
เชียงรายเปิดตัว “ทุเรียนถิ่นหนาว” ผลไม้เศรษฐกิจใหม่สู่ตลาดโลก
พัฒนาจากการทดลองเพียง 80 ต้น สู่อุตสาหกรรมกว่า 3,700 ไร่ ชูจุดแข็งรสชาติหวานมัน เนื้อแน่น กลิ่นหอมเฉพาะตัว
เชียงราย, 25 มิถุนายน 2568 – จังหวัดเชียงรายเปิดตัว “ทุเรียนถิ่นหนาวเชียงราย” อย่างเป็นทางการ ในกิจกรรมสัมมนาสื่อมวลชนและเครือข่ายการประชาสัมพันธ์ ผู้บริหารสื่อ สานสัมพันธ์ ครั้งที่ 3 ณ สวนธวานันท์รุ่งเรือง อำเภอเวียงเชียงรุ้ง โดยมีนายสุพจน์ แสนมี ปลัดจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดงาน
การเปิดตัวผลไม้เศรษฐกิจตัวใหม่ของภาคเหนือครั้งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการยกระดับเกษตรกรรมไทยสู่มิติใหม่ เมื่อพื้นที่ที่เคยถูกมองว่าไม่เหมาะสมกับการปลูกทุเรียน กลับกลายเป็นแหล่งผลิทุเรียนคุณภาพสูงที่โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว

จากการทดลอง 5 ไร่ สู่อุตสาหกรรมหลักของจังหวัด
เรื่องราวของทุเรียนเชียงรายเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2552 เมื่อเกษตรกรอำเภอเวียงเชียงรุ้งได้ทดลองปลูกทุเรียนแซมในสวนผลไม้ชนิดต่างๆ โดยมีพื้นที่ปลูกเพียง 5 ไร่ จำนวน 80 ต้น การทดลองครั้งนี้เต็มไปด้วยความท้าทาย เนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็นของเชียงรายที่แตกต่างจากแหล่งปลูกทุเรียนทั่วไป
นางสุพรรณี แสงอรุณ เกษตรกรผู้บุกเบิกการปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทองในพื้นที่เวียงเชียงรุ้งมากว่า 17 ปี เล่าถึงจุดเริ่มต้นว่า “จริงๆ แล้วเราอาจจะเป็นผู้บุกเบิกในเรื่องของการปลูกทุเรียน อาจจะเป็นเจ้าแรกของจังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะอำเภอเวียงเชียงรุ้ง เมื่อเข้าสู่ปีที่ 3-4 เริ่มได้เห็นผลผลิต แต่ก็มีปัญหาให้คอยแก้ไขตลอด”
ความมุ่งมั่นและการเรียนรู้จากประสบการณ์ทำให้การปลูกทุเรียนในเชียงรายประสบความสำเร็จ จากจุดเริ่มต้นเพียงไม่กี่ต้น ปัจจุบันได้ขยายเป็นแปลงปลูกขนาดใหญ่ โดยข้อมูลจากสำนักงานเกษตรจังหวัดระบุว่า ปัจจุบันอำเภอเวียงเชียงรุ้งมีพื้นที่ปลูกทุเรียนประมาณ 468 ไร่ ขณะที่ทั่วจังหวัดเชียงรายมีพื้นที่ปลูกรวมกว่า 3,711 ไร่
จุดเด่นเฉพาะตัวของทุเรียนถิ่นหนาว
ทุเรียนถิ่นหนาวเชียงรายมีจุดเด่นที่แตกต่างจากทุเรียนภูมิภาคอื่นอย่างชัดเจน ด้วยรสชาติหวานมัน เมล็ดลีบ เนื้อแน่น กลิ่นหอมเฉพาะตัว และเปลือกบาง ความแตกต่างนี้เกิดจากสภาพแวดล้อมที่เฉพาะเจาะจง คือการปลูกในพื้นที่สูงเฉลี่ย 400-600 เมตรจากระดับน้ำทะเล อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีอยู่ระหว่าง 10-35 องศาเซลเซียส
สภาพอากาศที่เย็นสบายนี้ส่งผลให้ทุเรียนออกดอกและติดผลได้ดี โดยช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตอยู่ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมของทุกปี ซึ่งไม่ซ้ำกับช่วงเวลาของทุเรียนภาคตะวันออกและภาคใต้ ทำให้สามารถขายได้ในราคาที่ดี
นางสุพรรณี อธิบายถึงข้อได้เปรียบนี้ว่า “ทุเรียนของเรามันจะไม่ค่อยชนกับทางภาคตะวันออก เพราะทุเรียนมันจะไล่ผลไม้จากข้างล่างขึ้นมา เราเป็นภาคเหนือ ของเขาเริ่มหมดแล้ว ของเราก็เริ่มออกสู่ตลาด เพราะของเราจะออกในช่วงกรกฎา-สิงหา”
ต้นทุนต่ำ ผลกำไรสูง
หนึ่งในจุดแข็งสำคัญของการปลูกทุเรียนในเชียงรายคือต้นทุนการผลิตที่ค่อนข้างต่ำ นางสุพรรณี เปิดเผยว่า “เราทำในระบบการปลูกทุเรียนแบบครอบครัว ซึ่งต้นทุนจะไม่ค่อยแพงเท่าไหร่ในเรื่องของแรงงาน และการใช้ปุ๋ยใช้ยาเราสามารถควบคุมได้ ถ้าเราทำเองน่าจะอยู่ที่ประมาณต้นละไม่เกิน 1,000 บาทต่อปี”
เมื่อคิดเป็นต้นทุนต่อไร่ ซึ่งมีประมาณ 30 ต้น จะมีต้นทุนการผลิตอยู่ที่ประมาณ 21,000-30,000 บาทต่อไร่ต่อปี ในขณะที่ราคาขายทุเรียนอยู่ที่ 150-200 บาทต่อกิโลกรม ทำให้เกษตรกรได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า
อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของพื้นที่ปลูกอย่างรวดเร็วยังคงเผชิญกับความท้าทายหลายประการ ได้แก่ ปัญหาสภาพอากาศหนาวเย็นที่ทำให้ต้นทุเรียนมีปัญหาในช่วงฤดูหนาว ปัญหาแหล่งน้ำที่มีไม่เพียงพอกับความต้องการ และปัญหาการจัดการสวนที่ไม่เหมาะสม
ยุทธศาสตร์สร้างแบรนด์และพัฒนาคุณภาพ
เพื่อแก้ไขปัญหาและยกระดับมาตรฐานการผลิต จังหวัดเชียงรายได้วางแผนยุทธศาสตร์หลายด้าน เริ่มจากการสร้างแบรนด์ “ทุเรียนถิ่นหนาวเชียงราย” ภายใต้การสนับสนุนของผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย
นางสุพรรณี กล่าวว่า “ทางกลุ่มของผู้ปลูกทุเรียนเชียงราย ภายใต้ชื่อทุเรียนถิ่นหนาวเชียงราย กำลังสร้างแบรนด์นี้ขึ้นมา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้มาเยี่ยมชมสวน และได้บอกว่าเราน่าจะผลิตทุเรียนให้มันมีคุณภาพ เพราะฉะนั้นเกษตรกรจะต้องทำทุเรียนให้มันมีคุณภาพ สามารถแข่งขันกับเขาได้”
การพัฒนาคุณภาพจะเน้นไปที่การตัดทุเรียนให้มีอายุการตัดที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ทุเรียนที่แก่พอดี มีรสชาติเต็มที่ ซึ่งเป็นจุดแข็งที่เชียงรายสามารถแข่งขันกับภูมิภาคอื่นได้
เครือข่ายความรู้และการถ่ายทอดประสบการณ์
การพัฒนาทักษะและให้ความรู้แก่เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญ โดยการสร้างเครือข่ายของนักวิชาการและผู้มีความชำนาญในการทำเกษตร โดยเฉพาะทุเรียน เพื่อเข้ามาให้ความรู้กับชาวสวนและช่วยดูแลกันในเบื้องต้น
นางสุพรรณี อธิบายว่า “ชาวสวนที่ปลูกก่อนมีประสบการณ์ ใช้ประสบการณ์ถิ่นของเรามาช่วยกัน ช่วยดูแลกันให้มันมีคุณภาพ ส่งต่อความรู้ตามประสบการณ์” การถ่ายทอดประสบการณ์แบบเกษตรกรสู่เกษตรกรนี้ ช่วยให้เกิดการเรียนรู้ที่เป็นธรรมชาติและเหมาะสมกับสภาพท้องถิ่น
โอกาสการส่งออกและการเชื่อมต่อตลาดโลก
ด้วยตำแหน่งที่เป็นเมืองชายแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน เชียงรายมีโอกาสสำคัญในการเป็นประตูการส่งออกทุเรียนไปยังตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะการเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
นางสุพรรณี มองว่า “ในอนาคตมันจะมีรถไฟ เป็นเมืองชายแดนติดต่อ เรามองว่าตรงนี้มันน่าจะมีโอกาสที่ดีในเรื่องของการส่งออก และในเรื่องของการท่องเที่ยวเชิงเกษตร”
การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงเกษตรเป็นอีกหนึ่งมิติที่จังหวัดเชียงรายให้ความสำคัญ โดยการผสมผสานระหว่างการเกษตรและการท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรและชุมชนในพื้นที่

การสนับสนุนจากภาครัฐและแผนการส่งเสริม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงรายได้จัดกิจกรรมดังกล่าวโดยมีเป้าหมายเพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และเพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับผลไม้เศรษฐกิจทางเลือกใหม่ที่กำลังได้รับความสนใจ
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้เตรียมผลักดันทุเรียนเชียงรายออกสู่ตลาดให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ด้วยการจัดกิจกรรมเทศกาลกินทุเรียนเชียงรายในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งจะเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการสู่สาธารณชน
นางสาวมินทิรา ภดาประสงค์ นายอำเภอเวียงเชียงรุ้ง กล่าวว่า “ตอนนี้อำเภอเวียงเชียงรุ้งของเราได้ผลักดันเกษตรกรในการปลูกทุเรียน และตอนนี้อัตลักษณ์ของเราก็คือทุเรียนเวียงเชียงรุ้ง เป็นของดีของเรา ตอนนี้เรากำลังผลักดันทุเรียนอำเภอเวียงเชียงรุ้งให้ดังในระดับทั่วประเทศ”
ความท้าทายและแนวทางแก้ไข
แม้จะมีศักยภาพสูง แต่การพัฒนาอุตสาหกรรมทุเรียนเชียงรายยังคงเผชิญกับความท้าทายหลายประการ ปัญหาหลักที่พบได้แก่ สภาพอากาศหนาวเย็นที่ทำให้ต้นทุเรียนมีปัญหาในช่วงฤดูหนาว ปัญหาแหล่งน้ำที่มีไม่เพียงพอกับความต้องการ และปัญหาการจัดการสวนที่ไม่เหมาะสม
เกษตรกรส่วนใหญ่ยังไม่มีองค์ความรู้ในการทำทุเรียนให้มีคุณภาพ โดยจะเน้นแค่ติดลูกได้ และมีปัญหาด้านการจัดการที่ไม่เหมาะสม เช่น ตัดอ่อน ตัดเบียด ซึ่งจะทำให้ทุเรียนไม่มีคุณภาพและราคาตกต่ำ
การรวมกลุ่มของเกษตรกรจึงเป็นแนวทางสำคัญในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ โดยจะช่วยเสริมความรู้ในการผลิต การใช้ปุ๋ย ยา การลดต้นทุน และการควบคุมคุณภาพ ทำให้เกษตรกรสามารถผลิตทุเรียนที่มีมาตรฐานและแข่งขันได้ในตลาด

บริบทระดับชาติและระดับภูมิภาค
การพัฒนาทุเรียนเชียงรายเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ประเทศไทยกำลังมุ่งสู่การเป็นผู้นำด้านทุเรียนในระดับโลก เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เปิดเผยว่า คณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้มีมติเห็นชอบการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการพัฒนาคุณภาพสินค้าทุเรียน โดยมีรัฐมนตรีเป็นประธาน
การจัดตั้งคณะอนุกรรมการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการบูรณาการขับเคลื่อนการดำเนินงานและแก้ไขปัญหาการส่งออกทุเรียนไทย ให้การพัฒนาคุณภาพทุเรียนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพได้มาตรฐานสากล และเพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของทุเรียนไทยในระดับโลก
รัฐมนตรีเกษตรฯ ยังได้ประเมินสถานการณ์ผลไม้ปี 2568 โดยคาดว่าทุเรียนและลำไยจะเริ่มออกสู่ตลาดในเดือนกรกฎาคม และมีปริมาณเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อน ทุเรียนมีผลผลิตรวมประมาณ 606,958 ตัน เพิ่มขึ้น 14.46% จะออกสู่ตลาดมากที่สุดในเดือนกรกฎาคม
การเชื่อมต่อกับความร่วมมือระดับอาเซียน
ในมิติของความร่วมมือระหว่างประเทศ ปัจจุบันมีการหารือเกี่ยวกับการจัดตั้ง “สมาพันธ์ทุเรียนอาเซียน” ซึ่งจะเป็นการจับมือร่วมกันระหว่างไทย เวียดนาม และมาเลเซีย ที่ล้วนเป็นผู้ผลิตหลักที่ครองตลาดทุเรียนมากกว่า 90% ของอาเซียน
สมาพันธ์ฯ จะทำหน้าที่ใน 6 ด้านหลัก ได้แก่ การแลกเปลี่ยนข้อมูลการผลิตและแนวโน้มตลาด การถ่ายทอดเทคโนโลยีการปลูกและองค์ความรู้ การกำหนดมาตรฐานสินค้า การสร้างแบรนด์ร่วม การกำหนดการรายงานราคารูปแบบรายเดือน และการสนับสนุนการร่วมทุนระหว่างผู้ประกอบการ
ความร่วมมือในระดับภูมิภาคนี้จะช่วยยกระดับมาตรฐานสินค้าทุเรียนให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล สร้างระบบข้อมูลการตลาดที่โปร่งใส พัฒนาเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว และสร้างเครือข่ายการจำหน่ายที่แข็งแกร่งในตลาดโลก
ผลกระทบต่อเศรษฐกิจท้องถิ่นและแนวโน้มอนาคต
การพัฒนาอุตสาหกรรมทุเรียนในเชียงรายมีผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างชัดเจน จากพื้นที่ปลูกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันทุกอำเภอของจังหวัดเชียงรายมีการปลูกทุเรียนประมาณ 10,000 ไร่ สายพันธุ์ที่ปลูกส่วนใหญ่เป็นพันธุ์หมอนทอง ซึ่งเป็นที่นิยมของตลาด นอกจากนี้ยังมีสายพันธุ์อื่นๆ เช่น มูซังคิง หนามดำ ก้านยาว
การเติบโตของอุตสาหกรรมทุเรียนไม่เพียงแต่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรโดยตรง แต่ยังกระตุ้นเศรษฐกิจในห่วงโซ่อุปทานที่เกี่ยวข้อง ทั้งการขนส่ง การแปรรูป การจำหน่าย และการท่องเที่ยวเชิงเกษตร
นายเสน่ห์ แสงคำ เกษตรจังหวัดเชียงราย เป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมงานที่เห็นถึงศักยภาพการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้ และได้ให้การสนับสนุนด้านเทคนิคและการถ่ายทอดความรู้แก่เกษตรกร
ก้าวสู่การเป็นผู้นำทุเรียนระดับโลก
การเปิดตัว “ทุเรียนถิ่นหนาวเชียงราย” เป็นเครื่องหมายสำคัญของการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการเกษตรของภาคเหนือ จากพื้นที่ที่เคยไม่เหมาะสมกับการปลูกทุเรียน กลับกลายเป็นแหล่งผลิตทุเรียนคุณภาพสูงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ความสำเร็จนี้เกิดจากการผสมผสานระหว่างความมุ่งมั่นของเกษตรกร การสนับสนุนจากภาครัฐ และความเหมาะสมของสภาพแวดล้อมท้องถิ่น ซึ่งสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมูลค่าสูง สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก
ด้วยแผนการพัฒนาที่ชัดเจน การสร้างแบรนด์ที่เข้มแข็ง และการเชื่อมต่อกับความร่วมมือในระดับภูมิภาค ทุเรียนเชียงรายมีโอกาสที่จะกลายเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์เกษตรหลักของประเทศไทย และเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของจังหวัดเชียงราย
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
- ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์