Categories
NEWS UPDATE

กรมการขนส่งทางราง เผยช่วงวันหยุดสะสม 3 วัน 3.01 ล้านคน-เที่ยว

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในช่วงวันหยุดต่อเนื่อง ระหว่างวันที่ 28 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา 3 วันคือ วันที่ 28 – 30 กรกฎาคม 2566 มีประชาชนใช้บริการระบบรางรวม 3,005,848 คน-เที่ยว ประกอบด้วย รถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีผู้ใช้บริการรวม 261,625 คน-เที่ยว แบ่งเป็นผู้โดยสารเชิงพาณิชย์ 104,502 คน-เที่ยว และผู้โดยสารเชิงสังคม 157,123 คน-เที่ยว 

 

โดยมีผู้โดยสารขาออกสะสม 134,645 คน-เที่ยว และขาเข้า 126,980 คน-เที่ยว ซึ่งพบว่า 

 – สายใต้มีผู้ใช้บริการมากสุดถึง 87,610 คน-เที่ยว (ขาออก 45,357 คน-เที่ยว และขาเข้า 42,253 คน-เที่ยว) 

 – รองลงมาคือสายตะวันออกเฉียงเหนือ 66,501 คน-เที่ยว (ขาออก 35,022 คน-เที่ยว และขาเข้า 31,479 คน-เที่ยว) 

 – สายเหนือ 54,009 คน-เที่ยว (ขาออก 26,597 คน-เที่ยว ขาเข้า 27,412 คน-เที่ยว) 

 – สายตะวันออก 32,763 คน-เที่ยว (ขาออก 17,077 คน-เที่ยว ขาเข้า 15,686 คน-เที่ยว) 

 – และสายมหาชัย/แม่กลอง 20,742 คน-เที่ยว (ขาออก 10,592 คน-เที่ยว ขาเข้า 10,150 คน-เที่ยว) 

 

และระบบรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (รวมรถไฟฟ้าชานเมือง(สายสีแดง)) สะสม 3 วัน มีผู้ใช้บริการแล้ว 2,744,223 คน-เที่ยว ประกอบด้วย Airport Rail Link 144,397 คน-เที่ยว สายสีแดง 44,770 คน-เที่ยว สายฉลองรัชธรรม(สีม่วง) 97,759 คน-เที่ยว สายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) 701,465 คน-เที่ยว สายสีเหลือง 110,108 คน-เที่ยว และรถไฟฟ้าบีทีเอส (สีเขียวและสีทอง) 1,645,724 คน-เที่ยว ทั้งนี้ พบว่า เมื่อวาน (วันที่ 30 กรกฎาคม 2566) ซึ่งเป็นวันที่ 3 ของวันหยุดต่อเนื่องระหว่างวันที่ 28 กรกฎาคม 2566 – 2 สิงหาคม 2566 มีประชาชนใช้บริการระบบราง รวมทั้งสิ้นจำนวน 933,794 คน-เที่ยว (ไม่รวมผู้โดยสารรถไฟทางไกลต่อสายสีแดงฟรี 12 คน) แบ่งเป็น รถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 80,348 คน-เที่ยว และรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและรถไฟชานเมือง (รวมสายสีแดง) จำนวน 853,446 คน-เที่ยว โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 

 

1. รถไฟระหว่างเมืองของ รฟท. ให้บริการรวม 228 ขบวน มีผู้ใช้บริการจำนวน 80,348 คน-เที่ยว แบ่งเป็นผู้โดยสารเชิงพาณิชย์ 32,769 คน-เที่ยว และเชิงสังคม 47,579 คน-เที่ยว โดยมีผู้โดยสารขาออกจำนวน 38,195 คน-เที่ยว และผู้โดยสารขาเข้า 42,153 คน-เที่ยว โดยพบว่า สายใต้มีผู้ใช้บริการมากสุดถึง 27,238 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 13,067 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 14,171 คน-เที่ยว) รองลงมาคือสายตะวันออกเฉียงเหนือมีผู้ใช้บริการ 20,032 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 9,640 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 10,392 คน-เที่ยว) สายเหนือ 16,001 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 7,277 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 8,724 คน-เที่ยว) สายตะวันออก 10,440 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 4,857 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 5,583 คน-เที่ยว) และสายแม่กลองและมหาชัย 6,637 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 3,354 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 3,283 คน-เที่ยว) 

