Categories
AROUND CHIANG RAI ECONOMY

AOT-เทศบาลนครเชียงราย จับมือแก้ปัญหาน้ำท่วมรอบสนามบิน ผลักดันเที่ยวบินยูนนาน

AOT จับมือเทศบาลนครเชียงราย แก้ปัญหาน้ำท่วมรอบสนามบินแม่ฟ้าหลวง เดินหน้าดึงเที่ยวบินยูนนาน–ไทย ยกระดับเมืองสู่ประตูเศรษฐกิจใหม่

เชียงราย, 25 พฤศจิกายน 2568 – บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ขยับยุทธศาสตร์สำคัญในภาคเหนือ เมื่อคณะผู้บริหารเดินทางเข้าพบนายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำท่วมบริเวณโดยรอบท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (CEI) ควบคู่กับการวางมาตรการรองรับนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

การหารือครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่เป็นส่วนหนึ่งของการเดินหน้าโครงการพัฒนาท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ที่กำลังจะมีการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA อย่างเป็นระบบ เพื่อรองรับบทบาทของเชียงรายในฐานะสนามบินสำคัญของภูมิภาค และประตูสู่การท่องเที่ยวและโลจิสติกส์สายเหนือ–จีนตอนใต้ในอนาคต

ระดับพื้นที่ ร่วมวางรากฐานใหม่ เริ่มจากแก้น้ำท่วมและขยายเขตเมืองรอบสนามบิน

เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 เทศบาลนครเชียงรายนำโดยนายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย พร้อมด้วยนายภาธร์ รังษีกุลพิพัฒน์ รองนายกเทศมนตรี และนายวินัย โซนี่ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านการพัฒนาเมือง ให้การต้อนรับนางสาวสิริกัญ วนัสบดีกุล รองผู้อำนวยการฝ่ายสิ่งแวดล้อม บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และรองผู้อำนวยการฝ่ายท่าอากาศยาน พร้อมคณะ

การพบปะครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลัก 2 ประการ คือ

  1. ประชาสัมพันธ์โครงการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการพัฒนาท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย
  2. หารือแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำท่วมบริเวณโดยรอบสนามบิน ควบคู่กับการวางมาตรการรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น

ปัญหาน้ำท่วมรอบสนามบินถูกมองว่าเป็น “ข้อจำกัดเชิงกายภาพและความปลอดภัย” ที่ต้องแก้ไขอย่างจริงจัง เพราะเกี่ยวข้องกับทั้งโครงสร้างพื้นฐาน ระบบระบายน้ำ ความเชื่อมั่นของสายการบิน และความปลอดภัยของผู้โดยสาร หากปล่อยให้ยืดเยื้อ ไม่เพียงกระทบภาพลักษณ์สนามบิน แต่ยังอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นด้านการลงทุนและการท่องเที่ยวในระยะยาว

ขณะเดียวกัน ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือเรื่อง “การขยายเขตพื้นที่ให้ครอบคลุมบริเวณสนามบิน” เพื่อให้การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคม และการบริการนักท่องเที่ยวเดินไปในทิศทางเดียวกัน การวางเขตเมืองที่ชัดเจนจะช่วยให้การจัดการถนน ระบบขนส่งสาธารณะ ป้ายสัญลักษณ์ รวมถึงพื้นที่เชิงพาณิชย์รอบสนามบินมีเอกภาพ และสร้างความสะดวกสบายแก่ผู้โดยสารทั้งชาวไทยและต่างชาติอย่างแท้จริง

เชียงรายในสายตา AOT จากสนามบินภูมิภาค สู่ฟันเฟืองเชื่อมยูนนาน–ไทย

อีกประเด็นสำคัญในการหารือครั้งนี้ คือ แผนความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างยูนนาน–ไทย เพื่อผลักดันการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินตรงสู่จังหวัดเชียงรายโดยตรง แนวทางดังกล่าวถูกมองว่าเป็น “กุญแจเศรษฐกิจ” สำคัญของเชียงราย เพราะจังหวัดมีจุดแข็งด้านภูมิศาสตร์ ทั้งการเป็นประตูการค้าชายแดน การเชื่อมโยงจีนตอนใต้ เมียนมา และลาว และมีบทบาทในด้านโลจิสติกส์และการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและวัฒนธรรม

หากเที่ยวบินตรงระหว่างยูนนาน–เชียงรายเกิดขึ้นจริง จะช่วยย่นระยะเวลาการเดินทาง เพิ่มความสะดวกให้กับทั้งนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจ และเปิดโอกาสใหม่ให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจบริการในเมืองและรอบจังหวัดได้ขยายฐานลูกค้าไปสู่ตลาดจีนตอนใต้โดยตรง

ความร่วมมือนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงการเพิ่มตัวเลขผู้โดยสารสนามบิน แต่ยังหมายถึงการเชื่อมเศรษฐกิจชายแดน การค้า การลงทุน และการสร้างเครือข่ายเมืองท่องเที่ยวในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงบนฐานการคมนาคมที่มีประสิทธิภาพ

