
กีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 33 เคาะสนามแข่งขัน 3 จังหวัดหลัก กรุงเทพฯ-ชลบุรี-สงขลา
กรุงเทพฯ, 20 กุมภาพันธ์ 2568 – คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ได้ข้อสรุปเกือบสมบูรณ์เกี่ยวกับสนามแข่งขัน โดยกรุงเทพฯ จะเป็นเจ้าภาพจัด 31 ชนิดกีฬา ชลบุรีจัด 15 กีฬา และสงขลาดูแล 10 กีฬา ขณะที่ฟุตบอลชายรอบแรกจะจัดแข่งที่เชียงใหม่และสงขลา ก่อนที่รอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศจะกลับมาแข่งที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน
นายปรีชา ลาลุน รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฝ่ายเทคนิคกีฬา ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยมีตัวแทนสมาคมกีฬาต่างๆ เข้าร่วมเพื่อติดตามความคืบหน้าการจัดการแข่งขัน
สนามแข่งขันหลักในซีเกมส์ 33
- กรุงเทพฯ และปริมณฑล (31 ชนิดกีฬา): กีฬาทางน้ำ, กรีฑา, บาสเกตบอล, มวยสากล, จักรยาน, อีสปอร์ตส์, เซปักตะกร้อ, เทควันโด และวอลเลย์บอล เป็นต้น
- ชลบุรี (15 ชนิดกีฬา): ฟุตบอลหญิง, ขี่ม้า, ไตรกีฬา, ยิงปืน, ยกน้ำหนัก, บิลเลียด และเรือพาย เป็นต้น
- สงขลา (10 ชนิดกีฬา): ฟุตบอลชาย, ยูโด, คาราเต้, ปันจักสีลัต, มวยปล้ำ และเรือใบ เป็นต้น
ปัญหาสนามแข่งขันที่ต้องเร่งแก้ไข
- สนามแข่งขันฟุตซอลเดิมที่สงขลาไม่พร้อมใช้งาน และต้องหาทางเลือกใหม่ภายใน 3 จังหวัดเจ้าภาพ
- สมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทยยังไม่ได้ข้อสรุปสนามแข่งขัน โดยต้องเลือกภายในจังหวัดเจ้าภาพ
นายปรีชา ลาลุน เผยว่า การประชุมร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในวันที่ 26 ก.พ.นี้ จะช่วยสรุปความคืบหน้าของการแข่งขันก่อนที่มนตรีซีเกมส์จะเดินทางมาตรวจสนามแข่งขันในวันที่ 27 ก.พ.
การแข่งขันซีเกมส์ 33 และอาเซียนพาราเกมส์ 13
- ซีเกมส์ ครั้งที่ 33: 9-20 ธันวาคม 2568 แข่งขัน 50 ชนิดกีฬา ชิง 574 เหรียญทอง
- อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13: 20-26 มกราคม 2569 แข่งขัน 19 ชนิดกีฬา ชิง 536 เหรียญทอง โดยทั้งหมดจัดที่นครราชสีมา
การแข่งขันครั้งนี้คาดว่าจะเป็นการยกระดับมาตรฐานการแข่งขันของภูมิภาค พร้อมเสริมศักยภาพกีฬาไทยในเวทีระดับนานาชาติ
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33