Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

หอมหัวใหญ่ถูก เชียงรายหาทางออก พยุงราคาเกษตรกร

ผู้ว่าฯ เชียงรายเร่งแก้ราคาหอมหัวใหญ่ตกต่ำ จับมือพาณิชย์ดันราคาสู่ความยั่งยืน

ปัญหาหอมหัวใหญ่ราคาตกต่ำสะเทือนเกษตรกรเชียงราย

เชียงราย,วันที่ 26 มีนาคม 2568 – ห้องประชุมเวียงกาหลง ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย มีการจัดประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาเกษตรกรระดับจังหวัด ครั้งที่ 1/2568 โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงราย นำโดย นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม

หนึ่งในวาระหลักของการประชุมคือ การหารือแนวทางแก้ไขปัญหาราคาหอมหัวใหญ่ตกต่ำ ซึ่งเป็นผลผลิตทางการเกษตรสำคัญของอำเภอเวียงป่าเป้า ที่กำลังเข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวและออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก

แนวทางการแก้ไขปัญหาด้านราคาแบบเร่งด่วน

เกษตรกรผู้ปลูกหอมหัวใหญ่ในปีการผลิต 2567/68 ได้ร้องเรียนเรื่องราคาผลผลิตตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง จึงเสนอให้ภาครัฐเร่งหามาตรการช่วยเหลือ ซึ่งที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้ บริหารจัดการผลผลิตในช่วง 2 สัปดาห์แรกที่ผลผลิตออกสู่ตลาด ด้วยการกระจายผลผลิตไปยังผู้บริโภคภายในจังหวัด

โดยกำหนดราคาขายอยู่ที่ 12 บาทต่อกิโลกรัม พร้อมตั้งเป้าหมายกระจายผลผลิตจำนวน 271 ตัน ขณะเดียวกันกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน จะเข้ามารับซื้อเพิ่มอีก 500 ตัน รวมผลผลิตที่ได้รับการบริหารทั้งหมดอยู่ที่ 751 ตัน

การสนับสนุนจากภาครัฐเพื่อรักษาเสถียรภาพราคา

แผนงานดังกล่าวมุ่งหวังให้สามารถ ดึงผลผลิตออกจากระบบตลาดส่วนหนึ่ง เพื่อพยุงราคาซื้อขายของหอมหัวใหญ่ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับต้นทุนของเกษตรกร ช่วยลดแรงกดดันและป้องกันไม่ให้ราคาตกต่ำลงไปกว่านี้

ในที่ประชุมยังได้หารือการขอรับสนับสนุนงบประมาณจาก กองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) โดยเสนอในโครงการเชื่อมโยงการกระจายผลผลิตออกนอกพื้นที่แหล่งผลิต-

ขยายแผนช่วยเหลือสินค้าเกษตรอื่น

ไม่เพียงแต่หอมหัวใหญ่เท่านั้น ที่ประชุมยังได้ติดตามความเคลื่อนไหวของสินค้าเกษตรอื่นในพื้นที่ อาทิ ลิ้นจี่ฮงฮวย สับปะรด และลำไย ซึ่งกำลังจะออกสู่ตลาดในเร็ว ๆ นี้ โดยมีมติให้เร่งเสนอแผนเพื่อรองรับสถานการณ์ราคาตกต่ำที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

โครงการกระจายผลผลิตเหล่านี้จะช่วยให้เกษตรกรมีช่องทางระบายสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงที่เกิดจากตลาดผันผวน

เสียงสะท้อนจากเกษตรกรในพื้นที่

ตัวแทนเกษตรกรอำเภอเวียงป่าเป้า ได้แสดงความพึงพอใจกับแผนการของจังหวัดที่มุ่งเน้นช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรม พร้อมเรียกร้องให้มีการดำเนินการอย่างรวดเร็ว เนื่องจากผลผลิตหอมหัวใหญ่เริ่มทะยอยเข้าสู่ตลาดแล้ว

ในขณะเดียวกัน เกษตรกรบางรายยังมีความกังวลเรื่องต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ทั้งค่าปุ๋ย ยาฆ่าแมลง และแรงงาน ซึ่งยังไม่ได้รับการเยียวยาโดยตรงจากโครงการนี้

ความเห็นจากฝ่ายราชการ

ฝ่ายราชการยืนยันว่าทางจังหวัดพร้อมทำงานเชิงรุก ร่วมกับหน่วยงานระดับชาติ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดต่อเกษตรกร โดยตั้งเป้าจะประเมินผลของมาตรการในช่วง 2 สัปดาห์ เพื่อวางแผนระยะกลางและยาว

