Categories
AROUND CHIANG RAI ENTERTAINMENT

เปิดตัว ‘เจมส์’ เด็กเชียงราย ตัวแทนไทย แข่งรายการระดับโลก Universe League

เปิดตัวรายการ Universe League จาก SBS กับการแข่งขั้นระดับโลก

Universe League: รายการเซอร์ไววัลบอยกรุ๊ประดับโลกจาก SBS

เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2567 ช่อง SBS ได้ประกาศเปิดตัวรายการใหม่ “Universe League” ซึ่งเป็นโปรแกรมการออดิชั่นสำหรับบอยกรุ๊ประดับโลก รายการนี้เป็นฤดูกาลที่สองและเป็นเวอร์ชั่นผู้ชายของ “Universe Ticket” ซึ่งเคยสร้างวงสาว UNIS ให้กับแฟนๆ K-pop ทั่วโลก

เจมส์ ตัวแทนจากประเทศไทยเข้าร่วม Universe League

หนึ่งในผู้สมัครที่น่าตื่นเต้นคือ เจมส์ (สุรศักดิ์ จาดคล้าย) สมาชิกเดิมของวง PRIMETIME ซึ่งเป็นตัวแทนจากประเทศไทย เจมส์ได้รับเลือกจากสถาบัน MY Dance Academy และเป็นเด็กเชียงรายคนที่สองที่ได้รับโอกาสนี้ เขาจะเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันที่มีความเข้มข้นระดับสูงในรายการนี้

การแข่งขันใน Universe League มุ่งเน้นกลุ่มมากกว่าบุคคล

ต่างจาก “Universe Ticket” ที่เน้นการแข่งขันแบบบุคคล “Universe League” เน้นการแข่งขันแบบกลุ่ม ซึ่งแบ่งออกเป็นสามทีมหลัก ได้แก่ Rhythm, Groove และ Beat แต่ละทีมจะมีศิลปิน K-pop ที่มีชื่อเสียงมาร่วมเป็นโค้ช เลือกสมาชิกและแข่งขันกันเพื่อชิงรางวัลสูงสุดคือ “Prism Cup”

ทีมและโค้ชที่น่าจับตามองใน Universe League

แต่ละทีมใน Universe League มีความเฉพาะตัวและมีโค้ชที่มีประสบการณ์ในวงการ K-pop ที่สามารถนำพาทีมไปสู่ชัยชนะได้ ตัวอย่างเช่น ทีม Rhythm ที่เน้นจังหวะและการเต้น ทีม Groove ที่เน้นการแสดงที่มีความลื่นไหล และทีม Beat ที่เน้นจังหวะและพลังงาน ทุกทีมต่างมีแนวทางการพัฒนาสมาชิกและการแสดงที่แตกต่างกัน

การอากาศครั้งแรกของ Universe League ที่จะเริ่มต้นในเดือนพฤศจิกายน

รายการ Universe League จะเริ่มออกอากาศทางช่อง SBS ในวันที่ 22 พฤศจิกายน นี้ ซึ่งแฟนๆ K-pop ทั่วโลกต่างรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ จากการปล่อยตัวอย่างตอนแรกที่นำเสนอแนวคิดที่ผสมผสานระหว่าง K-pop และกีฬา แฟนๆ ก็มีความคาดหวังสูงที่จะได้เห็นการแข่งขันที่เต็มไปด้วยพลังและความสามารถของเหล่าสมาชิก

ความคาดหวังจากแฟนๆ K-pop ทั่วโลก

แม้ว่าข้อมูลเกี่ยวกับผู้เข้าแข่งขันยังไม่มากนัก แต่ภาพลักษณ์ที่น่าดึงดูดของพวกเขาได้สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนๆ K-pop อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจมส์จาก PRIMETIME ที่มีฐานแฟนคลับจากประเทศไทยจำนวนมาก แฟนๆ ต่างรอคอยที่จะได้เห็นการแสดงของเขาในระดับสากล

การนำเสนอโดย MC เจย์ ปาร์ค เพิ่มความตื่นเต้นให้รายการ

รายการ Universe League ยังมี MC เจย์ ปาร์ค ที่มีชื่อเสียงในวงการ K-pop มาร่วมเสริมสร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ด้วยการบรรยายที่มั่นใจและทรงพลัง เจย์ ปาร์ค ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับรายการและทำให้แฟนๆ ต่างรอคอยที่จะได้ติดตามการแข่งขันอย่างใกล้ชิด

 
สิ่งที่ทำให้ Universe League แตกต่างจากรายการอื่นๆ

หนึ่งในจุดเด่นของ Universe League คือการผสมผสานระหว่างการแข่งขันบอยกรุ๊ปและองค์ประกอบของกีฬา ซึ่งทำให้รายการนี้มีความหลากหลายและน่าสนใจมากขึ้น ไม่เพียงแต่การแข่งขันด้านดนตรีและการเต้นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการทำงานเป็นทีมและการวางกลยุทธ์เพื่อชนะในแต่ละภารกิจ

สรุป Universe League: ความสำเร็จใหม่สำหรับวงการ K-pop

ด้วยการเปิดตัว Universe League รายการเซอร์ไววัลบอยกรุ๊ปจาก SBS นี้ ไม่เพียงแต่จะเป็นเวทีที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักร้องและนักเต้นรุ่นใหม่จากทั่วโลก แต่ยังเป็นโอกาสที่ดีสำหรับแฟนๆ K-pop ที่จะได้เห็นการเติบโตและความสามารถของศิลปินใหม่ๆ ที่มีความฝันจะเป็นส่วนหนึ่งของวงการบันเทิงระดับโลก

แฟนๆ สามารถติดตามการอากาศของ Universe League ได้ทางช่อง SBS ตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน นี้ และเตรียมตัวรับชมการต่อสู้ที่เต็มไปด้วยความสามารถและพลังของเหล่าศิลปินจากทุกมุมโลก

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์ / Universe League

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

“เชียงรายน้ำท่วมตลาดสายลมจอย กระทรวงสาธารณสุขเร่งช่วยเหลือด่วน ป้องกันดินถล่ม”

สถานการณ์น้ำท่วมเชียงราย: กระทรวงสาธารณสุขเฝ้าระวังและดำเนินการช่วยเหลือ

ในวันที่ 15 ตุลาคม 2567 กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้เผยข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมในภาคเหนือ โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงราย ซึ่งมีการน้ำเอ่อท่วมตลาดสายลมจอย นอกจากนี้ ยังมีการเฝ้าระวังน้ำป่าหลากและดินถล่มใน 9 จังหวัดภาคใต้ เพื่อป้องกันและลดผลกระทบจากภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้น

การเฝ้าระวังน้ำป่าและดินถล่มในพื้นที่เสี่ยง

หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข นายโสภณ เอี่ยมศิริถาวร ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเฝ้าระวังน้ำป่าหลากและดินถล่มใน 9 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล พัทลุง สงขลา ปัตตานี นราธิวาส และยะลา ซึ่งจังหวัดสงขลาได้เตือนภัยระดับเตรียมพร้อมใน 4 หมู่บ้าน ส่วนยะลาเตือนภัยระดับวิกฤตใน 2 หมู่บ้าน รวมถึงเชียงรายได้มีการเตือนภัยระดับเฝ้าระวังใน 2 หมู่บ้านด้วย

การช่วยเหลือผู้ประสบภัยและกลุ่มเปราะบาง

จากการดำเนินการตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม ถึง 14 ตุลาคม 2567 ทีมปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุขได้ดูแลผู้ประสบภัยรวม 239,415 ราย และกลุ่มเปราะบาง 33,830 ราย นอกจากนี้ ยังมีการจัดทีมปฐมพยาบาลสุขภาพจิตสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยง ซึ่งจะติดตามและให้การรักษาต่อเนื่อง เพื่อช่วยลดผลกระทบทางจิตใจจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้น

มาตรการด้านสุขภาพจิตหลังเกิดภัยพิบัติ

กระทรวงสาธารณสุขได้จัดทำมาตรการดูแลสุขภาพจิตใน 3 ระยะ ได้แก่ ระยะวิกฤตและฉุกเฉินตั้งแต่เกิดเหตุจนถึง 2 สัปดาห์ ระยะหลังประสบภาวะวิกฤตตั้งแต่ 2 สัปดาห์ถึง 3 เดือน และระยะฟื้นฟูหลังเกิดเหตุการณ์เกิน 3 เดือน โดยการประเมินและติดตามดูแลกลุ่มเสี่ยงจะช่วยให้สามารถให้การรักษาที่เหมาะสมและทันเวลา

การจัดเตรียมทีมช่วยเหลือในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมขัง

พื้นที่น้ำท่วมขังที่เสี่ยงสูงสุดประกอบด้วย 8 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก อ.บางระกำ พระนครศรีอยุธยา อ.บางบาล สุราษฎร์ธานี อ.พระแสง สมุทรปราการ อ.พระประแดง อุดรธานี อ.เพ็ญ นครปฐม อ.บางเลน นครพนม อ.นาทม และขอนแก่น อ.หนองเรือ โดยหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ได้รับการเตรียมทีมบุคลากร ยา และเวชภัณฑ์เพื่อออกช่วยเหลือผู้ป่วย ผู้ประสบภัย และกลุ่มเปราะบางได้อย่างทันท่วงที

ผลกระทบจากน้ำท่วมและการดำเนินการช่วยเหลือ

จากข้อมูลล่าสุด น้ำท่วมในเชียงรายทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 75 ราย บาดเจ็บ 2,421 ราย และไม่มีผู้สูญหายเพิ่มเติม นอกจากนี้ หน่วยงานสาธารณสุขยังคงให้ความสำคัญกับการปิดบริการในสถานพยาบาลที่ได้รับผลกระทบ โดยสถานพยาบาลที่ต้องปิดบริการเพียง 1 แห่ง คือ รพ.สต.บ้านวังลูกช้าง จ.พิจิตร

ความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ ในการรับมือภัยพิบัติ

การตอบสนองต่อสถานการณ์น้ำท่วมในเชียงรายและพื้นที่เสี่ยงอื่นๆ เป็นผลมาจากความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงสาธารณสุข หน่วยงานท้องถิ่น และองค์กรต่างๆ ในการจัดเตรียมและดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้สามารถลดผลกระทบจากภัยพิบัติได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

บทสรุป: ความสำคัญของการเตรียมพร้อมและการตอบสนองต่อภัยพิบัติ

สถานการณ์น้ำท่วมในเชียงรายและพื้นที่อื่นๆ เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเตรียมพร้อมและการตอบสนองอย่างรวดเร็วจากหน่วยงานสาธารณสุขและองค์กรที่เกี่ยวข้อง การดำเนินการที่มีประสิทธิภาพในการดูแลผู้ประสบภัยและกลุ่มเปราะบาง รวมถึงการดูแลสุขภาพจิต เป็นสิ่งที่ช่วยลดผลกระทบจากภัยพิบัติและส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงสาธารณสุข

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ศอ.จอส.พระราชทานต้อนรับ วปอ.66 ให้กำลังพลฟื้นฟูแม่สาย

ศอ.จอส.พระราชทานเชียงรายต้อนรับ วปอ.66 ให้กำลังใจกำลังพลฟื้นฟูแม่สาย

เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2567 เวลา 12.00 น. ศอ.จอส.พระราชทาน ภาค 3/บก.ควบคุมบริหารสถานการณ์ จังหวัดเชียงราย ได้มีการให้การต้อนรับ พล.ท.ฐิตวัชร์ เสถียรทิพย์ ประธานรุ่น นักศึกษา วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร หรือ วปอ.66 มาตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจแก่กำลังพลทั้ง 13 หน่วย ที่ปฏิบัติงานฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

การต้อนรับและให้กำลังใจจากศอ.จอส.พระราชทาน

ในโอกาสดังกล่าว พล.ต.บุญญฤทธิ์ เกษตรเวทิน ผู้อำนวยการศอ.จอส.พระราชทาน มทบ.37/ ผบ.ศบภ.มทบ.37 ได้มอบความปรารถนาดีและกำลังใจให้แก่กำลังพลที่ทำงานหนักในการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม การให้กำลังใจครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการสร้างแรงบันดาลใจและความมุ่งมั่นในการฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับมาเป็นปกติ

การมอบเงินบำรุงขวัญให้แก่กำลังพล

พล.ท.ฐิตวัชร์ เสถียรทิพย์ ในฐานะประธานรุ่น นักศึกษาวปอ.66 ได้มอบเงินบำรุงขวัญให้แก่กำลังพลทั้ง 13 หน่วยที่เข้าร่วมในการฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย การมอบเงินบำรุงขวัญครั้งนี้เป็นการแสดงความขอบคุณและสนับสนุนให้กำลังพลมีแรงจูงใจในการทำงานต่อไป

การฟื้นฟูพื้นที่อำเภอแม่สายหลังน้ำท่วม

พื้นที่อำเภอแม่สายได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมหนักในช่วงที่ผ่านมา ศอ.จอส.พระราชทาน ภาค 3/บก.ควบคุมบริหารสถานการณ์ ได้ร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ในการฟื้นฟูพื้นที่ รวมถึงการจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม การฟื้นฟูครั้งนี้ครอบคลุมหลายด้าน ทั้งการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน การฟื้นฟูบ้านเรือน และการสนับสนุนด้านจิตใจให้กับประชาชน

ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานและชุมชนในการฟื้นฟู

การฟื้นฟูพื้นที่อำเภอแม่สายไม่สามารถทำได้โดยหน่วยงานเดียว แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนท้องถิ่น ความร่วมมือนี้เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้การฟื้นฟูเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว

บทบาทของนักศึกษา วปอ.66 ในการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย

นักศึกษาวปอ.66 ได้มีบทบาทสำคัญในการให้กำลังใจและสนับสนุนกำลังพลที่ทำงานในการฟื้นฟูพื้นที่ มอบเงินบำรุงขวัญเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับกำลังพลในการทำงานอย่างเต็มที่

อนาคตของการฟื้นฟูพื้นที่อำเภอแม่สาย

ด้วยความพยายามร่วมกันของทุกภาคส่วน พื้นที่อำเภอแม่สายคาดว่าจะฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติในเวลาอันรวดเร็ว การฟื้นฟูไม่เพียงแต่ช่วยให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อีกครั้ง แต่ยังเป็นการสร้างความเข้มแข็งและความสามัคคีในชุมชน

บทสรุป

การให้กำลังใจและสนับสนุนจากศอ.จอส.พระราชทาน ภาค 3/บก. และนักศึกษาวปอ.66 เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างแรงจูงใจให้กับกำลังพลในการฟื้นฟูพื้นที่อำเภอแม่สาย การร่วมมือกันของทุกภาคส่วนทำให้การฟื้นฟูเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ชาวเชียงรายสามารถมองเห็นความหวังและอนาคตที่สดใสหลังจากการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงรายฟื้นฟูสวนสาธารณะริมน้ำกก กลับสู่ความเป็นปกติ

การฟื้นฟูสวนสาธารณะริมน้ำกกเชียงรายกลับสู่ความเป็นปกติหลังน้ำท่วม

เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2567 เทศบาลนครเชียงรายได้โพสต์คืนพื้นที่สวนสาธารณะริมน้ำกกนครเชียงรายหลังการฟื้นฟูพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่ในเมืองเชียงราย สวนสาธารณะริมน้ำกก ซึ่งครอบคลุมพื้นที่สามชุมชนในเขตเทศบาลนครเชียงราย ได้แก่ ชุมชนร่องเสือเต้น ฝั่งหมิ่น และป่าแดง ระยะทางรวมกว่า 2 กิโลเมตร ได้รับการฟื้นฟูอย่างเร่งด่วนเพื่อให้เป็นพื้นที่สาธารณะที่ชาวเชียงรายสามารถกลับมาใช้ประโยชน์ได้อีกครั้ง

การฟื้นฟูพื้นที่สวนสาธารณะริมน้ำกกเชียงราย

การฟื้นฟูสวนสาธารณะริมน้ำกกดำเนินการโดยเทศบาลนครเชียงราย ภายใต้การนำของนายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย นายวันชัยได้มอบหมายให้นางบังอร มะลิดิน รองนายกเทศมนตรีนครเชียงราย ปลัดเทศบาลนครเชียงราย ข้าราชการร่วมรับ-มอบสวนสาธารณะริมน้ำกก โดยมีผู้ร่วมดำเนินการจากหน่วยงานต่างๆ เช่น นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผู้อำนวยการกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย รวมถึงกำลังพลเจ้าหน้าที่จากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจภูธรเมืองเชียงราย กองร้อยอาสารักษาดินแดน และทีมงานเทศบาลนครเชียงราย

การสนับสนุนจากชุมชนและองค์กรศาสนา

นอกจากการสนับสนุนจากหน่วยงานราชการแล้ว พระอาจารย์เอกชัย สิริญาโณ เจ้าอาวาสวัดใหม่ร่มเย็น ตำบลห้วยซ้อ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการฟื้นฟูพื้นที่นี้ด้วยการสนับสนุนอาหาร น้ำดื่ม และสร้างแรงบันดาลใจให้กับทีมงานและชุมชน การร่วมมือกันอย่างเข้มแข็งระหว่างหน่วยงานราชการและองค์กรศาสนา ทำให้การฟื้นฟูสวนสาธารณะริมน้ำกกดำเนินไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว

ผลลัพธ์ของการฟื้นฟูพื้นที่สวนสาธารณะริมน้ำกก

การคืนพื้นที่สวนสาธารณะริมน้ำกกเชียงรายนี้จะช่วยให้ชาวบ้านสามารถกลับมาใช้พื้นที่ดังกล่าวในการพักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกาย และทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังเป็นการสร้างรอยยิ้มและความสุขให้กับชาวเชียงรายทุกคน ด้วยความพยายามร่วมกันของพลเมืองและหน่วยงานต่างๆ ทำให้สวนสาธารณะริมน้ำกกกลับมาเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาอีกครั้ง

การปรับภูมิทัศน์และการพัฒนาพื้นที่สวนสาธารณะ

เทศบาลนครเชียงรายได้ดำเนินการปรับภูมิทัศน์สวนสาธารณะริมน้ำกกอย่างต่อเนื่องเพื่อให้พื้นที่นี้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและเหมาะสมสำหรับการใช้งานของประชาชน การปลูกต้นไม้ การสร้างทางเดิน และการจัดพื้นที่สำหรับกิจกรรมสาธารณะทำให้สวนสาธารณะริมน้ำกกเป็นสถานที่ที่น่าอยู่และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับชาวเชียงราย

การมีส่วนร่วมของประชาชนในการฟื้นฟูพื้นที่

ความสำเร็จในการฟื้นฟูสวนสาธารณะริมน้ำกกไม่เพียงแค่เป็นผลมาจากการทำงานของหน่วยงานราชการเท่านั้น แต่ยังเป็นผลจากความร่วมมือและการมีส่วนร่วมของประชาชนในชุมชน รัฐบาลท้องถิ่นและชุมชนได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การฟื้นฟูพื้นที่สวนสาธารณะริมน้ำกกเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการของประชาชน

อนาคตของสวนสาธารณะริมน้ำกกเชียงราย

ด้วยการฟื้นฟูสวนสาธารณะริมน้ำกกเชียงรายอย่างครบวงจร ชุมชนในพื้นที่รอบข้างจะสามารถใช้พื้นที่นี้ได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อน การออกกำลังกาย หรือการจัดกิจกรรมชุมชนต่างๆ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของชาวเชียงราย การฟื้นฟูครั้งนี้ยังเป็นตัวอย่างที่ดีในการจัดการพื้นที่สาธารณะหลังภัยพิบัติ และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่าเทศบาลนครเชียงรายมุ่งมั่นในการพัฒนาและฟื้นฟูเมืองให้ดียิ่งขึ้น

บทสรุป

การฟื้นฟูสวนสาธารณะริมน้ำกกเชียงรายเป็นความพยายามร่วมกันของหลายภาคส่วน ทั้งหน่วยงานราชการ องค์กรศาสนา และชุมชนท้องถิ่น ที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างพื้นที่สาธารณะที่ปลอดภัยและมีคุณภาพสำหรับการใช้ชีวิตของชาวเชียงราย การสนับสนุนและความร่วมมืออย่างเข้มแข็งทำให้การฟื้นฟูสวนสาธารณะริมน้ำกกสำเร็จลุล่วงอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ชาวเชียงรายจึงสามารถกลับมาใช้พื้นที่สาธารณะนี้ได้อย่างเต็มที่ และมีความสุขกับพื้นที่ที่ฟื้นฟูใหม่อีกครั้ง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ฟื้นฟูวัดฝั่งหมิ่นและสวนสาธารณะริมน้ำกก จัดลอยกระทงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

ฟื้นฟูน้ำท่วมเชียงราย: ความก้าวหน้าและการสนับสนุนจากชุมชน

เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2567 นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย พร้อมคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่เทศบาลนครเชียงราย ได้ลงพื้นที่ติดตามความเสียหายจากน้ำท่วมที่วัดฝั่งหมิ่นและชุมชนฝั่งหมิ่น พวกเขาได้ร่วมมือกับพระครูขันติพลาธร เจ้าอาวาสวัดฝั่งหมิ่น และพี่น้องชุมชนในการสำรวจและประเมินความเสียหาย

การสำรวจและประเมินความเสียหายจากน้ำท่วม

ในวันที่ลงพื้นที่ นายวันชัย และทีมงานได้ทำการสำรวจพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างละเอียด พวกเขาได้รับข้อมูลความเสียหายจากพระครูขันติพลาธร และชุมชนฝั่งหมิ่น ซึ่งประกอบด้วยการเสียหายที่วัดฝั่งหมิ่นและบ้านเรือนในชุมชน พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบได้แก่ วัดฝั่งหมิ่นและชุมชนรอบข้าง

การฟื้นฟูวัดฝั่งหมิ่นและสวนสาธารณะริมน้ำกก

เทศบาลนครเชียงรายได้ดำเนินการฟื้นฟูวัดฝั่งหมิ่นและปรับภูมิทัศน์สวนสาธารณะริมน้ำกกอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างพื้นที่ที่ปลอดภัยและสวยงามสำหรับประชาชน การปรับภูมิทัศน์นี้ไม่เพียงแต่ช่วยฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย แต่ยังเป็นการสร้างพื้นที่สาธารณะที่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน

การจัดงานประเพณีลอยกระทงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหลังน้ำท่วม

นางอำไพ จันทร์เงิน ผอ.สำนักการศึกษา เทศบาลนครเชียงราย ได้ประชุมปรึกษากับชุมชนฝั่งหมิ่นเพื่อเตรียมความพร้อมในการสืบสานประเพณี “ลอยสะเปา ล่องนที สะหลียี่เป็ง” ในวันลอยกระทงที่จะจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา การจัดงานนี้มีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม และสร้างความสามัคคีในชุมชน

การมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์จากหอการค้าเชียงราย

นายภาคภูมิ ผลพิสิษฐ์ ประธานหอการค้าเชียงราย ได้มอบสิ่งของบรรเทาทุกข์แก่ชาวบ้านในชุมชนฝั่งหมิ่นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม สิ่งของที่แจกจ่ายได้แก่ ข้าวสาร หม้อหุงข้าว น้ำดื่ม และของใช้จำเป็นอื่นๆ เพื่อช่วยเหลือในเบื้องต้น ชาวบ้านได้รับความช่วยเหลืออย่างรวดเร็วและมีความสุขกับการสนับสนุนจากหอการค้า

การปรับภูมิทัศน์สวนสาธารณะริมน้ำกกอย่างต่อเนื่อง

ทางเทศบาลนครเชียงรายได้ดำเนินการปรับภูมิทัศน์สวนสาธารณะริมน้ำกกในชุมชนร่องเสือเต้น ฝั่งหมิ่น และป่าแดงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พื้นที่นี้เป็นสถานที่ที่ชาวเชียงรายสามารถใช้ประโยชน์ได้ต่อไป การปรับภูมิทัศน์นี้รวมถึงการปลูกต้นไม้ การสร้างทางเดิน และการจัดพื้นที่สำหรับกิจกรรมสาธารณะ

การสนับสนุนจากภาคส่วนต่างๆ ในการฟื้นฟูพื้นที่

การฟื้นฟูพื้นที่น้ำท่วมในเชียงรายไม่ได้เป็นหน้าที่ของเทศบาลนครเชียงรายเพียงอย่างเดียว แต่ยังได้รับการสนับสนุนจากหลายภาคส่วน เช่น หน่วยงานราชการ มูลนิธิ และภาคเอกชน การร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดช่วยให้การฟื้นฟูเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

ความหวังและอนาคตของชุมชนฝั่งหมิ่น

การฟื้นฟูพื้นที่น้ำท่วมในชุมชนฝั่งหมิ่นทำให้ชาวบ้านมีความหวังในการกลับมาใช้ชีวิตปกติอีกครั้ง พวกเขาสามารถกลับเข้าบ้านเรือนและดำเนินชีวิตได้อย่างมั่นคง การจัดงานประเพณีลอยกระทงยังเป็นการสร้างความสามัคคีและกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ ชุมชนฝั่งหมิ่นจึงเริ่มต้นการเดินทางสู่การฟื้นฟูและพัฒนาอย่างยั่งยืน

บทสรุป

การฟื้นฟูน้ำท่วมในเชียงรายเป็นความพยายามร่วมกันของหลายภาคส่วน ที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างความปลอดภัยและความเป็นอยู่ที่ดีให้กับชาวบ้าน การสนับสนุนจากเทศบาลนครเชียงราย หน่วยงานราชการ และภาคเอกชนทำให้การฟื้นฟูเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ชุมชนฝั่งหมิ่นจึงสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมั่นคงและมีความสุขอีกครั้ง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

คืบหน้าการช่วยเหลือน้ำท่วมในแม่สาย สายลมจอย-บ้านไม้ลุงขนยังไม่ 100%

สถานการณ์และความคืบหน้าการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในอำเภอแม่สาย

เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2567 เวลา 17.30 น. ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอแม่สาย ได้มีการประชุมติดตามสถานการณ์และการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยโดยมีผจก.ชร. พล.ต.บุญญฤทธิ์ เกษตรเวทิน ผบ.มทบ.37 เป็นประธานการประชุม ร่วมกับส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

การดำเนินงานของกรมการทหารช่าง

กรมการทหารช่างได้ดำเนินการตรวจสอบความแข็งแรงของบิ๊กแบ็คและลำน้ำสาย 21 จุด พบว่าสถานที่ทั้งหมดแข็งแรงปกติ นอกจากนี้ยังได้ทำการซ่อมแซมและปรับพื้นที่วัด โรงเรียน และบ้านคนยากไร้ ผลการดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

การฟื้นฟูบ้านพักอาศัยโดยหน่วยงานต่างๆ

หน่วยงานหลายแห่งเข้าร่วมในการฟื้นฟูบ้านพักอาศัย โดยกรมทรายได้ฟื้นฟูบ้านในชุมชนหัวฝายและตลาดสายลมจอย โดยความก้าวหน้าถึง 100% และ 60.61% ตามลำดับ ส่วนทบ.ดำเนินการฟื้นฟูบ้านไม้ลุงขนถึง 80.95% และกองทัพไทยฟื้นฟูบ้านเกาะทรายได้ถึง 69.05%

ความคืบหน้าของมท.และหน่วยงานร่วม

มท.ชุด ชป.อส.ได้ฟื้นฟูบ้านเพิ่มเติม 3 ครัวเรือน โดยบ้านเหมืองแดงและบ้านเหมืองแดงใต้มีความก้าวหน้าถึง 98.97% และ 100% ตามลำดับ ความคืบหน้าทั่วโซนมหาดไทยอยู่ที่ 99.36%

การสนับสนุนจากสภาแม่สายและส่วนราชการอื่นๆ

สภาแม่สายได้วางกำลังพลอำนวยสะดวกในการขนย้ายดินออกจากพื้นที่ประสบภัย ส่วนประปาเร่งซ่อมแซมระบบประปาและตรวจสภาพในพื้นที่ที่ฟื้นฟูแล้ว ไฟฟ้าก็ได้ตรวจสอบระบบไฟฟ้าในบ้านที่ฟื้นฟูสภาพเรียบร้อยแล้ว

ความร่วมมือของกองทัพเรือและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

กองทัพเรือร่วมกับมูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภา) ยามยาก สภากาชาดไทย และหน่วยงานอื่นๆ เร่งเคลียร์พื้นที่ชุมชนถ้ำผาจมและตลาดสายลมจอย โดยใช้เครื่องมือและกำลังพลในการขุดตักดินออกจากบ้านและร้านค้า เทศบาลเวียงพางคำได้นำรถแทรกเตอร์มาปรับเกรดดันดินโคลนที่ติดถนนเพื่อเปิดเส้นทางเข้าบ้านถ้ำผาจม

ความสำเร็จในการฟื้นฟูพื้นที่และการกลับมาใช้ชีวิตประจำวัน

การฟื้นฟูพื้นที่ชุมชนถ้ำผาจมและตลาดสายลมจอยมีความคืบหน้าอย่างมาก ถนนเข้าออกในหมู่บ้านเริ่มเดินทางสัญจรได้ และมีการจ่ายกระแสไฟฟ้าและน้ำประปาให้กับบ้านที่พร้อมแล้ว น.ส. ภัคสิริพัชร์ พิสิษชาโนดม ชาวบ้านบ้านถ้ำผาจม ได้กล่าวว่าชาวบ้านเริ่มทยอยกลับเข้าบ้านเรือน ขอบคุณเจ้าหน้าที่และจิตอาสาทุกคน

ความต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากชาวบ้าน

ชาวบ้านขอความช่วยเหลือในเรื่องเครื่องนอน หมอน ผ้าห่ม หม้อหุงข้าว เนื่องจากน้ำได้พัดพาสิ่งของบางส่วนไป ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านแทบจะไม่เหลือ และรถเข็นขายของถูกน้ำพัดพาไป ทำให้ชาวบ้านลำบากมาก

เป้าหมายการเคลียร์พื้นที่ประสบภัยในเดือนตุลาคม

ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่มคาดว่าจะเคลียร์พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในอำเภอแม่สายได้ทั้งหมดไม่เกินเดือนตุลาคมนี้

การร่วมมือกันอย่างเต็มที่ของทุกหน่วยงานทำให้การฟื้นฟูและช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ชาวบ้านในพื้นที่สามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมั่นคงและปลอดภัยอีกครั้ง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

‘ดร.เอ้’ เรียกร้องเพิ่มแรงงานแก้ไขวิกฤตเชียงราย

นายสุชัชวีร์เรียกร้องให้เพิ่มแรงงานแก้โคลนดินเชียงราย

เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2567 นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กที่สะท้อนถึงวิกฤตสาธารณูปโภคในจังหวัดเชียงรายที่ยังคงไม่ลดลงแม้น้ำจะลดลงแล้วก็ตาม วิกฤตนี้ยังคงเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องได้รับการจัดการอย่างเร่งด่วน

นายสุชัชวีร์กล่าวว่า “คนไทยต้องไม่ทิ้งกัน แต่ถ้ายังทิ้งปัญหาไว้ น่าเห็นใจชาวบ้าน” และเน้นย้ำถึงความสำคัญของการกู้ภัยเร่งด่วนที่ต้องจัดการกับโคลนดินทรายและการฟื้นฟูท่อระบายน้ำ รวมถึงระบบสาธารณูปโภคสำคัญต่างๆ

การกู้ภัยและฟื้นฟูระบบสาธารณูปโภค

นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ได้กล่าวถึงการนำวิศวกรอาสาลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่เชียงราย ปัญหาหลักที่ยังคงอยู่คือโคลนดินทรายที่มาจากการกัดเซาะภูเขาที่เต็มไปด้วยแร่คาร์บอเนต เมื่อผสมกับน้ำแล้วแห้งอาจกลายเป็นหินปูน ทำให้การเคลื่อนย้ายโคลนยากขึ้นอย่างมาก

นายสุชัชวีร์ได้เสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังนี้:

  1. จ้างแรงงานในพื้นที่: ประมาณการว่าต้องใช้แรงงานอย่างน้อย 10,000 คน ซึ่งสอดคล้องกับรายงานการจัดการภัยพิบัติของญี่ปุ่นหลังเกิดสึนามิปี 2554
  2. เลือกใช้เครื่องจักรกลที่เหมาะสม: เน้นเครื่องจักรกลขนาดเล็กที่สามารถควบคุมได้ด้วยคนเพียงหนึ่งคน เช่น เครื่องขุดดินขนาดเล็กหรือ Mini Excavator พร้อมเครื่องฉีดน้ำที่มีกำลังพอเพียง
  3. รื้อสาธารณูปโภคที่หมดอายุและเสียหายหนัก: ใช้โอกาสนี้ในการรื้อสาธารณูปโภคที่ไม่สอดคล้องกับแผนรับมือในอนาคต พร้อมกับการฟื้นฟูระบบระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพ
 
การสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชน

นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนจากภาครัฐและภาคเอกชน โดยเฉพาะองค์กรต่างๆ เช่น กองทัพไทย มณฑลทหารบกเชียงราย มูลนิธิกระจกเงา และองค์กรการกุศลอื่นๆ ที่ยังคงลงทุนและลงแรงช่วยกันกู้และฟื้นระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน

เขายังเน้นว่า “คนยังไม่พอ เครื่องมือยังไม่พร้อม” น้ำลด ความช่วยเหลือที่ส่งมาเองก็ลดลงตามไปด้วย ทำให้การกู้ภัยและฟื้นฟูยังไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่

ความสำคัญของการร่วมมือกัน

นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันในการแก้ปัญหาวิกฤตสาธารณูปโภคหลังน้ำลดที่เชียงราย การตอบสนองอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพจากทุกฝ่ายจะช่วยลดผลกระทบที่เกิดขึ้นและสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่

สรุป

วิกฤตสาธารณูปโภคที่เชียงรายยังคงเป็นปัญหาที่ต้องได้รับการจัดการอย่างเร่งด่วน นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่าได้เรียกร้องให้มีการเพิ่มแรงงานและเครื่องมือในการกู้ภัย พร้อมทั้งสนับสนุนจากภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อฟื้นฟูระบบระบายน้ำและจัดการกับโคลนดินทรายอย่างมีประสิทธิภาพ

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

พบแหล่งน้ำพุร้อนใหม่ที่บ้านพักบุคลากรโรงพยาบาลเวียงเชียงรุ้ง

พบแหล่งน้ำพุร้อนใหม่ที่บ้านพักบุคลากรโรงพยาบาลเวียงเชียงรุ้ง เชียงราย

แหล่งน้ำพุร้อนผุดขึ้นบริเวณบ้านพักบุคลากรโรงพยาบาล

เมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา เพจ “สาขาวิชาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย” ได้รายงานการพบแหล่งน้ำพุร้อนที่ผุดขึ้นมาบริเวณบ้านพักบุคลากรของโรงพยาบาลเวียงเชียงรุ้ง อำเภอเวียงเชียงรุ้ง จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในพื้นที่ดังกล่าว

การตรวจสอบเบื้องต้นพบจุดน้ำพุร้อน 3 จุด

หลังจากได้รับแจ้งเกี่ยวกับการปรากฏตัวของน้ำพุร้อน ทีมงานได้ดำเนินการเข้าไปสำรวจเบื้องต้นและพบว่ามีจุดที่น้ำผุดขึ้นมาจำนวน 3 จุด โดยการตรวจวัดอุณหภูมิน้ำพบว่ามีอุณหภูมิสูงถึงประมาณ 40 องศาเซลเซียส และค่าพีเอชของน้ำอยู่ที่ประมาณ 6.5 นอกจากนี้ ยังมีกลิ่นของกำมะถันที่มาจากน้ำพุร้อนปรากฏออกมา ทำให้เป็นที่น่าสนใจและกังวลในขณะเดียวกัน

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบเพิ่มเติม

ทางสาขาวิชาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ได้ประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมทรัพยากรธรณี และหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อให้ทำการตรวจสอบและดำเนินการต่อไป รายงานข่าวจากผู้จัดการออนไลน์ได้แจ้งว่า สำหรับจุดที่ปรากฏมีน้ำร้อนผุดขึ้นมาบริเวณบ้านพักบุคลากรของโรงพยาบาลดังกล่าว พบว่าอยู่ในสามพื้นที่หลัก ได้แก่ ถนนทางเข้าบ้านพัก หน้าสนามหญ้า และลานหน้าบ้านพัก

รายละเอียดของจุดน้ำพุร้อนแต่ละจุด
  1. ถนนทางเข้าบ้านพัก: จุดนี้เป็นบริเวณที่น้ำผุดขึ้นมาจากรอยแยกของพื้นคอนกรีต ทำให้มีการไหลของน้ำที่มีลักษณะขาวขุ่นและมีคราบสีขาวอยู่ที่ขอบหลุม
  2. สนามหญ้า: จุดนี้น้ำผุดขึ้นมาจากดินหรือพื้นสนามหญ้า ทำให้เกิดหลุมน้ำขนาดเล็กที่มีน้ำไหลออกมาด้วยลักษณะคล้ายกับคราบสีขาว
  3. ลานหน้าบ้านพัก: เช่นเดียวกับจุดแรก น้ำผุดขึ้นมาจากรอยแยกของพื้นคอนกรีต และมีลักษณะน้ำที่ขุ่นข้นและมีกลิ่นกำมะถัน
ซึ่งเป็นข้อมูลของผู้จัดการออนไลน์เมื่อวันที่ 13 ต.ค. 2567 14:04
การป้องกันและรอการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการกันบริเวณที่มีน้ำผุดออกมาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนเข้ามาใกล้ และเพื่อรอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป การกันพื้นที่นี้ถือเป็นมาตรการเบื้องต้นเพื่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่

สาเหตุที่น้ำพุร้อนผุดขึ้นมาน่าจะเกิดจากอะไร

นักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญทางด้านธรณีวิทยากำลังศึกษาหาสาเหตุที่ทำให้น้ำพุร้อนผุดขึ้นมาในพื้นที่นี้ แต่น้ำพุร้อน เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่มีน้ำร้อนไหลขึ้นมาจากใต้ดิน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภายในโลกยังคงมีความร้อนอยู่ ปัจจุบัน พบแหล่งน้ำพุร้อน 112 แหล่ง กระจายอยู่ทั่วไปตั้งแต่ทางภาคเหนือ ภาคตะวันตก ภาคกลาง และภาคใต้ วัดอุณหภูมิน้ำร้อนที่ผิวดินอยู่ในช่วง 40 100 องศาเซลเซียส โดยทั่วไป เรารู้จักน้ำพุร้อนเนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่ามหัศจรรย์ แต่น้ำพุร้อนยังสามารถนำมาพัฒนาใช้ประโยชน์ในด้านอื่น ๆ เช่น การผลิตกระแสไฟฟ้า ด้านอุตสาหกรรม และการเกษตรกรรมอีกด้วย

ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากแหล่งน้ำพุร้อนนี้

การปรากฏตัวของน้ำพุร้อนในบริเวณบ้านพักบุคลากรอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยและสุขภาพของผู้อยู่อาศัย หากไม่มีการจัดการที่เหมาะสม นอกจากนี้ ยังอาจทำให้เกิดความกังวลในชุมชนเกี่ยวกับสาเหตุและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากแหล่งน้ำพุร้อนนี้ในระยะยาว

มาตรการป้องกันและการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งดำเนินการตรวจสอบแหล่งน้ำพุร้อนนี้อย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น พร้อมทั้งกำหนดมาตรการป้องกันและการแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ ยังควรมีการติดตามและตรวจสอบสภาพแวดล้อมในพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต

ความสำคัญของการร่วมมือกันในการจัดการปัญหา

การพบแหล่งน้ำพุร้อนในพื้นที่บ้านพักบุคลากรโรงพยาบาลเวียงเชียงรุ้ง เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการร่วมมือกันระหว่างสถาบันการศึกษา หน่วยงานท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น การตอบสนองอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพจะช่วยลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นและสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่

สรุป

เหตุการณ์การพบแหล่งน้ำพุร้อนที่บ้านพักบุคลากรโรงพยาบาลเวียงเชียงรุ้ง เป็นเหตุการณ์ที่ต้องได้รับการตรวจสอบและดำเนินการอย่างเร่งด่วนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การป้องกันและการแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยรักษาความปลอดภัยและสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ รวมถึงการศึกษาหาสาเหตุที่แท้จริงเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
WORLD PULSE

เมืองโดเก็นสร้างเมืองลอยน้ำต่อต้านน้ำทะเลสูงที่ญี่ปุ่น

เมืองโดเก็นของญี่ปุ่นสร้างเมืองลอยน้ำต่อต้านระดับน้ำทะเลสูง

ภาวะโลกร้อนและระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น

ภาวะโลกร้อนทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่ากังวล ส่งผลกระทบต่อชุมชนชายฝั่งทั่วโลก ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าภายในปี 2050 จะมีผู้คนเกือบ 300 ล้านคนที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งต้องเผชิญกับน้ำท่วมทุกปี

แผนสร้างเมืองลอยน้ำในเมืองโดเก็น

เมืองโดเก็นในญี่ปุ่นมีความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการสร้างเมืองลอยน้ำที่ทันสมัย เมืองนี้จะมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 ไมล์ (1.58 กม.) และเส้นรอบวงประมาณ 2.5 ไมล์ (4 กม.) รูปร่างวงกลมช่วยปกป้องผู้อยู่อาศัยจากคลื่นสึนามิ

การออกแบบและโครงสร้างของเมืองลอยน้ำ

เมืองลอยน้ำของโดเก็นมีการออกแบบเป็นสองชั้น ชั้นบนสุดเป็นเมืองทางทะเลที่สามารถพึ่งพาตนเองได้ ส่วนชั้นที่สองเป็นศูนย์ข้อมูลที่ระบายความร้อนด้วยน้ำทะเลสำหรับการบริหารจัดการเมือง การดูแลสุขภาพ และการค้นพบยา เมืองนี้สามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ 10,000 คนและนักท่องเที่ยวสูงสุด 40,000 คนในเวลาเดียวกัน

สิ่งอำนวยความสะดวกและเทคโนโลยีการเกษตร

เมืองลอยน้ำจะประกอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในการผลิตอาหาร โรงเรียน โรงพยาบาล พื้นที่กีฬา สำนักงาน และสวนสาธารณะ เทคโนโลยีการเกษตรรูปแบบใหม่ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยสามารถผลิตอาหารได้มากถึง 7,000 ตันต่อปีโดยใช้น้ำทะเล นอกจากนี้ยังมีการให้บริการด้านการดูแลสุขภาพที่ทันสมัยสำหรับทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว

 
แผนอันทะเยอทะยานสำหรับอนาคต

แผนการสร้างเมืองโดเก็นยังรวมถึงพื้นที่สำหรับการปล่อยและลงจอดจรวดเพื่อการท่องเที่ยวในอวกาศ นักออกแบบโครงการตั้งเป้าหมายในการสร้างเมืองให้เสร็จสิ้นภายในปี 2030 แม้ว่ารายละเอียดสำคัญเช่นที่ตั้งและค่าใช้จ่ายยังไม่ได้รับการเปิดเผย

โครงการเมืองลอยน้ำอื่นๆ ทั่วโลก

เมืองโดเก็นไม่ใช่เมืองลอยน้ำแห่งเดียวที่กำลังดำเนินการอยู่ ในปี 2022 เมืองปูซานของเกาหลีใต้ได้เปิดเผยแผนสำหรับมหานครทางทะเลที่ยั่งยืน ซึ่งสามารถรองรับคนได้ถึง 100,000 คน แม้ว่าโครงการเหล่านี้ยังอยู่ในขั้นแนวคิด แต่ก็แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มในการสร้างเมืองลอยน้ำที่สามารถพึ่งพาตนเองได้และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ชุมชน Schoonship ในเนเธอร์แลนด์เป็นโมเดลที่ดี

เนเธอร์แลนด์เป็นแหล่งรวมชุมชนลอยน้ำที่เจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่ปี 2021 ชุมชน Schoonship ประกอบด้วยบ้าน 46 หลังในแปลงน้ำ 30 แปลง และเป็นที่อยู่อาศัยของผู้อยู่อาศัยประมาณ 100 คน แม้ว่าจะมีขนาดเล็ก แต่เป็นโมเดลที่มีแนวโน้มดีในการสร้างเมืองลอยน้ำที่สามารถพึ่งพาตนเองได้และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

อนาคตของเมืองลอยน้ำ

การสร้างเมืองลอยน้ำเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการรับมือกับระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นและผลกระทบจากภาวะโลกร้อน เมืองโดเก็นและโครงการอื่นๆ ทั่วโลกแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน เพื่อตอบสนองต่อความท้าทายที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : N-Ark.com

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

ตำรวจสืบสวนคดี The iCon Group สั่งทุกโรงพักรับแจ้งความคดี

ความคืบหน้าของคดี The iCon Group: รายงานล่าสุดจากผบ.ตร.

ความก้าวหน้าของการสอบสวน

เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2567 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดี The iCon Group ซึ่งเป็นบริษัทธุรกิจออนไลน์และผลิตภัณฑ์อาหารหารเสริมสุขภาพ คดีนี้มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องตั้งแต่การเปิดศูนย์รับแจ้งเหตุที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางในช่วงวันที่ 10-12 ตุลาคม 2567 โดยมีผู้เสียหายรายแรกเข้ามาแจ้งความถึง 630 ราย โดยรวมความเสียหายถึงกว่า 228 ล้านบาท

ทีมสอบสวนและการดำเนินการ

คดีนี้ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการโดยทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญ โดย พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เป็นผู้กำกับดูแลหลัก ทีมสอบสวนประกอบด้วย พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. นอกจากนี้ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. ยังเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการดำเนินคดีนี้อีกด้วย

การตรวจค้นและการยึดเอกสารสำคัญ

ตำรวจสอบสวนกลางได้ทำการตรวจค้นบริษัทเดอะไอคอนกรุ๊ป 9 แห่งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยได้ยึดเอกสารหลักฐานสำคัญจำนวนมากเพื่อเป็นประโยชน์ในการสืบสวนคดี นอกจากนี้ ยังมีการสอบปากคำนายวรัตน์พล หรือที่รู้จักในนามบอสพอล และนักแสดง 4 ราย ได้แก่ นายยุรนันท์ หรือแซม, น.ส.พีชญา หรือมิน, นายฐานนท์ หรือหมอเอก, และนายกลด หรือปีเตอร์ อีกด้วย

การสอบสวนเพิ่มเติมและการดำเนินการทางกฎหมาย

ถึงแม้ว่าจะมีการสอบสวนปากคำกลุ่มแม่ข่ายไปแล้ว 8 ปาก แต่ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ใด นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมสอบสวนปากคำกับนายกันต์ นักแสดงอีกราย ทั้งนี้ ตำรวจสอบสวนกลางจะดำเนินการตรวจสอบข้อมูลบริษัทเพิ่มเติมเพื่อหาพยานหลักฐานประกอบสำนวนคดี หากพบว่ามีความผิดจริงต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเคร่งครัด

การบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ

การสืบสวนคดีนี้ได้รับการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เช่น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.), กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ), และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) โดยเฉพาะการตรวจสอบและยึดอายัดทรัพย์สิน จำเป็นต้องประสานงานกับ ปปง. อย่างใกล้ชิด เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

การอำนวยความสะดวกให้กับผู้เสียหาย

พล.ต.ท.อัคราเดช ฯ ได้มีการสั่งการให้ตำรวจทั่วประเทศรับแจ้งความจากผู้เสียหายทุกคน ไม่ว่าจะแจ้งความที่ใด โดยมีช่องทางให้ผู้เสียหายสามารถแจ้งความได้ 3 ช่องทาง ได้แก่ การเดินทางเข้ามาแจ้งด้วยตัวเองที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ ปคบ. ชั้น 2 อาคารประชาอารักษ์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, การแจ้งความที่สถานีตำรวจใดก็ได้, และการแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ทางเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th

ความยุติธรรมและการดำเนินคดีอย่างเป็นธรรม

ผบ.ตร.ได้เน้นย้ำถึงความเป็นธรรมในการตรวจสอบคดี หากพบว่ามีความผิดชัดเจนจะดำเนินการตามกฎหมายโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ แต่หากตำรวจที่เกี่ยวข้องเป็นผู้เสียหายในห่วงโซ่ของการกระทำความผิด ต้องให้ความเป็นธรรมกับตำรวจด้วยเช่นกัน เนื่องจากอาจมีเจ้าหน้าที่หลายคนที่เข้าร่วมแต่ไม่ได้มีเจตนาในการกระทำผิด

ความพึงพอใจในการดำเนินงาน

ผบ.ตร.กล่าวว่าพอใจในภาพรวมของการทำงานที่เกิดขึ้นภายในเวลาเพียง 2-3 วันหลังจากตั้งศูนย์รับแจ้งความ โดยทีมงานได้ดำเนินการอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้คดีมีความคืบหน้ามากขึ้นและสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคมในการทำงานของตำรวจ

การสรุปผลคดีในอนาคตอันใกล้

คาดว่าตำรวจจะสามารถสรุปผลคดีได้ในเวลาไม่นานนัก เนื่องจากมีการดำเนินงานอย่างเข้มข้นและเป็นระบบ ตำรวจจะบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาและดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมาตามพยานหลักฐานที่มี

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News