
กระทรวง พม. ร่วมมือกับมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย และห้างแว่นท็อปเจริญ มอบแว่นสายตาให้ผู้สูงวัยด้อยโอกาส
กรุงเทพฯ, 19 มีนาคม 2568 – ณ หอประชุมภูชี้ฟ้า โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 62 จังหวัดเชียงราย นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธานในพิธีเปิด โครงการแว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ เพื่อให้บริการตรวจวัดสายตาและประกอบแว่นให้แก่ผู้สูงวัยที่อยู่ในสภาวะยากลำบากและมีปัญหาด้านสายตา
โดยมีผู้เข้าร่วมงานสำคัญ ได้แก่
- นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
- รศ.พญ.นวลจันทร์ ปราบพาล กรรมการอำนวยการและเลขาธิการมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย
- นายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ
- นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย
- นายนพศักดิ์ ตรีพรชัยศักดิ์ ประธานกรรมการเจ้าหน้าที่บริหาร ห้างแว่นท็อปเจริญ
- นางสินีนาฏ ทองสุข นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย
พร้อมด้วย คณะผู้บริหารกระทรวง พม. หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนในพื้นที่ ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีเปิดโครงการนี้
เป้าหมายของโครงการ และการดำเนินการ
นายวราวุธ ศิลปอาชา กล่าวว่า โครงการแว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ เป็นความร่วมมือระหว่าง กระทรวง พม., มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย และห้างแว่นท็อปเจริญ เพื่อให้บริการตรวจวัดสายตาและประกอบแว่นสำหรับผู้สูงวัยที่มีอายุ ตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป ที่มีปัญหาด้านสายตา โดยในครั้งนี้มีจำนวน 400 คน ที่ได้รับการคัดเลือกจาก ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูง จังหวัดเชียงราย เพื่อเข้ารับบริการตรวจวัดสายตาประกอบแว่นจาก ทีมผู้เชี่ยวชาญและเครื่องมือที่ทันสมัยของห้างแว่นท็อปเจริญ
โครงการนี้ ได้รับพระราชทานพระราชานุญาตให้ใช้ชื่อโครงการแว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ และเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม 2552 โดยมีการต่อระยะเวลาดำเนินโครงการทุก 5 ปี เพื่อเป็นพระราชกุศล ปัจจุบันอยู่ในระยะที่ 5 ของโครงการ (1 มกราคม 2568 – 31 ธันวาคม 2572)
ประโยชน์ของโครงการและผลกระทบเชิงบวก
โครงการนี้มุ่งเน้นให้ผู้สูงวัยที่อยู่ในภาวะยากลำบาก สามารถมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตในด้านต่าง ๆ ได้แก่:
- สุขภาพและความเป็นอยู่ – สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้สะดวกขึ้น ลดอุบัติเหตุจากการมองเห็นไม่ชัดเจน
- เศรษฐกิจและอาชีพ – ผู้สูงวัยสามารถกลับมาทำงานได้บางส่วนหรือช่วยเหลือครอบครัวได้มากขึ้น
- สังคมและจิตใจ – ทำให้ผู้สูงวัยมีความมั่นใจในตนเอง ลดภาวะซึมเศร้าและความโดดเดี่ยว
“โครงการนี้สะท้อนถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ที่ทรงห่วงใยสุขภาพสายตาของประชาชนไทย โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงวัยที่ขาดโอกาส” นายวราวุธ กล่าว
ความคิดเห็นจากฝ่ายต่าง ๆ
ในมุมของภาครัฐ กระทรวง พม. และภาคีเครือข่ายต่างเห็นพ้องว่าโครงการนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของ ความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรการกุศล ที่สามารถช่วยเหลือประชาชนในระดับชุมชนได้อย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายที่ตั้งข้อสังเกตบางส่วน มองว่าโครงการนี้ยังครอบคลุมไม่ทั่วถึงในระดับประเทศ และอาจต้องมีการขยายโครงการให้ครอบคลุมพื้นที่ห่างไกลมากขึ้น พร้อมทั้ง เพิ่มจำนวนผู้ได้รับสิทธิ์ให้มากขึ้นในอนาคต
สถิติที่เกี่ยวข้องกับปัญหาสายตาในผู้สูงวัย
ข้อมูลจาก กระทรวงสาธารณสุข ปี 2567 ระบุว่า:
- ประชากรสูงวัยในประเทศไทย (60 ปีขึ้นไป) มีจำนวนกว่า 13 ล้านคน หรือประมาณ 20% ของประชากรทั้งประเทศ
- ประมาณ 45% ของผู้สูงวัยมีปัญหาด้านสายตา โดยเฉพาะภาวะสายตายาวตามวัย
- ผู้สูงวัยในพื้นที่ชนบทมีโอกาสเข้าถึงบริการตรวจวัดสายตาเพียง 30% เท่านั้น เนื่องจากข้อจำกัดด้านรายได้และการเดินทาง
สรุป
โครงการแว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ เป็นโครงการที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่ในสภาวะยากลำบาก การให้บริการตรวจวัดสายตาและแจกแว่นฟรี ช่วยให้ผู้สูงวัยสามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้ดีขึ้นและไม่เป็นภาระของครอบครัว อย่างไรก็ตาม การขยายโครงการให้ครอบคลุมทั่วประเทศเป็นประเด็นที่ควรพิจารณาต่อไป
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย / กระทรวงสาธารณสุข