นอกจากนี้ จังหวัดเชียงรายจะพัฒนาระบบข้อมูลการผลิตและการตลาดให้แม่นยำมากขึ้น เพื่อใช้เป็นแนวทางวางแผนการผลิตในฤดูกาลถัดไป ลดความเสี่ยงจากปัญหาซ้ำซาก

สรุปภาพรวมสถานการณ์และทิศทางในอนาคต

สถานการณ์ราคาหอมหัวใหญ่ตกต่ำในปี 2568 ถือเป็น บททดสอบสำคัญ ของทั้งเกษตรกรและหน่วยงานภาครัฐในการทำงานเชิงระบบ โดยการบริหารจัดการผลผลิตในระยะสั้นร่วมกับแผนระยะยาวน่าจะเป็นคำตอบที่ช่วยพยุงเศรษฐกิจฐานรากได้

อย่างไรก็ตาม การสร้างเสถียรภาพให้กับภาคเกษตรต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งด้านนโยบายการค้า การเงิน และการส่งเสริมความรู้ให้แก่เกษตรกร

สถิติและข้อมูลอ้างอิง

  • ราคาหอมหัวใหญ่ ณ เดือนมีนาคม 2568 เฉลี่ยอยู่ที่ 6-8 บาท/กิโลกรัม (แหล่งข้อมูล: กรมการค้าภายใน)
  • ต้นทุนเฉลี่ยของการปลูกหอมหัวใหญ่ในภาคเหนือ อยู่ที่ประมาณ 7.50 บาท/กิโลกรัม (แหล่งข้อมูล: สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร)
  • ผลผลิตหอมหัวใหญ่จังหวัดเชียงราย ปี 2567/68 คาดการณ์ไว้ที่กว่า 10,000 ตัน (แหล่งข้อมูล: สำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงราย)

ทัศนคติที่เป็นกลางจากทั้งสองฝ่าย

ฝ่ายเกษตรกร มองว่ามาตรการช่วยเหลือที่ออกมายังไม่ครอบคลุมต้นทุนที่แท้จริง แต่ก็เป็นก้าวแรกที่น่ายินดี ขณะที่ ฝ่ายภาครัฐ เห็นว่าต้องอาศัยเวลาปรับตัว และย้ำว่ารัฐบาลไม่ทอดทิ้งเกษตรกร พร้อมเดินหน้าสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง

ความร่วมมือที่แท้จริงจะเกิดขึ้นได้เมื่อมี การรับฟังซึ่งกันและกัน และดำเนินการอย่างต่อเนื่องโดยยึดเกษตรกรเป็นศูนย์กลาง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

พาณิชย์ลงพื้นที่ช่วยเกษตรกรขายสับปะรด-หอมใหญ่

รมว.พาณิชย์ ติดตามโครงการชูใจ วัยเก๋า 60+ เยี่ยมตลาดล้านเมือง เชียงราย

เชียงราย, 12 กุมภาพันธ์ 2568 – นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำคณะลงพื้นที่ตลาดล้านเมือง จังหวัดเชียงราย เพื่อติดตามโครงการ “ชูใจ วัยเก๋า 60+” ซึ่งเป็นโครงการที่สนับสนุนให้ผู้สูงอายุสามารถใช้เงินช่วยเหลือจากรัฐบาลเพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคภายในตลาด โดยมีบรรยากาศการจับจ่ายที่คึกคักจากประชาชนและผู้สูงวัยที่ได้รับเงินช่วยเหลือจำนวน 10,000 บาทจากรัฐบาล

รมว.พาณิชย์ลงพื้นที่ ตรวจสอบราคาสินค้า และพบปะประชาชน

นายพิชัย พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ อาทิ นายคุณากร ปรีชาชนะชัย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน ได้รับการต้อนรับจาก นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และ นายไพโรจน์ หาญพิทักษ์วงศ์ ผู้จัดการตลาด พร้อมทั้งพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนจำนวนมากที่เดินทางมาจับจ่ายใช้สอยภายในตลาด

รมว.พาณิชย์ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบราคาสินค้าในตลาด โดยเฉพาะสินค้าสด เช่น ผักสด ผลไม้ และเนื้อสัตว์ เพื่อให้มั่นใจว่าประชาชนสามารถซื้อสินค้าได้ในราคาที่เป็นธรรม นอกจากนี้ ยังมีการพูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนเกี่ยวกับผลกระทบด้านเศรษฐกิจและนโยบายช่วยเหลือผู้สูงอายุจากภาครัฐ

กระทรวงพาณิชย์หนุนเกษตรกร รับซื้อหอมหัวใหญ่-สับปะรดภูแล

นอกจากการติดตามโครงการ “ชูใจ วัยเก๋า 60+” แล้ว นายพิชัยยังได้ตรวจสอบสถานการณ์การจำหน่ายหอมหัวใหญ่และสับปะรดภูแล ซึ่งเป็นสินค้าทางการเกษตรที่สำคัญของภาคเหนือ โดยกรมการค้าภายในได้ประสานความร่วมมือกับภาคเอกชน 23 ราย เช่น Tops, Go Wholesale, The Mall, Makro, Lotus’s, Big C รวมถึงสถานีบริการน้ำมัน PT, OR, Bangchak, Shell และ Susco เพื่อรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรในพื้นที่เชียงราย เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน

ปล่อยขบวนคาราวาน 60 ตัน ขยายตลาดสับปะรดภูแลสู่ต่างประเทศ

ภายในงาน กระทรวงพาณิชย์ยังได้จัดกิจกรรมปล่อยขบวนคาราวานสินค้าสับปะรดภูแลจำนวน 60 ตัน เพื่อนำไปแปรรูปและส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และจีน ขณะที่การรับซื้อหอมหัวใหญ่เริ่มต้นจากสหกรณ์ผู้ปลูกหอมหัวใหญ่บ้านกาดพัฒนา อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 100 ตัน และจะทยอยรับซื้อเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง

แนวทางบริหารจัดการผลผลิตเกษตรกรไทย

กระทรวงพาณิชย์สั่งการให้กรมการค้าภายในติดตามและประเมินสถานการณ์การผลิตและการตลาดของหอมหัวใหญ่และสับปะรดภูแลร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเร่งกระจายผลผลิตออกนอกพื้นที่ ผ่านร้านธงฟ้า โมบายธงฟ้า และช่องทางค้าปลีกต่างๆ เพื่อป้องกันปัญหาราคาตกต่ำและสร้างรายได้ที่มั่นคงให้แก่เกษตรกร

สับปะรดภูแลและหอมหัวใหญ่ ออกสู่ตลาดช่วงใด?

  • สับปะรดภูแล : ออกสู่ตลาดมากช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน และธันวาคม-กุมภาพันธ์
  • หอมหัวใหญ่ : ออกสู่ตลาดมากช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม

สรุป

การลงพื้นที่ของ รมว.พาณิชย์ครั้งนี้ สะท้อนถึงความพยายามของรัฐบาลในการช่วยเหลือทั้งผู้บริโภคและเกษตรกร โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุและเกษตรกรผู้ปลูกหอมหัวใหญ่และสับปะรดภูแล ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและภาคเอกชนในการขยายตลาดและรับซื้อผลผลิตอย่างต่อเนื่อง นโยบายดังกล่าวคาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากและสร้างเสถียรภาพทางการตลาดให้กับสินค้าการเกษตรในพื้นที่ภาคเหนือของไทย

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

  1. โครงการชูใจ วัยเก๋า 60+ คืออะไร?โครงการนี้เป็นโครงการสนับสนุนผู้สูงอายุที่ได้รับเงินช่วยเหลือ 10,000 บาทจากรัฐบาล ให้สามารถนำไปใช้ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคในตลาดต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการ

 

  1. ทำไมกระทรวงพาณิชย์ถึงสนับสนุนการรับซื้อสับปะรดภูแลและหอมหัวใหญ่?เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้สามารถขายผลผลิตได้ในราคาที่เหมาะสม และป้องกันปัญหาผลผลิตล้นตลาด

 

  1. ตลาดล้านเมืองมีจุดเด่นอะไร?ตลาดล้านเมืองเป็นตลาดกลางที่ได้รับการส่งเสริมจากกรมการค้าภายใน มีสินค้าสดที่มีคุณภาพและราคายุติธรรม

 

  1. ขบวนคาราวานสินค้าสับปะรดภูแลคืออะไร?เป็นโครงการที่ช่วยส่งออกและกระจายสับปะรดภูแลไปยังตลาดต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และจีน

 

  1. สับปะรดภูแลและหอมหัวใหญ่ออกสู่ตลาดช่วงใด?สับปะรดภูแลออกสู่ตลาดมากช่วงเมษายน-มิถุนายน และธันวาคม-กุมภาพันธ์ ส่วนหอมหัวใหญ่ออกสู่ตลาดมากช่วงกุมภาพันธ์-มีนาคม

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE