Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

พบแหล่งน้ำพุร้อนใหม่ที่บ้านพักบุคลากรโรงพยาบาลเวียงเชียงรุ้ง

พบแหล่งน้ำพุร้อนใหม่ที่บ้านพักบุคลากรโรงพยาบาลเวียงเชียงรุ้ง เชียงราย

แหล่งน้ำพุร้อนผุดขึ้นบริเวณบ้านพักบุคลากรโรงพยาบาล

เมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา เพจ “สาขาวิชาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย” ได้รายงานการพบแหล่งน้ำพุร้อนที่ผุดขึ้นมาบริเวณบ้านพักบุคลากรของโรงพยาบาลเวียงเชียงรุ้ง อำเภอเวียงเชียงรุ้ง จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในพื้นที่ดังกล่าว

การตรวจสอบเบื้องต้นพบจุดน้ำพุร้อน 3 จุด

หลังจากได้รับแจ้งเกี่ยวกับการปรากฏตัวของน้ำพุร้อน ทีมงานได้ดำเนินการเข้าไปสำรวจเบื้องต้นและพบว่ามีจุดที่น้ำผุดขึ้นมาจำนวน 3 จุด โดยการตรวจวัดอุณหภูมิน้ำพบว่ามีอุณหภูมิสูงถึงประมาณ 40 องศาเซลเซียส และค่าพีเอชของน้ำอยู่ที่ประมาณ 6.5 นอกจากนี้ ยังมีกลิ่นของกำมะถันที่มาจากน้ำพุร้อนปรากฏออกมา ทำให้เป็นที่น่าสนใจและกังวลในขณะเดียวกัน

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบเพิ่มเติม

ทางสาขาวิชาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ได้ประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมทรัพยากรธรณี และหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อให้ทำการตรวจสอบและดำเนินการต่อไป รายงานข่าวจากผู้จัดการออนไลน์ได้แจ้งว่า สำหรับจุดที่ปรากฏมีน้ำร้อนผุดขึ้นมาบริเวณบ้านพักบุคลากรของโรงพยาบาลดังกล่าว พบว่าอยู่ในสามพื้นที่หลัก ได้แก่ ถนนทางเข้าบ้านพัก หน้าสนามหญ้า และลานหน้าบ้านพัก

รายละเอียดของจุดน้ำพุร้อนแต่ละจุด
  1. ถนนทางเข้าบ้านพัก: จุดนี้เป็นบริเวณที่น้ำผุดขึ้นมาจากรอยแยกของพื้นคอนกรีต ทำให้มีการไหลของน้ำที่มีลักษณะขาวขุ่นและมีคราบสีขาวอยู่ที่ขอบหลุม
  2. สนามหญ้า: จุดนี้น้ำผุดขึ้นมาจากดินหรือพื้นสนามหญ้า ทำให้เกิดหลุมน้ำขนาดเล็กที่มีน้ำไหลออกมาด้วยลักษณะคล้ายกับคราบสีขาว
  3. ลานหน้าบ้านพัก: เช่นเดียวกับจุดแรก น้ำผุดขึ้นมาจากรอยแยกของพื้นคอนกรีต และมีลักษณะน้ำที่ขุ่นข้นและมีกลิ่นกำมะถัน
ซึ่งเป็นข้อมูลของผู้จัดการออนไลน์เมื่อวันที่ 13 ต.ค. 2567 14:04
การป้องกันและรอการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการกันบริเวณที่มีน้ำผุดออกมาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนเข้ามาใกล้ และเพื่อรอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป การกันพื้นที่นี้ถือเป็นมาตรการเบื้องต้นเพื่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่

สาเหตุที่น้ำพุร้อนผุดขึ้นมาน่าจะเกิดจากอะไร

นักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญทางด้านธรณีวิทยากำลังศึกษาหาสาเหตุที่ทำให้น้ำพุร้อนผุดขึ้นมาในพื้นที่นี้ แต่น้ำพุร้อน เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่มีน้ำร้อนไหลขึ้นมาจากใต้ดิน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภายในโลกยังคงมีความร้อนอยู่ ปัจจุบัน พบแหล่งน้ำพุร้อน 112 แหล่ง กระจายอยู่ทั่วไปตั้งแต่ทางภาคเหนือ ภาคตะวันตก ภาคกลาง และภาคใต้ วัดอุณหภูมิน้ำร้อนที่ผิวดินอยู่ในช่วง 40 100 องศาเซลเซียส โดยทั่วไป เรารู้จักน้ำพุร้อนเนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่ามหัศจรรย์ แต่น้ำพุร้อนยังสามารถนำมาพัฒนาใช้ประโยชน์ในด้านอื่น ๆ เช่น การผลิตกระแสไฟฟ้า ด้านอุตสาหกรรม และการเกษตรกรรมอีกด้วย

ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากแหล่งน้ำพุร้อนนี้

การปรากฏตัวของน้ำพุร้อนในบริเวณบ้านพักบุคลากรอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยและสุขภาพของผู้อยู่อาศัย หากไม่มีการจัดการที่เหมาะสม นอกจากนี้ ยังอาจทำให้เกิดความกังวลในชุมชนเกี่ยวกับสาเหตุและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากแหล่งน้ำพุร้อนนี้ในระยะยาว

มาตรการป้องกันและการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งดำเนินการตรวจสอบแหล่งน้ำพุร้อนนี้อย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น พร้อมทั้งกำหนดมาตรการป้องกันและการแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ ยังควรมีการติดตามและตรวจสอบสภาพแวดล้อมในพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต

ความสำคัญของการร่วมมือกันในการจัดการปัญหา

การพบแหล่งน้ำพุร้อนในพื้นที่บ้านพักบุคลากรโรงพยาบาลเวียงเชียงรุ้ง เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการร่วมมือกันระหว่างสถาบันการศึกษา หน่วยงานท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น การตอบสนองอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพจะช่วยลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นและสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่

สรุป

เหตุการณ์การพบแหล่งน้ำพุร้อนที่บ้านพักบุคลากรโรงพยาบาลเวียงเชียงรุ้ง เป็นเหตุการณ์ที่ต้องได้รับการตรวจสอบและดำเนินการอย่างเร่งด่วนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การป้องกันและการแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยรักษาความปลอดภัยและสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ รวมถึงการศึกษาหาสาเหตุที่แท้จริงเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME