข่ายช่างชุมชน
- ข้อมูลพร้อมตัดสินใจ ฐานข้อมูลจุดเสี่ยง–แบบโครงสร้าง–ทะเบียนระบบน้ำ และช่องทางสื่อสารแบบสองทางกับประชาชน
เมื่อทั้งสามส่วนขยับพร้อมกัน จะเกิด ความต่อเนื่องของบริการสาธารณะ แม้ในยามวิกฤต ลด “เวลานิ่ง” ที่มักสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจและความรู้สึกไม่มั่นคงของประชาชน
คืนคุณภาพชีวิตวันนี้ เพื่อภูมิคุ้มกันของวันพรุ่งนี้
ภายใต้ข้อจำกัดเรื่องงบประมาณและภูมิประเทศที่ท้าทาย “แม่สรวยโมเดล” ที่เกิดขึ้นในสัปดาห์นี้จากการ ปิดจุดเสี่ยงสะพาน–เร่งสำรวจซ่อม–ติดตั้งปั๊มใหม่คืนน้ำใน 24 ชั่วโมง แสดงให้เห็นว่างานท้องถิ่นที่ เร็ว–โปร่งใส–จับต้องได้ คือความเชื่อมั่นที่ชาวบ้านต้องการมากที่สุด
สำหรับ อบจ.เชียงราย ความสำเร็จไม่ได้จบที่การเบิกจ่ายหรือภาพลงพื้นที่ หากแต่จะวัดผลจาก “ชีวิตคน” ที่กลับมาเดินหน้าต่อได้อย่างปลอดภัย และมีระบบป้องกันไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย การทำงานที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางเช่นนี้ คือคำตอบของการบริหารท้องถิ่นยุคใหม่ที่ต้อง บรรเทาทุกข์วันนี้ พร้อมกับ สร้างภูมิคุ้มกันวันพรุ่งนี้ ไปพร้อมกัน
สรุปข้อมูล
- พื้นที่ปฏิบัติการ อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย
- จุดโครงสร้างพื้นฐานเสี่ยง คอสะพานชำรุด 2 แห่ง
- เชื่อม หมู่ 6 เทศบาลตำบลเจดีย์หลวง–เขต อบต.เจดีย์หลวง
- หมู่ 7 บ้านดอนสลี เชื่อม ตำบลป่าแดด–ตำบลศรีถ้อย
- มาตรการทันที งดสัญจรชั่วคราว, จัด ทางเบี่ยง–ป้ายเตือน, สำนักช่าง อบจ. สำรวจ–จัดทำแบบซ่อมเร่งด่วน
- วิกฤตน้ำชุมชน บ้านสันกลาง หมู่ 13 ต.ป่าแดด ปั๊มน้ำบาดาลชำรุด ชาวบ้านได้รับผลกระทบ กว่า 200 ครัวเรือน > 5 วัน
- ผลการแก้ไข ติดตั้งปั๊มซับเมอร์สใหม่, ทดสอบระบบ และ คืนน้ำภายใน 24 ชั่วโมง
- หน่วยงานภาคสนาม สำนักช่าง อบจ.เชียงราย, กองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบจ.เชียงราย, ผู้นำท้องที่–ท้องถิ่น
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย
ที่ทำการปกครองอำเภอแม่สรวย
ผู้นำท้องที่ท้องถิ่นและชาวบ้านในพื้นที่