Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

‘เซ็นทรัลเชียงราย’ ร่วมอนุรักษ์ประเพณีวันเข้าพรรษา จัดกิจกรรมแห่เทียนเข้าพรรษา

 

เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2567 คุณสายัณห์ นักบุญ ผู้อำนวยการ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และพนักงานจิตอาสาจากศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย ได้ร่วมกันจัดกิจกรรม “แห่เทียนเข้าพรรษา” ณ วัดร่องธาร ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย เพื่อส่งเสริมและอนุรักษ์ประเพณีอันดีงามของไทยให้คงอยู่สืบไป โดยมีกิจกรรมการถวายเทียนพรรษา, เครื่องสังฆทาน, หลอดไฟ, เจลล้างมือ และน้ำดื่ม นอกจากนี้ยังได้ร่วมถวายภัตตาหารเพล แก่พระสงฆ์จำนวน 7 รูป

การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ไม่เพียงแค่เป็นการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมประเพณีวันเข้าพรรษาเท่านั้น แต่ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อให้พนักงานได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และส่งเสริมประเพณีไทย รวมทั้งเป็นการปลูกฝังขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่นให้คงอยู่ต่อไป

วัดร่องธาร ซึ่งเป็นสถานที่จัดกิจกรรมนี้ ตั้งอยู่ในตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โดยได้รับความร่วมมือจากคณะผู้บริหารและพนักงานของศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย ได้มีการเตรียมงานและจัดหาสิ่งของที่จำเป็นในการถวายพระสงฆ์อย่างครบถ้วน

กิจกรรมดังกล่าวนอกจากจะเป็นการอนุรักษ์ประเพณีวันเข้าพรรษาและวันอาสาฬหบูชาแล้ว ยังเป็นการสร้างสำนึกให้กับพนักงานในเรื่องของการรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชน การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ได้รับการตอบรับและความสนใจจากพนักงานและชุมชนในพื้นที่เป็นอย่างดี

การแห่เทียนเข้าพรรษาถือเป็นประเพณีที่สำคัญของคนไทยที่ปฏิบัติกันมาอย่างยาวนาน เป็นการถวายความสว่างไสวให้กับพระสงฆ์ในการศึกษาพระธรรมและปฏิบัติธรรมในช่วงฤดูฝน นอกจากนี้ยังเป็นการทำบุญที่ส่งเสริมความสามัคคีและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางศาสนาและวัฒนธรรมของชุมชน

ในปีนี้ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย คาดหวังว่ากิจกรรมนี้จะเป็นการสร้างความตระหนักรู้ในเรื่องของวัฒนธรรมประเพณี และเป็นแรงบันดาลใจให้กับพนักงานในการทำงานและมีส่วนร่วมในกิจกรรมสังคมต่อไป

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
NEWS UPDATE

รัฐบาลเชิญชวนคนไทย ลด ละ เลิกเหล้าเข้าพรรษา สร้างภูมิคุ้มกันร่างกาย

วันที่ 31 กรกฎาคม 2566 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  เนื่องด้วยวันเข้าพรรษาของทุกปี เป็นวันงดดื่มสุราแห่งชาติ ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 2 ส.ค. 66 กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาคประชาสังคมและเครือข่ายงดเหล้า จัดกิจกรรมเพื่อรณรงค์ให้คนไทย ลด ละ เลิกการดื่มแอลกอฮอล์ ภายใต้คำขวัญ “ไกลเหล้า ไกลโรค ไกลอุบัติเหตุ”
 
ในโอกาสนี้ รัฐบาลจึงขอเชิญคนไทยทุกคนร่วมลด ละ เลิก เหล้า หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดตลอดเทศกาลเข้าพรรษาที่จะมาถึง ให้ช่วงเวลานี้เป็นจุดเริ่มต้นในการดูแลสุขภาพ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคร้ายต่างๆ  ซึ่งข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก ระบุว่าทุกปีทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากพิษของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ประมาณ 3 ล้านคน และเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคมากกว่า 230 ชนิด  นอกจากนี้ ยังช่วยลดโอกาสที่เกิดความสูญเสียกับครอบครัวและสังคมโดยรวมจากอุบัติเหตุ ที่นำมาซึ่งการบาดเจ็บ พิการ หรือเสียชีวิตก่อนวัยอันควรซึ่งไม่สามารถประเมินเป็นมูลค่าความเสียหายได้
 
 น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า การลด ละ เลิก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังช่วยลดรายจ่ายภาคครัวเรือนได้มาก ซึ่งข้อมูลจากศูนย์วิจัยปัญหาสุรา ด้านพฤติกรรมการดื่มสุราของประชากรไทย ปี 65 ระบุว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แนวโน้มค่าใช้จ่ายในการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 64 เหล่านักดื่มต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดื่มเพิ่มขึ้นจากในปี 60 เกือบ 2 เท่า โดยผู้ดื่มหนักเป็นประจำ มีค่าใช้จ่ายการดื่มสุราเฉลี่ยสูงถึง 3,722 บาทต่อเดือน
 
ทั้งนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลได้มีแนวนโยบายที่เกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้มีความสมดุลระหว่างมิติทางเศรษฐกิจ และมิติของสังคม โดยมิติทางเศรษฐกิจนั้นได้มีกฎกระทรวงที่ลดข้อจำกัดทางกฎระเบียบการอนุญาตให้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่เดือนพ.ย.65 เพื่อประโยชน์ในการรักษาภูมิปัญญาท้องถิ่น และลดการผูกขาดทางการตลาด แต่ขณะเดียวกันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้มีการขับเคลื่อนให้มีการบังคับใช้ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 เพื่อจำกัดไม่ให้กิจกรรมที่มาจากการแข่งขันทางธุรกิจกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมการดื่มที่มากขึ้น
 
ตลอดจนขับเคลื่อนการรณรงค์เพื่อสร้างความรอบรู้ผลกระทบต่อสุขภาพที่มาจากการดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งทางตรงและทางอ้อมให้ประชาชนอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนที่ต้องเน้นการป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ เช่น ควบคุมจุดจำหน่าย ความหนาแน่นของร้านค้า การกำหนดโซนนิ่ง เป็นต้น

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักนายกรัฐมนตรี

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News