Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

เชียงรายติดอันดับที่ 11 ของประเทศ หลังไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ

 

เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลายประเทศทั่วโลกกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ ซึ่งหมายถึงการมีสัดส่วนผู้สูงอายุมากกว่า 20% ของจำนวนประชากรทั้งหมด เช่นเดียวกับประเทศไทยที่ได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมาหลายปีแล้ว โดยทางกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้รวบรวมสถิติมาจากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ซึ่งสรุปข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 พบว่าประชากรไทยมีทั้งหมด 64,989,504 คน ในจำนวนนี้แบ่งเป็นผู้สูงอายุ อายุ 60 ปีขึ้นไป 13,450,391 คน หรือคิดเป็นสัดส่วน 20.70%

 

เมื่อจำแนกตามช่วงวัย พบว่ามีกลุ่มอายุ 60 – 69 ปี จำนวน 7,593,731 คน กลุ่มอายุ 70-79 ปี มีจำนวน 3,987,082 คน กลุ่มอายุ 80 – 89 ปี มีจำนวน 1,516,689 คน กลุ่มอายุ 90 – 99 ปี จำนวน 311,470 คน และกลุ่มอายุ 100 ปีขึ้นไป มีจำนวน 41,419 คน โดยจังหวัดที่มีผู้สูงอายุ อายุ 100 ปีขึ้นไปมากที่สุดคือ กรุงเทพมหานคร จำนวน 7,470 คน ตามด้วยนนทบุรี 1,729 คน ชลบุรี 1,310 คน เชียงใหม่ 1,296 คน นราธิวาส 1,232 คน สงขลา 1,132 คน นครศรีธรรมราช 1,131 คน นครราชสีมา 1,130 คน ยะลา 1,099 คน และปัตตานี 1,078 คน

สำหรับ 10 จังหวัดที่มีสัดส่วนผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) สูงที่สุดเมื่อเทียบกับประชากรในพื้นที่ พบว่า

  1. ลำปาง ผู้สูงอายุคิดเป็น 28.83 % หรือจำนวน 203,111 คน จากจำนวนประชากร 704,473 คน
  2. แพร่ ผู้สูงอายุคิดเป็น 28.18 % หรือจำนวน 119,225 คน จากจำนวนประชากร 423,758 คน
  3. ลำพูน ผู้สูงอายุคิดเป็น 28.00 % หรือจำนวน 110,397 คน จากจำนวนประชากร 397,345 คน
  4. สิงห์บุรี ผู้สูงอายุคิดเป็น 27.60 % หรือจำนวน 55,251 คน จากจำนวนประชากร 200,190 คน
  5. พะเยา ผู้สูงอายุคิดเป็น 26.89% หรือจำนวน 122,050 คน จากจำนวนประชากรในพื้นที่ 456,572 คน
  6. ชัยนาท ผู้สูงอายุคิดเป็น 26.38 % หรือจำนวน 82,961 คน จากประชากรไทยในพื้นที่ 314,839 คน
  7. สมุทรสงคราม ผู้สูงอายุคิดเป็น 26.30 หรือจำนวน 48,875 คน จากจำนวนประชากรในพื้นที่ 187,394 คน
  8. อ่างทอง ผู้สูงอายุคิดเป็น 25.70 % หรือจำนวน 69,199 คน จากจำนวนประชากร ในพื้นที่ 269,274 คน
  9. อุตรดิตถ์ ผู้สูงอายุคิดเป็น 25.64% หรือจำนวน 112,031 คนจากประชากรในพื้นที่ 438,060 คน
  10. เชียงใหม่ ผู้สูงอายุคิดเป็น 25.50 % หรือจำนวน 416,884 คน จากจำนวนประชากรไทยในพื้นที่ 1,797,138 คน

จังหวัดเชียงรายที่ติดอันดับที่ 11 ในการมีสัดส่วนผู้สูงอายุมากที่สุดของประเทศ คิดเป็นผู้สูงอายุ 25.44% หรือจำนวน 295,987 คน จากประชากร ในพื้นที่ 1,297,666 คน

เป็นผลมาจากหลายปัจจัย ได้แก่

  1. **สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพ**: เชียงรายมีอากาศที่บริสุทธิ์และภูมิประเทศที่งดงาม ทำให้ผู้สูงอายุสามารถใช้ชีวิตอย่างสุขสงบและมีคุณภาพชีวิตที่ดี
  2. **การสนับสนุนจากชุมชนและครอบครัว**: ชุมชนในเชียงรายมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น และครอบครัวมักให้การดูแลผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิด ทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกอบอุ่นและมีความสุข
  3. **การเข้าถึงบริการสาธารณสุข**: เชียงรายมีการจัดการและบริการสาธารณสุขที่ดี โดยเฉพาะการดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งรวมถึงการมีศูนย์บริการสุขภาพที่สามารถให้บริการได้อย่างครบวงจร

สรุปแล้ว การที่จังหวัดเชียงรายมีสัดส่วนผู้สูงอายุมากเป็นผลมาจากปัจจัยหลายอย่าง ทั้งสภาพแวดล้อมที่ดี การสนับสนุนจากครอบครัวและชุมชน และการเข้าถึงบริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพ สิ่งเหล่านี้ทำให้เชียงรายเป็นจังหวัดที่เหมาะสมสำหรับการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุ และเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับการดูแลผู้สูงอายุในประเทศไทย

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
SOCIETY & POLITICS VIDEO

ปฏิบัติการพญางำเมือง จับ 2 จุด กลางเมืองพะเยา

 

วันที่ 17 กันยายน 2566 เวลา 00.30 น. นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง โดย นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการ ศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง พร้อมสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน กว่า 40 นาย

นำกำลังเข้าจับกุมสถานบริการขนาดใหญ่ในพื้นที่ อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา “ฮอลลีวูด ผับ” เปิดให้บริการเกินเวลากว่าที่กฎหมายกำหนด ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เด็กและปล่อยปละละเลยให้เด็กเข้าใช้บริการจำนวนมาก พบนักเที่ยวเด็ก อายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 143 ราย อายุต่ำสุดเพียง 17 ปี!

ในเวลาเดียวกันชุดช่วยเหลือสนับสนุน ได้เข้าช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ณ โรงแรมภูทองเพลส ในตัวเมืองพะเยา เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ถูกร้านคาราโอเกะนำมาแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศ รับส่วนแบ่งเงินจากการค้าประเวณี อ้างเป็นค่าเวลาของร้าน คิดเป็นรายชั่วโมง โดยสามารถช่วยเหลือผู้เสียหายได้ 2 คน เด็กมีอายุต่ำสุดเพียง 14 ปี เจ้าพนักงานชุดช่วยเหลือได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง เก็บรวบรวมพยานหลักฐาน และร้องทุกข์กล่าวโทษกับเจ้าของร้านคาราโอเกะที่นำเด็กมาค้ามนุษย์ด้วยแสวงหาผลประโยชน์จากการค้าประเวณีต่อไป

ความเชื่อมโยงของปฏิบัติการดังกล่าว เริ่มต้นจากกมูลนิธิอิมมานูเอล ลงพื้นที่สืบสวนข้อเท็จจริง และพบว่ามีการค้ามนุษย์ นำเด็กมาค้าประเวณี ณ ร้านคาราโอเกะ แห่งหนึ่ง ในตัวเมืองพะเยา โดยสามารถให้เด็กออกมาขายบริการเพศให้แก่ลูกค้า แต่จะต้องเสียค่าเวลาให้แก่ร้านเป็นส่วนแบ่งที่เด็กออกมาให้บริการทางเพศ และเด็กได้มีการชักชวนทีมงานชุดสืบสวนให้มาเที่ยวต่อยังผับในตัวเมืองพะเยา โดยเป็นที่รู้กันว่าเปิดดึก เด็กอายุไม่ถึง 20 ปี สามารถเข้าใช้บริการได้ จากข้อมูลดังกล่าวจึงเป็นที่มาของการสืบสวนการกระทำผิดของสถานบริการ ฮอลลีวูด ผับ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้รับใบอนุญาตตั้งสถานบริการว่า ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ซึ่งมิได้ทำงานในสถานบริการนั้นเข้าไปในสถานบริการระหว่างเวลาทำการ, เปิดทำการเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด, จำหน่ายสุราให้แก่บุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปี, จำหน่ายสุราเกินกว่าเวลาที่กฎหมายบัญญัติ, ความผิดฐานโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือแสดงชื่อหรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อันเป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่มโดยตรงหรือโดยอ้อม, ส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร, จำหน่ายสุราแก่เด็ก และยังเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 22/2558 เรื่อง มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทางและการควบคุมสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ ข้อ 4 (1)-(4) ทั้งนี้ เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองชุดจับกุม จะได้เสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยาออกคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตสถานบริการดังกล่าว และห้ามมิให้มีการเปิดสถานบริการในสถานที่ดังกล่าวอีกเป็นเวลา 5 ปี ต่อไป

นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการ กรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง ฝากเตือนไปยังผู้ประกอบการสถานบันเทิง ควรประกอบธุรกิจด้วยความมีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม ไม่ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่ 22/2558 ห้ามมิให้ผู้ประกอบกิจการสถานบริการหรือสถานประกอบการใดที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ กระทำการใดที่ห้ามไว้ตามคำสั่งดังกล่าว

สรุปให้จำง่ายๆ “ห้ามเด็ก การพนัน ค้ามนุษย์ อาวุธ ยาเสพติด ปิดเกินเวลา ถูกจับแล้วโดนปิดแน่นอน” จึงควรประกอบกิจการโดยมีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม ไม่ฝ่าฝืนข้อห้ามข้างต้น นายรณรงค์ กล่าวปิดท้ายฯ

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กรมการปกครอง

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News