มองจากระดับประเทศ AOT โตต่อเนื่อง รายได้และผู้โดยสารขยับขึ้นพร้อมกัน

เพื่อรองรับทิศทางการพัฒนาของสนามบินภูมิภาคอย่างเชียงราย จำเป็นต้องมองย้อนกลับไปยัง “ศักยภาพขององค์กร” ที่ดูแลสนามบินหลักของประเทศอย่าง AOT ด้วย

วันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 นางสาวปวีณา จริยฐิติพงศ์ รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ AOT เปิดเผยผลการดำเนินงานของบริษัทในปีงบประมาณ 2568 (ระหว่างเดือนตุลาคม 2567 – กันยายน 2568) ว่า AOT มีรายได้จากกิจการการบินรวม 33,047.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2,046.83 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.6

เมื่อรวมทุกประเภทรายได้ AOT มีรายได้รวมทั้งสิ้น 68,586.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.12 และมีกำไรสุทธิรวม 18,125.20 ล้านบาท ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนชัดว่า แม้เศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอน แต่อุตสาหกรรมการบินไทยภายใต้การบริหารจัดการของ AOT กำลังกลับมาฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพ

ด้านปริมาณการจราจรทางอากาศ ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งในสังกัด AOT ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ แม่ฟ้าหลวง เชียงราย ภูเก็ต และหาดใหญ่ มีเที่ยวบินรวม 788,095 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.56 แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 444,944 เที่ยวบิน และเที่ยวบินภายในประเทศ 343,151 เที่ยวบิน

ผู้โดยสารใช้บริการรวมทั้งสิ้น 125,989,505 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.61 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยแบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 76,636,387 คน และผู้โดยสารภายในประเทศ 49,353,118 คน ตัวเลขเหล่านี้ชี้ชัดว่า การเดินทางทางอากาศกลับมาเป็นหัวใจสำคัญของการเชื่อมโยงเศรษฐกิจไทยกับเศรษฐกิจโลกอีกครั้ง และเป็นฐานสำคัญในการต่อยอดสนามบินภูมิภาคให้ก้าวไปสู่บทบาทใหม่

สุวรรณภูมิในฐานะ Hub ระดับโลก ตัวอย่างมาตรฐานที่เชียงรายต้องเทียบเคียง

ในบรรดาท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งภายใต้ AOT ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ยังเป็นตัวหลักที่แบกรับจำนวนผู้โดยสารกว่า 62 ล้านคนต่อปี และถือเป็น “หน้าตา” ของระบบการบินไทยในระดับสากล

ทสภ.ได้รับการจัดอันดับสำคัญจากหลายสถาบัน อาทิ

  • อันดับที่ 7 สนามบินที่เป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อทางอากาศ
  • อันดับที่ 9 สนามบินที่มีการเชื่อมต่อทางอากาศสูงสุดของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและตะวันออกกลาง จาก ACI APAC&MID
  • อันดับที่ 12 ของโลก ในกลุ่ม Global Airport Megahubs 2025 จาก OAG
  • ติดอันดับท็อป 10 ท่าอากาศยานที่ดีที่สุดของโลกจาก Condé Nast Traveler
  • ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับ 4 ดาว จาก Skytrax

การได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติเหล่านี้เกิดขึ้นควบคู่ไปกับการยกระดับบริการภายในสนามบินอย่างต่อเนื่อง เช่น การเพิ่มจุดลงทะเบียนใบหน้าผ่านระบบ Biometric สำหรับผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ เพื่อลดขั้นตอนการแสดงเอกสาร และการขยายจุดติดตั้ง Auto Channel บริเวณจุดตรวจคนเข้าเมืองทั้งขาเข้าและขาออก เพื่อให้การตรวจคนเข้าเมืองราบรื่น รวดเร็ว และปลอดภัย

มาตรฐานที่ทสภ.วางไว้ จึงกลายเป็น “แรงขับเคลื่อนเชิงคุณภาพ” ที่ส่งผลไปถึงสนามบินอื่นในสังกัด AOT รวมถึงแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงยกระดับขีดความสามารถเช่นกัน

จากมาตรฐานระดับโลก สู่สนามบินภูมิภาค หมุดหมายใหม่ของแม่ฟ้าหลวง เชียงราย

แม้การเติบโตของผู้โดยสารท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ในปัจจุบันจะยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยรวมของทั้ง 6 ท่าอากาศยาน แต่ในเชิงยุทธศาสตร์ สนามบินแห่งนี้กลับมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นประตูสู่ภาคเหนือและภูมิภาคลุ่มน้ำโขง

การที่ AOT และเทศบาลนครเชียงรายจับมือกันแก้ปัญหาน้ำท่วมและวางแผนขยายเขตพื้นที่เมืองให้ครอบคลุมสนามบิน ถือเป็นการ “ปรับฐานโครงสร้าง” ให้พร้อมรองรับการเติบโตในอนาคต เมื่อผนวกกับแผนดึงเที่ยวบินยูนนาน–ไทย เข้าสู่เชียงรายโดยตรง สนามบินแม่ฟ้าหลวงจึงมีโอกาสพัฒนาไปสู่การเป็น “จุดเชื่อมต่อการเดินทางและโลจิสติกส์” ที่สำคัญของภูมิภาค

ด้าน AOT เองยืนยันว่า จะเดินหน้าพัฒนาท่าอากาศยานในความรับผิดชอบทุกมิติ ทั้งบริการ เทคโนโลยี ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด ‘World Class Hospitality’ เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่ดีที่สุดแก่ผู้โดยสาร แนวคิดนี้หากถูกนำมาปรับใช้กับแม่ฟ้าหลวง เชียงราย อย่างจริงจัง จะช่วยยกระดับภาพลักษณ์สนามบินให้ก้าวพ้นจากการเป็นเพียงสนามบินภูมิภาค ไปสู่สนามบินที่นักเดินทางจดจำในเชิง “ประสบการณ์และความประทับใจ”

ผลกระทบเชิงลึกต่อชุมชน เมื่อการแก้น้ำท่วมเชื่อมโยงกับปากท้องและโอกาสทางเศรษฐกิจ

แม้หัวข้อหลักของการหารือจะเน้นเรื่องน้ำท่วมและโครงสร้างพื้นฐาน แต่ในเชิงลึก ผลลัพธ์ของการพัฒนาครั้งนี้จะเชื่อมโยงถึงชีวิตประจำวันของคนเชียงรายโดยตรง

หากระบบระบายน้ำรอบสนามบินมีประสิทธิภาพมากขึ้น พื้นที่ชุมชนรอบข้างจะลดความเสี่ยงต่อความเสียหายทั้งทรัพย์สินและการประกอบอาชีพ ผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจบริการใกล้สนามบินจะมั่นใจมากขึ้นในการลงทุนเพิ่มเติม ขณะเดียวกัน การวางระบบคมนาคมเชื่อมจากสนามบินเข้าสู่ตัวเมืองและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอย่างมีแบบแผน จะทำให้รายได้จากนักท่องเที่ยวกระจายสู่ชุมชนอย่างทั่วถึง

ดังนั้น การแก้ปัญหาน้ำท่วมจึงไม่ใช่เพียงประเด็นวิศวกรรม แต่เป็นการวางรากฐานเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่ไปพร้อมกัน

เมื่อ “น้ำท่วม–พื้นที่–เที่ยวบิน” กลายเป็นสมการอนาคตของเชียงราย

จากการขยับตัวของ AOT และเทศบาลนครเชียงรายในครั้งนี้ จะเห็นได้ว่า ประเด็นน้ำท่วมรอบสนามบิน การจัดทำ EIA การขยายเขตพื้นที่เมือง การเพิ่มเที่ยวบินระหว่างยูนนาน–ไทย และการยกระดับมาตรฐานบริการสนามบิน ล้วนเชื่อมโยงกันเป็น “สมการอนาคต” ของเชียงราย

หากการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเดินหน้าอย่างเป็นระบบ เขตพื้นที่รอบสนามบินถูกจัดวางใหม่ให้รองรับการเติบโต โครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมได้รับการพัฒนา และเที่ยวบินระหว่างประเทศถูกผลักดันจนสำเร็จ เชียงรายจะไม่ใช่แค่จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวธรรมชาติและวัฒนธรรมเท่านั้น แต่จะก้าวขึ้นมาเป็น “โหนดการเดินทางและเศรษฐกิจ” ที่เชื่อมโยงไทยกับภูมิภาคได้อย่างมีน้ำหนักมากขึ้น

ในอีกด้านหนึ่ง ความสำเร็จระดับตัวเลขของ AOT ทั้งรายได้ กำไรสุทธิ เที่ยวบิน และผู้โดยสาร รวมถึงการยอมรับในระดับโลกของสุวรรณภูมิ สะท้อนว่า ประเทศไทยมีศักยภาพด้านการบินและการบริหารสนามบินที่มาตรฐานสูงอยู่แล้ว คำถามคือ เราจะใช้ศักยภาพนั้น “ส่งต่อ” ไปสู่สนามบินภูมิภาคอย่างแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ได้เร็วและลึกแค่ไหน

คำตอบของคำถามนี้ อาจไม่ได้อยู่เพียงบนกระดาษ EIA หรือแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเท่านั้น แต่ยังอยู่ในความร่วมมือระยะยาวของทุกภาคส่วน ทั้งรัฐ เอกชน และชุมชน ที่ต้องร่วมกันขับเคลื่อนให้ “สนามบิน–เมือง–ชุมชน” เติบโตไปด้วยกันอย่างสมดุลและยั่งยืน

สำนักข่าวนครเชียงรายนิวส์

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT)
  • เทศบาลนครเชียงราย
  • ข้อมูลท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.)
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME