Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

ปิดไร่รื่นรมย์เชียงราย ไม่มีกำหนด หลังน้ำท่วมแปลงผัก ที่พัก และคอกสัตว์

 

เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2567 ศิริวิมล กิตะพาณิชย์ ผู้ก่อตั้งไร่รื่นรมย์ เกษตรอินทรีย์ ท่องเที่ยว ออร์แกนิก ที่ตั้งอยู่ในอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย ได้โพสต์คลิปวิดีโอผ่านเพจเฟซบุ๊กของไร่รื่นรมย์ เพื่อประกาศปิดไร่อย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อไร่และสิ่งแวดล้อมโดยรอบ

ศิริวิมลได้กล่าวในคลิปว่า “ตอนนี้เนื่องจากมีน้ำท่วมฉับพลัน แม้ตอนแรกจะคิดว่าเป็นฝนตามฤดูกาล แต่เมื่อได้เห็นความรุนแรงของเหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้เราตระหนักว่าเรื่อง Global Warming ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ อีกต่อไป แต่มันเป็นเรื่องที่ซีเรียสจริงๆ เหตุการณ์นี้สร้างความเสียหายหลายส่วน ทั้งแปลงผัก ที่พัก และสัตว์เลี้ยงในฟาร์มที่ไม่ได้ตั้งตัว เพราะน้ำมาเร็วมาก ไวมาก และแรงมาก ทำให้ทางไร่ต้องตัดสินใจปิดไร่ชั่วคราวโดยไม่มีกำหนดเปิด”

นอกจากนี้ เธอยังได้โพสต์ประกาศเพิ่มเติมว่า “ทางไร่ขอปิดชั่วคราวอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากเหตุอุทกภัยในเชียงราย ทำให้ไร่รื่นรมย์ได้รับผลกระทบในหลายส่วน ทั้งแปลงผัก ที่พัก และคอกสัตว์ ซึ่งทีมงานทุกคนได้ร่วมแรงร่วมใจกันอย่างเต็มที่เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปด้วยกัน เราขอขอบคุณทุกคนที่ร่วมส่งแรงใจให้กับไร่รื่นรมย์”

ศิริวิมลยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ที่ต้องการสนับสนุนไร่รื่นรมย์ ยังสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์แปรรูป สินค้าพร้อมทาน ผักสดจากเครือข่ายออร์แกนิก รวมถึงเยี่ยมเยียนและใช้บริการร้านอาหาร Roasty By Rai Ruen Rom ที่สาขาโฮมโปร เชียงราย และบ้านก้ามปู อโศก ในกรุงเทพฯ ได้ตามปกติ

เหตุการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์น้ำท่วมที่รุนแรงที่สุดในจังหวัดเชียงรายในปี 2567 ซึ่งเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวัน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ รวมถึงอำเภอเทิง ซึ่งเป็นที่ตั้งของไร่รื่นรมย์ ส่งผลให้การคมนาคมในพื้นที่ถูกตัดขาด และชาวบ้านหลายครัวเรือนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก

ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง น้ำได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่แปลงผักและคอกสัตว์ของไร่รื่นรมย์ ส่งผลให้พืชผลที่กำลังเติบโตได้รับความเสียหายอย่างหนัก และสัตว์เลี้ยงหลายตัวต้องเร่งอพยพเพื่อความปลอดภัย ทีมงานของไร่รื่นรมย์ได้พยายามอย่างเต็มที่ในการช่วยเหลือและป้องกันความเสียหาย แต่ด้วยความรุนแรงของน้ำที่มาอย่างไม่ทันตั้งตัว ทำให้การรับมือเป็นไปด้วยความยากลำบาก

วิกฤตการณ์น้ำท่วมครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบที่ชัดเจนของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ซึ่งทำให้สภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและรุนแรง ภาวะน้ำท่วมที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ในหลายพื้นที่ ทำให้ชุมชนเกษตรกรต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนและความเสียหายที่ยากจะคาดการณ์

ไร่รื่นรมย์เป็นหนึ่งในตัวอย่างของความท้าทายที่ชุมชนเกษตรกรต้องเผชิญในการปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ศิริวิมลได้กล่าวปิดท้ายในประกาศของเธอว่า “เราจะผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปด้วยกัน และหวังว่าเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น ไร่รื่นรมย์จะได้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง ขอบคุณทุกกำลังใจที่มอบให้กับเรา”

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับและความเคลื่อนไหวของไร่รื่นรมย์ สามารถติดตามได้ทางเพจเฟซบุ๊กของไร่รื่นรมย์อย่างต่อเนื่อง.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ไร่รื่นรมย์ เกษตรอินทรีย์ ท่องเที่ยว ออแกนิค Rai Ruen Rom Organic Farm

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

เชียงราย เกิดฝนตกหนักสะสมต่อเนื่อง เกิดน้ำท่วมและดินถล่ม กระทบ 10 อำเภอ

 

เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจังหวัดเชียงราย เกิดฝนตกหนักสะสมต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค. 67 เป็นต้นมา เกิดอุกภัยและดินถล่ม ส่งผลกระทบ 10 อำเภอ 29 ตำบล 192 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับผลกระทบ 7,591 ครัวเรือน พื้นที่ทางการเกษตรได้รับผลกระทบ 12,828 ไร่ บ่อปลา/บ่อกุ้ง 68 บ่อ ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งได้เตรียมการมาเป็นอย่างดีทั้งเครื่องมือ อุปกรณ์ เครื่องจักรกล ยุทโธปกรณ์ พร้อมกำลังพลในการเข้าไปช่วยเหลือ อย่างเร่งด่วน แต่เนื่องจากเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง หลายวัน ทำให้วันนี้ (21 สิงหาคม 2567) ได้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่อำเภอเวียงแก่น  อำเภอเทิง และอำเภอขุนตาล  เกิดน้ำท่วมหนักในรอบหลายปี  อย่างไรก็ตาม นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจ และเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน หากประชาชนต้องการขอความช่วยเหลือ หรือแจ้งเหตุ แจ้งได้ตลอด 24 ช่วยโมง ที่สายด่วน 1784

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย รายงานสถานที่เกิดเหตุ/ความเสียหาย/การให้ความช่วยเหลือ (เหตุต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค. 67 และสถานการณ์ในวันนี้ ( 21 ส.ค.67)

อ.เวียงชัย ต.เมืองชุม ม.2,3,9,10 น้ำท่วมขังทางเข้าออกบ้านเรือนราษฎรบางส่วน ส่วนใหญ่ท่วมขังพื้นที่ทางการเกษตร (นาข้าว 1,230 ไร่ พืชไร่ 10 ไร่) เนื่องจากเป็นพื้นที่รับน้ำจากหนองหลวงจึงมีมวลน้ำไหลมาท่วมต่อเนื่อง  ต.ผางาม ม.9 น้ำท่วมบ้านขังบ้านเรือนราษฏร 10 ครัวเรือน 38 คน  ต.เวียงชัย ม.1,6,10,16,19 น้ำท่วมบริเวณบ้านเรือนราษฏร 32 ครัวเรือน 123 คน
 
อ.เชียงแสน  ต.ป่าสัก ม.3,4,5,6,7,8,9,10,12,13 น้ำท่วมขังบ้านเรือนราษฏร ได้รับผลกระทบ 406 ครัวเรือน 1,154 คน ยังมีท่วมขัง  ระดับน้ำลดลงเล็กน้อย/ทรงตัว  ต.ศรีดอนมูล ม.1,2,4,5,6,7,8,11,12 น้ำท่วมขังบ้านเรือนราษฏร ได้รับผลกระทบ 80 คน 44 ครัวเรือน และพื้นที่เกษตรบางส่วน ระดับน้ำลดลง/ คลี่คลาย เฝ้าระวังน้ำจากพื้นที่ต้นน้ำลงมาเติม  ต.โยนก ม.3,4,6,9 น้ำท่วมบ้านเรือนราษฏร และพื้นที่ทางการเกษตร ยังมีท่วมขัง น้ำระบายได้ช้า ระดับน้ำทรงตัว

อ.ป่าแดด น้ำแม่พุงเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากรับน้ำจากอ.พาน ประกอบกับน้ำอิงหนุนสูงและน้ำหลากจากภูเขา ทำให้น้ำล้นตลิ่งท่วมพื้นที่เกษตร และบ้านเรือนบางส่วนที่อยู่ติดริมน้ำ/ ปัจจุบันระดับน้ำแม่พงลดลงเล็กน้อย ยังคงมีมวลน้ำขังอยู่ พื้นที่ได้รับผลกระทบดังนี้  ต.ป่าแงะ ม.6, 9 ต.สันมะค่า ม.1,3,8  ต.ศรีโพธิ์เงิน ม.8  ต.ป่าแดด ม.2,3,7,9,10,11  ต.โรงช้าง ม.2,3,7,9,10,11

อ.แม่สาย  ต.ศรีเมืองชุม ม.5,6,7 น้ำท่วมทางเข้าออกและบริเวณบ้าน ราษฏรได้รับผลกระทบ 25 ครัวเรือน 71 คน/ ระดับน้ำลดลง แต่ยังมีมวลน้ำขังอยู่

อ.แม่จัน  ต.แม่คำ ม.4,9 น้ำท่วมทางเข้าออกและตัวบ้าน(พื้นที่ลุ่มต่ำท้ายหมู่บ้าน) ได้รับผลกระทบ 28 ครัวเรือน 91 คน ระดับน้ำลดลง แต่ยังมีมวลน้ำขังอยู่
 
อ.เทิง น้ำป่าไหลหลาก ต.เวียง (12 หมู่บ้าน)/ต.ปล้อง 5 หมู่บ้าน/ ต.สันทรายงาม 7 หมู่บ้าน/ ต.ตับเต่า 11 หมู่บ้าน/ ต.หงาว 20 หมู่บ้าน /ต.หนองแรด 7 หมู่บ้าน
 
อ.เวียงแก่น น้ำป่าไหลหลาก  4 ตำบล  31 หมู่บ้าน

อ.ขุนตาล น้ำป่าไหลหลาก  3 ตำบล  34 หมู่บ้าน

อ.เชียงของ น้ำป่าไหลหลาก  1 ตำบล  11 หมู่บ้าน

อ.พญาเม็งราย น้ำป่าไหลหลาก  2 ตำบล  3 หมู่บ้าน

แนวโน้มสถานการณ์  อยู่ในระดับเฝ้าระวังต่อเนื่องทุกพื้นที่

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

สร้างฝายดินซีเมนต์ ช่วย อ.เวียงป่าเป้า ป้องกันปัญหาน้ำแล้งและน้ำท่วม

 
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม 2567 เวลา 15.00 น. นายก นก อทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย พร้อมด้วย นายวิญญู ทองทัน เลขานุการนายก อบจ.เชียงราย นางรัชนีกร วงษา ส.อบจ.เชียงราย อ.เวียงป่าเป้า เขต 1 ลงพื้นที่พบปะ และให้กำลังใจ นายมงคล ศรีธิ หัวหน้าฝ่ายสำรวจ บุคลากรสำนักช่าง อบจ.เชียงราย ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ ที่อาสามาร่วมทำกิจกรรม สร้างฝายดินซีเมนต์ (ฝายแกนดินซีเมนต์) ณ ฝ่ายต้นน้ำดินซีเมนต์ บ้านลังกา ต.บ้านโป่ง อ.เวียงป่าเป้า
 
 
โดยฝายดินซีเมนต์ (ฝายแกนดินซีเมนต์) เป็นฝายชะลอน้ำชั่วคราว แต่มีความแข็งแรง กักเก็บน้ำได้ดี ที่สำคัญใช้ต้นทุนต่ำ ก่อสร้างได้เร็ว จึงเป็นนวัตกรรมสำคัญที่ป้องกันปัญหาน้ำแล้งและน้ำท่วมได้เป็นอย่างดี ทางสำนักช่าง อบจ.เชียงราย จึงได้ร่วมมือกับ ชมรมช่างจังหวัดเชียงราย ได้จัดสร้างฝายดินซีเมนต์ (ฝายแกนดินซีเมนต์)เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา ตามโครงการจิตอาสา พัฒนาชุมชน ของสำนักช่าง อบจ.เชียงราย ในวันที่ 12-13 พฤษภาคม 2567 ณ บ้านลังกา ต. บ้านโป่ง อ.เวียงป่าเป้า และวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 ณ พุทธอุทยานดอยอินทรีย์ ต.ดอยฮาง อ.เมืองเชียงราย
 
 
ตำบลบ้านโป่งเป็นตำบลหนึ่งที่ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเวียงป่าเป้าทางทิศใต้  ห่างจากที่ว่าการอำเภอเวียงป่าเป้า 4 กิโลเมตร ประชากรส่วนใหญ่ตั้งบ้านเรือนอยู่เขตพื้นที่ราบ ตามแนวทางหลวงสายเชียงราย-เชียงใหม่ ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตรมีจำนวน 2 หมู่บ้าน และลึกเข้าไปทางทิศตะวันตกและทิศตะวันออกของทางหลวงสาย เชียงราย-เชียงใหม่ ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร มีจำนวน 4 หมู่บ้านและตั้งบ้านเรือนอยู่บนพื้นที่สูงห่างจากที่ตั้งของตำบลไปทางทิศตะวันตกตามทางหลวงสายอำเภอเวียงป่าเป้า-อำเภอพร้าวประมาณ 25 กิโลเมตรจำนวน1 หมู่บ้าน เป็นหมู่บ้านชาวเผ่ากะเหรี่ยงและลีซอ
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

ปลัดฯ ณัฐพล นำทีม MIND แพค “ถุงยิ้มพิมพ์ใจ MIND ไม่ทิ้งกัน ช่วยผู้ประสบภัย

 

วันนี้ (21 ตุลาคม 2566) ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายบรรจง สุกรีฑา เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม รักษาราชการแทน รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายสุรพล ชามาตย์  นางสุชาดา โพธิ์เจริญ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายศุภกิจ บุญศิริ รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม นายวัชรุน จุ้ยจำลอง รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายเอกนิติ รมยานนท์ นายวีรพงษ์ เอี่ยมเจริญชัย รองเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม นางศิริเพ็ญ เกียรติเฟื่องฟู นายกฤศ จันทร์สุวรรณ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม นายนรุณ สุขสมาน รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย นำทีม MIND มาร่วมกันแพค “ถุงยิ้มพิมพ์ใจ MIND ไม่ทิ้งกัน” จำนวน 2,000 ถุง เตรียมนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย 

หลังจากนั้น ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม รับมอบสิ่งของอุปโภค บริโภค และของใช้ที่จำเป็น เพื่อเตรียมแพคเป็น “ถุงยิ้มพิมพ์ใจ MIND ไม่ทิ้งกัน” ซึ่งเป็นถุงยังชีพจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศ ที่รวมใจส่งมอบรอยยิ้ม เพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้ประสบอุทกภัยในการก้าวข้ามช่วงเวลาที่ยากลำบาก ภายใต้โครงการ “อุตสาหกรรมรวมใจ ช่วยพี่น้องชาวไทย” ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย สถาบันพลาสติก  สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดจันทบุรี สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดตราด สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสระแก้ว สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสงคราม เข้าร่วมมอบสิ่งของ เพื่อนำไปช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นให้กับผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมโดยเร่งด่วนต่อไป ณ ห้องโถง ชั้น 1 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงอุตสาหกรรม

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

เชียงราย น้ำคำแม่จันเซาะคันดินน้ำทะลักเข้าท่วม 30 หลังคาเรือน อ.พานสลดจมน้ำดับ 2 ราย

 

ช่วงคืนระหว่างวันที่ 16-17 ต.ค.น้ำจากแม่น้ำคำที่ไหลผ่านพื้นที่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย ได้เอ่อล้น และเข้ากัดเซาะคันดินป้องกันน้ำท่วมพื้นที่หมู่บ้านม่วงหมูสี หมู่ 7 ต.จันจว้าใต้ อ.แม่จัน โดยหลังจากมีฝนตกหนักลงมาเมื่อวันที่ 16 ต.ค.ได้ทำให้ปริมาณน้ำมีมากขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งกลางดึกคันดินบริเวณซอย 4 หมู่บ้านม่วงหมูสีได้ถูกน้ำกัดเซาะจนพังทลายลงทำให้มวลน้ำจำนวนมากไหลเช้าท่วมบ้านเรือนของประชาชน ชาวบ้านในพื้นที่ต่างพากันขนย้ายข้าวของไปไว้บนพื้นที่สูงโดยบางรายขนไม่ทันก็ถูกน้ำพัดพาหายไปแต่ไม่มีผู้คนได้รับอันตราย

 
ต่อมาทางฝ่ายปกครอง อ.แม่จัน และส่วนท้องถิ่นได้นำกำลังเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านในการขนย้ายข้าวของ และพบว่ามีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมจำนวน 30 หลังคาเรือน ทั้งนี้ทางฝ่ายปกครองได้ระดมกำลังทุกฝ่ายนำกระสอบทรายเข้าไปปิดกั้นคันดินที่รั่วดังกล่าวจนแล้วเสร็จเวลาประมาณ 01.30 น.ทำให้สถานการณ์ทุเลาลงแต่ยังคงมีน้ำท่วมขังไปทั่งบริเวณ และในวันที่ 17 ต.ค.นี้เทศบาล ต.จันจว้า ได้นำอาหาร และน้ำดื่มไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านรวมทั้งของบประมาณไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย เพื่อทำการซ่อมแซมคันดินไม่ให้เกิดการพังทลายต่อไป
 
 
ด้านพื้นที่ อ.พาน นายวุฒิกร คำมา นายอำเภอพาน พร้อมด้วยฝ่ายปกครอง หน่วยกู้ภัย และชาวบ้าน ได้ช่วยกันออกค้นหาร่างของผู้ที่ประสบอุบัติเหตุพลัดตกลงไปในลำน้ำคาวเขตติดต่อ ต.สันติสุข และ ต.แม่อ้อ อ.พาน เมื่อเย็นวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดได้พบร่างของผู้พลัดตกน้ำจำนวน 2 คน พบว่าเสียชีวิตทั้งหมดโดยเป็นชายอายุ 58 ปี และเด็กชายอายุ 12 ปีตามลำดับ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.พาน และแพทย์ชันสูตรทำการชันสุตรตามขั้นตอนต่อไป
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

นายกฯ ตามติดสถานการณ์น้ำ ห่วงน้ำท่วม ลำปาง แพร่ และอุบลฯ

 

  เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2566 เวลา 19.00 น. ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมศูนย์ปฎิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทาน ถนนสามเสน กรุงเทพฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีติดตามสถานการณ์น้ำ พร้อมรับฟังบรรยายสรุปสภาพอากาศ จากว่าที่ร้อยตรี ธนะสิทธิ์ เอี่ยมอนันชัย รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาและรับฟังบรรยายสรุปภาพรวมสถานการณ์น้ำ

ว่าที่ร้อยตรี ธนะสิทธิ์ กล่าวรายงานสรุปสภาพอากาศว่า ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจากร่องมรสุมพุดผ่านส่งผลให้ให้ภาคเหนือ และภาคอีสานได้รับผลกระทบจากน้ำฝน มีน้ำท่วมขัง และดินสไลด์บางพื้นที่ หลังจากนี ตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคมจนถึงวันที่ 7 ตุลาคม
 
น้ำฝนจะลดน้อยลง มวลอากาศเย็นเข้ามาแทนที่ และฝนกลับมาตกจำนวนมากอีกครั้ง ตั้งแต่ 7 ตุลาคมเป็นต้นไป สำหรับข้อกังวลเรื่องพายุโคอินุ ประเทศไทยจะไม่ได้รับผลกระทบ
 
 
ทางด้านนายสุริยพล นุชอนงค์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวบรรยายสรุปสถานการณ์น้ําว่า ภาพรวมจากปริมาณฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ตอนบนของประเทศ โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากอิทธิพลของร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทย ตั้งแต่กลางเดือนกันยายน 2566 เป็นต้นมา ทําให้หลายพื้นที่ได้รับผลกระทบจากปริมาณ น้ําล้นตลิ่งและน้ําท่วมขังในพื้นที่ เช่น ลุ่มน้ําวัง มีพื้นที่ น้ําท่วมเนื่องจากปริมาณน้ําในแม่น้ําวังล้นตลิ่ง ส่งผลกระทบกับจังหวัดลําปาง และจังหวัดตากบางส่วน ลุ่มน้ํา ยม-น่าน
 
 
จากปริมาณฝนที่ตกในเขตจังหวัดแพร่ ทําให้ปริมาณน้ําในแม่น้ํายมเพิ่มสูงขึ้น เริ่มมีผลกระทบกับ จังหวัดสุโขทัยบางส่วน ลุ่มน้ําเจ้าพระยา ปริมาณน้ําที่จังหวัดนครสวรรค์ยังคงเพิ่มขึ้นอย่าง ต่อเนื่อง เนื่องจากปริมาณน้ําในแม่น้ําปิงและแม่น้ําน่านยังคงสูงขึ้น ทําให้ต้องมีการบริหารจัดการน้ําและจัด จราจรน้ําในพื้นที่ลุ่มน้ําเจ้าพระยาตอนล่าง
 
 
โดยควบคุมปริมาณน้ําไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้มีผลกระทบ ต่อพื้นที่ท้ายน้ําน้อยที่สุด ในส่วนลุ่มน้ําชี-มูล พื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ําชีปริมาณน้ําเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนในพื้นที่แม่น้ําชีตอนล่างยังคงมีน้ําล้นตลิ่งบริเวณจังหวัดกาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด และจังหวัดยโสธร แต่มีแนวโน้ม ลดลง และในส่วนของลุ่มน้ํามูล มีน้ําท่วมบริเวณจังหวัดอุบลราชธานี เนื่องจากปริมาณน้ําล้นตลิ่งบริเวณสถานี M.7 อําเภอวารินชําราบ โดยปริมาณน้ําดังกล่าวจะไหลลงสู่แม่น้ําโขง ซึ่งปัจจุบันสามารถระบายน้ําได้อย่างต่อเนื่อง
 
 
ทางด้าน ว่าที่ร้อยตรี ธนะสิทธิ์ กล่าวรายงานสรุปสภาพอากาศว่า ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจากร่องมรสุมพุดผ่านส่งผลให้ให้ภาคเหนือ และภาคอีสานได้รับผลกระทบจากน้ำฝน มีน้ำท่วมขัง และดินสไลด์บางพื้นที่ หลังจากนี ตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคมจนถึงวันที่ 7 ตุลาคมน้ำฝนจะลดน้อยลง มวลอากาศเย็นเข้ามาแทนที่ และฝนกลับมาตกจำนวนมากอีกครั้ง ตั้งแต่ 7 ตุลาคมเป็นต้นไป สำหรับข้อกังวลเรื่องพายุโคอินุ ประเทศไทยจะไม่ได้รับผลกระทบ
 
 
ภายหลังรับฟังบรรยายสรุป นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ จากทุกหน่วยงาน ที่ ร่วมกันทำงานอย่างหนัก ตลอด 24 ชั่วโมง ในช่วงที่ผ่านมา เพื่อติดตามสถานการณ์และดูแลพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน
 
 
อย่างเต็มที่ ตนเองได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดมาตลอด และเป็นห่วงพี่น้องประชาชน วันนี้ต้องมาดูด้วยตัวเองที่ศูนย์ปฏิบัติการน้ำแห่งนี้ ทั้งเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำแบบ Real-time รับฟังข้อติดขัดในการปฏิบัติงาน เพื่อช่วยให้ท่านได้ทำงานอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพที่สุด ที่สำคัญก็อยากมาให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานทุกท่าน
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า ในวันนี้ ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาประชุมร่วมกันผ่านระบU Video conference เพื่อไม่เป็นการรบกวนหน้างานของท่านที่ทำงานหนักอยู่ในพื้นที่ โดยวันนี้มีสำนักงานชลประทานทั่วประเทศ กรมอุตุฯ และ ปภ. มาร่วมกันประเมินสถานการณ์น้ำและร่วมกันแก้ปัญหา เพื่อให้การทำงานคล่องตัวที่สุด ซึ่งเบื้องต้น จากที่ได้รับฟังรายงาน เป็นห่วงสถานการณ์ในจังหวัดลำปาง แพร่ และอุบลฯ ที่ถึงแม้สถานการณ์จะคลี่คลายลงบ้าง แต่ก็ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด รวมทั้งต้องดูแล ฟื้นฟูและซ่อมแชมบ้านเรือนที่อยู่อาศัยของพี่น้องประชาชนอย่างเรงด่วน โดยเฉพาะ ณ ขณะนี้จังหวัดสุโขทัย น่าเป็นห่วงที่สุด เพราะต้องรองรับมวลน้ำที่ไหลลงมาจากจังหวัดแพร่ ซึ่งไหลเข้าท่วมทั้งในพื้นที่เกษตรกรรมและตัวเมืองบางส่วนแล้ว
 
 
นายกรัฐมนตรีย้ำ เรื่องสำคัญที่ต้องหารือ คือการวางแผนรับมือกับมวลน้ำที่จะเข้ามาอีกระลอก ซึ่งจะซ้ำเติมสถานการณ์ให้แย่ลงไปกว่าเดิม การประชุมวันนี้ขอให้ทุกท่านให้ความเห็นอย่างเต็มที่ ติดขัดอะไร
ขอให้พูดกันตรง ๆ เพื่อแก้ปัญหาได้ตรงจุดและทันสถานการณ์
 
นายกรัฐมนตรีสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 5 ด้าน ประกอบด้วย 
 
1. สถานการณ์น้ำ ให้กรมชลประทานบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดจราจรน้ำในลุ่มน้ำชี-มูล ลุ่มน้ำยม-น่าน และลุ่มน้ำเจ้าพระยา
2. ให้หน่วยงาน ได้แก่ จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ กรมชลประทาน ตรวจสอบความมั่นคงของพนังกั้นน้ำ สะพาน และอาคารชลประทาน ให้มีความมั่นคง และพร้อมใช้งานตลอด
ช่วงฤดูน้ำหลาก
3. การช่วยเหลือ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงานร่วมกันช่วยเหลือผู้ประสบภัยและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเช่น เร่งซ่อมแชมที่ อยู่อาศัย กำจัดขยะที่ มากับน้ำ และตามที่ประชาชนร้องขอ
โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย บูรณาการระดมสรรพกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กองทัพ
หน่วยงานท้องถิ่น
4. พยากรณ์อากาศ ให้กรมอุตุวิทยาติดตามสภาพอากาศ และแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและแจ้งเตือนสภาพอากาศกับประชาชน เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำทั่วประเทศอย่างใกล้ชิด
5. และการแจ้งเตือน ให้กรมชลประทานร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมประชาสัมพันธ์ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนในพื้นที่ให้ทราบสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News