Categories
ECONOMY

‘สุริยะ’ ขานรับนโยบายเตรียมทำแผน รองรับนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่นปลายปีนี้

 

เมื่อ10 มิ.ย. 2567  นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตามที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปจัดทำแผนรองรับนักท่องเที่ยวในทุกมิติ โดยเฉพาะช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ปลายปี 2567 หรือไตรมาส 4 ที่จะถึงนี้ สอดรับกับมาตรการลดภาษีท่องเที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัด ที่คาดว่า จะมีจำนวนนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก

 

ทั้งนี้ ได้สั่งการให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ไปดำเนินการจัดเตรียมการรองรับนักท่องเที่ยว ทั้งในส่วนของแผนเพิ่มจำนวนเครื่องบิน และเที่ยวบินให้เพียงพอต่อผู้โดยสารที่จะมาใช้บริการ ครอบคลุมผู้โดยสารระหว่างประเทศและในประเทศที่เดินทางผ่านเข้า-ออกท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ ทอท. ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่

 

“จากการรายงานของ ทอท. พบว่า ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2567 มีจำนวนผู้โดยสารเข้า-ออก 6 ท่าอากาศยานรวม 9,503,475 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 16.08% และมีจำนวนเที่ยวบิน 61,435 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 13.90% ขณะเดียวกัน ทอท. ยังได้คาดการณ์จำนวนผู้โดยสารในช่วงเดือนมิถุนายน – พฤศจิกายน 2567 มีจำนวนผู้โดยสารทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ รวมจำนวน 60.3 ล้านคน และมีจำนวนเที่ยวบิน 380,000 เที่ยวบิน ดังนั้น เชื่อว่า ในช่วงเดือนตุลาคม – ธันวาคม 2567 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นด้านการท่องเที่ยว จึงมีแนวโน้มสูงว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”นายสุริยะกล่าว

 

นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้ ทอท. จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงการบริหารจัดการการให้บริการในท่าอากาศยานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้โดยสารทุกคน ได้สัมผัสกับการบริการที่สะดวก ปลอดภัย และรวดเร็ว สร้างความความประทับใจ และเกิดภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ โดยได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริหารจัดการการให้บริการผู้โดยสารในขั้นตอนต่างๆ ทั้งในส่วนของผู้โดยสารขาเข้าและขาออก ให้เกิดความคล่องตัว ไม่ให้เกิดภาพความหนาแน่นในแต่ละจุดบริการ โดยเฉพาะในขั้นตอนตรวจคนเข้าเมือง และบริเวณสายพานรับกระเป๋า รวมทั้งได้นำเทคโนโลยีมาอำนวยความสะดวกเพิ่มเติมด้วย

 

นายสุริยะ กล่าวอีกว่า ในส่วนของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) สั่งการให้จัดเตรียมเพิ่มขบวนรถไฟ ทั้งเส้นปกติและขบวนพิเศษ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดเตรียมแผนฯ โดยในเบื้องต้น จะเพิ่มขบวนนำเที่ยวเส้นทางสายวัฒนธรรมของไทย รวมถึงการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ เพื่อสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวที่หลากหลาย จากก่อนหน้านี้ได้ดำเนินการในหลายเส้นทาง ช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ในรูปแบบไปเช้า-เย็นกลับ (วันเดย์ทริป) เช่น ขบวนรถไฟนำเที่ยวน้ำตกไทรโยค, ขบวนรถไฟนำเที่ยวสวนสนประดิพัทธ์, ขบวนรถไฟนำเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เป็นต้น

 

นายสุริยะ กล่าวอีกว่า ในส่วนของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้จัดทำแผนเตรียมความพร้อมขบวนรถไฟฟ้าและสถานีของโครงการรถไฟฟ้ามหานคร ทั้ง 4 โครงการ ประกอบด้วย โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน, สายสีม่วง, สายสีชมพู และสายสีเหลือง เพื่อรองรับการเดินทางของผู้โดยสาร ในช่วงไฮซีซั่นไตรมาส 4/2567 เบื้องต้นได้เตรียมขบวนรถเสริมให้บริการในกรณีมีผู้โดยสารหนาแน่น พร้อมทั้ง จัดเตรียมช่องทางพิเศษสำหรับจำหน่ายเหรียญโดยสาร เตรียมไว้ในสถานีที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก

 

ขณะเดียวกัน จะทำการประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลแก่ผู้โดยสารอย่างต่อเนื่อง โดยการประกาศทางเสียง ป้ายประชาสัมพันธ์ และจอแสดงผล ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ อีกทั้ง ยังมุ่งเน้นด้านความปลอดภัยโดยจัดให้มีพนักงานสถานีเพิ่มเติม เพื่อให้มีเพียงพอและพร้อมปฏิบัติงานในสถานีที่คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการหนาแน่น รวมถึง มีระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดภายในสถานี และภายในขบวนรถไฟฟ้า ครอบคลุมทุกพื้นที่การให้บริการ และยังจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแลความปลอดภัยบนสถานี และตรวจสัมภาระผู้โดยสาร ดังนั้น รฟม. มั่นใจว่าประชาชนผู้ใช้บริการจะได้รับความสะดวก ปลอดภัย ตลอดเส้นทาง

 

“ยืนยันว่า กระทรวงคมนาคม และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้การกำกับดูแล พร้อมที่จะอำนวยความสะดวกในทุก ๆ ด้าน และทุกการคมนาคมต้องมีความปลอดภัยในระดับสูงสุด เพื่อสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนประเทศไทย โดยหากทุกหน่วยงานฯ มีความคืบหน้าของแผนรองรับการท่องเที่ยวสำหรับมาตรการลดภาษีท่องเที่ยว สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลดังกล่าว จะดำเนินการรายงานต่อประชาชนให้ ทราบโดนทันที“ นายสุริยะ กล่าว

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงคมนาคม

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI ECONOMY

“สุริยะ” ตรวจสนามบินเชียงราย สนับสนุนการขนส่งเชื่อมโยงท่องเที่ยว

 
เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2567 ณ ณ ห้องประชุมท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย จังหวัดเชียงราย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายมนตรี เดชาสกุลสม รองปลัดกระทรวงคมนาคม ประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินโครงการสำคัญของกระทรวงคมนาคม เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 2/2567 ณ จังหวัดพะเยา โดยมีหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ และผู้แทนหน่วยงานในพื้นที่ เข้าร่วมประชุม
 
 
นายสุริยะ กล่าวว่า การประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินโครงการสำคัญต่าง ๆ ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ได้ติดตามประเด็นการเตรียมความพร้อมและการเพิ่มศักยภาพของท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ตามนโยบาย Aviation Hub ของรัฐบาลในการผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงฯ มีโครงการที่ดำเนินการเพื่อเพิ่มศักยภาพท่าอากาศยาน ได้แก่ 1) งานก่อสร้างระบบทางขับขนานด้านทิศเหนือและปรับปรุงทางขับท้ายหลุมจอด พร้อมทางขับ A และ B 2) งานจ้างก่อสร้างพื้นที่หัวทางวิ่งด้าน 03 และ 21 3) โครงการศูนย์ซ่อมอากาศยาน Maintenance ,Repair and overhaul (MRO) ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) 4) งานจ้างก่อสร้างขยายถนนทางเข้า – ออก ท่าอากาศยานฯ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างประมาณเดือนมิถุนายน 2567 นอกจากนี้ มีโครงการพัฒนาท่าอากาศยานฯ ระยะที่ 1 (ปี 2568 – 2571) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้โดยสาร เป็น 6 ล้านคนต่อปี และระยะที่ 2 (ปี 2576 – 2578) เป็น 8 ล้านคนต่อปี โดยมีแผนงานสำคัญ ได้แก่ งานก่อสร้างเพิ่มลานจอดอากาศยาน งานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ งานก่อสร้างปรับปรุงอาคารผู้โดยสารเดิมเป็นอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ และงานก่อสร้างอาคารศูนย์ซ่อมแซมอุปกรณ์สนับสนุนภาคพื้น
 
 
สำหรับโครงการสนับสนุนท่าอากาศยานนานาชาติแม่ฟ้าหลวงฯ เพื่อบรรเทาการจราจรบริเวณหน้าท่าอากาศยานและสนับสนุนการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ประกอบด้วย
1. การก่อสร้างทางลอดและปรับปรุงถนนบริเวณแยกศูนย์ราชการบนถนนสาย ชร.1023 อ.เมือง จ.เชียงราย ระยะทาง 1.635 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 850 ล้านบาท มีแผนก่อสร้างระหว่างปี 2567 – 2569
2. ถนนสายแยก ทล.1 – สาย ชร.5023 ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย ระยะทาง 3.014 กม. วงเงินก่อสร้าง 200 ล้านบาท โดยเสนอขอรับงบประมาณค่าเวนคืนปี 2567 – 2568
3. ถนนสาย ค2, จ7, ง4 ผังเมืองรวมเชียงราย อ.เมือง จ.เชียงราย ระยะทาง 3.735 กม. วงเงินก่อสร้าง 250 ล้านบาท โดยเสนอขอรับงบประมาณค่าเวนคืนปี 2567 – 2568
4. ถนนสายเชื่อม ทล.1207 – ถนนเลี่ยงเมืองกรมทางหลวง อ.เมือง จ.เชียงราย ระยะทาง 2.356 กม. วงเงิน 84 ล้านบาท โดยเสนอขอรับงบประมาณค่าเวนคืนปี 2567 – 2568
5. ทางแยกต่างระดับบริเวณจุดตัด ชร.1023 กับ ทล.1 อ.เมือง จ.เชียงราย วงเงินก่อสร้าง409.560 ล้านบาท มีแผนเสนอขอรับงบประมาณค่าสำรวจอสังหาริมทรัพย์ ในปี 2569
 
 
นอกจากนี้ ในการประชุมได้ติดตามความคืบหน้าโครงการขยาย 4 ช่องจราจร ทางหลวงหมายเลข 1020 ตอนบ้านหัวดอย – บ้านใหม่ดอยลาน จ.เชียงราย กม. 7+420 – 30+000 เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ การคมนาคมขนส่งสินค้าและการท่องเที่ยว ซึ่งเมื่อโครงการแล้วเสร็จจะทำให้มีความสะดวกรวดเร็ว และสามารถรองรับปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้นในอนาคต รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและเชื่อมต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดใกล้เคียงได้สะดวก ปลอดภัยยิ่งขึ้น และยังเป็นการสนับสนับการขนส่งสินค้าเชื่อมต่อด่านพรมแดนอีกด้วย รวมทั้งกระทรวงคมนาคมมีการดำเนินโครงการปรับปรุงโครงข่ายทางหลวงชนบทเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยว
 
 
ทั้งนี้ ในการประชุมได้รับทราบข้อมูลความต้องการของประชาชนในพื้นที่ ในส่วนของการก่อสร้างจุดกลับรถบริเวณหน้าโรงพยาบาลแม่จัน และสะพานลอยคนข้าม เพื่อความสะดวกปลอดภัยของประชาชนที่มาใช้บริการโรงพยาบาลและประชาชนในพื้นที่ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้มอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาขอใช้งบกลางในการก่อสร้างอย่างเหมาะสม รวมทั้งได้มอบนโยบายให้กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท บูรณาการร่วมกัน เพื่อรวบรวมข้อมูลโครงข่ายถนนในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและพะเยาที่ต้องปรับปรุงไฟฟ้าแสงสว่าง และตรวจสอบจุดตัดทางร่วม ทางแยกเพื่อเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนของประชาชน
 
 
นายสุริยะ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงคมนาคมพร้อมผลักดันโครงการต่าง ๆ ให้เป็นรูปธรรมตามนโยบายรัฐบาลโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของทุกกลุ่ม และพร้อมรับฟังปัญหาและความคิดเห็นของประชาชน โดยกระทรวงคมนาคมจะเร่งรัดการดำเนินโครงการต่าง ๆ ให้แล้วเสร็จตามแผนงานที่กำหนด เพื่อให้พี่น้องประชาชนมีระบบคมนาคมขนส่งที่มีประสิทธิภาพ สามารถเดินทางได้สะดวก รวดเร็วและปลอดภัย รวมทั้งช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจจากการขนส่งสินค้าและท่องเที่ยวของประเทศให้ดีขึ้น
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ประชาสัมพันธ์กระทรวงคมนาคม

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News