Categories
HEALTH

“มะเร็งรักษาทุกที่” กลับสู่แนวทางเดิม ไม่ต้องใช้ใบส่งตัว

“มะเร็งรักษาทุกที่” กลับสู่แนวทางเดิม ผู้ป่วยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว

กุมภาพันธ์ 2568 –  นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ยกเลิกประกาศหลักเกณฑ์ “มะเร็งรักษาทุกที่” ฉบับใหม่แล้ว และกลับไปใช้ประกาศฉบับเดิม ทำให้ผู้ป่วยมะเร็งสามารถเข้ารับการรักษาได้ที่โรงพยาบาลที่มีศักยภาพ โดยไม่จำเป็นต้องมีใบส่งตัว

การแก้ไขปัญหา “มะเร็งรักษาทุกที่”

จากกรณีที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ได้สั่งการให้ สปสช. ดำเนินการแก้ไขปัญหากรณีการเข้ารับบริการตามนโยบาย “มะเร็งรักษาทุกที่” นั้น ล่าสุด นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. ได้รายงานว่าได้ดำเนินการแก้ไขปัญหานี้เรียบร้อยแล้ว

ผู้ป่วยมะเร็งรับบริการได้ตามแนวทางเดิม

ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป รวมถึงวันที่ 1 เมษายน 2568 ผู้ป่วยมะเร็งสามารถเข้ารับบริการตามนโยบาย “มะเร็งรักษาทุกที่” ได้ตามแนวทางบริการเดิมที่โรงพยาบาลที่มีศักยภาพดูแลผู้ป่วยมะเร็ง โดยไม่จำเป็นต้องใช้ใบส่งตัวรับรองสิทธิในการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากหน่วยบริการประจำ

สปสช. รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเช่นเดิม

สปสช. ยังคงรับผิดชอบดูแลการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายตามนโยบายเช่นเดิม หน่วยบริการสามารถเบิกได้ทั้งค่ารังสีรักษา ยาเคมีบำบัด การผ่าตัด โรคแทรกซ้อนของมะเร็ง และโรคอื่นที่คนไข้มะเร็งเป็นร่วม

ระบบส่งข้อมูลผู้ป่วย

สำหรับการส่งข้อมูลผู้ป่วยนั้น มีระบบอิเล็กทรอนิกส์ TCB Plus ของสถาบันมะเร็ง กรมการแพทย์ และ Health Link ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อใช้ลงทะเบียน รับส่งต่อและดูข้อมูลผู้ป่วยอยู่แล้ว โดยทางโรงพยาบาลรับส่งต่อสามารถดูข้อมูลผู้ป่วยผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวนี้ได้

ยกเลิกประกาศฉบับใหม่ กลับไปใช้ฉบับเดิม

เลขาธิการ สปสช. ได้ลงนามคำสั่งยกเลิกประกาศหลักเกณฑ์ “มะเร็งรักษาทุกที่” ฉบับใหม่ ที่จะบังคับใช้ 1 เมษายน 2568 แล้ว ซึ่งจะมีผลทำให้กลับไปใช้ประกาศหลักเกณฑ์ฯ ฉบับเดิม ปี 2566-2567 และได้ส่งหนังสือแจ้งเวียนหน่วยบริการทั่วประเทศรับทราบแล้ว

รัฐบาลใส่ใจสุขภาพประชาชน

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า รัฐบาลมีความใส่ใจอย่างยิ่งต่อภาวะเจ็บป่วยของประชาชน โดยมะเร็งเป็นโรคที่มีภาวะร้ายแรงต่อสุขภาพ การเข้ารับการรักษาโดยเร็วที่สุดจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อเพิ่มโอกาสการรักษาและลดความรุนแรงของโรค รวมถึงลดการเสียชีวิตลงได้ จึงนำมาสู่นโยบายมะเร็งรักษาทุกที่ โดยมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งยืนยันว่า ณ วันนี้รัฐบาลและหน่วยงานต่างๆ ซึ่งรวมถึง สปสช. ยังคงยืนยันหลักการนี้เช่นเดิม

สรุป

การกลับไปใช้ประกาศหลักเกณฑ์ “มะเร็งรักษาทุกที่” ฉบับเดิม ทำให้ผู้ป่วยมะเร็งสามารถเข้าถึงการรักษาได้ง่ายยิ่งขึ้น และได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องจากโรงพยาบาลที่มีศักยภาพ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
FOLLOW ME
MOST POPULAR
Categories
FEATURED NEWS

“ชลน่าน” เผย มกราคมนี้ 4 จังหวัดพร้อมใช้ “บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่”

 
เมื่อวันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ที่ โรงแรม ดิเอมเมอรัลด์ กรุงเทพมหานคร นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมระดับชาติด้านเวชสารสนเทศ ครั้งที่ 12 และการประชุมวิชาการสมาคมเวชสารสนเทศไทย ครั้งที่ 32 ประจำปี พ.ศ. 2566 ภายใต้แนวคิด “สุขภาพดิจิทัลเพื่อชาวไทย คลื่นลูกใหม่ของการขยายบริการสุขภาพถ้วนหน้า” ว่า เรื่องดิจิทัลสุขภาพ เป็น 1 ในนโยบายกระทรวงสาธารณสุขที่ตอบสนองนโยบายยกระดับ 30 บาท เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนของรัฐบาล ถือเป็นหัวใจหลักในการพัฒนาระบบบริการให้ประชาชนเข้าถึงได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ครอบคลุมมิติด้านสุขภาพ ทั้งการรักษาพยาบาล การส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค และฟื้นฟูสุขภาพ ซึ่งงานเวชสารสนเทศจะมีส่วนช่วยให้สามารถนำข้อมูลทางสุขภาพมาใช้วางแผนการจัดการและปรับปรุงบริการสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อาทิ การเข้ารับการรักษาด้วยบัตรประชาชนใบเดียว โดยเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพจากหน่วยบริการทุกระดับ ทั้งภาครัฐและเอกชน การดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน การจัดทำ Home Ward หรือสถานชีวาภิบาล เพื่อรองรับความต้องการบริการจากการเข้าสู่สังคมสูงอายุอย่างเต็มรูปแบบของประเทศไทย เป็นต้น          
 
โดยกระทรวงสาธารณสุข จะประกาศนำร่องการใช้บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ ระยะที่ 1 ในต้นเดือนมกราคมนี้ 4 จังหวัด คือแพร่ เพชรบุรี ร้อยเอ็ด และนราธิวาส สามารถใช้ได้ทุกสิทธิการรักษาทั้งโรงพยาบาลรัฐทุกสังกัด โรงพยาบาลเอกชน คลินิกและร้านยาที่เข้าร่วมโครงการ ส่วน เดือนเมษายน 2567 ทุกจังหวัดในเขตสุขภาพที่ 1, 4, 9 และ 12 จะสามารถใช้บัตรประชาชนใบเดียวรับบริการในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขได้ทุกแห่ง และจะขยายผลครอบคลุมทั้งประเทศให้ได้ภายใน 1 ปี
 
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : รัฐบาล / กทม.

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News