Categories
WORLD PULSE

เพิ่มโอกาสส่งออกสินค้า ครม.เห็นชอบ MOU ไทย – คอซอวอ

 

เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2566 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการหารือทวิภาคีระหว่างกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงการต่างประเทศและกิจการโพ้นทะเลสาธารณรัฐคอซอวอ โดยจะมีการลงนามบันทึกความเข้าใจในช่วงการเยือนไทยของนายเครชนิก อาห์เมตี รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการต่างประเทศและกิจการโพ้นทะเลคอซอวอ ระหว่างวันที่ 22 -24 มิถุนายน 2566 นับเป็นกลไกความร่วมมือและการหารือทวิภาคีที่เป็นรูปธรรมกลไกแรกระหว่างกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองประเทศ

 

บันทึกความเข้าในฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และเพิ่มพูนความร่วมมือในสาขาที่ตกลงร่วมกัน อาทิ การเมือง เศรษฐกิจ กงสุล วัฒนธรรม การท่องเที่ยว เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ รวมถึงประเด็นระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ โดยยึด 3 หลักการ คือ 

1)ยึดถือหลักการความเป็นเอกราชและความเสมอภาคของอธิปไตย 

2)การไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น และ 

3)ช่วยเหลือซึ่งกันและกันในสาขาที่ตกลงร่วมกัน ส่วนกลไกดำเนินงาน จะมีการจัดประชุมทุกสองปีหรือตามที่ตกลงร่วมกัน โดยสถานที่จะสลับกันจัดขึ้นในไทยและในคอซอวอ 

 

ทั้งนี้ การจัดทำบันทึกความเข้าใจไม่ได้เป็นการอนุมัติงานหรือโครงการ หรือมีผลเป็นการสร้างความผูกพันต่อ ครม. ชุดต่อไป และสาระของบันทึกความเข้าใจไม่เป็นสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศและไม่เป็นหนังสือสัญญาตาม มาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

 

นางสาวรัชดา กล่าวด้วยว่า คอซอวอเป็นประเทศใหม่ในยุโรปที่ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาและเศรษฐกิจของประเทศยังต้องพึ่งพาการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเป็นหลัก โดยมีสินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ อาหาร ปศุสัตว์ ปิโตรเลียม เคมีภัณฑ์ เครื่องจักร สินแร่ สิ่งทอ และผลิตภัณฑ์เซรามิกและแก้ว และอุปกรณ์ไฟฟ้า ดังนั้น คอซอวอจึงมีศักยภาพที่จะเป็นตลาดรองรับสินค้าและการลงทุนจากไทยได้ โดยเฉพาะสินค้าอาหาร ข้อมูลในปี 2565 การค้าระหว่างคอซอวอและไทยมีมูลค่ารวม 12,868,581 ดอลลาร์สหรัฐ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 57.68 จากปี 2564) โดยคอซอวอนำเข้าสินค้าจากไทยมูลค่า 12,654,501 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีสินค้าสำคัญ ได้แก่ 

1)เนื้อเป็ดแช่แข็ง 

2)ปลาทูน่ากระป๋อง 

3)กระดาษ 

4)เนื้อเป็ดแช่เย็น 

5)ชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศ 

6)เครื่องปรับอากาศ 

7)เครื่องประดับเงิน 

8)คอมพิวเตอร์ 

9)เมล็ดพันธุ์พืช และ 

10)เส้นใยสังเคราะห์

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักนายกรัฐมนตรี

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
WORLD PULSE

เพิ่มตัวเลขการส่งออก ลดอุปสรรค การค้าของสินค้าเกษตรระหว่างไทย-จีน

 

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2566 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามการทำงานเพื่ออำนวยความสะดวก ลดอุปสรรคทางการค้าของสินค้าเกษตรระหว่างไทย-จีน เชื่อมั่นความร่วมมือกันจะทำให้ส่งออกสินค้าเกษตรได้มากขึ้น เพิ่มตัวเลขการส่งออก สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจไทย

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์หารือกับ สำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน GACC (General Administration of the People’s Republic of China) ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ผลักดันความร่วมมือด้านการตรวจสอบ กักกันสินค้าเกษตรระหว่างไทย-จีน ตามผลการประชุมคณะกรรมการร่วมทางเทคนิคด้านสุขอนามัยพืชไทย-จีน (JTC-SPS : Joint Technical Committee meeting on the Implementation of Memorandum of Understanding on Cooperation in Sanitary and Phytosanitary) ครั้งที่ 7 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพเมื่อเดือนกรกฎาคม 2565 ประกอบด้วย
1. การเปิดตลาดสินค้าเกษตรและอาหาร ได้แก่ เนื้อจระเข้ กุ้งก้ามกรามมีชีวิตเพื่อบริโภค อินทผลัม สละ และเสาวรส ซึ่งสินค้าเกษตรทั้ง 5 ชนิดอยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาในการนำเข้าจากจีน
2. มาตรการยกเลิกการระงับการส่งออกเนื้อสัตว์ปีกและชิ้นส่วนสัตว์ปีกแช่แข็งไปจีน
3. การขึ้นทะเบียนเพิ่มเติมของโรงงานเพื่อการส่งออกเนื้อสัตว์ปีกและผลิตภัณฑ์รังนกจากไทยไปยังจีน ผ่านระบบ CIFER (China Import Food Enterprises Registration)
4. การเชื่อมโยงระบบใบรับรองสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Phyto (Electronic Phytosanitary Certificate) 5. การประชุม JTC-SPS ครั้งที่ 8 โดย GACC จะเป็นเจ้าภาพ ในช่วงปี 2567

โดยทั้ง 5 ประเด็น มีความคืบหน้าในการดำเนินการเป็นอย่างมาก ฝ่ายจีนยินดีให้การสนับสนุนการจัดอบรมและให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน เพื่อให้ดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพรวดเร็วยิ่งขึ้น และทั้ง 2 ฝ่ายได้เริ่มหารือและแลกเปลี่ยนการดำเนินการเพื่อเชื่อมโยงระบบ e-Phyto ระหว่างกัน เพื่อเปิดตลาดสินค้าเกษตรใหม่ เพิ่มเติมขยายตลาดเดิม ลดอุปสรรคการค้า และเชื่อมโยงเครือข่ายการค้า อำนวยความสะดวกการค้าของทั้งสองฝ่าย ทำให้มีโรงงานไทยที่สามารถส่งออกสัตว์ปีกแช่แข็งไปยังจีนได้เพิ่มขึ้น 

“นายกรัฐมนตรีติดตามการทำงานของทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่ออำนวยความสะดวกแก่พี่น้องเกษตรกร รวมทั้ง สนับสนุนให้หารือเพิ่มความร่วมมือในส่วนของมาตรฐานการค้าของสินค้าเกษตรระหว่างไทย – จีน โดยรัฐบาลพร้อมส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตร อำนวยความสะดวก ลดอุปสรรคทางการค้า เพิ่มโอกาสให้เกษตรกรและผู้ประกอบการไทย ให้สามารถส่งออกสินค้าเกษตรได้มากขึ้น” นายอนุชาฯ กล่าว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS WORLD PULSE

รถไฟอินเดียชนกัน ตายทะลุ 120

ไฟฟ้าแรงสูงช๊อต คุณป้าวัย 54 ปี โดนเต็มๆ อาการสาหัส

Facebook
Twitter
Email
Print

เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2566 เกิดเหตุรถไฟชนกันในรัฐโอริสสา ทางตะวันออกของอินเดีย ซึ่งมีรถไฟเข้ามาเกี่ยวข้องถึง 3 ขบวน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 120 คน ขณะเดียวกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 850 คน

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากรถไฟโดยสารขบวนหนึ่งตกราง โดยมีตู้โดยสารหลายตู้เสียหลักไปอยู่บนรางรถไฟอีกรางหนึ่งข้างๆ ก่อนที่รถไฟอีกขบวนซึ่งวิ่งมาบนรางดังกล่าวจะพุ่งเข้าชน ขณะที่เจ้าหน้าที่อินเดีย ระบุว่า ในที่เกิดเหตุมีรถไฟขนส่งสินค้าอีกขบวนหนึ่งจอดอยู่ด้วย

ทางการท้องถิ่นระดมกำลังเจ้าหน้าที่และรถฉุกเฉินมากกว่า 200 คัน เข้าไปยังที่เกิดเหตุเพื่อเร่งช่วยเหลือ ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้อาจเพิ่มสูงขึ้นอีก

โดยทางสำนักข่าวระดับโลกอย่าง CNN ได้สัมภาษณ์ Manto Kumar ว่ากำลังเดินทางด้วยรถไฟด่วน Coromandel Express กับเพื่อนอีก 6 คน เมื่อตู้รถไฟของเขาเริ่มสั่นอย่างรุนแรงราวกับแผ่นดินไหว

“ทันใดนั้นก็มีบางอย่างพุ่งเข้ามาหาเรา โค้ชบางคนกลิ้งไปอีกด้าน” พนักงานร้านอาหารวัย 32 ปีบอกกับซีเอ็นเอ็นจากโรงพยาบาลในรัฐโอริสสาทางตะวันออกของอินเดีย

“ฉันลุกขึ้นเอาเสื้อมาพันหัวที่มีเลือดออก จากนั้นฉันก็เริ่มมองหาเพื่อนของฉัน ทุกคนตะโกนว่า ‘ช่วยเรา… ช่วยเราด้วย’”

เพื่อนคนหนึ่งของ Kumar สูญเสียขาทั้งสองข้างจากอุบัติเหตุและถูกนำส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน เขาไม่รอดจากอาการบาดเจ็บ

เรื่องราวของพวกเขาเป็นเพียงหนึ่งในร้อยเรื่องที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ เมื่ออินเดียต้องรับมือกับหนึ่งในเหตุการณ์รถไฟชนกันที่เลวร้ายที่สุดที่เคยมีมา

มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 275 คนและบาดเจ็บอีกกว่า 1,000 คนหลังจากรถไฟด่วนโคโรแมนเดลพุ่งชนรถไฟบรรทุกสินค้าที่จอดอยู่ ทำให้รถยนต์โดยสารที่พลิกคว่ำกระจัดกระจาย จากนั้นถูกรถไฟด่วนฮาวราห์พุ่งสวนทางด้วยความเร็วสูง

สามวันต่อมา หลายครอบครัวยังคงพยายามค้นหาบุคคลอันเป็นที่รักของพวกเขา กองศพที่รอการระบุตัวตน และโรงพยาบาลกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อรักษาผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : thaipbs / CNN / 

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
WORLD PULSE

“Amazing Thailand Fest 2023” ที่นิวยอร์ก

“Amazing Thailand Fest 2023” ที่นิวยอร์ก

Facebook
Twitter
Email
Print

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ต่อยอดส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวจัดงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ปักธงบูสต์ตลาดทั่วโลก 4 พื้นที่ โดยเริ่มต้นที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาเป็นที่แรก ระหว่างวันที่ 3-4 มิถุนายน 2566 เพื่อสร้างกระแสสู่การเดินทางสัมผัสประสบการณ์ Amazing Experience ในประเทศไทย พร้อมเชิญพันธมิตรผู้ประกอบการร่วมออกบูธ ณ “The Oculus” World Trade Center นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา

นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. ซึ่งได้เดินทางมาร่วมงานในครั้งนี้กล่าวว่า “ททท. โดยด้านสื่อสารการตลาด จัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest 2023” ในรูปแบบ Consumer Fair ผ่านการจัดกิจกรรม On Ground Activities ร่วมกับพันธมิตร ด้วยการนำเสนอสินค้าและบริการของพันธมิตรด้านการท่องเที่ยว และ Soft Power ของประเทศไทย ในหลากหลายพื้นที่ทั่วโลก ได้แก่ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา นครบาร์เซโลนา สเปน นครโอซาก้า ญี่ปุ่น และนครซิดนีย์ ออสเตรเลีย เพื่อมุ่งกระตุ้นการเดินทาง พร้อมนำเสนอภาพจำใหม่ของการท่องเที่ยวไทยที่ทรงคุณค่าและยั่งยืน”

นายสันติ แสวงเจริญ ผอ.ททท. สนง.นิวยอร์ก กล่าวว่า “ดีใจที่งานประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น มีผู้เข้ารวมงานเต็มพื้นที่ในวันแรกประมาณถึง 20,000 คน และขอบคุณหน่วยงานราชการ พนักงานของสำนักงาน ททท. นักธุรกิจ ชุมชนไทยและผู้ประกอบการร้านอาหารไทยในนครนิวยอร์ก ที่ให้การสนับสนุนทำให้งานนี้ออกมาสมบูรณ์แบบจริงๆ

นายฟาบีโอ จินดา กงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก กล่าวว่า “นับว่าเป็นความสำเร็จที่ดีที่สุดอีกครั้งหนึ่งของทีมไทยแลนด์ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและ ททท. สนง.นิวยอร์ก งานครั้งนี้จะทำให้ยอดของจำนวนนักท่องเที่ยวจากสหรัฐฯ ไปท่องเที่ยวประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ทางสถานกงสุลให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ในทุกทาง ให้คำแนะนำด้านเอกสารสำหรับการเดินทาง และการออกวีซ่าฯ

บรรยากาศในงานคึกคักเป็นอย่างมาก มีผู้เข้าร่วมงานเต็มพื้นที่ โดยเฉพาะ “The Oculus” World Trade Center เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งของนครนิวยอร์ก

ในงานมีการแสดงต่างๆ อาทิ การแสดงหุ่นละครเล็ก การแสดงโขนตอนหนุมานจับนางสุพรรณมัจฉา รำกินรีร่อน การแสดงไทยประยุกต์ ชุดล้านนายี่เป็ง ระบำตาลียอเก็ต รำฟ้อนภูไท มโนห์รา เซิ้งกะโป๋ ลิเกฮูลู กลองสะบัดชัย การแสดงศิลปะการต่อสู้มวยไทย เดินแบบผ้าไทย โดย แอนนา เสืองามเอี่ยม Miss Universe Thailand 2022 และชนนิกานต์ สุพิทยาพร นางสาวไทย 2566 และการสาธิตการทำอาหารไทย

มีผู้ประกอบการร้านอาหารไทยในนครนิวยอร์ก มาร่วมออกบูธจำนวน 16 บูธ เสิร์ฟเมนูอาหารไทยจากภูมิภาคต่างๆ และอาหารไทยฟิวชั่น เช่น ส้มตำ ผัดไทย ข้าวมันไก่ ยำข้าวทอดแหนมคลุก ไส้อั่ว และน้ำพริกหนุ่ม คาดว่าการจัดงานทั้งสองวันในครั้งนี้จะมีผู้เข้าร่วมงานถึง 40,000-45,000 คน.

On 3-4 June 2023, the Tourism Authority of Thailand (TAT), New York Office organized the ‘Amazing Thailand Fest 2023’ at the Oculus Center, which remarkably achieved its goals in promoting Thailand in various dimensions.
On this occasion, Consul General Fabio Chinda was honorably invited to preside over the opening ceremony, together with Mr. Chattan Kunjara Na Ayudhya, Deputy Governor of TAT. Consul General Fabio commended TAT’s efforts and expressed his confidence that the event will help enhance friendship and visits between the peoples of the United States and Thailand as this year also marks the 190th anniversary of the diplomatic relations between the two countries.
The Royal Thai Consulate General also joined hands with other Thai agencies in New York City at the Team Thailand booth with the support staff to provide information on consular matters.
The Amazing Thailand Fest beautifully brought the colorful and joyful elements of Thailand to New York City this summer, and was warmly welcomed by thousands of New Yorkers as well as foreign visitors who had fun with the programs on and off stage, and enjoyed delicious Thai food from some of the popular Thai Select restaurants in New York City.
For those who missed it or still cannot move on from the great weekend with us, you may plan a trip to Thailand for your first-hand experiences now!

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : Royal Thai Consulate General NY / สุรชัย วรชาติเดชชัย

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
WORLD PULSE

รักษาความมั่นคง ครม. บริหารจัดการ การทำงานของคนต่างด้าว 3 สัญชาติ

รักษาความมั่นคง ครม. บริหารจัดการ การทำงานของคนต่างด้าว 3 สัญชาติ

Facebook
Twitter
Email
Print

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี (30 พฤษภาคม 2566) รับทราบการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) เพื่อประโยชน์ในการรักษาความมั่นคงและเศรษฐกิจของประเทศ ดังนี้
 
1. เห็นชอบแนวทางการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว  3 สัญชาติ (กัมพูชา
และเมียนมา) ซึ่งเข้ามาทำงานตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงาน (MOU)  ภายใต้บันทึกข้อตกลงว่าด้วยการจ้างแรงงาน (Agreement) ซึ่งวาระการจ้างงานครบ  4 ปี
– กลุ่มเป้าหมาย :   คนต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูซา ลาว และเมียนมา) ที่เข้ามาทำงานตาม MOU ที่วาระการจ้างงานครบกำหนด 4 ปี ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2565 – 31 ธันวาคม 2565  และที่ครบกำหนด 4 ปี ระหว่างวันที่ 2 มกราคม 2566 – 31 กรกฎาคม 2566
– แนวทางการดำเนินการ :  ผ่อนผันให้คนต่างด้าวกลุ่มเป้าหมายอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษและทำงานเป็นการชั่วคราวถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2566 โดยใช้หนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง ใบอนุญาตทำงาน หรือเอกสารตามที่กรมการจัดหางานกำหนดเป็นหลักฐานแสดงการผ่อนผัน  ซึ่งระหว่างการผ่อนผันนี้ ให้นายจ้างรายเดิมหรือรายใหม่ที่ประสงค์ จะจ้างคนต่างด้าวกลุ่มเป้าหมาย ดำเนินการขออนุญาตนำคนต่างด้าวกลุ่มเป้าหมายซึ่งได้รับการผ่อนผันเข้ามาทำงานตาม MOU ควบคู่ไปด้วย  ทั้งนี้ ให้คนต่างด้าวกลุ่มเป้าหมายที่หนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางหมดอายุ หรือการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุด สามารถเดินทางกลับประเทศได้ หรือเมื่อครบกำหนดการผ่อนผันแล้วให้คนต่างด้าวกลุ่มเป้าหมายเดินทางกลับประเทศต้นทางโดยไม่มีความผิด
 
2. การขยายระยะเวลาจัดทำหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางและการตรวจลงตรา ของคนต่างด้าว 4 สัญชาติ (ก้มพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2565 และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์  2566 ซึ่งไม่สามารถจัดทำหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทน หนังสือเดินทาง และการตรวจลงตรา ได้ทันภายในวันที่ 15 พฤษภาคม 2566
– กลุ่มเป้าหมาย  :  คนต่างด้าว  4 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม)  ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่  5 กรกฎาคม 2565 และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งไม่สามารถจัดทำหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง หรือไม่สามารถประทับตราอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ทันภายในวันที่ 15 พฤษภาคม 2566
– แนวทางการดำเนินการ  : ผ่อนผันให้คนต่างด้าวกลุ่มเป้าหมายอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษและทำงานเป็นการชั่วคราวถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2566 โดยให้ใช้ใบรับคำขออนุญาตทำงานฉบับเดิมเป็นหลักฐานการผ่อนผัน  และเมื่อได้รับหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแล้ว ให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองตรวจลงตรา และตรวจอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 หรือได้ถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2565 และตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566
 
อย่างไรก็ตาม  เมื่อมีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เรียบร้อยแล้ว  ให้กระทรวงแรงงานเสนอเรื่องเพื่อพิจารณายกเลิกมติคณะรัฐมนตรีหรือปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีต่อไป
 
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
จะประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และความเข้าใจให้นายจ้าง ผู้ประกอบการ แรงงานต่างด้าว และผู้ที่เกี่ยวข้องให้รับทราบข้อมูลการดำเนินการดังกล่าวอย่างทั่วถึง และขั้นตอนการดำเนินการนำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานตามระบบ MOU  รวมทั้งการปฏิบัติให้เป็นไปตามกฏหมายคนเข้าเมืองและกฏหมายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว
 
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การบริหารจัดการการทำงานของแรงงานต่างด้าว 3 สามสัญชาติ กัมพูชา ลาวและเมียนมา เพื่อประโยชน์ในการรักษาความมั่นคงและเศรษฐกิจของประเทศ โดยเป็นการผ่อนผันให้นายจ้างและแรงงานต่างด้าว กลุ่มเป้าหมาย ที่ต้องการทำงานต่อไป มีระยะเวลดำเนินการจัดทำเอกสารในส่วนที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน  โดยเมื่อคนต่างด้าวเดินทางกลับประเทศต้นทางแล้วจะสามารถเข้ามาทำงานได้ตาม MOU ครั้งใหม่  ทั้งยังเป็นการช่วยสนับสนุนนายจ้าง  สถานประกอบการที่ยังต้องการจ้างแรงงานเหล่านั้นต่อ โดยแรงงานยังอยู่ในกำกับและการบริหารจัดการของหน่วยงานภาครัฐ ทั้งนี้    เพื่อการเติบโตอย่างต่อเนื่องให้กับระบบเศรษฐกิจไทย  หลังสถานการณ์ โควิด-19 คลี่คลายและกันและยังเป็นประโยชน์เป็นผลให้คนงานต่างด้าวหลับได้รับการทำงานได้รับการจัดงานโดยถูกต้องตามกฏหมายต่อไปโดยนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการแก้ปัญหาการจัดการแรงงานต่างด้าวครั้งนี้ว่า   เป็นไปตามภายใต้กรอบระยะของรัฐบาลชุดปัจจุบัน 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักนายกรัฐมนตรี

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AUTOMOTIVE CULTURE ECONOMY EDITORIAL ENTERTAINMENT FEATURED NEWS FOOD HEALTH LIFESTYLE NEWS NEWS UPDATE SOCIAL & LIFESTYLE SOCIETY & POLITICS SPORT TOP STORIES TRAVEL VIDEO WORLD PULSE

นครเชียงรายนิวส์ ”สำนักข่าวออนไลน์ เพื่อคุณภาพของคนเชียงราย”

นครเชียงรายนิวส์ ”สำนักข่าวออนไลน์ เพื่อคุณภาพของคนเชียงราย”

Facebook
Twitter
Email
Print

นครเชียงรายนิวส์ ”สำนักข่าวออนไลน์ เพื่อคุณภาพของคนเชียงราย”

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
”สำนักข่าวออนไลน์ เพื่อคุณภาพของคนเชียงราย"
MOST POPULAR
RELATED STORIES
NEWS UPDATE
Categories
AUTOMOTIVE CULTURE ECONOMY EDITORIAL ENTERTAINMENT FEATURED NEWS FOOD HEALTH LIFESTYLE NEWS NEWS UPDATE SOCIAL & LIFESTYLE SOCIETY & POLITICS SPORT TOP STORIES TRAVEL VIDEO WORLD PULSE

นครเชียงรายนิวส์ ”สำนักข่าวออนไลน์ เพื่อคุณภาพของคนเชียงราย”

นครเชียงรายนิวส์ ”สำนักข่าวออนไลน์ เพื่อคุณภาพของคนเชียงราย”

Facebook
Twitter
Email
Print

นครเชียงรายนิวส์ ”สำนักข่าวออนไลน์ เพื่อคุณภาพของคนเชียงราย”

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
”สำนักข่าวออนไลน์ เพื่อคุณภาพของคนเชียงราย"
MOST POPULAR
RELATED STORIES

NEWS UPDATE