Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

ผู้ว่าฯ เชียงราย สั่งเร่งกวาดล้างร้านค้า ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า

 

เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2567 เวลา 12.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ภายใต้การอำนวยการของ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายบัลลังก์ ไวทย์ศิริ ปลัดจังหวัดเชียงราย นายบุญส่ง ตินารี นายอำเภอเมืองเชียงราย พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย และ พ.ต.อ.โสภณ ม่วงเฟื่อง ผกก.สภ.เมืองเชียงรายได้สั่งการให้ฝ่ายปกครองร่วมกับตำรวจ นำโดยนายกองรบ กระทุ่มนัด ป้องกันจังหวัดเชียงราย ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดเชียงราย สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดเชียงรายที่ 1 ปลัดอำเภอเมืองเชียงราย สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอเมืองเชียงรายที่ 3 ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ออกปราบปรามร้านลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ให้แก่เด็กและเยาวชน

 

ทั้งนี้ เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครอง บุคลากรทางการศึกษา และประชาชนมาเป็นจำนวนมาก ว่ามีร้านลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงราย มีการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าให้กับเด็กและเยาวชน รวมถึงประชาชนทั่วไปโดยมีการบริการขายทั้งหน้าร้านและออนไลน์โดยมีการส่งของผ่านไรเดอร์ ซึ่งมีการเปิดขายเป็นจำนวนมาก

 

ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มีการสืบทราบว่ามีร้านลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงราย จำนวน 2 ร้าน ซึ่งทั้ง 2 ร้านมีการติดฟิล์มสีขาวขุ่นอำพรางไม่ให้มีการมองจากข้างนอกเข้าไปเห็นในบริเวณด้านใน และ 1 ใน 2 ร้าน มีการวางน้ำหอม ตั้งโชว์บริเวณหน้าตู้กระจก แต่จะเก็บบุหรี่ไฟฟ้าไว้ในลิ้นชักเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ และมีกล้องวงจรปิดรอบทิศทางเพื่อดูสถานการณ์จากภายนอก แต่ผู้ซื้อจะรู้กันภายในกลุ่มไลน์ เฟสบุ๊ค หรือสื่อสังคมต่างๆ ทั้งยังพบในร้านมีการแจกคูปองเพื่อไว้ให้ลูกค้าลุ้นรางวัลด้วย

 

โดย เจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบทราบแล้วว่าทั้ง 2 ร้านมีการขายบุหรี่ไฟฟ้าจริง จึงวางแผนเข้าทำการจำกุมทั้ง 2 ร้านพร้อมกัน  ในพื้นที่ ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย พบผู้ต้องหา 2 คนแสดงตัวเป็นผู้ดูแล 2.ร้าน บ้านควันหอม ตั้งอยู่ที่ 66/23 หมู่ 11 ตำบลสันทราย อำเภอเมืองเชียงราย พบผู้ต้องหา 1 คนแสดงตัวเป็นผู้ดูแล

 

จากการตรวจสอบภายในร้านทั้ง 2 ร้านพบบุหรี่ไฟฟ้า อุปกรณ์ น้ำยา และอุปกรณ์อื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งสินค้าที่ตรวจยึดได้ของทั้ง 2 ร้าน มูลค่ารวมกันหลายแสนบาท โดยจำแนกเป็น 1. เครื่องบุหรี่ไฟฟ้าชนิดเปลี่ยนหัวน้ำยา จำนวน 15 เครื่อง 2. หัวพอตน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 522 ชิ้น 3. บุหรี่ไฟฟ้าใช้แล้วทิ้ง จำนวน 382 ชิ้น 4. น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 25 ชิ้น 5. คอร์ยบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 71 ชิ้น และจากการตรวจสอบการรับจ่ายเงินหรือเงินหมุนเวียนภายในร้าน พบแต่ละร้านมีรายได้ต่อวันตั้งแต่วันละ 10,000 – 40,000 บาทต่อวัน หรือตกเดือนละประมาณ 300,000 – 500,000 บาท ซึ่งจากการสอบถามผู้ดูแลพบ เจ้าของที่แท้จริงจะติดต่อผ่านไลน์และส่งของมาให้ขายจึงไม่ทราบราคาต้นทุนต่อชิ้น และจะขายบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ตั้งแต่ราคาหลักสิบ ถึง หลักพันบาท และระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบจะมีลูกค้ามาใช้บริการตลอดเวลา
 

พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ดูแลทั้ง 3 ราย โดยแจ้งข้อหา 1.ได้มีการซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา 242 ตามมาตรา 246 วรรคแรก แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ประกอบข้อ 4 แห่งประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว หรือ ทั้งจำทั้งปรับ 2. ขายสินค้าบารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า โดยฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า ต้องระวางโทษ โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

อีกทั้งทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

สรงน้ำอนุสาวรีย์พญามังรายมหาราช พร้อมสระเกล้าดำหัวผู้ว่าฯ เชียงราย

 
เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 67  ณ วัดเจ็ดยอด พระอารามหลวง อ.เมืองเชียงราย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นางสุภาเพ็ญ ศิริมาตย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย และประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงราย นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ, นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ , นางอุบลรัตน์ พ่วงภิญโญ และว่าที่ร้อยตรี ศราวุธ จันทวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ร่วมพิธีถวายน้ำสงกรานต์พระเถรานุเถระ เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ( ปี๋ใหม่เมือง ) ประจำปี 2567 โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ และทุกภาคส่วน ร่วมพิธีจำนวนมาก
 
 
ต่อจากนั้น ที่ลานอนุเสาวรีย์พญามังรายมหาราช นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ประธานในพิธี พร้อมด้วย นางสุภาเพ็ญ ศิริมาตย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย และประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงราย และรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นำข้าราชการ ประชาชน ชาวจังหวัดเชียงราย ร่วมพิธีสรงน้ำอนุสาวรีย์พญามังรายมหาราช เนื่องในเทศกาลวันสงกรานต์ปี๋ใหม่เมือง ประจำปี 2567 
 
 
โดยจังหวัดเชียงรายได้จัดขบวนอัญเชิญเครื่องถวายสักการะสรงน้ำพระราชานุสาวรีย์พญามังรายมหาราช จากทั้ง 18 อำเภอของจังหวัดเชียงราย ตลอดจนส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ได้ร่วมจัดขบวนเครื่องสักการะ สืบสานประเพณีปี๋ใหม่เมือง โดยเคลื่อนขบวนจากสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ 2 เชียงราย ผ่านมาตามถนนสิงหไคล ไปยังหน้าพระราชานุสาวรีย์พญามังรายมหาราช ห้าแยกพ่อขุน ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย เพื่อประกอบพิธีสรงน้ำพระราชานุสาวรีย์พญามังรายมหาราช
 
 
โดยในพิธี นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานกล่าวคำสูมาคารวะต่อพระราชานุสาวรีย์พญามังรายมหาราช ก่อนจะถวายเครื่องสักการะ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการจังหวัด อำเภอ คหบดี กลุ่มพลังมวลชน และประชาชนทั่วไปร่วมถวายเครื่องสักการะฯ ตามลำดับอนุสาวรีย์พญามังราย มหาราช สร้างขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติน้อมรำลึกถึงพระเกียรติคุณของปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์พญามังราย ผู้ที่ทรงรวบรวมบ้านเล็กเมืองให้เป็นปึกแผ่น จนเกิดเป็นอาณาจักรล้านนาไทยที่เจริญรุ่งเรืองจนถึงปัจจุบัน
 
 
จากนั้นเวลา 15.30 น. ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยหัวหน้าหน่วยงานราชการ นายอำเภอ คหบดี พ่อค้า ประชาชน กลุ่มพลังมวลชน ร่วมพิธี กล่าวคำสูมาคารวะต่อ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และนางสุภาเพ็ญ ศิริมาตย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงรายและประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงราย เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ (ปี๋ใหม่เมือง) ประจำปี 2567 อย่างพร้อมเพรียง
ทั้งนี้นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวให้พรเพื่อเป็นเป็นสิริมงคล เนื่องด้วยพิธีการดำหัวเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวที เพื่อขอโทษขออภัยที่เคยล่วงเกินผู้ใหญ่ทั้งกาย วาจา ใจ ทั้งที่ตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจ ต่อหน้าหรือลับหลัง รวมถึงเป็นการขอพรจากผู้อาวุโสเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองอีกด้วย
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS SOCIETY & POLITICS

ผู้ว่าฯ เชียงรายนำประชาชน ร่วมทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 73 วันสงกรานต์

 

เมื่อวันที่ 13 เม.ย. 67 ที่สี่แยกสุริวงค์ ถนนธนาลัย ในตัวเมืองเชียงราย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นางสุภาเพ็ญ ศิริมาตย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย และประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงราย นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย นำหัวหน้าส่วนราชการ นักท่องเที่ยว และประชาชนชาวเชียงราย ร่วมกันทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง เพื่อความเป็นสิริมงคลเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ไทย ถือเป็นประเพณีต้อนรับปี๋ใหม่เมือง และเทศกาลสงกรานต์ โดยมีพระรัตนมุนี ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย นำพระสงฆ์ และสามเณร จำนวน 73 รูป ออกรับบิณฑบาตร

 
โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ร่วมกันสรงน้ำพระหลวงพ่อเพชร วัดมิ่งเมืองก่อนอันเชิญขึ้นราชรถบุษบกให้ประชาชนได้สรงน้ำกราบไหว้ขอพร พร้อมมีการนำรูปปั้นองค์พญามังราย ให้ได้ร่วมสรงน้ำกันอีกด้วย จากนั้นขบวนเคลื่อนจากสี่แยกสุริวงค์ ถนนธนาลัย เพื่อให้ประชาชนได้ทำบุญตักบาตร เพื่อเป็นสิริมงคลเนื่องในวันขึ้นศักราชใหม่ ตามความเชื่อของชาวล้านนา และเป็นการอนุรักษ์และสืบทอดประเพณี วิถีชีวิตของชาวเชียงรายด้วย
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

อีก 26 วัน ผู้ว่าเชียงราย สั่งคุมเข้ม ตั้งเป้าให้เกิดจุดฮอตสปอต น้อยที่สุด

 

เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการหมอกควันไฟป่า และ PM 2.5 จังหวัดเชียงราย ครั้งที่ 9/2567 โดยมีนายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ ศูนย์ปฏิบัติการหมอกควันไฟป่า และ PM 2.5 จังหวัดเชียงราย ชั้น1 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย ซึ่งมีนายอำเภอ เจ้าหน้าที่จาก 18 อำเภอ เข้าร่วมประชุมผ่านระบบออนไลน์


ในที่ประชุมได้รายงานสถานการณ์หมอกควันไฟป่า และ PM 2.5 ของจังหวัดเชียงราย ในห้วงที่ผ่านมา และการรายงานการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการดำเนินงานของทั้ง 18 อำเภอ โดยเฉพาะอำเภอที่เกิดจุดความร้อนสูง และอำเภอที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า ทบทวนถึงปัจจัยการเกิดจุดความร้อน จุดความร้อนที่เกิดซ้ำซาก วางแผนการดำเนินการจัดการจุดความร้อนที่ยากต่อการควบคุม วางแผนการทำงานรับมือสถานการณ์ ห้วงเดือนเมษายนนี้
 
 
นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะอำเภอให้ประสานไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานด้านการควบคุมไฟป่า เพิ่มการลาดตระเวน เน้นมาตรการกดดันในพื้นที่เสี่ยง และเฝ้าระวังในเขตรอยต่อ เพื่อป้องกันไฟป่าข้ามแดน เพิ่มความเข้มข้นการปฏิบัติในห้วงเวลาที่เหลือจนถึง 30 เมษายนนี้ พร้อมทั้งจัดกำลังเสริมเข้าไปปฏิบัติงานสนับสนุนเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยง หากได้รับความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินจากการปฏิบัติหน้าที่ ให้อำเภอรวบรวมข้อมูลรายงานมายังจังหวัด 
 
 
โดยด่วน และเน้นย้ำการติดตามประเมินสุขภาพของอาสาดับไฟป่า ให้ผู้ที่มีสภาพร่างกายที่พร้อมเท่านั้น ที่จะเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ อุปกรณ์ป้องกันผู้ปฏิบัติงานดับไฟป่าชองเจ้าหน้าที่ก็ต้องพร้อมเพื่อการปฏิบัติงานที่ปลอดภัย นอกจากยังเน้นย้ำให้ทุกอำเภอ ประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชนได้ทราบถึงช่องทางการรักษาหากได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5
 
 
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ยังได้ให้แนวทางการปฏิบัติ โดยให้นำสถิติของปีที่ผ่านมา มาปรับใช้ในสถานการณ์ปัจจุบัน พร้อมได้เน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนช่วยรักษาสถิติของจังหวัดเชียงราย ซึ่งทำได้ดีในห้วงที่ผ่านมา เน้นให้เกิดจุดฮอตสปอตน้อยที่สุด และให้ลดลงมากกว่า 50% จากปีที่ผ่านมา ซึ่งในปีนี้หากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา พบว่า จังหวัดเชียงรายมีจุดฮอตสปอต ลดลงกว่า 70% โดยขอความร่วมมือประชาชนชาวเชียงราย และทุกภาคส่วน ช่วยกันรักษาและภาคภูมิใจถึงความสมัครสมานสามัคคีในการป้องกันไฟป่าฯ นำไปสู่ความสำเร็จในการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าของจังหวัดเชียงราย ต่อไป
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

ส่วนราชการเชียงรายพร้อมหน้า สืบสานประเพณีไหว้สาพระธาตุดอยตุง ปี 2567

 

เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พร้อมด้วยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำสรงพระธาตุดอยตุง ผ้าไตรพระราชทาน และผ้าห่มพระธาตุพระราชทาน ในโอกาสถวายสักการะครบรอบ “2006 ปี สืบมา หกเป็งล่องฟ้า ไหว้สาพระธาตุดอยตุง” เนื่องในประเพณีนมัสการและสรงน้ำพระธาตุดอยตุง ประจำปี พ.ศ.2567

 

ในช่วงเวลา 7.00 น.ว่าที่ร้อยตรีศราวุธ จันทวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีบวงสรวงพระธาตุดอยตุง โดยมีนายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นำหัวหน้าส่วนราชการ คณะพุทธศาสนิกชน เข้าร่วมพิธี ณ บริเวณพระธาตุดอยตุง  ซึ่งประธานในพิธีฯ นำทุกภาคส่วนปักธูปหางเครื่องบวงสรวง พร้อมโปรยข้าวตอกดอกไม้

 

จากนั้นเวลา 08.00 น. เริ่มขบวนสักการะพระธาตุดอยตุง โดยนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นำข้าราชการเคลื่อนขบวนอัญเชิญเครื่องสักการะหลวง ประกอบด้วย ผ้าห่มพระธาตุ ภัตตาหารเจ ตุงจัย ช้างคู่ พัดจามร สุ่มหมาก สุ่มพลู ต้นผึ้ง และน้ำศักดิ์สิทธิจากน้ำบ่อทิพย์ พร้อมด้วยขบวนตุง ขบวนแห่เครื่องสักการะพระธาตุดอยตุงจาก 18 อำเภอ สภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เทศบาลนครเชียงราย สถานศึกษา และจากหน่วยงานภาคเอกชน จากนั้นนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นางสุภาเพ็ญ ศิริมาตย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย และประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงราย เป็นประธานนำข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย พุทธสมาคมจังหวัดเชียงราย สถานศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และพุทธศาสนิกชน ประกอบพิธีถวายเครื่องราชสักการะหลวง ต่อด้วยพิธีพระพุทธมนต์สืบชะตาหลวงล้านนา

 

จากนั้นนายณรงค์พล คิดอ่าน นายอำเภอแม่สาย อ่านหมายรับสั่งที่ 1332 ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี และนายอภิชาติ ศรีสุวรรณ์ นายอำเภอแม่ฟ้าหลวง อ่านหมายรับสั่งที่ 1410 ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี หลังเสร็จสิ้น ต่อด้วยพิธีสรงน้ำพระธาตุดอยตุง ซึ่งเป็นน้ำทิพย์ที่ผ่านการเจริญชัยมงคลคาถา จากบ่อน้ำทิพย์ พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ลั่นฆ้องชัย 9 ครั้ง และพิธีถวายผ้าไตรพระราชทานแด่พระสงฆ์ ปิดท้ายด้วยพิธีห่มผ้าพระธาตุดอยตุง เป็นอันเสร็จพิธีตามประเพณีที่ได้ปฏิบัติมา

 

 

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

รพ.เชียงรายฯจัดหน่วยตรวจสุขภาพทีมอาสาดับไฟป่า มูลนิธิกระจกเงา

 
เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 67 เวลา 10.00 น. ณ อาคารโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ (โฮงยาไทย2) ศาลากลางจังหวัดเชียงราย (หลังเก่า) นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนายบัลลังก์ ไวทย์ศิริ ปลัดจังหวัดเชียงราย นายครรชิต ชมภูแดง หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงรายนางสาวนันทวรรณ กันคำ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจทีมอาสาดับไฟป่า มูลนิธิกระจกเงา โดยมีแพทย์หญิงอัจฉรา ละอองนวลพานิช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ นำทีมคณะผู้บริหาร คุณหมอ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ เข้าปฏิบัติหน้าที่ และให้การต้อนรับ

 

โดยในวันนี้ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ได้จัดหน่วยให้บริการตรวจสุขภาพกับทีมอาสาดับไฟป่า มูลนิธิกระจกเงา จำนวน 51 คน ซึ่งจะได้ไปช่วยปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าในพื้นที่สูงชัน เข้าถึงลำบาก ซึ่งจำเป็นมีการตรวจสุขภาพ ทั้งการวัดความดัน การตรวจสมรรถภาพปอด (เป่าปอด) และตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เพื่อเป็นการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ปฏิบัติงาน ตามนโยบายผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ทั้งนี้ ได้มอบรองเท้าเซฟตี้สำหรับดับไฟป่าและแกลลอนเปล่าสำหรับใช้บรรจุน้ำดื่ม สำหรับทีมที่ขึ้นไปช่วยดับไฟป่า เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานดับไฟป่าของมูลนิธิกระจกเงา

 

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ต้องขอบคุณชาวเชียงรายทุกคนที่ร่วมมือกันงดเผาในพื้นที่โล่งทุกชนิดจนทำให้จังหวัดเชียงรายตั้งแต่ในช่วงที่มีประกาศห้ามเผา (ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ จนถึงวัน) พบจุดความร้อนน้อยที่สุดในจังหวัดภาคเหนือตอนบน และขอขอบคุณทีมอาสาดับไฟป่าทุกทีมที่เข้าพื้นที่เพื่อเสริมศักยภาพภารกิจดับไฟป่าทุกคน พร้อมย้ำให้ผู้ปฏิบัติงานทุกคนต้องใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติงาน ชีวิตและความปลอดภัยสุขภาพร่างกายของผู้ปฏิบัติงานต้องมาก่อน ต้องมีการตรวจสุขภาพร่างกายทุกครั้งทั้งก่อนและหลังปฏิบัติงาน เพื่อเป็นการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ปฏิบัติงานหากร่างกายไม่พร้อมก็ต้องงดลงพื้นที่ดับไฟป่าเพื่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานเอง 

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงราย นำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรผลิตเตาเผาถ่านซังข้าวโพดและเตาชีวมวลแกลบ

 

เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 67 ที่สำนักงานเทศบาลตำบลป่าอ้อดอนชัย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดการอบรมเพื่อส่งเสริมเทคโนโลยีพลังงานทดแทน ภายใต้โครงการเชียงรายเมืองสีเขียวสร้างสรรค์ โดยมีนายปรศักดิ์ งามสมภาค พลังงานจังหวัดเชียงราย กล่าวรายงาน และนายสุรฬพลฎ์ ดุรงคชยานุรักษ์ นายกเทศมนตรีป่าอ้อดอนชัย กล่าวต้อนรับ นางสาวนันทวรรณ กันคำ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ พนักงานและเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลป่าอ้อดอนชัย อำเภอเมืองเชียงราย ร่วมพิธี

 

จังหวัดเชียงราย มีพื้นที่การเกษตรเป็นจำนวนมากและได้รับผลกระทบจากปัญหาหมอกควันทุกปี สำนักงานพลังงานจังหวัดเชียงรายเล็งเห็นถึงปัญหา จึงจัดให้ความรู้ให้กับเกษตรกรด้วยการใช้เทคโนโลยี มาใช้ในการจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรอย่างถูกวิธี โดยส่งเสริมเทคโนโลยีพลังงานทดแทน เตาเผาถ่านซังข้าวโพด ขนาด 200 ลิตร, เตาเผาถ่านไบโอชาร์ ชนิดเผาเร็ว ขนาด 200 ลิตร และเตาชีวมวลแกลบ เพื่อให้การดำเนินการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า เป็นไปตามเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรมและเสริมสร้างองค์ความรู้ในการบริหารจัดการวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ที่นำไปสู่การลดปัญหาด้านหมอกควันให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ระดับตำบล หมู่บ้าน ที่เป็นหน่วยดำเนินการด่านแรกในการช่วยกันป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าเพื่อให้สามารถลดความรุนแรงของการเกิดหมอกควันไฟป่าให้ได้ผลตามเป้าหมายได้อย่างยั่งยืน

 

อีกทั้งเพื่อเป็นการรณรงค์ประชาสัมพันธ์เผยแพร่องค์ความรู้การป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าและการเผาในที่โล่ง  และเพื่อแก้ไขปัญหาคุณภาพอากาศในพื้นที่จังหวัดเชียงรายให้คุณภาพอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ส่งผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด  และส่งเสริมให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการป้องกันแก้ไขปัญหามลพิษจากหมอกควันไฟป่าสำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ประกอบด้วย ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการเกษตรชุมชน สหกรณ์การเกษตร กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ ศูนย์เรียนรู้ตำบล อปท. และกลุ่มเกษตรกรทั่วไปในพื้นที่

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

ผู้ว่าฯ เชียงราย สั่งเตรียมเฮลิคอปเตอร์ จากเชียงใหม่เสริมภารกิจดับไฟป่า

 

เมื่อวันที่20 มีนาคม 2567 ที่ห้องศูนย์ปฏิบัติการหมอกควันไฟป่า และ PM2.5 จังหวัดเชียงราย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์หมอกควันไฟป่า และฝุ่นPM2.5 โดยใช้เฮลิคอปเตอร์ KA-32 (Kamov Ka-32 ) ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย 

 

ในการดับไฟป่ากรณีพื้นที่สูงชัน หรือพื้นที่ ที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ และเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ดูแลเป็นกรณีพิเศษในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแม่จัน เมืองเชียงราย แม่สรวย และอำเภอเวียงป่าเป้า และเตรียมการรับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในโอกาสเสด็จมา ทรงประกอบพิธีตัดหวายลูกนิมิตอุโบสถบุญชุ่มรัตนปุรีศรีธรรมราชา ณ วัดพระธาตุดอยเวียงแก้ว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ในวันที่ 30 มี.ค. 67 โดยมีนายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายครรชิต ชมภูแดง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย/ พ.อ.พักตร์พงษ์ เงสันเที๊ยะ หน.กลุ่มงานนโยบายแผนและการข่าวฯ กอ.รมน. /นายสุรศักดิ์ วณิชอนุกูล ผู้อำนวยการส่วนสิ่งแวดล้อม ทสจ.ชร. และทีมนักบินผู้เชียวชาญเข้าร่วมประชุม

 

ทั้งนี้ KA-32 สามารถทำการบินต่อเนื่องได้นาน 2 ชั่วโมง 45 นาที ความเร็วเดินทาง 222 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งสมรรถนะภาพดับไฟป่าโดยตัวเครื่องมี 2 ใบพัด “Coaxial Rotors” ใบพัด 2 ชั้นหมุนไปในทิศทางตรงข้ามกัน มีท่อดูดน้ำยาว 42 เมตร สูบน้ำ 1 นาที บรรจุได้ 3,000 ลิตร เพื่อนำน้ำไปทิ้งในพื้นที่เกิดไฟไหม้ และฉีดน้ำได้ไกลถึง 50 เมตร โดยเฮลิคอปเตอร์ “Kamov Ka-32” จะถูกใช้ในการปฏิบัติภารกิจป้องกันสาธารณภัย เช่น การควบคุมไฟป่าในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ รวมถึงเหตุสาธารณภัยอื่น ๆ รวมถึงภารกิจการช่วยเหลือและขนย้ายผู้ประสบภัยในพื้นที่ที่เข้าถึงด้วยความยากลำบาก เนื่องจากมีสมรรถนะในการทรงตัวสูง บินช้า ลอยตัวนิ่งได้นานกว่าเฮลิคอปเตอร์รุ่นอื่น ทนต่อสภาวะอากาศเลวร้ายได้ดี นอกจากนี้ Kamov Ka-32 ได้ทำการบินอย่างเป็นทางการเที่ยวแรกในภารกิจการฝึกควบคุมไฟป่าหมอกควันร่วมกับกองทัพอากาศ ณ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2563
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI WORLD PULSE

ทูตเกาหลีใต้ หารือผู้ว่าฯ เชียงราย ความร่วมมือระหว่างสองประเทศ

 

เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 67  ที่ห้องรับรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย คณะเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย นำโดยนายปาร์ค ยงมิน (Mr. Park Yongmin) พร้อมคณะ เข้าเยี่ยมคารวะและหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

 

ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างสองประเทศ รวมถึงทางด้านการนำเข้าและส่งออกสินค้าการเกษตร และจังหวัดเชียงรายได้นำเสนอข้อมูลการพัฒนาเชียงรายให้เป็นเมืองสุขภาวะ (Wellness City) ตามที่รัฐบาลมีนโยบายพัฒนาประเทศให้เป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพนานาชาติฯ โดยในด้านการท่องเที่ยวจะมุ่งเน้นยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเชื่อมโยงทุนทางวัฒนธรรม การพัฒนาเมืองเชียงรายสู่เมืองแห่งศิลปะ โดยจังหวัดเชียงรายเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ ครั้งที่ 3 Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 ซึ่งจังหวัดเชียงรายเป็นเมืองชายแดนที่เชื่อมต่อพรมแดนของ 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย ลาว เมียนมา มีความหลากหลายของผู้คนมากถึง 30 ชาติพันธุ์อาศัยอยู่ร่วมกัน
 
 
ทั้งนี้คณะเอกอัครราชทูต สาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทยได้กล่าวชื่นชมและรู้สึกประทับใจที่ได้มาเยือนจังหวัดเชียงราย และได้มีโอกาสไปศึกษาดูงานที่ศูนย์เรียนรู้ชุมชนต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต โคก หนอง นา พัฒนาชุมชนดอยอินทรีย์ พระตำหนักดอยตุง ไร่แม่ฟ้าหลวง และได้เข้าเยี่ยมชมหอศิลปะร่วมสมัยเมืองเชียงราย รวมถึงสถานที่ต่างๆในจังหวัดเชียงราย และได้แสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลไทยที่ได้ให้การสนับสนุนช่วยเหลือและบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการได้เป็นอย่างดี ในฐานะของผู้แทนรัฐบาลของประเทศมีความยินดีที่จะให้ความร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินกับประเทศไทยและจังหวัดเชียงราย ต่อไป
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

คณะทูต เยือนศูนย์เรียนรู้ชุมชนต้นแบบ โคก หนอง นา ชุมชนดอยอินทรีย์

 
เมื่อวันที่ 19ก.พ. 67 ที่ศูนย์เรียนรู้ชุมชนต้นแบบคนทุกช่วงวัย โคก หนอง นา พัฒนาชุมชน พุทธอุทยานดอยอินทรีย์ ต.ดอยฮาง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นางสุภาเพ็ญ ศิริมาตย์ ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงราย นำหัวหน้าส่วนราชการให้การต้อนรับ คณะทูตและกงสุลต่างประเทศประจำประเทศไทยพร้อมคู่สมรสที่ลงพื้นที่ศึกษาดูงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และเรียนรู้เกี่ยวกับศักยภาพและความสำเร็จของประเทศไทยด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงประจำปี 2567
 
 
ศูนย์เรียนรู้ชุมชนต้นแบบคนทุกช่วงวัย โคก หนองนา พัฒนาชุมชน พุทธอุทยานดอยอินทรีย์ บ้านห้วยกีด ตำบลดอยฮาง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย(พื้นที่ดอยอินทรีย์ขนาด 8,025 ไร่) เป็นพื้นที่ป่าไม้ที่อยู่ภายใต้การดูแลของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งแต่เดิมประชาชนในพื้นที่ได้รุกล้ำพื้นที่ป่าไม้โดยการแผ้วถางเผาป่า ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำเข้าไปทำเกษตรเชิงเดียว ได้แก่ การปลูกข้าวโพด การปลูกสับปะรด การปลูกถั่วเหลือง อีกทั้งยังมีการใช้สารเคมีแหล่งพื้นที่สร้างอาหารถูกทำลาย สัตว์ป่าเสียชีวิต
 
 
พระอาจารย์วิบูลย์ ธัมเมเตโช ที่ปรึกษาเจ้าอาวาสวัดพุทธดอยอินทรีย์ จึงได้หาวิธีการแก้ไขปัญหาร่วมกับหน่วยงานราชการ ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น ประชาชนจิตศรัทธา เพื่อรักษาแหล่งต้นน้ำทำนุบำรุงรักษาผืนป่า จึงขอรับการสนับสนุนจากสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดินองค์การมหาชน ในการจัดสรรที่ดินให้ครอบครัวที่ไม่มีที่ดินทำกิน และที่อยู่อาศัยครอบครัวละ 1 ไร่ แล้วเปลี่ยนแนวคิดของคนในชุมชน ให้เกิดการรักษาทรัพยากรที่ก่อเกิดแหล่งอาหารก่อเกิดสิ่งมีชีวิตโดยน้อมนำแนวทางศาสตร์พระราชา เกษตรทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สู่แนวคิด“เขียนตำราลงดิน”มาเป็นแนวทางปฏิบัติให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่
 
 
ผลการดำเนินงานในหลักทฤษฎีขั้นพื้นฐานโดยรูปแบบการพัฒนาพื้นที่แต่ละครัวเรือนได้นำรูปแบบการพัฒนาพื้นที่ตามพระราชดำริ เกษตรทฤษฎีใหม่ โดยจัดแบ่งพื้นที่ออกเป็น 30-30-30-10 ให้มีการกักเก็บน้ำปลูกผักสวนครัวปลูกป่า 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่าง สร้างความสมดุลย์ของระบบนิเวศหลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2563 มีการขยายผลสู่การดำเนินงานตามหลักทฤษฎีขั้นกลางโดยการพัฒนาพื้นที่การพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่โคก หนอง นาพัฒนาชุมชนจำนวน 15 ไร่ ได้รับงบประมาณจากงบกู้ฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาลผ่านกระทรวงมหาดไทยมาต่อ ยอดการพัฒนาขั้นพื้นฐานโดยมีการพัฒนาบุคลากรประสานภาคีการพัฒนามาร่วมบูรณาการพัฒนาพื้นที่พัฒนาฐานการเรียนรู้ต่างๆให้มีความพร้อมสู่การเป็นศูนย์เรียนรู้การพัฒนาคุณภาพชีวิตคนทุกช่วงวัย ซึ่งใช้ระยะเวลาดำเนินการเพียง 6 เดือน พื้นที่แห่งนี้สามารถกักเก็บน้ำฝนได้ 9,078 ลูกบาศก์เมตร ปลูกป่าปลูกต้นไม้ไปแล้วกว่า 5,000 ต้น มีพืชผักสวนครัวพืชสมุนไพร และมีรายได้จากการศึกษาเรียนรู้ดูงาน และฝึกปฏิบัติ มีรายได้กว่า 3,600 บาทถึง 25,000 บาทต่อเดือน
 
 
ซึ่งส่งผลสำเร็จที่สำคัญต่อสิ่งแวดล้อม การฟื้นฟูดิน น้ำ ป่า และพื้นที่แห่งนี้กำลังจะได้รับการขยายผลไปในระดับจังหวัด คือ เป็นพื้นที่ขยายผลเขตพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียงด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่ ตามนโยบายรัฐบาลซึ่งเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวมใน 3 มิติ คือ เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียวภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 ซึ่งถือเป็นการพัฒนาตามหลักที่ใหม่ ขั้นก้าวหน้า จึงมั่นใจว่าการดำเนินงานในระยะต่อไปจะสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนได้ไม่น้อยกว่า 3 เท่า ภายใน 3 ปีซึ่งเพิ่มพื้นที่สีเขียวจากโครงการอื่นๆ เช่น ปลูกป่าในใจคน ป่านี้มีผลผู้คนรักกัน ดินโลกคนอยู่ร่วมกับป่า สร้างแหล่งน้ำได้อย่างยั่งยืนทั้งน้ำกิน น้ำใช้ และน้ำเพื่อการเกษตร
 
 
อีกทั้งยังสามารถสร้างความสามัคคีปรองดองให้แก่คนและชุมชนผ่านกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาและช่วยให้ชุมชนตระหนักและเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันสาธารณภัยผ่านกิจกรรมจิตอาสาภัยพิบัติผ่านการรวมกลุ่มชาวบ้านและภาคีเครือข่ายทั้ง 7 ภาคีโดยมีภาครัฐสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ขั้นพื้นฐานอีกด้วย
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News