Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงรายจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ดูแลสุขภาพประชาชน

เชียงรายจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. และจังหวัดเคลื่อนที่ บริการประชาชนในพื้นที่ห่างไกล

เชียงราย, 14 กุมภาพันธ์ 2568 – จังหวัดเชียงรายจัดกิจกรรม หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. ครั้งที่ 9 ประจำปี 2568 พร้อมโครงการจังหวัดเคลื่อนที่ หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน” เพื่อให้บริการด้านสุขภาพและภาครัฐแก่ประชาชนในพื้นที่ห่างไกล โดยกิจกรรมจัดขึ้นที่โรงเรียนริมวัง 1 บ้านงิ้วเฒ่า หมู่ 7 ตำบลป่าหุ่ง อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย

นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดกิจกรรม พร้อมด้วย นางสินีนาฎ ทองสุข นายกเหล่ากาชาดและประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงราย, นายแพทย์คงศักดิ์ ชัยชนะ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย, นายสุรเชษฐ์ พุ้ยน้อย นายอำเภอพาน และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมอำนวยความสะดวกและให้บริการแก่ประชาชนจำนวนมากที่มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

การให้บริการในพื้นที่ห่างไกล

อำเภอพานประกอบด้วย 15 ตำบล 236 หมู่บ้าน โดยกิจกรรมในวันนี้เน้นการให้บริการประชาชนใน 3 หมู่บ้านของตำบลป่าหุ่ง ได้แก่:

  • บ้านปางเกาะทราย (หมู่ 6) ห่างจากที่ว่าการอำเภอพาน 15 กิโลเมตร มีประชากร 2,407 คน 452 ครัวเรือน
  • บ้านงิ้วเฒ่า (หมู่ 7) ห่างจากที่ว่าการอำเภอพาน 25 กิโลเมตร มีประชากร 470 คน 153 ครัวเรือน
  • บ้านผาวี (หมู่ 8) ห่างจากที่ว่าการอำเภอพาน 30 กิโลเมตร มีประชากร 389 คน 123 ครัวเรือน

ประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรมได้รับบริการตรวจสุขภาพจาก หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. รวมถึงบริการจากหน่วยงานภาครัฐที่มาอำนวยความสะดวก เพื่อช่วยลดภาระและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปยังสถานที่ราชการในตัวเมือง

การมอบความช่วยเหลือแก่ประชาชน

หลังจากเปิดกิจกรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และคณะ ได้มอบความช่วยเหลือแก่ประชาชนในพื้นที่ ดังนี้:

  • ถุงยังชีพ จากสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย
  • ข้าวสาร จากวัดห้วยปลากั้ง
  • ผ้าห่มกันหนาว จากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย
  • เงินสงเคราะห์ จำนวน 20 ราย จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงราย

กิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมและการพัฒนา

นอกจากการให้บริการทางสุขภาพและสวัสดิการแล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายและคณะ ยังได้ร่วมกัน ปลูกต้นกาสะลองคำ ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดเชียงราย บริเวณโรงเรียนริมวัง 1 พร้อมเดินเยี่ยมชมการให้บริการของหน่วยงานภาครัฐ หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ และพบปะพูดคุยกับประชาชนในพื้นที่

ภายหลังจากการเยี่ยมชม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้ร่วมประชุมเสวนากับนายอำเภอพาน หัวหน้าส่วนราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ต่อไป

ความสำคัญของโครงการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว.

นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่าการออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. โดยบุคลากรทางการแพทย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันนี้ เป็นการสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดูแลสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ห่างไกล และเป็นการสนองพระปณิธานของ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในการให้บริการทางการแพทย์แก่ประชาชนที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาร รวมถึงกลุ่มเปราะบางทางสังคม

นอกจากนี้ คณะผู้บริหารจังหวัดเชียงรายยังได้ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านผู้ป่วยติดเตียงและผู้สูงอายุในอำเภอพาน จำนวน 5 ราย เพื่อให้กำลังใจและประเมินความช่วยเหลือที่จำเป็นสำหรับการดูแลผู้ป่วยเหล่านี้

บทสรุป

กิจกรรม หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. และจังหวัดเคลื่อนที่ ในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในจังหวัดเชียงราย ผ่านการให้บริการด้านสุขภาพและสวัสดิการโดยหน่วยงานภาครัฐที่ลงพื้นที่โดยตรง ซึ่งช่วยลดภาระของประชาชนในการเข้าถึงบริการที่จำเป็น และส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาชุมชนที่ยั่งยืนในอนาคต

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
LIFESTYLE

#ฅนเจียงฮาย EP.06 : หนูอยากใช้เวทีนี้ประชาสัมพันธ์อำเภอเวียงแก่นให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง

คอลัมน์ #ฅนเจียงฮาย EP.06 :หนูอยากใช้เวทีนี้ประชาสัมพันธ์อำเภอเวียงแก่นให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง

น้องจุนเจือ” คว้าตำแหน่งธิดาดอย 2568 ตัวแทนความงามและวัฒนธรรมเวียงแก่น

เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568  ในงานพ่อขุนเม็งรายมหาราชและงานกาชาดจังหวัดเชียงราย ประจำปี 2568 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 ที่เวทีกลางของงาน “น้องจุนเจือ” หรือ นางสาวณัฐมน ธาดา นักศึกษามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง วัย 22 ปี คว้าตำแหน่ง ธิดาดอย ประจำปี 2568″

นางสินีนาฎ ทองสุข นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย และประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงราย เป็นผู้มอบรางวัลแก่ผู้ชนะเลิศจากการประกวด ซึ่งมีสาวงามจาก 18 อำเภอของจังหวัดเชียงราย เข้าร่วมแข่งขัน โดย น้องจุนเจือ ได้รับรางวัลชนะเลิศ คว้าสายสะพาย พร้อมเงินรางวัล 25,000 บาท

รองชนะเลิศอันดับ 1 ตกเป็นของ นางสาวภวพร ทองเต็ม จากอำเภอพาน รับรางวัล 20,000 บาท ขณะที่ นางสาวรติมา แซ่วื้อ จากอำเภอแม่จัน ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 พร้อมเงินสด 15,000 บาท และ นางสาวสุดาพร แลเช่อ จากอำเภอเมืองเชียงราย ได้รับรางวัล ขวัญใจชาวดอย” พร้อมเงินสด 15,000 บาท

แรงบันดาลใจจาก “ธิดาส้มโอ” สู่ “ธิดาดอย”

น้องจุนเจือ เปิดเผยว่า แรงบันดาลใจในการเข้าร่วมการประกวดธิดาดอยครั้งนี้มาจาก การได้รับตำแหน่ง “ธิดาส้มโอ” ของอำเภอเวียงแก่น ซึ่งเป็นผลไม้ที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในพื้นที่มากกว่าปีละ 10,000 ตัน

หลังจากได้รับตำแหน่งธิดาส้มโอ หนูอยากใช้เวทีนี้ประชาสัมพันธ์อำเภอเวียงแก่นให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ทั้งในด้านผลผลิตเกษตร แหล่งท่องเที่ยว และวัฒนธรรม”

สวัสดีค่ะน้องจุนเจือ ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีกับตำแหน่งธิดาดอยนะคะ ช่วยแนะนำตัวเองให้พวกเราได้รู้จักหน่อยค่ะ

ข่อยของข่อย อีนาง จุนเจือ จื่อแต๊นางสาวนัทธมน เครื่อเชื้อ พาดา ปะเดียวนี้อายุ 22 ปี หอเฮือนที่ตั้งปักอยู่ อำเภอพาน มีเชื้อสายไตยลื้อมาต่างแม่เฒ่าม่อน ปะเดียวนี้กำลังเฮียนอยู่ตี้มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง สำนักวิชาการจัดการ สาขาธุรกิจการบิน ชั้นปีที่4

อะไรคือแรงบันดาลใจที่ทำให้น้องจุนเจือตัดสินใจลงสมัครประกวดธิดาดอยคะ

เพราะน้องจุนเจือได้รับตำแหน่งธิดาส้มโอของอำเภอเวียงแก่น ซึ่งเป็นผลไม้ที่ขึ้นชื่อและทำรายได้ให้คนเวียงแก่นและคนเชียงรายเป็นอย่างดี และยังส่งออกไปยังหลายๆประเทศๆ มากว่า 1 หมื่นตัน ซึ่งน้องจุนเจือได้รับตำแหน่งธิดาส้มโอมา มีแรงบันดาลใจอยากใช้ตำแหน่งที่ได้มาช่วยประชาสัมพันธุ์ ของดีอำเภอเวียงแก่น ให้คนในประเทศและนอกประเทศได้รับรู้ว่าเวียงแก่นมีดีขนาดไหน ทั้งเชิงผลผลิตทางเกษตร เชิงทรัพยากรแหล่งท่องเที่ยว เชิงวัฒนธรรมชาติพันธุ์ 

