Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เทศบาลแม่ยาวเร่งฟื้นฟูหลังฝนถล่ม มอบความช่วยเหลือผู้ประสบภัย

เทศบาลตำบลแม่ยาวลงพื้นที่ตรวจความเสียหายหลังฝนตกหนักและมอบความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัย

เมื่อวันพุธที่ 30 ตุลาคม 2567 เวลา 10.00 น. นายอภิรักษ์ อินต๊ะวัง นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลแม่ยาว พร้อมด้วยทีมบริหาร รองปลัดเทศบาล กองช่าง สมาชิกสภาเขต 1 ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 บ้านทุ่งหลวง และผู้ใหญ่บ้านหมู่ 14 บ้านศิริราษฎร์ ได้ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายและเยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักในพื้นที่ตำบลแม่ยาว

ตรวจความเสียหายจากฝนตกหนักในหลายจุด


การลงพื้นที่ครั้งนี้ ทีมงานได้เริ่มจากตรวจสอบที่จุดที่ 1 บริเวณถนนคันบ่อปลาซึ่งถูกน้ำฝนกัดเซาะจนทำให้ถนนบางช่วงขาด ทำให้การสัญจรในบริเวณดังกล่าวมีอุปสรรค ทีมงานจากเทศบาลได้เร่งสำรวจความเสียหายและวางแผนที่จะซ่อมแซมเพื่อให้ถนนกลับมาใช้งานได้ตามปกติในเร็ว ๆ นี้ นอกจากนี้ยังได้ตรวจสอบดินสไลด์ที่ถมทับเส้นทางสัญจรซึ่งทำให้รถไม่สามารถวิ่งผ่านได้ โดยทีมงานได้กำหนดแผนแก้ไขเพื่อฟื้นฟูเส้นทางการสัญจรให้กลับมาใช้งานได้อย่างรวดเร็ว

ตรวจงานก่อสร้างเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน


ในระหว่างการลงพื้นที่ ทีมงานเทศบาลยังได้ตรวจงานเทคอนกรีตเสริมเหล็กที่บ้านห้วยชมภู ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหมู่บ้านห้วยขมนอก รวมถึงการตรวจงานเทถนนคอนกรีตเสริมเหล็กในหมู่ที่ 1 บริเวณบ้านห้วยขมใน โดยงานก่อสร้างดังกล่าวเป็นไปตามแผนงานของเทศบาลเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวบ้านในพื้นที่ให้สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกและปลอดภัย อีกทั้งยังได้ตรวจงานถมดินบริเวณปางช้างกะเหรี่ยงรวมมิตร ซึ่งเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญในพื้นที่ตำบลแม่ยาว โดยการถมดินในครั้งนี้จะช่วยเสริมความแข็งแรงของถนนและช่วยป้องกันดินทรุดตัวเมื่อเกิดฝนตกหนัก

มอบเงินช่วยเหลือจากมูลนิธิไต้หวันแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม


ในโอกาสนี้ เทศบาลตำบลแม่ยาวยังได้ร่วมมอบเงินช่วยเหลือแก่พี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัย โดยเงินช่วยเหลือดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิจากประเทศไต้หวัน สำหรับชาวบ้านในบ้านรวมมิตร หมู่ที่ 2 และบ้านแคววัวดำ หมู่ที่ 12 ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมหนัก การมอบเงินช่วยเหลือนี้มีเป้าหมายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยเทศบาลตำบลแม่ยาวจะติดตามให้ความช่วยเหลือในระยะต่อไปอย่างต่อเนื่อง

ประชุมร่วมเรือนจำและฝ่ายปกครองเพื่อมอบบ้านน็อคดาวน์


ในช่วงบ่าย เวลา 14.00 น. นายอภิรักษ์และคณะได้ร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่จากเรือนจำ พร้อมด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และฝ่ายปกครองในพื้นที่ตำบลแม่ยาว ตำบลดอยฮาง ตำบลรอบเวียง และตำบลริมกก เพื่อหารือเกี่ยวกับการมอบบ้านน็อคดาวน์แก่ผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยใหม่ในพื้นที่ที่ประสบภัย โดยโครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนที่ขาดแคลนที่อยู่อาศัยได้รับบ้านที่มั่นคงและปลอดภัย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

โออาร์ ร่วม CIB ช่วยแม่สาย ฟื้นฟูภัยน้ำท่วม

โออาร์และ CIB ส่งมอบกำลังใจ ช่วยผู้ประสบอุทกภัยแม่สายในโครงการ “จากใจ สู่ใจ ฟื้นฟูภัยน้ำท่วม”

โออาร์ร่วมมือ CIB ช่วยผู้ประสบอุทกภัย ฟื้นฟูชีวิตหลังน้ำลด

เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2567 บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จัดโครงการจิตอาสา “จากใจ สู่ใจ ฟื้นฟูภัยน้ำท่วม” เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยมีการมอบเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็น เช่น หม้อหุงข้าวและพัดลม รวมทั้งหมด 80 ชิ้น โดยนายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโออาร์ เป็นผู้มอบให้แก่ พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในพิธีมอบ ณ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กรุงเทพฯ

โออาร์ร่วมสนับสนุนเครื่องดื่มคาเฟ่ อเมซอน มอบให้ผู้ประสบภัย

นอกจากนี้ โออาร์ยังได้มอบเครื่องดื่มจากคาเฟ่ อเมซอน จำนวน 1,000 แก้ว เพื่อส่งเสริมกำลังใจแก่ผู้ประสบอุทกภัย โดยเครื่องดื่มนี้ถูกส่งไปยังโรงเรียนบ้านเหมืองแดง อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นสถานที่ศูนย์รวมผู้ประสบภัยภายในโครงการ โออาร์แสดงความมุ่งมั่นในการฟื้นฟูชีวิตและสนับสนุนชุมชนผ่านการมอบสิ่งของที่จำเป็น โดยการสนับสนุนครั้งนี้ถือเป็นการต่อยอดการช่วยเหลือที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา

การช่วยเหลือเพิ่มเติมใน 7 จังหวัดภาคเหนือ

โออาร์ยังได้ร่วมกับผู้แทนจำหน่ายก๊าซหุงต้ม ปตท. ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ มอบก๊าซหุงต้มจำนวน 3,223 กิโลกรัม ถุงยังชีพ 3,250 ชุด น้ำดื่ม 9,500 ขวด และถุงบิ๊กแบ๊กจำนวน 1,000 ถุง เพื่อใช้เป็นแนวป้องกันน้ำในจังหวัดภาคเหนือ รวมถึงจังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง พะเยา เชียงราย น่าน แพร่ และสุโขทัย เพื่อสร้างความมั่นคงแก่ชุมชนและช่วยลดผลกระทบจากอุทกภัย

มุ่งมั่นสานต่อความช่วยเหลือและเฝ้าระวังสถานการณ์ใกล้ชิด

โออาร์ยืนยันว่าจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อสนับสนุนความช่วยเหลือที่จำเป็นและเป็นกำลังใจให้ชุมชนในพื้นที่อำเภอแม่สายให้สามารถฟื้นฟูชีวิตและก้าวผ่านอุปสรรคไปด้วยกัน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

มทบ.37 ตรวจติดตามพัฒนาการ เด็กและช่วยเหลือหลังอุทกภัย

มื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2567 เวลา 10.00 น. พลตรี บุญญฤทธิ์ เกษตรเวทิน ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 (ผบ.มทบ.37) พร้อมด้วย ดร.ธาราทิพย์ วงษ์บรรณะ ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขามณฑลทหารบกที่ 37 และคณะ ได้เข้าตรวจเยี่ยมการคัดกรองพัฒนาการเด็กปฐมวัย ตามโครงการเฝ้าระวังและส่งเสริมกระตุ้นพัฒนาการ ณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กมณฑลทหารบกที่ 37 (ศพด.มทบ.37) ค่ายเม็งรายมหาราช

การตรวจติดตามและคัดกรองพัฒนาการเด็ก

การตรวจเยี่ยมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการเฝ้าระวังและส่งเสริมกระตุ้นพัฒนาการเด็กปฐมวัย ซึ่งเป็นโครงการที่มุ่งเน้นการคัดกรองพัฒนาการของเด็กตามวัยที่เหมาะสม โดยเฉพาะการเฝ้าระวังและติดตามพัฒนาการในด้านต่าง ๆ ของเด็กอย่างต่อเนื่อง การคัดกรองดังกล่าวถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้สามารถตรวจสอบพัฒนาการทางร่างกาย จิตใจ และสังคมของเด็กในช่วงวัยที่สำคัญ เพื่อให้เด็กได้รับการดูแลและพัฒนาศักยภาพอย่างถูกต้องตามวัย

พลตรี บุญญฤทธิ์ และ ดร.ธาราทิพย์ ได้ตรวจสอบการดำเนินการของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และให้คำแนะนำในการพัฒนาระบบคัดกรองพัฒนาการเด็กปฐมวัย โดยเฉพาะการจัดการด้านการดูแลเด็กและการติดตามพัฒนาการเป็นรายบุคคล เพื่อให้เด็กในศูนย์ได้รับการพัฒนาศักยภาพอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ คณะยังได้พูดคุยและให้กำลังใจกับบุคลากรและครูผู้สอนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยที่ผ่านมา

มอบสิ่งของช่วยเหลือและการส่งเสริมขวัญกำลังใจ

นอกจากการตรวจเยี่ยมและติดตามโครงการเฝ้าระวังพัฒนาการเด็กแล้ว คณะของสมาคมแม่บ้านทหารบกยังได้มอบสิ่งของอุปโภคบริโภคให้กับบุคลากรและครูโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ เพื่อเป็นการช่วยเหลือและส่งเสริมขวัญกำลังใจในช่วงเวลาที่ยากลำบาก นอกจากนี้ ยังมีการมอบไอศกรีมให้กับเด็กนักเรียนในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเพื่อเป็นการสร้างความสุขและรอยยิ้มให้กับเด็ก ๆ ที่เข้าร่วมโครงการ

การลงพื้นที่ในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการติดตามความก้าวหน้าของโครงการพัฒนาการเด็กแล้ว ยังเป็นโอกาสในการรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากบุคลากรในพื้นที่ ซึ่งจะช่วยให้โครงการสามารถดำเนินการไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และสามารถปรับปรุงให้สอดคล้องกับความต้องการของพื้นที่

ผลการปฏิบัติและการสนับสนุนเพิ่มเติม

ผลการดำเนินการตรวจเยี่ยมและติดตามในครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย พลตรี บุญญฤทธิ์และคณะได้รับข้อมูลและข้อเสนอแนะเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคัดกรองพัฒนาการเด็ก และได้เห็นถึงความตั้งใจของบุคลากรในการดูแลเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาศักยภาพเด็กในระยะเริ่มต้น

ในอนาคต คณะจะดำเนินการตรวจสอบและสนับสนุนเพิ่มเติมเพื่อให้แน่ใจว่าโครงการเฝ้าระวังและส่งเสริมกระตุ้นพัฒนาการเด็กปฐมวัยนี้จะสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถส่งเสริมการพัฒนาทางร่างกายและจิตใจของเด็กในพื้นที่ให้เติบโตไปอย่างมีคุณภาพ

ความสำคัญของโครงการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็ก

โครงการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย เป็นโครงการที่มีความสำคัญในการคัดกรองพัฒนาการเด็กตามวัย โดยเป็นการเฝ้าระวังและติดตามผลการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เด็กได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม โครงการนี้ไม่เพียงช่วยให้เด็กพัฒนาไปตามวัย แต่ยังช่วยให้ผู้ปกครองและครูสามารถตรวจสอบและรับรู้ถึงพัฒนาการของเด็กได้อย่างรวดเร็ว

ด้วยการสนับสนุนและการติดตามโครงการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้โครงการนี้สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านการจัดการ การเฝ้าระวังพัฒนาการ และการสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของเด็กให้เติบโตไปเป็นบุคคลที่มีคุณภาพต่อไปในอนาคต

การลงพื้นที่ของ พลตรี บุญญฤทธิ์ และคณะในครั้งนี้ ถือเป็นการสนับสนุนที่สำคัญในการผลักดันโครงการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีต่อทั้งเด็ก บุคลากร และชุมชน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

คืบหน้าการช่วยเหลือน้ำท่วมในแม่สาย สายลมจอย-บ้านไม้ลุงขนยังไม่ 100%

สถานการณ์และความคืบหน้าการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในอำเภอแม่สาย

เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2567 เวลา 17.30 น. ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอแม่สาย ได้มีการประชุมติดตามสถานการณ์และการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยโดยมีผจก.ชร. พล.ต.บุญญฤทธิ์ เกษตรเวทิน ผบ.มทบ.37 เป็นประธานการประชุม ร่วมกับส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

การดำเนินงานของกรมการทหารช่าง

กรมการทหารช่างได้ดำเนินการตรวจสอบความแข็งแรงของบิ๊กแบ็คและลำน้ำสาย 21 จุด พบว่าสถานที่ทั้งหมดแข็งแรงปกติ นอกจากนี้ยังได้ทำการซ่อมแซมและปรับพื้นที่วัด โรงเรียน และบ้านคนยากไร้ ผลการดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

การฟื้นฟูบ้านพักอาศัยโดยหน่วยงานต่างๆ

หน่วยงานหลายแห่งเข้าร่วมในการฟื้นฟูบ้านพักอาศัย โดยกรมทรายได้ฟื้นฟูบ้านในชุมชนหัวฝายและตลาดสายลมจอย โดยความก้าวหน้าถึง 100% และ 60.61% ตามลำดับ ส่วนทบ.ดำเนินการฟื้นฟูบ้านไม้ลุงขนถึง 80.95% และกองทัพไทยฟื้นฟูบ้านเกาะทรายได้ถึง 69.05%

ความคืบหน้าของมท.และหน่วยงานร่วม

มท.ชุด ชป.อส.ได้ฟื้นฟูบ้านเพิ่มเติม 3 ครัวเรือน โดยบ้านเหมืองแดงและบ้านเหมืองแดงใต้มีความก้าวหน้าถึง 98.97% และ 100% ตามลำดับ ความคืบหน้าทั่วโซนมหาดไทยอยู่ที่ 99.36%

การสนับสนุนจากสภาแม่สายและส่วนราชการอื่นๆ

สภาแม่สายได้วางกำลังพลอำนวยสะดวกในการขนย้ายดินออกจากพื้นที่ประสบภัย ส่วนประปาเร่งซ่อมแซมระบบประปาและตรวจสภาพในพื้นที่ที่ฟื้นฟูแล้ว ไฟฟ้าก็ได้ตรวจสอบระบบไฟฟ้าในบ้านที่ฟื้นฟูสภาพเรียบร้อยแล้ว

ความร่วมมือของกองทัพเรือและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

กองทัพเรือร่วมกับมูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภา) ยามยาก สภากาชาดไทย และหน่วยงานอื่นๆ เร่งเคลียร์พื้นที่ชุมชนถ้ำผาจมและตลาดสายลมจอย โดยใช้เครื่องมือและกำลังพลในการขุดตักดินออกจากบ้านและร้านค้า เทศบาลเวียงพางคำได้นำรถแทรกเตอร์มาปรับเกรดดันดินโคลนที่ติดถนนเพื่อเปิดเส้นทางเข้าบ้านถ้ำผาจม

ความสำเร็จในการฟื้นฟูพื้นที่และการกลับมาใช้ชีวิตประจำวัน

การฟื้นฟูพื้นที่ชุมชนถ้ำผาจมและตลาดสายลมจอยมีความคืบหน้าอย่างมาก ถนนเข้าออกในหมู่บ้านเริ่มเดินทางสัญจรได้ และมีการจ่ายกระแสไฟฟ้าและน้ำประปาให้กับบ้านที่พร้อมแล้ว น.ส. ภัคสิริพัชร์ พิสิษชาโนดม ชาวบ้านบ้านถ้ำผาจม ได้กล่าวว่าชาวบ้านเริ่มทยอยกลับเข้าบ้านเรือน ขอบคุณเจ้าหน้าที่และจิตอาสาทุกคน

ความต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากชาวบ้าน

ชาวบ้านขอความช่วยเหลือในเรื่องเครื่องนอน หมอน ผ้าห่ม หม้อหุงข้าว เนื่องจากน้ำได้พัดพาสิ่งของบางส่วนไป ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านแทบจะไม่เหลือ และรถเข็นขายของถูกน้ำพัดพาไป ทำให้ชาวบ้านลำบากมาก

เป้าหมายการเคลียร์พื้นที่ประสบภัยในเดือนตุลาคม

ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่มคาดว่าจะเคลียร์พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในอำเภอแม่สายได้ทั้งหมดไม่เกินเดือนตุลาคมนี้

การร่วมมือกันอย่างเต็มที่ของทุกหน่วยงานทำให้การฟื้นฟูและช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ชาวบ้านในพื้นที่สามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมั่นคงและปลอดภัยอีกครั้ง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

เซเว่น อีเลฟเว่น มอบอาหารฮาลาล ช่วยชุมชนมุสลิมน้ำท่วมเชียงราย

 

เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2567 เวลา 10.00 น. นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นายราชัน รุจิพรรณ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดเชียงราย และนายวิเชียร สิริสิทธิวงษ์ รองประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดเชียงราย,นายปรีชา อนุรักษ์ คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดเชียงราย, ร.ต.ท.ทัศน์ ดำรงเมือง คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดเชียงราย เป็นผู้แทนรับมอบสิ่งของช่วยเหลือจากบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) โดยมีนายชัชวาล นวลยิ่ง และ นางสาว ปัญชิกา บุรีจันทร์ ผู้จัดการเขตปฏิบัติการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) เป็นตัวแทนส่งมอบอาหารที่มีเครื่องหมายฮาลาล เพื่อนำไปช่วยเหลือพี่น้องชาวเชียงรายที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยในพื้นที่การส่งมอบในครั้งนี้ เซเว่น อีเลฟเว่น ได้ร่วมมือกับสำนักข่าวนครเชียงรายนิวส์ ในการนำอาหารและสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นไปแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยมุ่งเน้นการช่วยเหลือชาวชุมชนอิสลามในจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความต้องการอาหารที่ผ่านการรับรองมาตรฐานฮาลาล รวมถึงกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้

 
 นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า จากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในหลายอำเภอของจังหวัดเชียงราย ประชาชนในชุมชนต่างได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยเฉพาะกลุ่มชาวไทยมุสลิมที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ เนื่องจากโรงครัวที่จัดทำอาหารช่วยเหลือในพื้นที่ส่วนใหญ่มักจะขาดแคลนเมนูอาหารฮาลาล ทำให้หลายครอบครัวไม่สามารถรับอาหารได้ครบถ้วน 
 

ทางเซเว่น อีเลฟเว่น จึงได้จัดเตรียมอาหารพร้อมรับประทานที่มีตราฮาลาลมามอบให้ในครั้งนี้ เพื่อให้กลุ่มชาวมุสลิมในชุมชนสามารถเข้าถึงความช่วยเหลือได้อย่างเท่าเทียมกับกลุ่มอื่น ๆ โดยมีการแบ่งสัดส่วนอาหารไปยังในเขตพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

 
 นายราชัน รุจิพรรณ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า การส่งมอบอาหารในครั้งนี้ถือเป็นความตั้งใจของภาคเอกชนในการช่วยเหลือและสนับสนุนผู้ประสบภัยให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตไปได้ พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้กับทุกครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะกลุ่มชาวมุสลิมที่มีความต้องการอาหารตามหลักศาสนา เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการช่วยเหลือได้อย่างเท่าเทียมกัน
 
 
 นายปรีชา อนุรักษ์ คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดเชียงราย กล่าวว่าการส่งมอบอาหารที่มีเครื่องหมายฮาลาลยังถือเป็นการสร้างความเท่าเทียมและการเปลี่ยนแปลงในแง่บวกสำหรับชุมชนอิสลามที่อาจจะได้รับการจัดสรรอาหารที่ไม่ตรงตามข้อกำหนดทางศาสนาบ่อยครั้ง ซึ่งในส่วนนี้ก็เข้าใจในสถานการณ์วิกฤต

 

นายชัชวาล นวลยิ่ง ผู้จัดการเขตปฏิบัติการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เราตระหนักถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยในครั้งนี้ จึงได้จัดเตรียมอาหารพร้อมรับประทานที่ผ่านการรับรองฮาลาลเพื่อสนับสนุนชุมชนมุสลิมในพื้นที่ และเราหวังว่าอาหารที่เรามอบให้นี้จะสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ได้บ้าง”
 

ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายขณะนี้ ยังมีประชาชนอีกหลายกลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย โดยเฉพาะในอำเภอแม่สาย และอำเภอเมือง ที่ยังคงมีความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมซ้ำอีก การส่งมอบอาหารในครั้งนี้ถือเป็นการแสดงถึงความห่วงใยและความตั้งใจของภาคเอกชนในการช่วยเหลือและสนับสนุนผู้ประสบภัยให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตไปได้ พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้กับทุกครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะกลุ่มชาวมุสลิมที่มีความต้องการอาหารตามวิถีทางศาสนา เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการช่วยเหลือได้อย่างเท่าเทียมกัน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
TOP STORIES

พระครูอ๊อดนำช้างลุยน้ำท่วมเชียงใหม่ ช่วยชาวบ้านฝ่าวิกฤตเสบียงขาดแคลน

 

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2567 พระครูอ๊อด วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ ได้นำช้างจากบ้านพักช้างตระกูลแสน ได้แก่ พลายคุณแสน และพลายแสนทัพ ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในอำเภอสารภี ถนนสายต้นยาง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเกิดน้ำท่วมสูงบางจุดจนไม่สามารถเข้าถึงได้โดยรถขนาดใหญ่

การนำช้างมาช่วยเหลือในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยไม่สามารถใช้รถหกล้อหรือเรือเข้าไปในพื้นที่ได้ เนื่องจากกระแสน้ำที่ไหลแรงและระดับน้ำที่สูง ทำให้ช้างกลายเป็นตัวช่วยสำคัญในการขนส่งเสบียงและสิ่งของจำเป็น เช่น ข้าวสาร อาหารแห้ง และข้าวกล่อง เพื่อแจกจ่ายให้กับชาวบ้านในพื้นที่ประสบภัย

พระครูอ๊อดกล่าวว่า ช้างเป็นสัตว์ที่มีพละกำลังสูงและสามารถฝ่ากระแสน้ำที่เชี่ยวกรากได้ดีกว่าเรือท้องแบน นอกจากนี้ ยังมีทีมควาญช้างและทีมกู้ภัยน้ำหลากคอยประกบช้างทั้งสองตลอดการทำงานเพื่อความปลอดภัย โดยช้างทั้งสองเชือกยังทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม แม้จะมีอุปสรรคจากกระแสน้ำและสิ่งกีดขวางต่าง ๆ ในพื้นที่

“การนำช้างมาช่วยเหลือในครั้งนี้ไม่ใช่แค่การช่วยผู้ประสบภัย แต่ยังเป็นการฝึกช้างให้มีความคุ้นเคยกับการทำงานช่วยเหลือสังคม ซึ่งถือว่าเป็นการใช้พละกำลังของช้างให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง นับเป็นภารกิจสำคัญของช้างตระกูลแสนที่จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องชาวบ้านในเวลาวิกฤต” พระครูอ๊อดกล่าว

ช้างทั้งสองเชือกได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากทีมงานควาญช้าง เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีอันตรายใด ๆ เกิดขึ้น เช่น การเหยียบตะปูหรือท่อที่อาจอยู่ในน้ำ นอกจากนี้ยังมีการควบคุมการเดินของช้างในเลนกลางถนน และมีทีมกู้ภัยคอยประกบทุกฝีก้าว

คุณแสนและแสนทัพยังแสดงความน่ารักให้เห็นในระหว่างการช่วยเหลือ เมื่อมีคนเรียกชื่อ “แสนทัพ” ช้างก็หันไปทักทายด้วยการโบกงวง ทำให้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์รู้สึกอบอุ่นและชื่นชมการทำงานของทั้งช้างและทีมช่วยเหลือ

พระครูอ๊อดได้เปิดรับบริจาคเพื่อสนับสนุนภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยผู้ที่สนใจสามารถร่วมทำบุญได้ที่บัญชีธนาคารกรุงไทย เลขที่ 5400186947 หรือผ่านระบบพร้อมเพย์หมายเลข 0808500184 ในชื่อบัญชี “พระวีรวัฒน์ วีรวฑฺฒโน”

ผู้ใช้โซเชียลต่างพากันชื่นชมการทำงานของทีมช้างและทีมกู้ภัย พร้อมแชร์โพสต์และภาพถ่ายของคุณแสนและแสนทัพที่ลุยน้ำช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ ทำให้ข่าวนี้ได้รับความสนใจอย่างมากในโลกออนไลน์

การลงพื้นที่ช่วยเหลือของช้างตระกูลแสนในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว ยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจและกำลังใจให้กับคนในสังคมในการทำความดีและช่วยเหลือกันในช่วงเวลาวิกฤตอีกด้วย นับเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการทำงานจิตอาสาที่ใช้ทรัพยากรอย่าง “ช้าง” ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับสังคมในเวลาที่ต้องการ

ร่วมกันสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้พระครูอ๊อดและทีมกู้ภัยในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมครั้งนี้ เพื่อให้ช้างไทยได้แสดงพละกำลังและศักยภาพในการช่วยเหลือสังคมอย่างเต็มที่ต่อไป.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : แซนดี้ อะโลฮ่า (Sandy Aloha)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

น้ำป่าท่วมเวียงป่าเป้า เชียงราย ชาวบ้านอพยพ-โรงเรียนเสียหายหนัก

 

เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2567 ทางเพจขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บ้านโป่ง อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย ได้เผยแพร่ภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นจากอุทกภัยครั้งใหญ่ในพื้นที่ โดยเฉพาะหมู่บ้านห้วยหินลาดใน หมู่ 7 ตำบลบ้านโป่ง และหมู่บ้านห้วยทรายขาว หมู่ 7 ตำบลบ้านโป่ง ที่ประสบภัยน้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงตั้งแต่วันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา เหตุการณ์นี้ทำให้บ้านเรือนในหลายจุดได้รับความเสียหายหนักจนไม่สามารถอยู่อาศัยได้ ประชาชนหลายครอบครัวต้องอพยพออกจากพื้นที่ไปพักอาศัยในศูนย์อพยพชั่วคราวของ อบต.บ้านโป่ง เพื่อความปลอดภัย

จากรายงานพบว่า บ้านเรือนของประชาชนในหมู่บ้านห้วยทรายขาวได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากน้ำป่าที่ไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้โครงสร้างบ้านเรือนพังทลาย บางหลังถูกกระแสน้ำพัดจนไม่เหลือร่องรอย เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครได้เร่งเข้าช่วยเหลืออพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวที่จัดตั้งขึ้น ณ อบต.บ้านโป่ง ซึ่งมีการดูแลและจัดหาน้ำดื่ม อาหาร รวมถึงที่นอนให้ผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน

ไม่เพียงแค่บ้านเรือนของชาวบ้านที่ได้รับความเสียหาย แต่ยังมีโรงเรียนห้วยหินลาดใน ซึ่งเป็นสถานศึกษาแห่งเดียวในชุมชนได้รับความเสียหายอย่างหนัก อาคารเรียนถูกน้ำป่าพัดพังไปเกือบทั้งหมด ทำให้นักเรียนกว่า 30 คนที่ต้องย้ายสถานที่เรียนชั่วคราว และยังต้องรอความช่วยเหลือในการฟื้นฟูโรงเรียน ซึ่งเป็นแหล่งการศึกษาและศูนย์รวมจิตใจของชุมชน การสูญเสียครั้งนี้ไม่เพียงแต่กระทบต่อการเรียนการสอนของเด็ก ๆ แต่ยังสร้างความสูญเสียทางจิตใจให้กับครอบครัวและชุมชนที่มีโรงเรียนเป็นจุดศูนย์กลางของการพัฒนาอีกด้วย

สถานการณ์น้ำท่วมในอำเภอเวียงป่าเป้า ยังส่งผลกระทบในวงกว้าง ครอบคลุมพื้นที่ใน 4 ตำบลหลัก ได้แก่ ตำบลป่างิ้ว ตำบลเวียงกาหลง ตำบลบ้านโป่ง และตำบลเวียง โดยเฉพาะตำบลบ้านโป่งและตำบลเวียงที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด เนื่องจากมีการรับน้ำมาจากแม่น้ำลาว ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญที่ไหลผ่านพื้นที่ ส่งผลให้พื้นที่ลุ่มต่ำในหลายจุดมีน้ำท่วมขัง และบางจุดระดับน้ำยังคงสูง ทำให้การสัญจรในหลายเส้นทางถูกตัดขาด ประชาชนในหลายหมู่บ้านไม่สามารถออกมานอกพื้นที่ได้ เจ้าหน้าที่จึงต้องเร่งเข้าให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง

สำหรับการฟื้นฟูพื้นที่หลังจากน้ำลด ทางองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านโป่งและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้วางแผนดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยเริ่มจากการสำรวจความเสียหายในพื้นที่ที่น้ำเริ่มลดลง เพื่อวางแผนซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนนและสะพานที่ถูกน้ำพัดขาด รวมถึงบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ ทางหน่วยงานยังได้จัดเครื่องสูบน้ำเข้ามาช่วยเร่งระบายน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำ และติดตั้งเครื่องฉีดล้างทำความสะอาดถนนและบ้านเรือนที่ถูกโคลนและเศษดินจากน้ำป่าท่วมสูง

จากสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ ทำให้หลายครอบครัวในอำเภอเวียงป่าเป้าต้องเผชิญกับความยากลำบากทั้งด้านการอยู่อาศัยและความปลอดภัยในชีวิต เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานท้องถิ่นและอาสาสมัครได้ร่วมกันทำงานเพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติในเร็ววัน นายสมเกียรติได้ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงประชาชนที่มีจิตศรัทธาให้เข้ามาสนับสนุนการฟื้นฟูในครั้งนี้ เพื่อช่วยกันฟื้นฟูชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ ทางอบต.บ้านโป่ง ได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือและรับบริจาคสิ่งของที่จำเป็น เช่น เครื่องนอน ยารักษาโรค และเสื้อผ้า เพื่อช่วยเหลือประชาชนในศูนย์อพยพ หากท่านใดต้องการให้การสนับสนุนสามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 053-781989 หรือผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก “อบต.บ้านโป่ง อำเภอเวียงป่าเป้า” โดยตรง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านโป่ง

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

รัฐมนตรีช่วยเกษตรฯ ลงพื้นที่แม่สายติดตามน้ำท่วม พร้อมเร่งฟื้นฟูพื้นที่

 

เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2567 นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในเขตพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยมี นายสุริยพล นุชอนงค์ รองอธิบดีกรมชลประทาน และคณะเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้ด้วย โดยได้เดินทางไปยังโรงเรียนชุมชนไม้ลุงขนมิตรภาพที่ 169 ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ประสบภัย เพื่อมอบถุงยังชีพแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม พร้อมให้กำลังใจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวบ้านว่ารัฐบาลจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และจะเร่งฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับมาเป็นปกติในเร็ววัน

สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดเชียงรายในช่วงที่ผ่านมานั้น เกิดขึ้นจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “ยางิ” ที่ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้ระดับน้ำในลำน้ำหลายสายเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนของประชาชนในหลายอำเภอ รวมถึงพื้นที่อำเภอแม่สายที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสถานการณ์น้ำได้คลี่คลายลงแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำต่าง ๆ ลดลงอยู่ในเกณฑ์ปกติ และเจ้าหน้าที่กำลังเร่งดำเนินการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง

ในระหว่างการลงพื้นที่ นายอัครา พรหมเผ่า ได้ติดตามความคืบหน้าการฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำลด และได้สั่งการให้กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการสำรวจความเสียหาย เพื่อวางแผนฟื้นฟูอย่างเร่งด่วน โดยเน้นการทำงานแบบบูรณาการร่วมกันกับหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อลดความซ้ำซ้อนและเร่งแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด โดยได้เน้นย้ำให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาที่สำคัญในระยะสั้นก่อน เช่น การระบายน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำที่ยังมีน้ำท่วมขัง การฟื้นฟูถนนเส้นทางคมนาคมที่ถูกน้ำท่วม รวมถึงการจัดหาน้ำสะอาดให้กับประชาชนในพื้นที่ที่ระบบน้ำประปาได้รับความเสียหาย

ด้านกรมชลประทาน โดยสำนักงานชลประทานที่ 2 และสำนักเครื่องจักรกล ได้จัดส่งเครื่องจักรกลหนัก เช่น รถแบคโฮ เครื่องสูบน้ำ รถบรรทุกน้ำ และเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ลงพื้นที่ทันทีหลังน้ำลด เพื่อเร่งดำเนินการขุดลอกลำคลอง และบ่อดักตะกอนที่ถูกตะกอนดินทรายอุดตันจากกระแสน้ำหลาก พร้อมกันนี้ยังได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมเพื่อเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ชุมชนและพื้นที่เกษตรกรรมที่ยังไม่สามารถระบายน้ำออกได้เต็มที่ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการฉีดล้างทำความสะอาดถนนเส้นทางหลักและถนนในชุมชนที่ถูกโคลนและเศษดินจากน้ำท่วมพัดมากองทับถม เพื่อให้สามารถกลับมาใช้งานได้อย่างปลอดภัยและเร็วที่สุด

นอกจากนี้ นายอัครา พรหมเผ่า ได้มอบหมายให้กรมชลประทานเร่งดำเนินการขุดลอกคลองสาย RMC1 (เหมืองแดง) และบ่อดักตะกอนในพื้นที่แม่สายที่มีการสะสมของตะกอนสูง เพื่อคืนประสิทธิภาพการระบายน้ำของคลองสายนี้ให้สามารถรองรับน้ำได้มากขึ้นและลดความเสี่ยงของน้ำท่วมในอนาคต ทั้งนี้ได้เน้นย้ำให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยประสานงานร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่น และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง

จากการลงพื้นที่ครั้งนี้ นายอัคราได้กล่าวกับประชาชนผู้ประสบภัยว่า รัฐบาลตระหนักถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน และได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการฟื้นฟูทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยในระยะสั้นจะเร่งฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานและช่วยเหลือประชาชนให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ในขณะที่ในระยะยาว จะมีการวางแผนป้องกันปัญหาน้ำท่วมซ้ำซ้อน เช่น การขุดลอกคลองและการสร้างระบบระบายน้ำที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มีความมั่นคงและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

นายสุริยพล นุชอนงค์ รองอธิบดีกรมชลประทาน ได้เสริมว่า กรมชลประทานจะเร่งดำเนินการตามคำสั่งการของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยเฉพาะการขุดลอกคลองและการบำรุงรักษาระบบระบายน้ำในพื้นที่ลุ่มต่าง ๆ ให้พร้อมใช้งานในทุกสถานการณ์ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำในพื้นที่เสี่ยง และจะดำเนินการฟื้นฟูพื้นที่การเกษตรที่ได้รับความเสียหายให้เกษตรกรสามารถกลับมาปลูกพืชผลได้โดยเร็วที่สุด พร้อมทั้งจะติดตามและรายงานความคืบหน้าให้กับผู้บริหารและประชาชนทราบอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ การดำเนินการฟื้นฟูหลังน้ำท่วมในจังหวัดเชียงรายจะดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยมีการติดตามประเมินผลทุกระยะ เพื่อให้แน่ใจว่าพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจะได้รับการฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์และยั่งยืน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังเน้นย้ำว่า การทำงานในครั้งนี้จะต้องดำเนินการให้ประชาชนได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง และพร้อมที่จะสนับสนุนการทำงานของทุกหน่วยงานเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยให้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติในเร็ววัน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กรมชลประทาน

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เร่งฟื้นฟูเชียงรายหลังน้ำท่วม ช่วยเหลือประชาชนให้กลับมาใช้ชีวิตปกติ

 

เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2567 นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ได้เร่งดำเนินการฟื้นฟูเมืองเชียงรายหลังจากเกิดเหตุอุทกภัยใหญ่ที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชุมชนในเขตเทศบาลเมืองเชียงรายหลายแห่ง โดยจัดตั้งแผนฟื้นฟูการจัดเก็บขยะ การกำจัดโคลน และการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ ซึ่งหนึ่งในภารกิจหลักคือการจัดเก็บขยะและโคลนตะกอนที่สะสมในพื้นที่ต่าง ๆ ของเมือง พร้อมทั้งฟื้นฟูระบบระบายน้ำให้กลับมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับฝนในอนาคตและฟื้นฟูสุขอนามัยในพื้นที่

 

การดำเนินงานฟื้นฟูในเขตชุมชนที่ได้รับผลกระทบ

ในวันที่ 28 กันยายน 2567 มีการเพิ่มกำลังพลและอุปกรณ์เครื่องจักรต่าง ๆ เช่น รถบรรทุกขยะ รถแมคโคร รถดูดโคลน และรถบรรทุกน้ำ จำนวนมาก เพื่อให้การรวบรวมและกำจัดขยะเป็นไปอย่างรวดเร็ว ครอบคลุมพื้นที่ต่าง ๆ ในเขตเทศบาลนครเชียงราย ไม่ว่าจะเป็น ชุมชนน้ำลัด, ชุมชนฝั่งหมิ่น, ริมน้ำกก, สวนสาธารณะเกาะลอย, เกาะทอง, แควหวาย, ถ.ฝั่งหมิ่น, ทวีรัตน์, เกาะทอง, รั้วเหล็กเหนือ, รั้วเหล็กใต้, ป่าแดง, ฮ่องลี่, ป่างิ้ว, ป่าตึงริมกก, บ้านใหม่ และหมู่บ้านธนารักษ์ ซึ่งแต่ละจุดมีการจัดทีมงานพร้อมอุปกรณ์อย่างครบครัน รวมถึงได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานหลายภาคส่วนที่ร่วมลงพื้นที่และสนับสนุนภารกิจฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง

 

การสนับสนุนจากภาคส่วนต่าง ๆ

ในการดำเนินการครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน อาทิ กรุงเทพมหานคร (อปท.), บริษัท บีเอ็มเจ็ตเซอร์วิส จังหวัดระยอง, เทศบาลนครนนทบุรี, และเทศบาลนครปากเกร็ด ซึ่งได้ส่งทีมงานและเครื่องจักรเข้ามาช่วยดำเนินการฟื้นฟู โดยเฉพาะรถดูดโคลนเลน จำนวน 4 คัน ที่ได้รับความสนับสนุนจากกรุงเทพมหานคร ทำให้การดำเนินงานในชุมชนป่าแดงสำเร็จลุล่วงไปได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่เทศบาลนครนนทบุรี และเทศบาลนครปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ช่วยดำเนินการในชุมชนแควหวาย ซอย 4 ในช่วงเช้า และช่วงบ่ายได้เข้าไปช่วยทำความสะอาดและดูดโคลนในชุมชนเกาะทอง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดจากน้ำท่วมในครั้งนี้

 

การจัดการขยะและฟื้นฟูระบบระบายน้ำ

นอกจากการจัดเก็บขยะและการกำจัดโคลนในพื้นที่แล้ว ทางเทศบาลนครเชียงรายยังได้ดำเนินการล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำในเขตพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยใช้เครื่องมือพิเศษ เช่น เครื่องเจาะสูบฉีดน้ำแรงดันสูง และรถดูดโคลน เพื่อป้องกันการอุดตันและช่วยในการระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมในการป้องกันน้ำท่วมและฟื้นฟูสุขอนามัยของชุมชนให้กลับมาเป็นปกติโดยเร็วที่สุด

 

ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อเมืองเชียงราย

นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ยังได้กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่เข้ามาช่วยสนับสนุนการฟื้นฟูเมืองเชียงรายในครั้งนี้ โดยเฉพาะภาคเอกชนและหน่วยงานราชการที่ส่งทีมและเครื่องมือมาช่วยฟื้นฟูอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ทุกฝ่ายต่างมีเป้าหมายเดียวกันคือการทำให้เมืองเชียงรายกลับมามีสภาพแวดล้อมที่ดีอีกครั้ง และสามารถรองรับการดำเนินชีวิตของประชาชนได้อย่างปกติสุข

สำหรับประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม สามารถติดต่อเทศบาลนครเชียงรายได้ที่หมายเลข 053-711333 หรือประสานงานผ่านศูนย์ช่วยเหลือในพื้นที่ใกล้บ้านของท่านได้ตลอดเวลา โดยเทศบาลจะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อให้เมืองเชียงรายกลับมาเป็นเมืองที่น่าอยู่และพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ศบภ.มทบ.37 ลงพื้นที่ช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ฟื้นฟูบ้านเรือนในชุมชนแม่สาย

 

เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2567 กองบัญชาการกองทัพบกที่ 37 (ศบภ.มทบ.37) โดย กองพันทหารราบที่ 17 กรมทหารราบที่ 3 ในพระองค์ฯ (ร.17 พัน.3 ในพระองค์ฯ) ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือฟื้นฟูบ้านเรือนของประชาชนในกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม โดยได้ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชุมชนไม้ลุงขน, ชุมชนเกาะทราย และพื้นที่ใกล้เคียง ในเขตอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย การลงพื้นที่ในครั้งนี้ถือเป็นการช่วยเหลือเพื่อฟื้นฟูความเป็นอยู่ของประชาชนและสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ประสบภัยให้กลับมามีความหวังอีกครั้ง

ลงพื้นที่ฟื้นฟูบ้านเรือนและโรงเรียนในชุมชนไม้ลุงขน

การปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ เริ่มจากการทำความสะอาดโรงเรียนบ้านไม้ลุงขน ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ ทางเจ้าหน้าที่จาก ศบภ.มทบ.37 ได้ช่วยกันล้างทำความสะอาดพื้น กำแพง รวมถึงจัดเก็บสิ่งของที่ถูกโคลนและเศษซากต่าง ๆ ที่ถูกน้ำพัดมากองทับถมกันหลังน้ำลด เพื่อเตรียมความพร้อมให้โรงเรียนสามารถกลับมาเปิดทำการเรียนการสอนได้ตามปกติเร็วที่สุด

นอกจากนี้ ศบภ.มทบ.37 ยังได้ลงพื้นที่เพิ่มเติมตามคำร้องขอของผู้ใหญ่บ้านในชุมชน เพื่อเข้าช่วยเหลือทำความสะอาดและซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย ในพื้นที่บ้านไม้ลุงขน หมู่ที่ 10 ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย หนึ่งในบ้านที่ได้รับการช่วยเหลือคือ บ้านของนางภัณฑิลา มูลเมืองคำ ซึ่งเป็นบ้านในกลุ่มเปราะบางที่ไม่สามารถซ่อมแซมได้เอง เนื่องจากสภาพโครงสร้างที่เสียหายหนักจากโคลนและน้ำท่วม ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันทำความสะอาด กำจัดดินโคลนที่ทับถมอยู่ภายในบ้าน และซ่อมแซมจุดที่เสียหายอย่างเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าของบ้านสามารถกลับเข้าไปอยู่อาศัยได้อย่างปลอดภัยอีกครั้ง

ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานทหารและชุมชน

การดำเนินการช่วยเหลือครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการช่วยเหลือจากภาครัฐเท่านั้น แต่ยังได้รับความร่วมมือจากชุมชนและผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ที่ช่วยประสานงานและนำเสนอข้อมูลการช่วยเหลือที่ต้องการเป็นลำดับแรก เพื่อให้การฟื้นฟูเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและตรงกับความต้องการของประชาชน โดยการสนับสนุนจาก ร.17 พัน.3 ในพระองค์ฯ ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่มีความเชี่ยวชาญในการฟื้นฟูและบรรเทาสาธารณภัย เป็นการแสดงถึงความร่วมมืออย่างเข้มแข็งระหว่างหน่วยงานรัฐและชุมชนท้องถิ่น

สร้างขวัญกำลังใจและคืนความหวังให้ผู้ประสบภัย

หนึ่งในเป้าหมายสำคัญของการช่วยเหลือครั้งนี้ ไม่เพียงแค่การทำความสะอาดและซ่อมแซมบ้านเรือน แต่ยังมุ่งเน้นการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ผู้ประสบภัยที่อยู่ในกลุ่มเปราะบาง ซึ่งบางครอบครัวสูญเสียทั้งทรัพย์สินและบ้านเรือน การลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่จาก ศบภ.มทบ.37 นอกจากจะช่วยเหลือด้านแรงงานแล้ว ยังได้พูดคุยและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการฟื้นฟูบ้านเรือนและการดูแลสุขอนามัยหลังน้ำลด เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคที่อาจมาจากสภาพแวดล้อมที่ไม่สะอาด

นางภัณฑิลา มูลเมืองคำ หนึ่งในผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือกล่าวว่า “รู้สึกซาบซึ้งและดีใจมากที่ได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ทหารและชุมชน ทุกคนเข้ามาช่วยกันทำความสะอาด ซ่อมแซมบ้าน และให้กำลังใจ ทำให้มีกำลังใจที่จะกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง ขอบคุณทุกคนมาก ๆ ค่ะ”

มุ่งมั่นฟื้นฟูและเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติในอนาคต

นายสมจิตร เปี่ยมเปรมสุข อุปนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่การซ่อมแซมและฟื้นฟู แต่ยังมีการวางแผนการป้องกันและการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมในอนาคต ซึ่งถือเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ทาง วสท. จะทำการสำรวจและออกแบบระบบป้องกันน้ำท่วมเพิ่มเติมเพื่อให้ชุมชนสามารถป้องกันและลดผลกระทบจากน้ำท่วมในครั้งต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชน

จากความช่วยเหลือครั้งนี้ ทำให้เห็นถึงความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานราชการ ภาคประชาชน และชุมชนที่เข้ามามีส่วนร่วมในการฟื้นฟูบ้านเรือนและสภาพแวดล้อม นับเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งและความสามัคคีในชุมชน ทำให้การช่วยเหลือครั้งนี้ไม่เพียงแค่การซ่อมแซมบ้านเรือนเท่านั้น แต่ยังเป็นการฟื้นฟูจิตใจและสร้างความเข้มแข็งให้กับทุกคนที่ได้รับผลกระทบอีกด้วย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News