2. ระบบรถไฟฟ้า ให้บริการเดินรถไฟฟ้ารวม 2,433 เที่ยว มีผู้ใช้บริการรวมจำนวน 853,446 คน-เที่ยว ประกอบด้วย รถไฟฟ้า Airport Rail Link ให้บริการ 174 เที่ยว จำนวน 44,119 คน-เที่ยว รถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) ให้บริการ 230 เที่ยว จำนวน 13,179 คน-เที่ยว (ไม่รวมผู้โดยสารรถไฟทางไกลต่อสายสีแดงฟรี 12 คน) รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สีม่วง) 216 เที่ยว จำนวน 29,448 คน-เที่ยว รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) 278 เที่ยว จำนวน 238,873 คน-เที่ยว รถไฟฟ้าสายสีเหลือง 216 เที่ยว จำนวน 25,788 คน-เที่ยว และรถไฟฟ้าบีทีเอส (สีเขียวและสีทอง) ให้บริการรวม 1,319 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 502,039 คน- เที่ยว (สายสีเขียว 493,740 คน-เที่ยว และสายสีทอง 8,299 คน-เที่ยว) สำหรับด้านความปลอดภัย มีเหตุอันตรายต่อการเดินรถไฟ 2 ครั้ง 

 

โดยเมื่อเวลา 06.38 น. ผู้โดยสารหญิง บนขบวนรถด่วนที่ 51 (กรุงเทพอภิวัฒน์ – เชียงใหม่) ถูกประตูห้องน้ำหนีบบริเวณมือ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ขอลงรักษาตัวที่โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ และเมื่อเวลา 07.17 น. ขบวนรถด่วนที่ 86 รถนั่งชั้น 3 เลขที่ 1193 เพลาล้อที่ 1 ด้านซ้ายมีอาการร้อนจนไม่สามารถพ่วงต่อไปปลายทางได้ เจ้าหน้าที่ได้ตัดรถไว้ที่สถานีศาลายาเพื่อทำการซ่อมแซม โดยไม่มีผู้โดยสารได้รับอันตรายจากเหตุการณ์นี้ และสำหรับระบบรถไฟฟ้า ไม่มีเหตุรถไฟฟ้าขัดข้อง ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางรางได้ประสานผู้ให้บริการระบบราง พิจารณาดำเนินการตามมาตรการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยฯ มีการตรวจวัดแอลกอฮอล์ผู้ปฏิบัติงานในการให้บริการเดินรถไฟ รวมทั้งประสานฝ่ายความมั่นคงมาช่วยดูแลในพื้นที่ระบบรางมากขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในช่วงวันหยุดต่อเนื่อง ระหว่างวันที่ 28 กรกฎาคม 2566 – 2 สิงหาคม 2566นี้

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กรมการขนส่งทางราง

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
NEWS SOCIETY & POLITICS

บขส. สั่งคุมเข้มความปลอดภัยรถโดยสาร สถานีขนส่งฯ ช่วงวันหยุด 3 – 5 มิถุนายน 2566

บขส. สั่งคุมเข้มความปลอดภัยรถโดยสาร สถานีขนส่งฯ ช่วงวันหยุด 3 – 5 มิถุนายน 2566

Facebook
Twitter
Email
Print

 นายสัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ มีวันหยุดติดต่อกัน 3 วัน (ระหว่างวันที่ 3 – 5 มิถุนายน 2566) บขส. คาดการณ์ว่าจะมีประชาชนเดินทางเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาปกติที่มีผู้โดยสารใช้บริการวันละกว่า 25,000 – 30,000 คน จึงได้กำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกประชาชนเดินทางในช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งในส่วนของรถโดยสาร พนักงานขับรถ และสถานีขนส่งผู้โดยสาร ในส่วนของความปลอดภัย เนื่องจากช่วงนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูฝน ได้กำชับให้พนักงานขับรถ เพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่และให้ตรวจสภาพความพร้อมของรถโดยสารและพนักงานประจำรถก่อนให้บริการ สำหรับเส้นทางที่มีระยะทางเกินกว่า 400 กิโลเมตร จัดให้มีพนักงานขับรถ 2 คน มีระบบ GPS ควบคุมความเร็วในการขับขี่ ไม่เกิน 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง นอกจากนี้ บขส. มีประกันภัยทุกที่นั่ง ซึ่งผู้โดยสารจะได้รับความคุ้มครองตลอดการเดินทาง รวมทั้งเพื่อเป็นการปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) บขส. ยังคงขอความร่วมมือผู้โดยสารสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าขณะใช้บริการบนรถโดยสารและภายในสถานีขนส่งด้วย

         กรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส. กล่าวด้วยว่า ในวันหยุดยาวนี้ บขส. ได้มอบส่วนลดค่าโดยสาร 5% (ไม่รวมค่าธรรมเนียม) และคะแนนสะสมคูณ 2 ให้กับผู้โดยสารที่เป็นสมาชิก บขส. Card และจองตั๋วโดยสารผ่านช่องทางออนไลน์บน Application : E-ticket Website บขส. : https://tcl99web.transport.co.th และเดินทางในช่วงวันที่ 3 – 9 มิถุนายน 2566 ส่วนลูกค้าสมาชิก บขส. Card ที่จองตั๋วโดยสารหน้าช่องขายตั๋ว สามารถใช้สิทธิ์ส่วนลดค่าโดยสารได้เช่นกัน ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถสมัครเป็นสมาชิก บขส. Card โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ผ่านทาง Application : E-ticket หรือ Website บขส. สอบถามข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติมได้ที่ บขส. Call Center 1490

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กระทรวงคมนาคม

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIAL & LIFESTYLE TRAVEL

ทริปสุดคุ้มท่องเที่ยวแนวใหม่ Green Tourism “นั่งรถไฟ KIHA183 ปลูกโกงกาง ที่บางปะกง”

ทริปสุดคุ้มท่องเที่ยวแนวใหม่ Green Tourism “นั่งรถไฟ KIHA183 ปลูกโกงกาง ที่บางปะกง”

Facebook
Twitter
Email
Print

นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขอเชิญชวนร่วมเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวทางรถไฟแนวใหม่ “นั่งรถไฟ KIHA183 ปลูกโกงกาง ที่บางปะกง” แบบวันเดย์ทริป เส้นทางกรุงเทพ – ฉะเชิงเทรา – กรุงเทพ วันที่ 4 มิถุนายน นี้ โดยพาอินเทรนด์ไปกับการท่องเที่ยวแนวใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Tourism)  นำผู้โดยสารเดินทาง ด้วยรถไฟไทยสไตล์ญี่ปุ่น KIHA 183  ร่วมกิจกรรมปลูกป่าโกงกาง ปล่อยปู สร้างบ้านปลาคอนโดปู เที่ยวบ้านสวนเมล่อน เรียนรู้การปลูก รับต้นกล้าเมล่อนกลับไปปลูกต่อที่บ้าน พร้อมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์วัดกลางน้ำ ณ วัดหงส์ทอง และดื่มด่ำ ชมชิมช้อป ตลาดโบราณคลองสวน 100 ปี ศูนย์กลางการค้าที่สำคัญในอดีตที่ยังมีลมหายใจถึงปัจจุบัน  
 
สนใจรีบสำรองที่นั่งได้ตั้งแต่วันนี้ เพียง 1,499 บาท จำนวนจำกัด 200 ที่นั่งเท่านั้น  โดยราคาดังกล่าวรวมรถบัสปรับอากาศ พร้อมอาหาร 2 มื้อ มื้อเช้าสไตล์ญี่ปุ่น เบนโตะอาหารไทย และมื้ออาหารกลางวันแบบจัดเต็ม จองตั๋วได้ที่สถานีรถไฟและช่องทางจำหน่ายตั๋วในระบบออนไลน์ D-Ticket ของ รฟท. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง
 