น้องจุนเจือดีใจมากที่ได้เป็นตัวแทนของชาวอำเภอเวียงแก่นและได้เข้าการประกวดธิดาดอยงานพ่อขุนประจำปี 2568 น้องจุนเจือมีเชื้อสายไตยลื้อ เข้าร่วมการประกวดครั้งนี้ เพราะชุดไทยลื้อนั่นมีหลากหลาย เพราะว่าถิ่นกำเนิดของชายไตยลื้อมีอยู่ที่ สิบสองปันนา 

ซึ่งสิบสองปันนาจะมีชุดไตยลื้อที่แตกต่างกันออกไป ที่น้องจุนเจือได้ใส่นั้นเป็นชุดไตยลื้อเมืองอู่ ที่มีการเกล้าผมสูงมวยจุก ปักปิ่นลื้อ ดอกไม้ตามพื้นที่ นิยมเป็นดอกไม้สีขาว หรือคนไตยลื้อเรียกว่า ดอกซ่อนฮ่อ หรือดอกเกล็ดถะวา ปกผ้าคาดหัวหรือผ้าคาดหัวสีขาว  ใส่เสื้อปัดผ้าฝ้ายฮำ ใส่ซิ่นดอกจกหลวง ที่หัวซิ่นสีเขียว ตีนซิ่นผ้าฝ้ายฮำ น้องจุนเจือคิดว่าชุดไตยลื้อที่น้องได้มาใส่ในครั้งนี้เป็นที่งามและเป็นเอกลักษณ์ของพ่อแม่พี่น้องชาวไตยลื้อเวียงแก่น 

น้องจุนเจือเห็นผู้เข้าร่วมประกวดหรือท่านกรรมการแขก หลายๆท่านได้มีการสวมใส่ชุดไตยลื้อ หรือ ผ้าซิ่นไตยลื้อ นี่ล่ะค่ะคือสิ่งที่น้องจุนเจือคิดว่าชุดไตยลื้อจะอยู่ในความทรงจำของหลายท่านที่ได้สวมใส่

น้องจุนเจือมีความรู้สึกอย่างไรบ้างที่ได้รับตำแหน่งธิดาดอยในครั้งนี้คะ

การได้รับตำแหน่งธิดาดอยในครั้งนี้ทำให้รู้สึกภาคภูมิใจและตื้นตันใจมากค่ะ เพราะมันเป็นโอกาสที่ได้เป็นตัวแทนของชุมชนไทลื้อและได้มีส่วนร่วมในการเผยแพร่และรักษามรดกทางวัฒนธรรมค่ะ

น้องจุนเจือคิดว่าอะไรคือเสน่ห์หรือจุดเด่นของตัวเองที่ทำให้ได้รับเลือกเป็นธิดาดอยคะ

เสน่ห์ของตัวเองที่ทำให้ได้รับตำแหน่งธิดาดอยครั้งนี้คือความมั่นใจและความรักในวัฒนธรรมของตนเองค่ะ การที่สามารถแสดงออกถึงความเป็นตัวของตัวเองและความเคารพในประเพณีและวัฒนธรรมของไทลื้อช่วยให้คนเห็นและยอมรับได้ค่ะ

มีใครหรือสิ่งใดที่เป็นแรงผลักดันหรือกำลังใจสำคัญที่ทำให้น้องจุนเจือประสบความสำเร็จในการประกวดครั้งนี้คะ

แรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ประสบความสำเร็จในครั้งนี้คือครอบครัวค่ะ โดยเฉพาะพ่อแม่ที่คอยสนับสนุนและสอนให้รู้ถึงคุณค่าของการรักษาและส่งต่อวัฒนธรรมค่ะ

น้องจุนเจือมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับงานพ่อขุนประจำปี และคิดว่างานนี้มีความสำคัญอย่างไรต่อการอนุรักษ์วัฒนธรรมของจังหวัดคะ

งานพ่อขุนประจำปีมีความสำคัญมากค่ะ เพราะมันไม่เพียงแต่เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่ยังเป็นการสร้างความสามัคคีและช่วยสืบสานประเพณีดั้งเดิมของแต่ละชาติพันธุ์ ซึ่งเป็นการอนุรักษ์และเผยแพร่ความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่มีค่าของจังหวัดเชียงรายค่ะ

ในฐานะที่เป็นธิดาดอย น้องจุนเจือมีเป้าหมายหรือความตั้งใจอย่างไรในการทำหน้าที่นี้คะ

ในฐานะธิดาดอย น้องจุนเจือมีเป้าหมายที่จะเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเยาวชน โดยการส่งเสริมและรักษาวัฒนธรรมชาติพันธุ์ รวมถึงการใช้ตำแหน่งนี้ในการช่วยเหลือและส่งเสริมชุมชนให้เข้มแข็งค่ะ

น้องจุนเจือคิดว่าอะไรคือคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของการเป็นธิดาดอยที่ดีคะ

คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของการเป็นธิดาดอยที่ดีคงเป็นความเมตตาและความอ่อนน้อมค่ะ เพราะการแสดงออกถึงความจริงใจและการใส่ใจในผู้อื่นจะช่วยให้เราสามารถทำหน้าที่นี้ได้ดีที่สุดค่ะ

น้องจุนเจือมีอะไรที่อยากจะฝากถึงเยาวชนรุ่นใหม่ที่มีความฝันหรือความสนใจในการประกวดธิดาดอยในอนาคตบ้างคะ

สิ่งที่น้องจุนเจืออยากจะฝากให้กับเยาวชนรุ่นใหม่ที่มีความฝันอยากจะประกวด คือ การเตรียมตัวอย่างตั้งใจและฝึกฝนในทุกๆ ด้าน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเป็นตัวของตัวเองค่ะ ความจริงใจและความมั่นใจในตัวเอง จะทำให้เราโดดเด่นและเป็นที่รักของคนรอบข้างค่ะ การรักษาความอ่อนน้อมและเปิดใจรับฟังผู้อื่นก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่น้อยค่ะ

สุดท้ายนี้ น้องจุนเจืออยากจะขอบคุณใครเป็นพิเศษสำหรับความสำเร็จในครั้งนี้คะ

ความสำเร็จของหนูในครั้งนี้ หนูอยากจะขอบคุณ คุณพ่อและคุณแม่ของหนูค่ะ ที่คอยเชียร์ให้กำลังใจและสนับสนุนหนูมาโดยตลอด ทำให้หนูมีความตั้งใจและความพยายามในการฝึกฝนมากขึ้น และขอขอบคุณทุกๆแรงใจและแรงเชียร์ที่พ่อแม่พี่น้องทุกคนได้มอบให้หนูค่ะ เป็นเกียรติอย่างมากเลยค่ะ ที่ได้รับตำแหน่ง ธิดาดอย ประจำปี 2568 นี้ค่ะ

ฅนเดินเรื่องโดย : นางสาวณัฐมน ธาดา “น้องจุนเจือ” – “ธิดาดอย ประจำปี 2568”
 
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS TOP STORIES

ปฏิบัติการฟ้าสางเมืองพญาเม็งราย กวาดล้างอาวุธปืนก่อนเลือกตั้ง อบจ.

ปฏิบัติการฟ้าสางเมืองพญาเม็งราย: ปูพรมกวาดล้างอาวุธปืนและอาชญากรรม ก่อนการเลือกตั้ง อบจ.

เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ได้ระดมกำลังเปิดปฏิบัติการครั้งใหญ่ภายใต้ชื่อ ปฏิบัติการฟ้าสางเมืองพญาเม็งราย” เพื่อตรวจค้นและกวาดล้างอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืน วัตถุระเบิด ผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง รวมถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อป้องกันเหตุการณ์รุนแรงที่อาจเกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ในหลายจังหวัด ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้

เปิดยุทธการปูพรมตรวจค้น 8 จุดทั่วเชียงราย

พ.ต.อ.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ รองผู้บังคับการ บก.สอท.1 รักษาราชการแทนผู้บังคับการ บก.สอท.4 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สอท.4 นำหมายค้นของศาลเข้าทำการตรวจค้นจำนวน 8 จุด ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย

ผลการปฏิบัติสามารถตรวจยึดอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนหลายรายการ รวมถึงสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้เพิ่มเติม โดยปฏิบัติการครั้งนี้มีเป้าหมายหลักเพื่อสกัดกั้นอาวุธสงครามที่อาจถูกนำมาใช้ก่อเหตุรุนแรงหรือสร้างความไม่สงบในช่วงเลือกตั้ง

ยึดอาวุธปืนและกระสุนจำนวนมากในหลายพื้นที่

จากการเข้าตรวจค้น จุดที่ 1 เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 52/2568 และหมายจับของศาลจังหวัดเชียงราย ที่ 42/2568 ซึ่งออกเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2568 โดยสามารถจับกุมชายต้องสงสัยได้จำนวน 2 คน พร้อมของกลาง ได้แก่

  • อาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก
  • เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 5 นัด

ในพื้นที่ อำเภอแม่สาย เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดของกลางเพิ่มเติม ได้แก่

  • อาวุธปืนสั้นขนาด 9 มม. จำนวน 2 กระบอก
  • อาวุธปืนลูกซองขนาด เบอร์ 12 จำนวน 1 กระบอก
  • อาวุธปืนยาวขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก
  • สิ่งเทียมอาวุธปืน (blank gun) 1 กระบอก
  • กระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 25 นัด
  • กระสุนปืนลูกซอง 20 นัด
  • กระสุนปืน blank gun 50 นัด
  • กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 200 นัด

นอกจากนี้ ยังสามารถจับกุมชายต้องสงสัยเพิ่มอีก 1 คน โดยพบว่าผู้ต้องหามีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนหรือช่วยเหลือนักการเมืองท้องถิ่นในช่วงการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง

จับกุมผู้ต้องหาคดีการพนันออนไลน์และโพสต์ชักชวนเล่นพนัน

ที่ อำเภอเวียงแก่น เจ้าหน้าที่พบว่ามีการโพสต์ข้อความทางสื่อสาธารณะและโซเชียลมีเดียเพื่อชักชวนประชาชนให้เข้าร่วมการพนัน ซึ่งเป็นการกระทำผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจยึดของกลางที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืนและอุปกรณ์อื่น ๆ ได้แก่

  • อาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก
  • ซองบรรจุกระสุน (แม็กกาซีน) 1 อัน
  • เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 19 นัด
  • กระเป๋าใส่อาวุธปืน สีชมพู จำนวน 1 ใบ
  • โทรศัพท์มือถือ iPhone 5 สีเทา จำนวน 1 เครื่อง
  • เอกสารโฆษณาชักชวนเล่นการพนัน จำนวน 3 แผ่น

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังขยายผลไปถึงเครือข่ายการพนันออนไลน์ที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาเพิ่ม 2 ราย จาก 5 หมายจับ ที่ออกมาก่อนหน้านี้

ตำรวจไซเบอร์เดินหน้ากวาดล้างทั่วประเทศ

สำหรับปฏิบัติการปราบปรามอาชญากรรมทั่วประเทศ ตำรวจไซเบอร์ (บช.สอท.) ได้เร่งดำเนินการสืบสวน ตรวจค้น และจับกุมเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี อาวุธปืน และการพนันออนไลน์ โดยขณะนี้สามารถรวบรวมเป้าหมายได้แล้วกว่า 1,000 ราย ก่อนดำเนินการนำกำลังเข้าตรวจค้น

ปฏิบัติการครั้งนี้ช่วยลดความเสี่ยงด้านความมั่นคงในช่วงเลือกตั้ง

ปฏิบัติการ “ฟ้าสางเมืองพญาเม็งราย” ถือเป็นมาตรการป้องกันเหตุอาชญากรรมที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ซึ่งเป็นช่วงที่มีความอ่อนไหวต่อปัจจัยด้านความมั่นคง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องเข้มงวดตรวจสอบแหล่งที่มาของอาวุธปืน และจับกุมผู้ที่อาจเป็นภัยต่อสังคม

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงดำเนินการขยายผลเพิ่มเติมเพื่อหาต้นตอของแหล่งค้าอาวุธผิดกฎหมาย รวมถึงติดตามผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายอื่น ๆ เพื่อให้สามารถสร้างความปลอดภัยและความมั่นคงให้แก่ประชาชนได้อย่างแท้จริง

สรุปผลปฏิบัติการ “ฟ้าสางเมืองพญาเม็งราย”

  • ตรวจค้น 8 จุด ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย
  • ตรวจยึดอาวุธปืนและกระสุนจำนวนมาก
  • จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้หลายราย
  • ปราบปรามการพนันออนไลน์และการชักชวนเล่นพนันผ่านโซเชียลมีเดีย
  • ดำเนินการสืบสวนเป้าหมายทั่วประเทศกว่า 1,000 จุด

ปฏิบัติการครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งมาตรการสำคัญที่ช่วยสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน และลดความเสี่ยงต่ออาชญากรรมที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเลือกตั้ง ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนตำรวจไซเบอร์ บช.สอท. เพื่อร่วมกันสร้างสังคมที่ปลอดภัยและสงบสุข

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News