Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

กกต.สั่ง ‘เชียงราย’ เลือกตั้งใหม่ หลังเจอลงคะแนนซ้ำ 2 หน่วย

กกต. สั่งเลือกตั้งใหม่ 22 หน่วยใน 11 จังหวัด หลังพบความคลาดเคลื่อนของบัตรลงคะแนน

กรุงเทพฯ, วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568  – สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติให้มีการออกเสียงลงคะแนนใหม่ใน 22 หน่วยเลือกตั้ง กระจายอยู่ใน 11 จังหวัด หลังตรวจพบ จำนวนบัตรลงคะแนนไม่ตรงกับผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และนายก อบจ. เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 โดยกำหนดให้มีการเลือกตั้งใหม่ในวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568

ซึ่งเชียงรายจะเลือกตั้งใหม่ “เฉพาะแค่ 2 หน่วย” นี้เท่านั้น เลือกตั้ง
1. อำเภอเมืองเชียงราย เขตเลือกตั้งที่ 3 หน่วยเลือกตั้งที่ 31 ออกเสียงลงคะแนนใหม่ทั้ง ส.อบจ. และ นายก อบจ.
2.อำเภอเมืองเชียงราย เขตเลือกตั้งที่ 5 หน่วยเลือกตั้งที่ 49 ออกเสียงลงคะแนนใหม่เฉพาะ ส.อบจ.
 

เหตุผลและกระบวนการตรวจสอบของ กกต.

กกต. แจ้งว่าคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งได้รายงานปัญหาดังกล่าว ตามมาตรา 105 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 หลังจากที่ตรวจสอบแล้วพบว่าจำนวนบัตรเลือกตั้งไม่ตรงกับยอดผู้มาใช้สิทธิ แม้จะดำเนินการตรวจสอบซ้ำแล้ว แต่ยังคงมีข้อคลาดเคลื่อน จึงมีมติให้มีการเลือกตั้งใหม่ในหน่วยที่มีปัญหา

รายชื่อ 22 หน่วยเลือกตั้งที่ต้องเลือกตั้งใหม่

การเลือกตั้งใหม่แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ดังนี้:

กลุ่มที่ 1: เลือกตั้งใหม่ทั้งนายก อบจ. และสมาชิกสภา อบจ.

  • สุพรรณบุรี: อ.บางปลาม้า ต.กฤษณา เขต 3 หน่วยเลือกตั้ง 2
  • เชียงราย: อ.เมืองเชียงราย ต.รอบเวียง เขต 5 หน่วยเลือกตั้ง 31

กลุ่มที่ 2: เลือกตั้งใหม่เฉพาะนายก อบจ.

  • พิจิตร: อ.เมืองพิจิตร ต.ไผ่ขวาง เขต 2 หน่วยเลือกตั้ง 2
  • ลำปาง: อ.เมืองปาน ต.ทุ่งกว๋าว เขต 1 หน่วยเลือกตั้ง 7
  • สุพรรณบุรี: อ.เมืองสุพรรณบุรี ต.รั้วใหญ่ เขต 1 หน่วยเลือกตั้ง 33
  • สุพรรณบุรี: อ.เมืองสุพรรณบุรี ต.ดอนกำยาน เขต 2 หน่วยเลือกตั้ง 9

กลุ่มที่ 3: เลือกตั้งใหม่เฉพาะสมาชิกสภา อบจ.

  • พิจิตร: อ.ตะพานหิน ต.ทับหมัน เขต 3 หน่วยเลือกตั้ง 7
  • เชียงราย: อ.เมืองเชียงราย ต.รอบเวียง เขต 5 หน่วยเลือกตั้ง 49
  • ระยอง: อ.เมืองระยอง ต.เทศบาลนครระยอง เขต 5 หน่วยเลือกตั้ง 2
  • ระยอง: อ.เมืองระยอง ต.เทศบาลนครระยอง เขต 6 หน่วยเลือกตั้ง 9
  • ระยอง: อ.บ้านฉาง ต.พลา เขต 1 หน่วยเลือกตั้ง 2
  • ระยอง: อ.นิคมพัฒนา ต.มาบข่า เขต 1 หน่วยเลือกตั้ง 6
  • นครนายก: อ.ปากพลี ต.บางปลากลาง เขต 2 หน่วยเลือกตั้ง 4
  • ฉะเชิงเทรา: อ.บ้านโพธิ์ ต.ดอนทราย เขต 1 หน่วยเลือกตั้ง 2
  • ชลบุรี: อ.เมืองชลบุรี ต.อ่างศิลา เขต 7 หน่วยเลือกตั้ง 3
  • ชลบุรี: อ.เมืองชลบุรี ต.แสนสุข เขต 7 หน่วยเลือกตั้ง 40
  • สมุทรสาคร: อ.กระทุ่มแบน ต.อ้อมน้อย เขต 3 หน่วยเลือกตั้ง 13
  • นนทบุรี: อ.บางใหญ่ ต.เสาธงหิน เขต 5 หน่วยเลือกตั้ง 6
  • นนทบุรี: อ.บางบัวทอง ต.บางรักใหญ่ เขต 1 หน่วยเลือกตั้ง 3
  • ปัตตานี: อ.เมืองปัตตานี ต.บานา เขต 4 หน่วยเลือกตั้ง 11
  • สุพรรณบุรี: อ.เมืองสุพรรณบุรี ต.ดอนตาล เขต 3 หน่วยเลือกตั้ง 1
  • สุพรรณบุรี: อ.เมืองสุพรรณบุรี ต.บ้านโพธิ์ เขต 4 หน่วยเลือกตั้ง 7

มาตรการและข้อควรระวังในการเลือกตั้งใหม่

กกต. ขอให้ประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งใน 22 หน่วยเลือกตั้งดังกล่าว ออกมาใช้สิทธิ์อีกครั้งในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 โดยขอให้ทุกฝ่าย ปฏิบัติตามกฎหมายเลือกตั้งอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างโปร่งใส

ทั้งนี้ กกต. ยืนยันว่าจะดำเนินมาตรการเฝ้าระวังการทุจริตเลือกตั้งอย่างเข้มงวด พร้อมทั้งเปิดช่องทางให้ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสการซื้อสิทธิ์ขายเสียงผ่าน สายด่วน กกต. 1444 หรือแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
FOLLOW ME
MOST POPULAR
Categories
NEWS UPDATE

อบจ. 68 ‘โหวตโน’ มาแรง กกต. ชี้เลือกตั้งใหม่ 4 จังหวัด คะแนนไม่ถึงเกณฑ์

เลือกตั้ง อบจ. 68 คนใช้สิทธิ์ น้อย ‘โหวตโน’ เพิ่ม กกต. สั่งเลือกตั้งใหม่ 4 จังหวัด

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 นายแสวง บุญมี เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้แถลงสรุปผลการเลือกตั้งสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งมีการเปิดเผยข้อมูลการใช้สิทธิเลือกตั้งของประชาชนในระดับชาติและในจังหวัดเชียงราย

การเลือกตั้งนายก อบจ. และสมาชิก อบจ.

ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งนายก อบจ. จำนวน 27,991,587 คน ได้มีผู้มาใช้สิทธิ 16,362,185 คน หรือคิดเป็น 58.45% ซึ่งลดลงจากการเลือกตั้งในปี 2563 ที่มีผู้มาใช้สิทธิ 62.44% โดยมีบัตรดีจำนวน 14,272,694 ใบ (87.23%) และบัตรเสียจำนวน 931,290 ใบ (5.69%) สำหรับผู้ที่ไม่เลือกผู้สมัครใดมีจำนวน 1,158,201 ใบ (7.08%)

ในส่วนของสมาชิก อบจ. มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 47,124,842 คน และมีผู้มาใช้สิทธิ 26,418,754 คน หรือคิดเป็น 56.06% โดยมีบัตรดีจำนวน 23,131,324 ใบ (87.56%) และบัตรเสีย 1,488,086 ใบ (5.63%) ขณะที่บัตรที่ไม่เลือกผู้สมัครใดมีจำนวน 1,799,344 ใบ (6.81%)

จังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุด

โดยข้อมูลจาก กกต. เผยว่า จังหวัดที่มีอัตราผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิก อบจ. และนายก อบจ. สูงที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ลำพูน (73.43%), นครนายก (73%), พัทลุง (72.56%), นราธิวาส (68.42%) และมุกดาหาร (68.03%) ในขณะที่จังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิก อบจ. มากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ พะเยา (61.68%), เลย (58.04%), เพชรบุรี (57.44%), ยโสธร (56.72%) และชัยนาท (56.63%)

ปัญหาการใช้สิทธิเลือกตั้งในบางพื้นที่

นายแสวง กล่าวถึงเหตุผลที่มีจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งลดลงในบางพื้นที่ ว่ามีข้อจำกัดทางกฎหมายที่ต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 45 วัน และในบางจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่ทุรกันดารก็พบว่ามีการส่งผลคะแนนและหีบบัตรเกินเวลากำหนด 24 ชั่วโมง ซึ่งสะท้อนว่า การเลือกตั้งในวันเสาร์นั้นเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะสามารถให้ความปลอดภัยแก่ผู้ปฏิบัติงานได้

นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์ที่น่าเศร้าเกิดขึ้นเมื่อกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) เสียชีวิตระหว่างส่งหีบบัตร ซึ่งทาง กกต. จะดูแลผู้ที่เกี่ยวข้องตามสิทธิที่พวกเขาควรได้รับ

จำนวนบัตรเสียและไม่เลือกผู้สมัคร

เรื่องของบัตรเสียในการเลือกตั้ง นายแสวง ยืนยันว่าไม่มีความแตกต่างจากปี 2563 โดยบัตรเสียจากการเลือกนายก อบจ. มีจำนวนใกล้เคียงกับปี 2563 ขณะที่บัตรเสียจากการเลือกสมาชิก อบจ. ในปีนี้ลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ 7.63% เนื่องจากมีสาเหตุจากระบบการเลือกตั้งที่ทำให้บางจังหวัดมีการเลือกตั้งทั้งสองประเภทผู้สมัคร จึงทำให้ประชาชนบางส่วนสับสนในการลงคะแนน

สำหรับบัตรที่ไม่เลือกผู้สมัครใดมีจำนวนมาก โดยแสดงให้เห็นถึงการแสดงความคิดเห็นของประชาชนต่อผู้สมัครในเขตต่างๆ

การเลือกตั้งใหม่ในบางพื้นที่

การเลือกตั้งในบางพื้นที่พบว่าไม่สามารถประกาศผลได้ตามที่กฎหมายกำหนด เนื่องจากในบางเขตคะแนนเสียงไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดไว้ โดยต้องมีการเลือกตั้งใหม่ใน 4 จังหวัด ได้แก่ สุพรรณบุรี, ตรัง, ชุมพร และชัยนาท ซึ่งจะต้องมีการประกาศเลือกตั้งใหม่ภายใน 7 วัน นับจากวันเลือกตั้ง

การนับคะแนนใหม่และทุจริตในการเลือกตั้ง

ในส่วนของการร้องขอให้นับคะแนนใหม่จากบางพรรคการเมืองในพื้นที่เช่น เชียงใหม่และสมุทรปราการ นายแสวง ยืนยันว่า กกต. จะพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่ตั้งไว้ หากการนับคะแนนมีการทักท้วงและทำบันทึกไว้ การพิจารณาจึงจะเป็นไปตามขั้นตอนที่กำหนด

ผลการเลือกตั้งในเชียงราย

สำหรับจังหวัดเชียงราย ซึ่งมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 936,351 คน โดยมีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ. 605,780 คน คิดเป็น 64.70% และสมาชิก อบจ. 604,365 คน คิดเป็น 65.07% โดยจำนวนบัตรดีจากการเลือกตั้งนายก อบจ. มี 525,928 ใบ (86.82%) และสมาชิก อบจ. มี 511,882 ใบ (84.70%) ทั้งนี้การเลือกตั้งยังพบจำนวนบัตรที่ไม่เลือกผู้สมัครใดค่อนข้างมาก ซึ่งอาจสะท้อนถึงการแสดงความไม่พอใจหรือความคิดเห็นของประชาชนต่อผู้สมัครในเขตต่างๆ

บทสรุป

การเลือกตั้งครั้งนี้มีทั้งความสำเร็จและปัญหาที่ต้องดำเนินการต่อ โดยเฉพาะการดำเนินคดีในบางเขตเลือกตั้งที่มีปัญหาการทุจริต รวมทั้งการเลือกตั้งใหม่ในบางพื้นที่ที่คะแนนไม่ตรงตามเกณฑ์ แต่โดยรวมแล้ว การเลือกตั้งถือว่าจัดได้อย่างเป็นระเบียบและถูกต้องตามกฎหมาย

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

กกต.เชียงราย เผยเปิดรับสมัคร สว. 20-24 พ.ค. 67 ไม่เว้นวันหยุดราชการ

 

เมื่อวันที่พฤหัสบดี ที่ 16 พฤษภาคม 2567 ที่ห้องประชุมคชสาร ศูนย์การเรียนรู้และนันทนาการ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย อำเภอเมืองเชียงราย สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงราย จัดกิจกรรมเผยแพร่ความรู้การดำเนินการให้ได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา โดยมีนายชูชาติ สุขสงวน ผู้อำนวยการสำนักงาน กกต.จังหวัดเชียงราย กล่าวเปิดงาน และบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภา โดยมีประชาชนที่สนใจ ผู้ทรงคุณวุฒิจากกลุ่มสาขาอาชีพต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เข้าร่วมรับฟังกว่า 100 คน

 

         โดยการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อเป็นการให้ความรู้ความเข้าใจแก่ผู้ที่สนใจในการดำเนินการของการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ก่อนที่จะมีการสมัครรับเลือก ซึ่งในกิจกรรมมีการให้ความรู้เกี่ยวกับการเลือกการดำเนินการให้ได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา ระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และกระบวนการรับสมัคร ขั้นตอนการเลือกสมาชิกวุฒิสภา รวมถึงหลักเกณฑ์วิธีการแนะนำตัว ข้อห้าม ความผิดและแนวทางวินิจฉัยคุณสมบัติ ก่อนที่จะมีการรับสมัคร ในวันที่ 20 ถึง 24 พฤษภาคม 2567 นี้ 

 

           นายชูชาติ สุขสงวน ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ประกาศกำหนดวันเลือกตั้งและวันสมัครรับเลือกสมาชิกวุฒิสภา ตามที่ได้มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2567 โดยกำหนดให้มีการเลือก 3 ระดับ คือ ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และ ระดับประเทศ

 

          โดยจะมีการรับสมัครในวันที่ 20-24 พฤษภาคม 2567 ณ สำนักทะเบียน ที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง  ตั้งแต่เวลา 8.30 น. ถึง 16.30 น. ณ สถานที่ที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งระดับอำเภอกำหนด ไม่เว้นวันหยุดราชการ และสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้กำหนดวันเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับอำเภอขึ้นในวันที่ 9 มิถุนายน 2567 ระดับจังหวัดในวันที่ 16 มิถุนายน 2567 และวันเลือกระดับประเทศ วันที่ 26 มิถุนายน 2567 ซึ่งจะเป็นการเลือกกันเองของผู้สมัครรับเลือก สว. ที่มาจากกลุ่มอาชีพ 20 กลุ่ม ตามที่กฎหมายกำหนด สำหรับผู้ที่ประสงค์สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาจะสมัครได้เพียงกลุ่มเดียว อำเภอเดียว และจะถอนการสมัครไม่ ได้โดยสามารถติดต่อขอรับใบสมัคร (สว.2) พร้อมแบบข้อมูลแนะนำตัว (สว.3) และแบบหนังสือรับรองความรู้ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ หรือทำงานในกลุ่มที่สมัคร (สว.4)ด้วยตนเอง ได้ที่สำนักทะเบียนอำเภอ ที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง

 

       สำหรับการสมัครรับเลือก สว. จะเสียค่าสมัครคนละ 2,500 บาท โดยต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 40 ปี ในวันสมัคร มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ หรือทำงานในด้านที่สมัครไม่น้อยกว่า 10 ปี เป็นผู้มีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ เกิดในอำเภอที่สมัคร มีชื่อหรือเคยมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านติดต่อกันไม่น้อยกว่า 2 ปี นับถึงวันสมัครรับเลือก ทำงานหรือเคยทำงานในอำเภอที่สมัครติดต่อกันไม่น้อยกว่า 2 ปี นับถึงวันสมัครรับเลือก เคยศึกษาในสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ในอำเภอที่สมัครติดต่อกันไม่น้อยกว่า 2 ปี การศึกษา

 

      ผู้สมัครรับเลือก สว.ไม่สามารถหาเสียงได้ แต่สามารถแนะนำตัวตามแบบข้อมูลแนะนำตัวของผู้สมัคร โดยระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2567 กำหนด ให้มีข้อความและข้อมูลดังนี้ ข้อมูลส่วนตัวของผู้สมัคร ประวัติการศึกษาของผู้สมัคร ประวัติการทำงาน หรือประสบการณ์ในการทำงานในกลุ่มที่สมัคร ไม่เกิน 5 บรรทัด ทั้งนี้ผู้สมัครอาจแนะนำตัวได้ตามวิธีการและเงื่อนไขที่ กกต. กำหนด  

 

ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการเลือก สว. เพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง www.ect.go.th หรือสายด่วน 1444

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
TOP STORIES

สุทิน ชวนจับตาดู หลัง กกต. สั่ง 16 จังหวัดนับคะแนนใหม่ 11 มิ.ย. นี้

 

เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 66 นายสุทิน คลังแสง ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติสั่งให้มีการนับคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต 16 หน่วย และแบบบัญชีรายชื่อ 31 หน่วย ใหม่รวม 47 หน่วยเลือกตั้ง ใน 16 จังหวัดในวันที่ 11 มิ.ย.นี้ ว่า ถือว่าเป็นการสั่งนับคะแนนใหม่ที่เยอะมากกว่าการเลือกตั้งที่ผ่านๆ มา แสดงให้เห็นว่ามีความผิดปกติ และมีความพยายามที่จะกระทำทุจริตในหน่วยเลือกตั้งนั้นๆ หรือไม่ ส่วนจะผิดปกติในขั้นตอนใด กกต.ควรจะเข้าไปตรวจสอบด้วยนอกเหนือไปจากการสั่งนับคะแนนใหม่

ส่วนเรื่องการนับคะแนนใหม่จะมีผลต่อสัดส่วน ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยนั้นเป็นเรื่องที่คาดหมายยาก เพราะเราไม่รู้ว่าปัญหาที่ต้องนับคะแนนใหม่เกิดจากอะไร เมื่อนับคะแนนใหม่ก็จะเกิดความไม่แน่นอน ส่วนจะเกิดผลดีหรือผลเสียกับพรรคการเมืองหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า มีโอกาสเกิดขึ้นได้กับทุกพรรค ดังนั้น ทุกคนต้องช่วยกันเฝ้าจับตาดู แต่ในส่วนของพรรคพท.นั้น เท่าที่ได้พูดคุยกับว่าที่ ส.ส.ที่อยู่ในเขตที่ต้องนับคะแนนใหม่ ไม่มีใครหนักใจกับเรื่องดังกล่าว 

“เชื่อว่าการนับคะแนนใหม่คงไม่กระทบกับพรรคพท. อย่างไรก็ตาม ในส่วนที่ กกต. อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อร้องเรียนว่าที่ ส.ส.ประมาณ 20 กว่าคน ก็ถือเป็นจำนวนน้อยเมื่อเทียบกับการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา” นายสุทิน กล่าว

ซึ่งเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมาที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ได้ลงนามคำสั่ง กกต.เรื่อง ให้มีการนับคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ใหม่  หลัง กกต.ได้รับรายงานผลการนับคะแนนเลือกตั้ง แล้วปรากฏว่าการนับคะแนนไม่ถูกต้อง จึงสั่งให้นับคะแนนใหม่ใน 47 หน่วย ใน 16 จังหวัด โดยให้นับคะแนนใหม่ภายในไม่เกินวันที่ 11 มิ.ย.2566 ประกอบด้วย 

 

1.กรุงเทพมหานคร  นับคะแนนใหม่ ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง หน่วยเลือกตั้งที่ 40 แขวงบางซื่อ    เขตบางซื่อ เขตเลือกตั้งที่ 7 หน่วยเลือกตั้งที่ 15 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม เขตเลือกตั้งที่ 15 และหน่วยเลือกตั้งที่ 7  แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี เขตเลือกตั้งที่ 18 และแบบบัญชีรายชื่อ หน่วยเลือกตั้งที่ 3 แขวงบ้านบาตร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตเลือกตั้งที่ 1 หน่วยเลือกตั้งที่ 7  แขวงสะพานสอง เขตวังทองหลาง เขตเลือกตั้งที่ 5 และหน่วยเลือกตั้งที่ 11  แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน เขตเลือกตั้งที่ 24