สำหรับรายละเอียดการเดินทาง เริ่มลงทะเบียน สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เวลา 07.00 น. จากนั้น 07.40 น.ออกเดินทางสู่จังหวัดฉะเชิงเทรา  ด้วยขบวนรถพิเศษโดยสารที่ 993/994  ระหว่างทางเสิร์ฟอาหารเช้า เบนโตะอาหารไทย พร้อมร่วมสนุกกับกิจกรรมระหว่างการเดินทางบนขบวนรถ KIHA 183 นอกจากนี้ผู้โดยสารจะได้พบกับจุด Unseen ซึ่งขบวนรถไฟจะจอดให้ผู้โดยสารชมวิวทิวทัศน์บริเวณกลางสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง มีลักษณะคล้ายรถไฟลอยน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ถึงสถานีชุมทางฉะเชิงเทรา เวลา 10.00 น. เดินทางต่อโดยรถบัสปรับอากาศ สู่ตำบลท่าพลับ อำเภอบ้านโพธิ์ เที่ยวบ้านสวนเมล่อน เรียนรู้การปลูกต้นกล้าเมล่อนที่ช่วยสร้างงานสร้างอาชีพให้แก่เกษตรกร และเดินทางต่อไปตำบลท่าข้าม อำเภอบางปะกง เยี่ยมชนแหล่งเรียนรู้ระบบนิเวศป่าซายเลน โรงเรียนพระพิมลเสนี (พร้อม หงสกุล) นำทุกท่านร่วมกิจกรรม “รักษ์สิ่งแวดล้อมลดโลกร้อน ร่วมปลูกป่าชายเลน ปล่อยปู สร้างบ้านปลาคอนโดปู” ร่วมกันพลิกฟื้นผืนป่าชายเลนของไทย

เวลา 12.30 น. รับประทานอาหารกลางวัน ออกเดินทางต่อไปที่วัดหงษ์ทอง หรือ วัดกลางน้ำ ริมฝั่งอ่าวไทยบริเวณบ่าชายเลน เยี่ยมชมความงาม เจดีย์สีทองอร่าม 3 ชั้น ชั้นล่างประดิษฐานหลวงพ่อพุทธโสธรจำลองและพระพุทธรูปอื่น ๆ ไว้ให้กราบไหว้ขอพร ส่วนชั้น 2 มี หุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่สด หรือ พระมงคลเทพมุนี (สด จนทุสโร) วัดปากน้ำภาษีเจริญ องค์พระแก้วมรกตจำลองประดิษฐานอยู่ รวมถึงจัดแสดงภาพวาดพระมหากษัตริย์ตั้งแต่ในอดีตจนถึงรัชกาลปัจจุบัน ส่วนชั้นบนสุดเป็น จุดชมวิวสามารถมองเห็นวิวทะเล พอเวลาน้ำขึ้นทำให้ดูเหมือนอาคารนี้ลอยอยู่กลางน้ำ และยังมีพระธาตุคงคามหาเจดีย์ เจดีย์สีเหลืองทองที่บรรจุพระธาตุพระอรหันต์อยู่ภายใน ตลอดจนมีพระอุโบสถของ วัดหงษ์ทอง ที่ตั้งอยู่กลางทะเลเช่นเดียวกัน
 
เวลา 15.00 น. ออกเดินทางไป ตลาดคลองสวน 100 ปี ตลาดที่อยู่ในสองจังหวัด มีเพียงสะพานไม้สูง ๆ ข้ามแม่น้ำเป็นเส้นแบ่งเขต โดยมีความรุ่งเรืองตั้งแต่อดีตซึ่งเป็นทางผ่านของเรือขนส่งทั้งคนและสินค้าระหว่างบางกอกกับฉะเชิงเทรา ซึ่งสามารถเลือกชม ชิม  ช้อป สินค้าของฝาก อาหารคาวหวาน และของที่ระลึก ได้ตามอัธยาศัย จากนั้น 16.30 น.ออกเดินทางไปสถานีชุมทางฉะเชิงเทรา ถ่ายภาพที่ระลึกกับขบวนรถ KIHA 183 และเดินทางกลับสู่สถานีหัวลำโพง โดยระหว่างทางจอดรับส่งผู้โดยสาร ป้ายหยุดรถพระจอมเกล้า สถานีลาดกระบัง สถานีหัวหมาก สถานีคลองตัน สถานีมักกะสัน  ถึงสถานีหัวลำโพง โดยสวัสดิภาพ เวลา 18.30 น.  

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : การรถไฟแห่งประเทศไทย

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE