Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

เชียงรายเร่งอบรมดูแลสุขภาพจิต ผู้ใช้ยา รับมือปัญหาชุมชน

เชียงรายเปิดอบรมดูแลสุขภาพจิตผู้ใช้สารเสพติดในชุมชน เสริมศักยภาพบุคลากรรับมือปัญหา

เชียงราย, 7 กุมภาพันธ์ 2568 –    โรงแรม เอ็ม บูทีค รีสอร์ท เชียงราย นายญาณาฤทธิ์ หนสมสุข รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย รักษาราชการแทนปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมการดูแลสุขภาพจิตสำหรับผู้ใช้สารเสพติดในชุมชนอย่างเหมาะสม ภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรเพื่อการปฏิบัติงานในศูนย์คัดกรองยาเสพติด โดยมีบุคลากรผู้รับผิดชอบงานยาเสพติดและสุขภาพจิตจากสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในพื้นที่จังหวัดเชียงรายเข้าร่วม

ปัญหายาเสพติดในเชียงราย: ความท้าทายที่ต้องรับมือ

นายญาณาฤทธิ์กล่าวว่า สถานการณ์ปัญหายาเสพติดในจังหวัดเชียงรายยังคงเป็นเรื่องสำคัญ โดยปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้ยาเสพติดมากกว่าผู้ติดยาเสพติด ซึ่งเมื่อมีการเสพยาเสพติดในปริมาณมากและต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดอาการประสาทหลอน คลุ้มคลั่ง ขาดสติ หวาดระแวง และไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ซึ่งอาจนำไปสู่การทำร้ายตัวเองและผู้อื่น

อบจ.เชียงราย มุ่งมั่นแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างบูรณาการ

องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.เชียงราย) ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหายาเสพติด จึงมีนโยบายในการส่งเสริมการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง โดยได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) โครงการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น หน่วยงานทางการแพทย์ สถานพยาบาล หน่วยงานทางปกครอง หน่วยงานท้องถิ่น และหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด เพื่อให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุม

อบจ.เชียงราย มุ่งเน้นการดูแลสุขภาพผู้ป่วยแบบบูรณาการ โดยคำนึงถึงสิทธิมนุษยชนอย่างครอบคลุม เพื่อให้เกิดความสงบสุขแก่ประชาชน การอบรมบุคลากรที่ดูแลสุขภาพจิตสำหรับผู้ใช้สารเสพติดในชุมชนในครั้งนี้ ถือเป็นส่วนสำคัญในการติดตามดูแลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง และให้การช่วยเหลือหลังการบำบัดรักษา โดยการประคับประคอง ให้คำแนะนำ คำปรึกษา เสริมสร้างกำลังใจและสร้างแรงจูงใจ ทั้งผู้ป่วยและครอบครัว ให้สามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปกติ

การอบรม: เพิ่มศักยภาพบุคลากรดูแลผู้ใช้สารเสพติดในชุมชน

การอบรมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถในการดูแลสุขภาพจิตสำหรับผู้ใช้สารเสพติดในชุมชนอย่างเหมาะสม โดยจะมีการให้ความรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์จำแนกระดับความรุนแรงของผู้ป่วย การวางแผนการดูแล หรือการส่งต่อที่เหมาะสม รวดเร็ว และปลอดภัย รวมถึงการเพิ่มศักยภาพสำหรับบุคลากรในการปฏิบัติงานในศูนย์คัดกรองยาเสพติด

การอบรมนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเพิ่มพูนความรู้และทักษะให้กับบุคลากร แต่ยังเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดูแลผู้ป่วยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการกลับไปเสพยาเสพติดซ้ำ ก่อความรุนแรงซ้ำ รวมถึงปัญหาด้านสังคมที่เกี่ยวข้องกับการติดยาเสพติด และสร้างความสงบสุขให้แก่ชุมชน

อบจ.เชียงราย หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การอบรมในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อบุคลากรที่ปฏิบัติงานด้านการดูแลสุขภาพจิตผู้ใช้สารเสพติดในชุมชน และเป็นก้าวสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในจังหวัดเชียงรายอย่างยั่งยืน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SPORT

เชียงรายเปิดลานกีฬาเอ็กซ์ตรีมริมน้ำกก แลนด์มาร์คใหม่

เชียงรายเปิดตัวแลนด์มาร์คใหม่ ลานกีฬาเอ็กซ์ตรีมริมน้ำกก

เชียงราย, 6 กุมภาพันธ์ 2568 – นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย พร้อมด้วยส่วนงานที่รับผิดชอบ ได้ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าโครงการพัฒนาพื้นที่ริมน้ำกก ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร ตั้งแต่ฝายเชียงรายถึงหาดเชียงราย

การพัฒนาพื้นที่ริมน้ำกก

โครงการพัฒนาพื้นที่ริมน้ำกก เป็นโครงการที่เทศบาลนครเชียงรายให้ความสำคัญอย่างยิ่ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาพื้นที่ริมน้ำกกให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและสถานที่ออกกำลังกายสำหรับประชาชน ปัจจุบันโครงการได้ดำเนินการไปแล้ว 3-4 กิโลเมตร ประกอบด้วย สวนสาธารณะริมน้ำกก เลนวิ่ง เลนจักรยาน และลานกีฬาเอ็กซ์ตรีม

ลานกีฬาเอ็กซ์ตรีม เทศบาลนครเชียงราย

ลานกีฬาเอ็กซ์ตรีม เทศบาลนครเชียงราย บริเวณชุมชนร่องเสือเต้น เป็นหนึ่งในโครงการที่สำคัญของโครงการพัฒนาพื้นที่ริมน้ำกก หลังจากประสบปัญหาน้ำท่วมและดินโคนทับถม ปัจจุบันได้รับการฟื้นฟูและปรับปรุงใหม่ทั้งหมด เพื่อเปิดพื้นที่ให้นักกีฬาและประชาชนทั่วไปได้เข้ามาใช้พื้นที่ได้อย่างสะดวกและปลอดภัยมากขึ้น

นายกเทศมนตรีเน้นส่งเสริมกีฬา

นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย กล่าวว่า ลานกีฬาเอ็กซ์ตรีม เทศบาลนครเชียงราย แห่งนี้ ไม่ได้เน้นการแข่งขันอย่างเดียว แต่เน้นตั้งแต่เริ่มต้นเป็นนักกีฬาจนประสบความสำเร็จ และเป็นการกระตุ้นให้ออกกำลังกายมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพ

เชียงรายเมืองแห่งกีฬา

นายกเทศมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า ผลงานหลายมิติที่ทำให้เชียงรายต้องขับเคลื่อนต่อไปด้านกีฬา และได้จัดกิจกรรมมากมายทางด้านกีฬารวมทั้งถนนสายกีฬา และเชื่อว่าอนาคตการจัดการแข่งขันกีฬาระดับประเทศจะทำให้นักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบกีฬาเข้ามาจังหวัดเชียงรายมากยิ่งขึ้น

สรุป

การพัฒนาพื้นที่ริมน้ำกกและลานกีฬาเอ็กซ์ตรีมในครั้งนี้ จะเป็นแลนด์มาร์คใหม่ของจังหวัดเชียงราย ที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวและส่งเสริมให้ประชาชนหันมาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดี

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

เตรียมรับเสด็จฯ สมเด็จพระเทพฯ ณ วัดหมื่นพุทธเมตตาคุณาราม

การประชุมเตรียมการรับเสด็จฯ สมเด็จพระเทพฯ ณ วัดหมื่นพุทธเมตตาคุณาราม

อำเภอแม่จัน เชียงราย, 5 กุมภาพันธ์ 2568 –  เวลา 10.30 น. ณ วัดหมื่นพุทธเมตตาคุณาราม อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ได้มีการประชุมเตรียมการรับเสด็จ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชทานดินบรรจุศพ พระมหาคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร (เย็นเต็ก) ณ วัชระเจดีย์บรรจุสรีระ วัดหมื่นพุทธเมตตาคุณาราม อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย 

การประชุมเตรียมความพร้อม

การประชุมในครั้งนี้มีพระคณาจารย์จีนธรรมชิรานุวัตร ปลัดขวาจีนนิกาย เจ้าอาวาสวัดมังกรกมลาวาส และนายรุจติศักดิ์ รังษี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานร่วมในการประชุม พร้อมด้วย พล.ท. ฉกาจ ประสงค์ ราชองครักษ์ประจำพระองค์ นายทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ตำรวจวัง เจ้าหน้าที่กองพระราชพิธี เจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการและผังเมือง หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

บทบาทของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย

นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนายพิพัฒน์ สุ่มมาตย์ นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ นายสานุพงศ์ สันทราย นักวิชาการวัฒนธรรมปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่ของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ได้เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงรายได้รับมอบหมายภารกิจในการสนับสนุนการปฏิบัติงานพิธีของกองพระราชพิธี ในระหว่างวันที่ 23 – 24 กุมภาพันธ์ 2568

วาระการประชุม

วาระสำคัญของการประชุมในวันนี้ คือการเตรียมความพร้อมในทุกด้านสำหรับการรับเสด็จฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยมีการหารือในรายละเอียดต่างๆ อาทิ การจัดเตรียมสถานที่ การอำนวยความสะดวกแก่ผู้มาร่วมงาน การรักษาความปลอดภัย การจราจร และการประชาสัมพันธ์ นอกจากนี้ ยังมีการประสานงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ

ความสำคัญของวัดหมื่นพุทธเมตตาคุณาราม

วัดหมื่นพุทธเมตตาคุณาราม เป็นวัดที่มีความสำคัญในพื้นที่อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย การเสด็จพระราชดำเนินของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของพระพุทธศาสนาและการสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของไทย

การเตรียมงานอย่างรอบคอบ

การประชุมเตรียมการรับเสด็จฯ ในวันนี้ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจและความมุ่งมั่นของทุกฝ่ายในการทำงานร่วมกัน เพื่อให้การรับเสด็จฯ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สมพระเกียรติ และเป็นที่ประทับใจของผู้มาร่วมงานทุกท่าน การเตรียมงานอย่างรอบคอบในครั้งนี้ จะส่งผลให้การจัดงานเป็นไปด้วยความราบรื่นและประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้

การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน

การประชุมในวันนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมืออันดีระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่ ที่ร่วมกันทำงานเพื่อเตรียมการรับเสด็จฯ การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนนี้ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การจัดงานเป็นไปด้วยความสมบูรณ์และบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

สรุป

การประชุมเตรียมการรับเสด็จฯ ในครั้งนี้ เป็นการเตรียมความพร้อมในทุกด้านสำหรับการเสด็จพระราชดำเนินของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี การทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วนจะทำให้การจัดงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สมพระเกียรติ และสร้างความประทับใจแก่ผู้มาร่วมงาน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

“คาราวานมาเหนือ” กระตุ้นท่องเที่ยว 4 จังหวัดภาคเหนือตอนบน 2

“คาราวานมาเหนือ” เปิดตัวยิ่งใหญ่ กระตุ้นท่องเที่ยว 4 จังหวัดภาคเหนือตอนบน 2

เชียงราย, 5 กุมภาพันธ์ 2568 –  โรงแรมเดอะ ริเวอร์รี บาย กะตะธานี จังหวัดเชียงราย สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “คาราวานมาเหนือ” อย่างเป็นทางการ โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนบูรณาการส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ประจำปี 2568 โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการเดินทางเชื่อมโยงในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน

ความพร้อมของเชียงรายในการรองรับนักท่องเที่ยว

นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวถึงความพร้อมของจังหวัดเชียงรายในการรองรับนักท่องเที่ยวว่า เชียงรายเป็นจังหวัดเหนือสุดของประเทศไทย มีพรมแดนติดกับสองประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ภูมิประเทศของจังหวัดเต็มไปด้วยเทือกเขาสลับกับที่ราบลุ่มแม่น้ำ อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่งดงามและสมบูรณ์ พร้อมทั้งมีแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและธรรมชาติที่หลากหลาย อาทิ วัดร่องขุ่น วัดมิ่งเมือง วัดร่องเสือเต้น วัดห้วยปลากั้ง และจุดชมวิวสำคัญอย่างสามเหลี่ยมทองคำ ดอยตุง และภูชี้ฟ้า ที่นักท่องเที่ยวสามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศหนาวเย็นและวิวทิวทัศน์อันตระการตา นอกจากนี้ เชียงรายยังเป็นจังหวัดที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ โดยมีชนเผ่ากว่า 30 กลุ่ม เช่น อาข่า ม้ง กะเหรี่ยง ไทลื้อ และไทใหญ่ ส่งผลให้มีเอกลักษณ์ทางศิลปะ วัฒนธรรม อาหาร และวิถีชีวิตที่เป็นเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก จังหวัดเชียงรายพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม ด้วยระบบขนส่งที่สะดวกสบาย โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน การจัดคาราวานในครั้งนี้คาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น และส่งเสริมภาพลักษณ์ของเชียงรายให้เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางสำคัญของนักเดินทางทั่วโลก

รายละเอียดของกิจกรรม “คาราวานมาเหนือ”

นางวิภาวี ลีไพบูลย์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ ผู้แทนท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า โครงการ “คาราวานมาเหนือ” เป็นกิจกรรมสำคัญที่ช่วยกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวจากจังหวัดต่าง ๆ เข้าสู่พื้นที่ภาคเหนือตอนบน 2 ผ่านเส้นทางท่องเที่ยว โดยมีการออกแบบกิจกรรมให้เหมาะสมกับศักยภาพของแต่ละจังหวัด ทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม และอัตลักษณ์ท้องถิ่น กิจกรรม “คาราวานมาเหนือ” จะจัดขึ้นตลอดเดือนมีนาคม 2568 ครอบคลุมทั้ง 4 จังหวัด โดยมีอินฟลูเอนเซอร์และนักเดินทางชื่อดังร่วมเดินทางในเส้นทางต่าง ๆ ได้แก่

  • น่าน – แพร่ (7-9 มีนาคม 2568): นำโดย คุณลีโอ พุฒิ, คุณต้า เผ่าพล และคุณเร แม็คโดแนลด์ (รายการเร่ร่อน)
  • เชียงราย – พะเยา (14-16 มีนาคม 2568): นำโดย คุณเร แม็คโดแนลด์
  • เชียงราย – พะเยา (21-23 มีนาคม 2568): นำโดย คุณภูริ หิรัญพฤกษ์ (วิวไฟน์เดอร์)
  • น่าน – แพร่ (28-30 มีนาคม 2568): นำโดย คุณเบนซ์ ถาวร ภัสสรสิริกุล (เบนซ์ไกจิน – แบกเป้เที่ยวคนเดียว)

ทั้งนี้ คาราวานจะเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยว ร้านค้า และร้านอาหารสำคัญในพื้นที่ พร้อมเผยแพร่ข้อมูลการท่องเที่ยวผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อสร้างการรับรู้และส่งเสริมการเดินทางของนักท่องเที่ยวในอนาคต

การส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

นายสุขสันต์ เพ็งดิษฐ์ ผู้จัดการสำนักงานพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเชียงราย กล่าวว่า สำนักงานพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเชียงราย (อพท.) เดินหน้าส่งเสริมการท่องเที่ยวเชียงราย ผ่านกิจกรรมคาราวานเชื่อมโยงเส้นทางสร้างสรรค์ เชียงรายในฐานะเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ด้านการออกแบบของยูเนสโก (UCCN) มีศักยภาพโดดเด่นด้านวัฒนธรรม วิถีชีวิต และสถาปัตยกรรมล้านนา ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของ อพท. ที่มุ่งพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยใช้เกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก (GSTC) เป็นแนวทางในการพัฒนา อีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญภายใต้โครงการนี้ คือ การศึกษาเส้นทางสร้างสรรค์ในกรุงเทพมหานครและจังหวัดเพชรบุรี ระหว่างวันที่ 15-18 มกราคม 2568 ซึ่งช่วยให้กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ได้เรียนรู้เพิ่มเติมถึงแนวทางการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน

สรุป

โครงการ “คาราวานมาเหนือ” เป็นความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างโอกาสทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่ โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย ตั้งแต่คาราวานท่องเที่ยว เส้นทางสร้างสรรค์ จนถึงกิจกรรมส่งเสริมการตลาดแบบครบวงจร ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : คาราวานมาเหนือ หรือโทร 053 716 434

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS UPDATE

อบจ. 68 ‘โหวตโน’ มาแรง กกต. ชี้เลือกตั้งใหม่ 4 จังหวัด คะแนนไม่ถึงเกณฑ์

เลือกตั้ง อบจ. 68 คนใช้สิทธิ์ น้อย ‘โหวตโน’ เพิ่ม กกต. สั่งเลือกตั้งใหม่ 4 จังหวัด

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 นายแสวง บุญมี เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้แถลงสรุปผลการเลือกตั้งสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งมีการเปิดเผยข้อมูลการใช้สิทธิเลือกตั้งของประชาชนในระดับชาติและในจังหวัดเชียงราย

การเลือกตั้งนายก อบจ. และสมาชิก อบจ.

ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งนายก อบจ. จำนวน 27,991,587 คน ได้มีผู้มาใช้สิทธิ 16,362,185 คน หรือคิดเป็น 58.45% ซึ่งลดลงจากการเลือกตั้งในปี 2563 ที่มีผู้มาใช้สิทธิ 62.44% โดยมีบัตรดีจำนวน 14,272,694 ใบ (87.23%) และบัตรเสียจำนวน 931,290 ใบ (5.69%) สำหรับผู้ที่ไม่เลือกผู้สมัครใดมีจำนวน 1,158,201 ใบ (7.08%)

ในส่วนของสมาชิก อบจ. มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 47,124,842 คน และมีผู้มาใช้สิทธิ 26,418,754 คน หรือคิดเป็น 56.06% โดยมีบัตรดีจำนวน 23,131,324 ใบ (87.56%) และบัตรเสีย 1,488,086 ใบ (5.63%) ขณะที่บัตรที่ไม่เลือกผู้สมัครใดมีจำนวน 1,799,344 ใบ (6.81%)

จังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุด

โดยข้อมูลจาก กกต. เผยว่า จังหวัดที่มีอัตราผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิก อบจ. และนายก อบจ. สูงที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ลำพูน (73.43%), นครนายก (73%), พัทลุง (72.56%), นราธิวาส (68.42%) และมุกดาหาร (68.03%) ในขณะที่จังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิก อบจ. มากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ พะเยา (61.68%), เลย (58.04%), เพชรบุรี (57.44%), ยโสธร (56.72%) และชัยนาท (56.63%)

ปัญหาการใช้สิทธิเลือกตั้งในบางพื้นที่

นายแสวง กล่าวถึงเหตุผลที่มีจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งลดลงในบางพื้นที่ ว่ามีข้อจำกัดทางกฎหมายที่ต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 45 วัน และในบางจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่ทุรกันดารก็พบว่ามีการส่งผลคะแนนและหีบบัตรเกินเวลากำหนด 24 ชั่วโมง ซึ่งสะท้อนว่า การเลือกตั้งในวันเสาร์นั้นเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะสามารถให้ความปลอดภัยแก่ผู้ปฏิบัติงานได้

นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์ที่น่าเศร้าเกิดขึ้นเมื่อกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) เสียชีวิตระหว่างส่งหีบบัตร ซึ่งทาง กกต. จะดูแลผู้ที่เกี่ยวข้องตามสิทธิที่พวกเขาควรได้รับ

จำนวนบัตรเสียและไม่เลือกผู้สมัคร

เรื่องของบัตรเสียในการเลือกตั้ง นายแสวง ยืนยันว่าไม่มีความแตกต่างจากปี 2563 โดยบัตรเสียจากการเลือกนายก อบจ. มีจำนวนใกล้เคียงกับปี 2563 ขณะที่บัตรเสียจากการเลือกสมาชิก อบจ. ในปีนี้ลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ 7.63% เนื่องจากมีสาเหตุจากระบบการเลือกตั้งที่ทำให้บางจังหวัดมีการเลือกตั้งทั้งสองประเภทผู้สมัคร จึงทำให้ประชาชนบางส่วนสับสนในการลงคะแนน

สำหรับบัตรที่ไม่เลือกผู้สมัครใดมีจำนวนมาก โดยแสดงให้เห็นถึงการแสดงความคิดเห็นของประชาชนต่อผู้สมัครในเขตต่างๆ

การเลือกตั้งใหม่ในบางพื้นที่

การเลือกตั้งในบางพื้นที่พบว่าไม่สามารถประกาศผลได้ตามที่กฎหมายกำหนด เนื่องจากในบางเขตคะแนนเสียงไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดไว้ โดยต้องมีการเลือกตั้งใหม่ใน 4 จังหวัด ได้แก่ สุพรรณบุรี, ตรัง, ชุมพร และชัยนาท ซึ่งจะต้องมีการประกาศเลือกตั้งใหม่ภายใน 7 วัน นับจากวันเลือกตั้ง

การนับคะแนนใหม่และทุจริตในการเลือกตั้ง

ในส่วนของการร้องขอให้นับคะแนนใหม่จากบางพรรคการเมืองในพื้นที่เช่น เชียงใหม่และสมุทรปราการ นายแสวง ยืนยันว่า กกต. จะพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่ตั้งไว้ หากการนับคะแนนมีการทักท้วงและทำบันทึกไว้ การพิจารณาจึงจะเป็นไปตามขั้นตอนที่กำหนด

ผลการเลือกตั้งในเชียงราย

สำหรับจังหวัดเชียงราย ซึ่งมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 936,351 คน โดยมีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ. 605,780 คน คิดเป็น 64.70% และสมาชิก อบจ. 604,365 คน คิดเป็น 65.07% โดยจำนวนบัตรดีจากการเลือกตั้งนายก อบจ. มี 525,928 ใบ (86.82%) และสมาชิก อบจ. มี 511,882 ใบ (84.70%) ทั้งนี้การเลือกตั้งยังพบจำนวนบัตรที่ไม่เลือกผู้สมัครใดค่อนข้างมาก ซึ่งอาจสะท้อนถึงการแสดงความไม่พอใจหรือความคิดเห็นของประชาชนต่อผู้สมัครในเขตต่างๆ

บทสรุป

การเลือกตั้งครั้งนี้มีทั้งความสำเร็จและปัญหาที่ต้องดำเนินการต่อ โดยเฉพาะการดำเนินคดีในบางเขตเลือกตั้งที่มีปัญหาการทุจริต รวมทั้งการเลือกตั้งใหม่ในบางพื้นที่ที่คะแนนไม่ตรงตามเกณฑ์ แต่โดยรวมแล้ว การเลือกตั้งถือว่าจัดได้อย่างเป็นระเบียบและถูกต้องตามกฎหมาย

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงรายพร้อมรับมือภัยพิบัติ ด้วยโครงการเตรียมความพร้อม

เชียงรายเตรียมความพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยรับมือสถานการณ์ภัยพิบัติ

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ศูนย์การเรียนรู้ด้านสาธารณภัย ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 15 เชียงราย นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมโครงการเตรียมความพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเพื่อรับสถานการณ์ภัยพิบัติ ของศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 15 เชียงราย และภาคีเครือข่ายด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เพื่อเพิ่มความสามารถในการรับมือและบรรเทาภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

โครงการนี้จัดขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมทั้งบุคลากรและเครื่องมือที่ใช้ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อให้การปฏิบัติงานสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพในกรณีเกิดภัยพิบัติ โดยมีเจ้าหน้าที่จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 15 รวมถึงภาคีเครือข่ายจากหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมในกิจกรรมครั้งนี้

ในพิธีเปิดงาน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวถึงความสำคัญของการเตรียมความพร้อมด้านเครื่องมือและบุคลากรในการรับมือกับสถานการณ์ภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้น โดยกล่าวว่า “ศูนย์ปภ.เขต 15 และภาคีเครือข่ายต่างๆ ได้มีการเตรียมความพร้อมทั้งในด้านบุคลากรและเครื่องมือที่ทันสมัย เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที หากเกิดภัยพิบัติขึ้นในพื้นที่”

กิจกรรมที่จัดขึ้นในวันนี้ประกอบด้วยการตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน การตรวจความพร้อมของเครื่องจักรกลและอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงการสาธิตการใช้งานเครื่องมือและยานพาหนะที่ใช้ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยมีการสาธิตการใช้งานเครื่องจักรกลในการขนย้ายสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยและการนำยานพาหนะที่เหมาะสมมาใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน

การเตรียมความพร้อมในครั้งนี้ยังมีการฝึกซ้อมและสาธิตการปฏิบัติงานในสถานการณ์ที่เกิดภัยพิบัติจริง เช่น การใช้เครื่องมือในการดับไฟ การใช้ยานพาหนะเพื่อขนย้ายผู้บาดเจ็บ การให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากการน้ำท่วมและการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ

จากการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 15 เชียงรายได้แสดงให้เห็นถึงความพร้อมทั้งในด้านบุคลากรและเครื่องมือที่ทันสมัย ซึ่งจะสามารถรองรับสถานการณ์ภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการพัฒนาทักษะและความสามารถของบุคลากรในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที

สำหรับกิจกรรมในอนาคตทางศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 15 เชียงรายยังคงมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความพร้อมในด้านต่างๆ และจะร่วมมือกับภาคีเครือข่ายในทุกระดับเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้จังหวัดเชียงรายพร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อสร้างความมั่นคงให้แก่ประชาชนในจังหวัดเชียงรายอย่างยั่งยืน

สรุปข่าว

จังหวัดเชียงรายเปิดกิจกรรมเตรียมความพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัย เพื่อรับมือสถานการณ์ภัยพิบัติในปี 2568 โดยมุ่งเน้นการฝึกซ้อมและตรวจความพร้อมของเครื่องมือ และบุคลากรที่มีทักษะสูง พร้อมร่วมมือกับภาคีเครือข่ายต่างๆ เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

การเลือกตั้งอบจ.เชียงรายปี 2568 เริ่มต้นอย่างคึกคัก

บรรยากาศการเลือกตั้ง ส.อบจ. และนายก อบจ.เชียงราย ปี 2568

เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (ส.อบจ.) และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ที่หน่วยเลือกตั้งโรงยิมเนเซียม 1 สนามกีฬากลางจังหวัดเชียงราย เริ่มขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่ โดยบรรยากาศการเลือกตั้งในช่วงก่อนเปิดหีบมีประชาชนทยอยมาเข้าแถวรอเลือกตั้งกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหน่วยเลือกตั้งที่ 24 ตั้งอยู่ในตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย ก็เป็นหนึ่งในหน่วยที่มีการเข้าร่วมคึกคักจากประชาชนในท้องถิ่น

การเลือกตั้งในครั้งนี้มีกระแสการตื่นตัวจากประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิ์อย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุและวัยทำงานที่มากันตั้งแต่ช่วงเช้าเพื่อเข้าคูหาเลือกตั้งและเลือกผู้แทนของตนเอง สำหรับบรรยากาศโดยรวมการเลือกตั้งนั้นเป็นไปอย่างเรียบร้อย

การสังเกตการณ์ของผู้ว่าฯ เชียงราย

ในช่วงเช้า นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และหัวหน้าส่วนราชการ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมการเปิดหน่วยเลือกตั้งที่โรงยิมเนเซียม 1 สนามกีฬากลางจังหวัดเชียงราย เพื่อสังเกตการณ์การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกอบจ.เชียงราย โดยผู้ว่าฯ เชียงรายได้กล่าวเชิญชวนประชาชนชาวเชียงรายออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างคึกคักเพื่อส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตย

ผู้มีสิทธิเลือกตั้งและหน่วยเลือกตั้ง

จังหวัดเชียงรายมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมดกว่า 9 แสนคน โดยมีหน่วยเลือกตั้งทั่วจังหวัดทั้งหมด 1,993 หน่วย และทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จังหวัดเชียงรายได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะมีผู้มาลงคะแนนเสียงไม่ต่ำกว่า 75% ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ทั้งนี้ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการคาดว่าจะทราบในเวลาประมาณ 22:00 น. ของวันเดียวกัน

การเปิดหีบและการควบคุมการเลือกตั้ง

จากการรายงานของ กกต. เชียงราย แจ้งว่า หน่วยเลือกตั้งทั้ง 1,993 หน่วยได้เปิดหีบเลือกตั้งตรงตามเวลา 08.00 น. และการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วยเลือกตั้ง และศูนย์ประสานงานการเลือกตั้ง ส.อบจ. และนายก อบจ.เชียงราย ณ อาคารคชสาร อบจ.เชียงราย เป็นไปอย่างเรียบร้อยทุกประการ โดยการเปิดหีบเลือกตั้งในช่วงเช้าสามารถดำเนินการได้โดยไม่มีปัญหาหรืออุปสรรค

เหตุการณ์ฉีกบัตรเลือกตั้ง

ท่ามกลางบรรยากาศการเลือกตั้งที่เป็นไปอย่างเรียบร้อย ก็ได้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้น โดยในหน่วยเลือกตั้งที่ 7 ป่าซาง บ้านแม่คี หมู่ที่ 7 ตำบลป่าซาง อำเภอแม่จัน ได้มีเหตุการณ์ฉีกบัตรเลือกตั้งเกิดขึ้น ซึ่งเบื้องต้นพบว่าเป็นชายอายุ 27 ปี เดินทางจะไปลงคะแนนเหมือนคนอื่นๆ ภายในศาลาเอนกประสงค์หมู่บ้านแม่คี ยื่นบัตรประจำตัวประชาชนและลงชื่อจะลงคะแนนเสียงแล้ว แต่กลับถือบัตรเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงราย ซึ่งมีสีเหลืองและทำการฉีกจนเสียหายภายในคูหาเลือกตั้ง ทำให้เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งได้เข้าไปควบคุมตัวและประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่จัน ให้เข้าไปดำเนินการ

เบื้องต้นพบมีบัตรเลือกตั้งได้รับความเสียหายจริงและเมื่อสอบถามชายคนดังกล่าวก็ให้การเบื้องต้นว่า ตัวเองไม่อยากจะเลือกบุคคลใดเป็นนายก อบจ. เชียงราย จึงไม่รู้จะกากบาทลงในช่องหมายเลขของผู้สมัครคนใด ดังนั้นจึงตัดสินใจฉีกทิ้ง
ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่าการกระทำดังกล่าวถือว่าไม่ถูกต้องจึงได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางบัตรที่เสียหายนำส่ง สภ.แม่จัน เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย.

การส่งเสริมการใช้สิทธิเลือกตั้ง

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายยังกล่าวถึงความสำคัญของการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยเน้นย้ำว่า “การเลือกตั้งเป็นโอกาสของประชาชนในการเลือกผู้นำท้องถิ่น ซึ่งเป็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตย โดยประชาชนมีสิทธิ์ในการตัดสินใจเลือกผู้นำที่พวกเขาต้องการ” เขากล่าวต่อไปว่า การใช้สิทธิเลือกตั้งไม่เพียงแต่เป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบในฐานะพลเมือง แต่ยังเป็นการส่งเสริมการพัฒนาในระดับท้องถิ่นอีกด้วย

บทสรุป

การเลือกตั้ง ส.อบจ. และนายก อบจ.เชียงรายในปี 2568 เป็นการเลือกตั้งที่สำคัญ โดยมีประชาชนทยอยออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งตั้งแต่เช้า บรรยากาศโดยรวมเป็นไปอย่างเรียบร้อยและราบรื่น แม้จะมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นในบางหน่วยเลือกตั้ง แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว การเลือกตั้งในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนในการเลือกผู้นำท้องถิ่นที่จะเป็นตัวแทนในการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

องค์มนตรีติดตามโครงการพระราชดำริที่เชียงราย

องค์มนตรีติดตามโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยโป่งแงะในเชียงราย

เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2568 นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะที่โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยโป่งแงะอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอเชียงของ โดยมีนายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และนายอุดม ปกป้องบวรกุล นายอำเภอเชียงของ ร่วมให้การต้อนรับ

การเยี่ยมชมในครั้งนี้เกิดขึ้นเพื่อติดตามผลการดำเนินงานของโครงการที่มีความสำคัญในด้านการพัฒนาชุมชนและการเกษตรกรรมในพื้นที่ โดยองค์มนตรีได้เยี่ยมชมผลผลิตและผลิตภัณฑ์จากราษฎรในพื้นที่โครงการ พร้อมกับทำการปล่อยปลากระแห จำนวน 2,000 ตัว ปลานวลจันทร์ 500 ตัว และปลาบึก 19 ตัว ในแหล่งน้ำของหมู่บ้าน เพื่อนำไปสนับสนุนกิจกรรมการประมงในพื้นที่

พื้นที่โครงการและความสำคัญของโครงการ

อำเภอเชียงของ ตั้งอยู่ที่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดเชียงราย เป็นพื้นที่ชายแดนที่มีอาณาเขตติดต่อกับเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีแม่น้ำโขงเป็นเส้นกั้นระหว่างประเทศ โดยอำเภอเชียงของมีพื้นที่ปกครองแบ่งออกเป็น 7 ตำบล 102 หมู่บ้าน มีประชากรประมาณ 64,000 คน ซึ่งประกอบอาชีพเกษตรกรรมและประมง

อำเภอเชียงของมีความสำคัญในด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากเป็นพื้นที่ปลายทางของรถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และตั้งอยู่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษแม่สาย เชียงแสน เชียงของ ซึ่งตำแหน่งนี้ถือเป็น “Logistic City” ที่สำคัญของประเทศ นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นการพัฒนาสังคมและชุมชนควบคู่กับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยโป่งแงะและประโยชน์ที่ได้รับ

โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยโป่งแงะอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่ตั้งอยู่ในตำบลห้ายซ้อ หมู่บ้านเวียหมอก เป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ที่มีประชากร 336 ครัวเรือน หรือประมาณ 2,036 คน ซึ่งเป็นหมู่บ้านหลักที่ได้รับประโยชน์จากอ่างเก็บน้ำนี้ ประชาชนในพื้นที่ใช้ประโยชน์จากน้ำในอ่างเก็บน้ำในการทำการเกษตรกรรม ทั้งการปลูกพืชผัก ทำไร่ ทำนา และทำสวน ผลกระทบจากโครงการนี้ได้ส่งผลให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้นอย่างมาก

ในปีที่ผ่านมา ส่วนราชการ ภาคเอกชน และชุมชนได้ร่วมกันเพิ่มพื้นที่สีเขียวในพื้นที่โดยการปลูกป่าและต้นไม้ในโครงการต่างๆ เช่น โครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติในวันที่ 29 กรกฎาคม 2564 และโครงการปลูกป่าลดก๊าซเรือนกระจกร่วมกับกรมป่าไม้และบริษัทต่างๆ ซึ่งจะช่วยลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในอนาคต

โครงการปลูกป่าลดก๊าซเรือนกระจก

ในปี 2564 โครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติในหมู่บ้านเวียหมอกได้ปลูกต้นไม้รวม 1,000 ต้น เช่น ต้นขี้เหล็ก มะขามป้อม ต้นเสี้ยวขาว และต้นพะยุง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการสร้างพื้นที่สีเขียวและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ในปี 2565 ได้มีการดำเนินโครงการปลูกป่าลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจร่วมกับกรมป่าไม้และบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) โดยการปลูกป่าบนพื้นที่ 140.21 ไร่ และจะมีการดำเนินการต่อเนื่องจนถึงปี พ.ศ. 2574 ในปี 2567 มีโครงการปลูกป่าลดก๊าซเรือนกระจกเพิ่มเติมกับบริษัทเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) บนพื้นที่ 144.38 ไร่ ซึ่งจะเสร็จสิ้นในปี พ.ศ. 2576

บทสรุป

โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยโป่งแงะอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่ตั้งอยู่ในอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ได้สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชนในด้านการเกษตรและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยการใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำในการเกษตรกรรมและการพัฒนาพื้นที่สีเขียวผ่านโครงการปลูกป่าลดก๊าซเรือนกระจก นอกจากนี้ การมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่างๆ ทั้งรัฐบาล ภาคเอกชน และชุมชนได้ช่วยสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนและตรงตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ตรวจราชการ มทบ.37 เชียงราย พร้อมรับมือภัยพิบัติ

มณฑลทหารบกที่ 37 ต้อนรับคณะกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติราชการของกระทรวงกลาโหม

เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2568 ที่มณฑลทหารบกที่ 37 (มทบ.37) ค่ายเม็งรายมหาราช จังหวัดเชียงราย พล.ต.บุญญฤทธิ์ เกษตรเวทิน ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 มอบหมายให้ พ.อ.ไพโรจน์ ยะวิญชาญ รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 ให้การต้อนรับ พล.อ.จิรวิทย์ เดชจรัสศรี เจ้ากรมจเรทหารทั่วไป/ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติราชการของกระทรวงกลาโหม และคณะ ในโอกาสลงพื้นที่ตรวจสอบการปฏิบัติราชการของหน่วยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย

ตรวจเยี่ยมศูนย์บรรเทาสาธารณภัย

พล.อ.จิรวิทย์ และคณะได้ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มทบ.37 โดยเน้นตรวจสอบความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์อุทกภัยและดินโคลนถล่มในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ทั้งนี้ ทาง มทบ.37 ได้รายงานการดำเนินการในสถานการณ์ภัยพิบัติต่าง ๆ และแสดงศักยภาพของอุปกรณ์ เครื่องมือ และยุทโธปกรณ์ที่ใช้ในการบรรเทาสาธารณภัย รวมถึงแผนปฏิบัติการในกรณีฉุกเฉิน

ชมการฝึกดับไฟป่าและแสดงความพร้อมของทหารกองประจำการ

ภายหลังการตรวจเยี่ยมศูนย์บรรเทาสาธารณภัย คณะของ พล.อ.จิรวิทย์ ได้รับชมการสาธิตการฝึกดับไฟป่าของทหารกองประจำการ ซึ่งเป็นการแสดงถึงความพร้อมในการรับมือกับปัญหาไฟป่าที่เป็นปัญหาสำคัญในพื้นที่จังหวัดเชียงราย นอกจากนี้ยังได้ตรวจสอบมาตรการและอุปกรณ์ที่ใช้ในการดับไฟป่า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมสร้างศักยภาพและความพร้อมของกำลังพลในการรับมือกับภัยธรรมชาติ

กระชับความร่วมมือเพื่อประสิทธิภาพในการช่วยเหลือประชาชน

พล.อ.จิรวิทย์ ได้กล่าวชื่นชมการดำเนินงานของ มทบ.37 ที่สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเน้นย้ำความสำคัญของการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานในพื้นที่ ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอุทกภัย ดินโคลนถล่ม หรือไฟป่า

ผลการปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

จากการตรวจสอบการปฏิบัติราชการในพื้นที่จังหวัดเชียงรายครั้งนี้ พล.อ.จิรวิทย์ และคณะ ได้รับรายงานและแสดงความพึงพอใจกับผลการดำเนินงานของ มทบ.37 ที่มีการเตรียมความพร้อมและดำเนินการตามแผนอย่างเป็นระบบ พร้อมทั้งขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ร่วมมือกันอย่างเต็มที่

กิจกรรมในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ มทบ.37 และกองทัพไทยในการเสริมสร้างความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ พร้อมแสดงศักยภาพของกองทัพในการรับมือกับภัยพิบัติและสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงราบนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงรายจัด Big Day เชิญชวนประชาชนใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ.

กิจกรรมรณรงค์เชิญชวนใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิก อบจ. เชียงราย พร้อมกันทั่วจังหวัด

เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2568 ณ ลานธรรม ลานศิลป์ ถิ่นพญามังราย (ศาลากลางจังหวัดเชียงรายหลังแรก) ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย นายรุจติศักดิ์ รังสี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์เชิญชวนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง (Big Day) สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด โดยมีนายรามิล พัฒนมงคลเชฐ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ นักเรียน นักศึกษา และกลุ่มพลังมวลชนกว่า 800 คน เข้าร่วมงานเพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นการมีส่วนร่วมในการเลือกตั้ง

การจัดกิจกรรมครั้งนี้สอดคล้องกับเป้าหมายของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่มุ่งหวังให้ผู้มีสิทธิออกมาใช้สิทธิเพิ่มขึ้น โดยตั้งเป้าหมายการใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างน้อยร้อยละ 75 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง รวมถึงส่งเสริมความโปร่งใสในการเลือกตั้ง ด้วยการไม่ขายสิทธิ ไม่ซื้อเสียง และปฏิบัติตามกฎหมายเลือกตั้งอย่างเคร่งครัด

การจัดกิจกรรมสร้างการมีส่วนร่วม

ในงานรณรงค์ครั้งนี้ ได้มีการจัดขบวนพาเหรดและกิจกรรมเพื่อกระตุ้นความสนใจของประชาชน ได้แก่

  1. ขบวนพาเหรดวงโยธวาทิต
    โดยวงโยธวาทิตจากโรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ร่วมสร้างบรรยากาศด้วยเสียงเพลงปลุกเร้าความสนใจ
  2. ขบวนนักเรียนและนักศึกษา
    กลุ่มนักเรียนจากโรงเรียนสามัคคีวิทยาคม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย และสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดเชียงราย รวมถึงศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอเมืองเชียงราย ร่วมเดินขบวนประชาสัมพันธ์
  3. ขบวนผู้นำชุมชนและพลังมวลชน
    กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และกลุ่มผู้นำชุมชนในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงราย เข้าร่วมกิจกรรมอย่างคึกคัก เพื่อแสดงพลังของประชาชนที่พร้อมออกมาใช้สิทธิ

วัตถุประสงค์ของกิจกรรม

นายรามิล พัฒนมงคลเชฐ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์สำคัญ ดังนี้:

  1. กระตุ้นการรับรู้
    เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด
  2. ส่งเสริมความโปร่งใส
    รณรงค์ให้ประชาชนปฏิเสธการขายสิทธิ และปฏิบัติตามกฎหมายเลือกตั้งอย่างถูกต้อง
  3. สร้างการมีส่วนร่วมทางการเมือง
    กระตุ้นให้ประชาชนในทุกภาคส่วนเข้ามามีบทบาทและมีส่วนร่วมในการพัฒนาท้องถิ่น

กิจกรรมพร้อมกันใน 18 อำเภอ

กิจกรรม Big Day ครั้งนี้จัดขึ้นพร้อมกันใน 18 อำเภอทั่วจังหวัดเชียงราย โดยมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อสร้างการตระหนักรู้ในวงกว้าง และกระตุ้นให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิในวันเลือกตั้ง 1 กุมภาพันธ์ 2568

นายรุจติศักดิ์ รังสี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวในพิธีเปิดว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญของประชาชนในการเลือกบุคคลที่เหมาะสมเข้ามาบริหารจังหวัดเชียงราย และหวังว่าการรณรงค์ในครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิของตนเองอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างอนาคตที่ดียิ่งขึ้นให้กับจังหวัดเชียงราย

ข้อมูลเสริม:

สำหรับผู้มีสิทธิเลือกตั้งในจังหวัดเชียงราย สามารถตรวจสอบหน่วยเลือกตั้งและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย หรือผ่านช่องทางออนไลน์ของ กกต.

การเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการส่งเสริมประชาธิปไตยและการพัฒนาท้องถิ่น ขอเชิญชวนประชาชนทุกคนออกมาใช้สิทธิของตนเอง เพื่อร่วมสร้างอนาคตที่ดียิ่งขึ้นสำหรับจังหวัดเชียงราย.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News