 

2.จังหวัดชลบุรี นับคะแนนใหม่ ส.ส.แบบแบ่งเขต หน่วยเลือกตั้งที่ 46  เทศบาลเมืองแสนสุข อำเภอเมืองชลบุรี เขตเลือกตั้งที่ 1 และนับคะแนนใหม่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หน่วยเลือกตั้งที่ 9 หมู่ที่ 5 เทศบาลตำบลเหมือง อำเภอเมืองชลบุรี เขตเลือกตั้งที่ 1 3.จังหวัดชุมพร นับคะแนนใหม่ ส.ส.แบบแบ่งเขต  หน่วยเลือกตั้งที่ 21 หมู่ที่ 21 ตำบลรับร่อ อำเภอท่าแซะ เขตเลือกตั้งที่ 2 และ นับคะแนนใหม่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หน่วยเลือกตั้งที่ 9 หมู่ที่ 12 ตำบลรับร่อ  อำเภอท่าแซะ เขตเลือกตั้งที่ 2 และ หน่วยเลือกตั้งที่ 16 หมู่ที่ 17 ตำบลรับร่อ อำเภอท่าแซะ เขตเลือกตั้งที่ 2 

 

4.จังหวัดตรัง นับคะแนนใหม่ ส.ส. แบบแบ่งเขต หน่วยเลือกตั้งที่ 31   ตำบลทับเที่ยง (เทศบาลนครตรัง)  อำเภอเมืองตรัง เขตเลือกตั้งที่ 1 หน่วยเลือกตั้งที่ 1 หมู่ที่ 1 ตำบลนาวง อำเภอห้วยยอด เขตเลือกตั้งที่ 2 หน่วยเลือกตั้งที่ 12 หมู่ที่ 12 ตำบลหนองปรือ อำเภอรัษฎา เขตเลือกตั้งที่ 2 และนับคะแนนใหม่ แบบบัญชีรายชื่อ หน่วยเลือกตั้งที่ 1 หมู่ที่ 1 ตำบลนาวง อำเภอห้วยยอด  เขตเลือกตั้งที่ 2 หน่วยเลือกตั้งที่ 2 หมู่ที่ 2 ตำบลบางดี อำเภอห้วยยอด เขตเลือกตั้งที่ 2 หน่วยเลือกตั้งที่ 3 หมู่ที่ 3 ตำบลวังคีรี อำเภอห้วยยอด เขตเลือกตั้งที่ 2  5.จังหวัดนครนายก นับคะแนนใหม่ ส.ส.แบบแบ่งเขต หน่วยเลือกตั้งที่ 6 หมู่ที่ 6 ตำบลหินตั้ง อำเภอเมืองนครนายก เขตเลือกตั้งที่ 1

 

6.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นับคะแนนใหม่ ส.ส.แบบแบ่งเขต หน่วยเลือกตั้งที่ 9 หมู่ที่ 9 ตำบลร่อนทอง อำเภอบางสะพาน เขตเลือกตั้งที่ 3 และนับคะแนนใหม่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หน่วยเลือกตั้งที่ 2 หมู่ที่ 2 ตำบลวังก์พง อำเภอปราณบุรี เขตเลือกตั้งที่ 2 หน่วยเลือกตั้งที่ 7 เทศบาลตำบลปราณบุรี อำเภอปราณบุรี เขตเลือกตั้งที่ 2 หน่วยเลือกตั้งที่ 8 เทศบาลตำบลปราณบุรี อำเภอปราณบุรี เขตเลือกตั้งที่ 2 หน่วยเลือกตั้งที่ 8 หมู่ที่ 3 ตำบลเขาน้อย อำเภอปราณบุรี เขตเลือกตั้งที่ 2 หน่วยเลือกตั้งที่ 10 หมู่ที่ 8 ตำบลหนองตาแต้ม อำเภอปราณบุรี เขตเลือกตั้งที่ 2 และหน่วยเลือกตั้งที่ 3 หมู่ที่ 3 ตำบลแสงอรุณ อำเภอทับสะแก เขตเลือกตั้งที่ 3

 

7.จังหวัดแพร่ นับคะแนนใหม่ ส.ส.แบบแบ่งเขต หน่วยเลือกตั้งที่ 4 เทศบาลตำบลสวนเขื่อน อำเภอเมืองแพร่ เขตเลือกตั้งที่ 1 8.จังหวัดลพบุรี นับคะแนนใหม่ ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง หน่วยเลือกตั้งที่ 27 หมู่ 6 ตำบลนิคมสร้างตนเอง อำเภอเมืองลพบุรี เขตเลือกตั้งที่ 2 และแบบบัญชีรายชื่อ หน่วยเลือกตั้งที่ 3 หมู่ 2 ตำบลกกโก อำเภอเมืองลพบุรี เขตเลือกตั้งที่ 1 หน่วยเลือกตั้งที่ 5 หมู่ 4 ตำบลกกโก อำเภอเมืองลพบุรี เขตเลือกตั้งที่ 1 หน่วยเลือกตั้งที่ 11 หมู่ 6 ตำบลป่าตาล  อำเภอเมืองลพบุรี เขตเลือกตั้งที่ 1 หน่วยเลือกตั้งที่ 14 หมู่ 9 ตำบลท่าแค  อำเภอเมืองลพบุรี เขตเลือกตั้งที่ 1  หน่วยเลือกตั้งที่ 20 เทศบาลเมืองเขาสามยอด อำเภอเมืองลพบุรี เขตเลือกตั้งที่ 1 หน่วยเลือกตั้งที่ 22 หมู่ 9 ตำบลทะเลชุบศร อำเภอเมืองลพบุรี เขตเลือกตั้งที่ 1 หน่วยเลือกตั้งที่ 28 เทศบาลเมืองเขาสามยอด อำเภอเมืองลพบุรี เขตเลือกตั้งที่ 1

 

9.จังหวัดสมุทรสาคร นับคะแนนใหม่ ส.ส.แบบแบ่งเขต หน่วยเลือกตั้งที่ 24 หมู่ 5 เทศบาลนครอ้อมน้อย อำเภอกระทุ่มแบน เขตเลือกตั้งที่ 2 และแบบบัญชีรายชื่อ หน่วยเลือกตั้งที่ 7 หมู่ 5 ตำบลคลองมะเดื่อ อำเภอกระทุ่มแบน เขตเลือกตั้งที่ 2 10.จังหวัดสระบุรี นับคะแนนใหม่ ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง  หน่วยเลือกตั้งที่ 3 หมู่ที่ 7 และหมู่ 11 ตำบลหนองไข่น้ำ อำเภอหนองแค เขตเลือกตั้งที่ 3 และหน่วยเลือกตั้งที่ 2 หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 12 เทศบาลตำบลบ้านหมอ อำเภอบ้านหมอ เขตเลือกตั้งที่ 4 11.จังหวัดสุโขทัย นับคะแนนใหม่ ส.ส.แบบแบ่งเขต หน่วยเลือกตั้งที่ 3 หมู่ที่ 3 เทศบาลตำบลเขาแก้วศรีสมบูรณ์  อำเภอทุ่งเสลี่ยม เขตเลือกตั้งที่ 3 12.จังหวัดกาญจนบุรี นับคะแนนใหม่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หน่วยเลือกตั้งที่ 8 หมู่ที่ 8 ตำบลด่านมะขามเตี้ย อำเภอด่านมะขามเตี้ย เขตเลือกตั้งที่ 2 และหน่วยเลือกตั้งที่ 2 หมู่ที่ 2 ตำบลนาสวน อำเภอศรีสวัสดิ์ เขตเลือกตั้งที่ 5

 

13.จังหวัดฉะเชิงเทรา นับคะแนนใหม่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หน่วยเลือกตั้งที่ 4 หมู่ที่ 4 ตำบลก้อนแก้ว อำเภอคลองเขื่อน เขตเลือกตั้งที่ 2 

 

14.จังหวัดพังงา นับคะแนนใหม่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หน่วยเลือกตั้งที่ 1 หมู่ที่ 3 ตำบลเทศบาลท้ายเหมือง อำเภอท้ายเหมือง เขตเลือกตั้งที่ 2 และหน่วยเลือกตั้งที่ 2 หมู่ที่ 2 ตำบลทุ่งมะพร้าว อำเภอท้ายเหมือง เขตเลือกตั้งที่ 2 

 

15.จังหวัดเพชรบุรี นับคะแนนใหม่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หน่วยเลือกตั้งที่ 6 หมู่ที่ 6  ตำบลไร่ใหม่พัฒนา อำเภอชะอำ เขตเลือกตั้งที่ 2 และ 

 

16.จังหวัดหนองคาย นับคะแนนใหม่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หน่วยเลือกตั้งที่ 6 หมู่ที่ 6 ตำบลวัดหลวง อำเภอโพนพิสัย เขตเลือกตั้งที่ 2  และหน่วยเลือกตั้งที่ 16 หมู่ที่ 15 ตำบลจุมพล อำเภอโพนพิสัย เขตเลือกตั้งที่ 2 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
TOP STORIES

เจาะมาตรา 151 หลังกกต. จัดหนัก สอบ “พิธา” ตั้งธงปมถือหุ้นสื่อ

 

หลังเมื่อวันนศุกร์ที่ 9 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา กกต. มีมติเอกฉัทน์ 6 เสียง ไม่รับ 3 คำร้องที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่าที่นายกรัฐมนตรี มีคุณสมบัติลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ในการสมัครรับเลือกตั้งส.ส. จากกรณีการถือหุ้น บริษัทไอทีวี จำกัด (มหาชน) 42,000 หุ้น เหตุคำร้องยื่นเกินระยะเวลาตามกฎหมายกำหนด

โดยเห็นว่าคำร้องที่ได้ยื่นมาของทั้ง 3 คน เป็นคำร้องที่ยื่นเกินระยะเวลาที่จะสั่งรับคำร้องไว้พิจารณา กรณีที่ร้องว่าผู้สมัครรายใดขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.จึงเห็นควรพิจารณาสั่งไม่รับคำร้องไว้ตามระเบียบ

แต่ยังไม่จบเพียงแค่นั้นเพราะจากกรณีคำร้องดังกล่าวมีรายละเอียดเกี่ยวกับข้อเท็จจริงและพฤติการณ์และมีหลักฐานพอสมควร และมีข้อมูลเพียงพอที่จะสืบสวนไต่สวนต่อไปว่า นายพิธา เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง และรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากมีลักษณะต้องห้ามแต่ได้สมัครรับเลือกตั้ง อันเข้าข่ายเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนมาตรา 42(3) และมาตรา 151 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.

ดังนั้น จึงเห็นควรพิจารณาสั่งให้ดำเนินการไต่สวนเป็นกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยหรือความปรากฎ โดยคณะกรรมการสืบสวนไต่สวนที่ได้รับแต่งตั้ง จะดำเนินการไต่สวนตามขั้นตอนและระยะเวลาที่กำหนดไว้ในระเบียบต่อไป

ซึ่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 แก้ไขเพิ่มเติม 2566 พบว่า มาตรา 151 ผู้ใดรู้อยู่แล้วว่า ตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้สมัครรับเลือกตั้งหรือทำหนังสือยินยอม ให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อ เพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี

ในกรณีที่ผู้กระทำความผิดตามวรรค 1 เป็นผู้ซึ่งได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้นั้นคืนเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่ได้รับมาเนื่องจากการดำรงตำแหน่ง ดังกล่าวให้แก่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรด้วย

สรุปถ้าผิดจริงจะมีโทษจำคุกสูงสุด 1-10 ปี ถูกตัดสิทธิเลือกตั้ง 20 ปีนอกจากและยังขอให้ศาลเรียกคืน “เงินเดือน” จากการเป็นส.ส.ได้ทุกบาท ทุกสตางค์อีกด้วย

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
TOP STORIES

กกต.สั่งนับใหม่ 47 หน่วยเลือกตั้ง หลังพบบัตรเขย่งเคาะนับใหม่ 11 มิ.ย.นี้

เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2566 มีรายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติสั่งให้มีการนับคะแนน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ใหม่ จำนวน 31 หน่วยเลือกตั้ง และนับคะแนน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ จำนวน 16 หน่วยเลือกตั้ง รวม 47 หน่วย จากการลงคะแนนการเลือกตั้งทั้งหมด 95,000 หน่วย  แต่ไม่มีการเปิดเผยว่า จำนวน 47 หน่วยเลือกตั้งที่ให้มีการนับคะแนนใหม่นั้นคือหน่วยเลือกตั้งใด ในจังหวัดใดบ้าง 

โดยการนับคะแนนใหม่ครั้งนี้ เป็นไปตามที่สำนักงาน กกต. เสนอว่า เนื่องจากพบว่ามีปัญหาบัตรออกเสียงเลือกตั้ง และจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งมีจำนวนตรงกัน แต่ผลคะแนนที่ออกมาไม่ตรงกับจำนวนดังกล่าว หรือคะแนนเขย่ง และกกต.เห็นว่าอาจมีผลต่อจำนวนคะแนนเสียงที่แต่ละพรรคการเมืองได้รับ และมีผลต่อลำดับของผู้ได้รับเลือกตั้งส.ส.

โดยตามแผนของสำนักงาน กกต. ต้องการให้มีการนับคะแนนใหม่ในวันอาทิตย์ที่ 11 มิ.ย. 2566 เนื่องจากเมื่อได้ผลคะแนนแล้วจะต้องนำมาคิดคำนวนสัดส่วน ส.ส.ใหม่ เพื่อให้ทันกับแผนงานที่ กกต. ตั้งใจว่าจะมีการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งภายในเดือนนี้

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS TOP STORIES

กกต. ประกาศผลเลือกตั้งเป็นทางการ มีคนใช้สิทธิ 75.71% ก้าวไกลเก้าอี้หายไป 1 ที่นั่ง

กกต. ประกาศผลเลือกตั้งเป็นทางการ มีคนใช้สิทธิ 75.71% ก้าวไกลเก้าอี้หายไป 1 ที่นั่ง

Facebook
Twitter
Email
Print
เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2566 สำนักงาน กกต.ได้มีการตรวจสอบความถูกต้องของการนับคะแนนเลือกตั้งส.ส.ครบทั้ง 400 เขต มีผู้มาใช้สิทธิ 39,514,973 คน คิดเป็นร้อยละ 75.71 จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 52,195,920 คน

 

โดยการเลือกตั้งส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 

– มีบัตรดี 37,190,071 บัตร คิดร้อยละ 94.12 

– บัตรเสีย 1,457,899 บัตร คิดเป็นร้อยละ3.69 

– ไม่บัตรไม่ประสงค์เลือกผู้ใด 866,885 บัตร คิดเป็นร้อยละ 2.19 

 

ซึ่งผลการนับคะแนนแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง
1. พรรคเพื่อไทย ได้ส.ส. 112 คน 
2.พรรคก้าวไกล ได้ส.ส. 112 คน 

3.พรรคภูมิใจไทยได้ส.ส. 68 คน

4.พรรคพลังประชารัฐ ได้ส.ส. 39 คน

5.พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ส.ส. 23 คน 

6.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ส.ส. 22 คน 

7.พรรคชาติไทยพัฒนา ได้ส.ส. 9 คน 

8.พรรคประชาชาติ ได้ส.ส. 7 คน 

9.พรรคไทยสร้างไทย ได้ส.ส. 5 คน

10.พรรคเพื่อไทรวมพลัง ได้ส.ส. 2 คน 

11.พรรคชาติพัฒนากล้า ได้ส.ส. 1 คน

 

กรณีดังกล่าวเป็นเพียงผลการนับคะแนนเลือกตั้งอย่างเป็นทางการเท่านั้น ยังไม่ใช่การพิจารณาประกาศรับรองผลการเลือกตั้งของกกต. ส่วนการเลือกตั้งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 

 – มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง39,514,964 

 – มีบัตรดี 37,522,746 บัตร คิดเป็นร้อยละ 94.96 

 – บัตรเสีย 1,509,836 บัตร คิดเป็นร้อยละ 3.82 

 – บัตรไม่ประสงค์เลือกผู้ใด 482,303 บัตร คิดเป็นร้อยละ 1.22 

 

โดยผลการคิดคำนวณ คะแนนค่าเฉลี่ยส.ส. 1คน คือ 375,227.34 คะแนน ส่งผลทำให้ทำให้ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน ประกอบด้วย

1.พรรคก้าวไกลได้คะแนน 14,438,851 คะแนน ได้ส.ส. 39 คน 

2. พรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 10,962,522 คะแนน ได้ส.ส. 29 คน 

3. พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้คะแนน 4,766,408 คะแนน ได้ส.ส. 13 คน 

4. พรรคภูมิใจไทย ได้คะแนน 1,138,202 คะแนน ได้ส.ส.3 คน 

5.พรรคประชาธิปัตย์ได้คะแนน 925,349 คะแนน ได้ส.ส. 3 คน 

6. พรรคประชาชาติ ได้คะแนน 602,645 คะแนน ได้ส.ส. 2 คน 

7. พรรคพลังประชารัฐ ได้คะแนน 537,625 คะแนน ได้ส.ส. 1 คน 

8.พรรคเสรีรวมไทย ได้คะแนน 351,376 คะแนน ได้ส.ส. 1 คน 

9.พรรคไทยสร้างไทย ได้คะแนน 340,178 คะแนน ได้ส.ส. 1 คน 

10. พรรคประชาธิปไตยใหม่ ได้คะแนน 273,428 คะแนน ได้ส.ส. 1 คน 

11.พรรคใหม่ ได้คะแนน 249,731 คะแนน ได้ส.ส. 1 คน พรรค 

12. ชาติพัฒนากล้า ได้คะแนน 212,676 คะแนน ได้ส.ส. 1 คน 

13. พรรคท้องที่ไทย ได้คะแนน 201,411 คะแนน ได้ส.ส. 1 คน 

14.พรรคชาติไทยพัฒนา ได้คะแนน 192,497 คะแนนได้ส.ส. 1 คน 

15.พรรคเป็นธรรมได้คะแนน 184,817 คะแนนได้ส.ส. 1 คน 

16.พรรคพลังสังคมใหม่ ได้คะแนน 177,379 คะแนนได้ส.ส. 1 คน 

17. พรรคครูไทยเพื่อประชาชนได้คะแนน 175,182 คะแนน ได้ส.ส. 1 คน

โดยจากรายงานประกาศ กกต.ประจำเขตเลือกตั้งที่ 3 จ.ปราจีนบุรี เรื่องผลการนับคะแนน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง(ส.ส. 6/1 )นั้นพบว่านายสฤษดิ์ บุตรเนียร จากพรรคภูมิใจไทยเป็นผู้ได้รับเลือกตั้ง ทำให้จำนวนส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งของพรรคก้าวไกล คือ 112 ที่นั่ง และพรรคภูมิใจไทย 68 ที่นั่ง ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นเพียงผลการนับคะแนนเลือกตั้งอย่างเป็นทางการเท่านั้น ยังไม่ใช่การพิจารณาประกาศรับรองผลการเลือกตั้งของกกต.

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อรวมจำนวนส.ส.ทั้งแบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อแล้ว 
1.พรรคก้าวไกล ได้ส.ส.รวม 151 คน 
2.พรรคเพื่อไทย 141 คน 
3.พรรคภูมิใจไทย 71 คน 
4.พรรคพลังประชารัฐ 40 คน 
5.พรรครวมไทยสร้างชาติ 36 คน 
6.พรรคประชาธิปัตย์ 25 คน 
7.พรรคชาติไทยพัฒนา 10 คน 
8.พรรคประชาชาติ 9 คน 
9.พรรคไทยสร้างไทย 6 คน 
10.พรรคชาติพัฒนากล้า 2 คน 
11.พรรคเพื่อไทรวมพลัง 2 คน
12.พรรคเสรีรวมไทย 1 คน 
13.พรรคประชาธิปไตยใหม่ 1 คน
14.พรรคใหม่ 1 คน
15.พรรคท้องที่ไทย 1 คน
16.พรรคเป็นธรรม 1 คน
17.พรรคพลังสังคมใหม่ 1 คน
18.พรรคครูไทยเพื่อประชาชน 1 คน
Facebook
Twitter
Email
Print

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กกต.

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE